กลยุทธ์ SOSTAC สุดยอด Marketing Planning Framework ที่ธุรกิจต้องรู้

กลยุทธ์ SOSTAC สุดยอด Marketing Planning Framework ที่ธุรกิจต้องรู้

คงไม่มีใครทำธุรกิจโดยไม่วางแผนอะไรกันเลยหรอกใช่ไหมคะ? กลยุทธ์ SOSTAC Marketing Planning Frameworks หรือกรอบการวางแผนการตลาดเชิงกลยุทธ์ ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย PR Smith หนึ่งในโมเดลที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลาย ด้วยขั้นตอนแบบ step-by-step ที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ซึ่งในบทความนี้จะพามากางดู 6 ขั้นตอนหลักไปพร้อมกัน พร้อมแล้วไม่รอช้า ตามมาดูกันเลย

sostac planning framework 1
ขอบคุณภาพจาก MARTECHMAFIA

S – Situation วิเคราะห์สถานการณ์

O – Objectives ตั้งเป้าหมาย

S – Strategy กลยุทธ์

T – Tactics ยุทธวิธี

A – Action การดำเนินการ

C – Control การควบคุม

เมื่อดูกันเร็ว ๆ จากภาพรวมแล้วแม้ว่า กลยุทธ์ SOSTAC จะดูเป็นเรื่องที่เรียบง่าย คือเป็น 6 ขั้นตอนพื้นฐานที่หลาย ๆ คนน่าจะเคยรู้ เคยเห็น หรือคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี 

แต่หากเราได้ลองเอามันมากางและทำความรู้จักในเชิงลึกกันเพิ่มเติม อย่างที่ผู้เขียนกำลังจะพาทุกคนไปดูกันในส่วนถัดไป ก็จะเห็นได้เลยว่าอาจต้องใช้เวลา ความพยายาม รวมถึงข้อมูลมากมายในการวางแผนและดําเนินการ แต่มันจะคุ้มค่าอย่างแน่นอน เรามาดูในแต่ละหัวข้อไปพร้อมกันค่ะ

ก่อนจะไปสู่จุดหมาย แน่นอนว่าพื้นฐานในการจะเริ่มต้น เราต้องหันกลับมามองดูธุรกิจของตัวเองกันก่อนค่ะว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหน? เพราะการวิเคราะห์สถานการณ์คือการมองภาพรวมของธุรกิจ ซึ่งมันก็จะช่วยไกด์ให้เราสามารถกําหนดทิศทางต่อไปหรือวางแผนกลยุทธ์สําหรับอนาคตได้นั่นเอง 

อย่างเช่นการทำ Customer Analysis ที่เราควรจะรู้จักและเข้าใจให้ดีก่อนว่าใครคือลูกค้าของธุรกิจเรา ลองนึกภาพว่าถ้าเราไม่รู้ว่าลูกค้าเป็นใครหรือต้องการอะไร ก็คงไม่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตรงกับความต้องการของเขาได้ รวมไปถึงเรื่องของ Customer Journey ด้วยที่ควรใส่ใจ ลูกค้าเจอเราที่ตรงไหนยังไงบ้าง

หรือการวิเคราะห์คู่แข่ง ดูว่าใครกำลังเป็นคู่แข่งของธุรกิจเรา เขามีความได้เปรียบในการแข่งขันกับเราในด้านไหนบ้าง แล้วที่สำคัญคือเราจะเหนือกว่าได้ยังไง รวมถึงการวิเคราะห์ SWOT ดูจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และภัยคุกคามที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเราได้ เป็นต้น

กลยุทธ์ SOSTAC ขั้นต่อมาคือการกำหนดวัตถุประสงค์ หรือคือการตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน ถ้าเปรียบกับการขับรถก็เหมือนการปักหมุดว่าเราจะไปที่ไหน ซึ่งถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของแผนการตลาด เพราะแนวทางในการดําเนินการทั้งหมดก็จะตามมาหลังจากที่เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วนั่นเองค่ะ

ซึ่งโดยปกติแล้วการกำหนดวัตถุประสงค์หรือตั้งเป้าหมาย เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็จะนึกถึงหลัก SMART ที่จะช่วยให้เรากำหนดเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจง คือไม่ได้ตั้งขึ้นมาลอย ๆ แต่ต้องวัดผลเป็นตัวเลขได้ ประกอบกับต้องทำได้ในความเป็นจริงด้วย และกำหนดขอบเขตเวลาให้ชัดเจน มันก็จะเป็นการช่วยปูทางไปสู่การบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

มาถึงขั้นตอนการพัฒนากลยุทธ์กันบ้าง พูดให้เห็นภาพง่าย ๆ ถ้าเปรียบกับการขับรถเช่นเดิม ขั้นตอนนี้ก็คือการวางแผนไปถึงระยะยาวเลยว่าเราจะไปที่นั่นได้ยังไง แต่เป็นภาพกว้าง ๆ หรือภาพรวมทั้งหมด เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้นั่นเอง

และอย่าลืมว่าต้องมีความสอดคล้องกับขั้นตอนแรกที่เราทำการวิเคราะห์สถานการณ์ของธุรกิจด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสามารถดำเนินตามแผนได้สำเร็จบนโอกาสหรือเงื่อนไขของความเป็นจริงที่ธุรกิจเรากำลังเผชิญ 

ในส่วนนี้ PR Smith แนะนําให้ใช้รูปแบบการตลาดยอดนิยมอย่าง STP หรือการกำหนด Segmentation, Targeting and Positioning ให้ชัดเจน ว่ามีการวางแผนการแบ่งส่วนตลาดยังไง ลูกค้ากลุ่มไหนที่ควรมุ่งเน้น เลือกอย่างน้อยหนึ่งกลุ่มที่คิดว่าอาจมีศักยภาพมากที่สุด 

จากนั้นก็จะสามารถวางแผนการพัฒนาสื่อการตลาด หรือออกแบบ Marketing Messages ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้แบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้นค่ะ

ถ้า Strategy ที่ได้กล่าวกันไปด้านบนคือการมองภาพกว้างและวางแผนกลยุทธ์ในระยะยาว งั้นสำหรับขั้นตอนของ Tactic พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือแผนปฏิบัติย่อย ๆ ระยะสั้น ที่อยู่ในระดับแคมเปญต่าง ๆ ซึ่งก็ต้องมีความสอดคล้องกับภาพกลยุทธ์ใหญ่ที่กำหนด

ส่วนใหญ่ในขั้นตอนนี้ก็จะใช้เครื่องมือการตลาดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Marketing Mix, Advertising, Direct Marketing, Email, SEO Content, Social Media, Customer Relationship, Influencer Marketing, etc. สุดท้ายแล้วก็เพื่อขับเคลื่อนไปสู่การบรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่เราวางเอาไว้นั่นเอง

เดินทางมาถึงขั้นตอนของการลงมือทำตามแผนปฏิบัติการโดยละเอียด ซึ่งสิ่งสำคัญในขั้นตอนนี้คือการให้ความสำคัญกับเรื่องของ Operation และเรื่องของทรัพยากรบุคคล สำหรับงานในแต่ละส่วนว่าใครรับผิดชอบอะไรตรงไหน รวมไปถึงการวาง Content Schedule ก็เช่นกัน

เริ่มต้นจากการประเมินดูว่าเรามีทรัพยากรบุคคลภายใน หรือจําเป็นต้องจ้างพนักงานใหม่ที่มีสกิลเฉพาะที่จําเป็นเท่านั้นอะไรแบบนี้หรือไม่ ต้องการที่ปรึกษา หรือขอความช่วยเหลือ ขอความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอกรึเปล่า

สรุปแล้วก็คือการวางแผนทรัพยากร กําหนดความรับผิดชอบ และกรอบงานที่ชัดเจน ก็เป็นสิ่งสำคัญและช่วยให้มั่นใจได้ว่าทั้งหมดที่ทำมามันไม่ใช่แค่การวางแผนไปแบบลอย ๆ แต่เป็นแผนงานที่สามารถนําไปปฏิบัติได้จริง 

เดินทางมาถึงขั้นตอนสุดท้าย คือการควบคุม ตรวจสอบ และปรับเปลี่ยนแผนได้ มี KPI วัดความสําเร็จ วัดว่าเราบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ ซึ่งมักใช้ภาพผ่านแดชบอร์ดหรือ Gantt Chart เพื่อให้สามารถติดตามผลและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น

เพราะการติดตามความคืบหน้าหรือผลลัพธ์ของสิ่งที่เราทำตามแผนลงไปก็เป็นสิ่งที่สําคัญเช่นกัน ไม่เช่นนั้นเราอาจไม่รู้ว่ากำลังมาถูกที่ถูกทางไหม ดังนั้นก็จะต้องวางระบบหรือมีตัวชี้วัดที่ช่วยประเมินความคืบหน้าเป็นระยะ ไม่ว่าจะรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายไตรมาสก็ตาม Monthly/Quarterly Analysis เช่น

  • ยอดขาย
  • จำนวนลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำ 
  • SEO ranking คนเยี่ยมชมเว็บไซต์
  • การทำ Usability Test ทดสอบการใช้งาน
  • แบบสำรวจ/คะแนนความพึงพอใจลูกค้า 
  • จำนวนสินค้าที่ส่งออกสู่ตลาดได้มากขึ้น หรือต้นทุนที่ต่ำลง 
  • Cost per transaction เช่น ค่า Online media ที่ถูกลง, ค่า Cost per sale ที่ถูกลง

สรุปแล้วการควบคุมจึงเป็นขั้นตอนสุดท้ายของ กลยุทธ์ SOSTAC ที่จะมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบ ทบทวน แก้ไขหรือปรับเปลี่ยนแผนการตลาดตามความจําเป็น ดังนั้นเราก็ค่อย ๆ ปรับปรุงให้มันดีขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง เพราะขั้นตอนนี้จะช่วยให้เราได้เรียนรู้จากสิ่งที่ได้ผล และปรับในสิ่งที่ไม่ได้ผลนั่นเองค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับบทความนี้ที่ได้พาทุกคนมารู้จักกับ กลยุทธ์ SOSTAC เจ้า Marketing Planning Framework สำคัญที่ธุรกิจต้องรู้ สรุปภาพรวมกันอีกครั้งว่า 6 ขั้นตอนมีอะไรกันบ้าง

  1. Situation วิเคราะห์สถานการณ์ – เราอยู่ที่ไหน?
  2. Objectives ตั้งเป้าหมาย – เราจะไปไหน?
  3. Strategy กลยุทธ์ – เราจะไปจุดนั้นได้ยังไง?
  4. Tactic ยุทธวิธี – เราจะไปด้วยวิธีอะไรบ้าง?
  5. Action การดำเนินการ – ลงมือทำตามแผน
  6. Control การควบคุม – ตรวจสอบ ปรับเปลี่ยนแผน

แม้จะเป็นขั้นตอนที่เรียบง่าย แต่ใช้ได้จริงและมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอนค่ะ เพราะมันจะช่วยให้เราได้หันกลับมามองธุรกิจตัวเองกันใหม่ เรียกว่าบทความนี้ชวนทุกคนมาวางรากฐานให้ดีก่อนคิดจะสร้างบ้าน โดยเฉพาะกับธุรกิจที่อาจจะยังขาดเป้าหมายหรือกลยุทธ์ที่ชัดเจน หรือมีการวางกลยุทธ์ที่ดีแต่ยังไม่รู้จะปฏิบัติอย่างไร ลองกลับมาทบทวนกันดูนะคะ

หวังว่าทุกคนจะได้ความรู้ดี ๆ และประโยชน์กลับไปไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่า และสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram Twitter และ Youtube ได้เลย

Source Source Source

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

Fern Panassaya

เฟิร์น Junior Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *