ในบทความก่อนหน้าเพลินเคยเขียนถึงการใช้ Technology AR บน Package Design มาแล้วหลายครั้ง วันนี้มีอีกหนึ่ง Case Studies
Category: AR
คราวก่อนเพลินเคยเขียนถึงแบรนด์ Sprite ที่เปลี่ยน Label ข้างขวดให้กลายเป็นตั๋วเข้าชมคอนเสิร์ต Hip Hop ไปแล้ว วันนี้เพลินเจออีก 3
เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมปี 2021 ที่ผ่านมา Research ล่าสุดของกลุ่ม Publicis Media และบริษัทโซเชียลมีเดียชื่อดังสีเหลืองหรือ Snapchat อย่าง Alter Agents พบว่า Augmented Reality หรือ AR ในการ Shopping โตขึ้น พร้อมๆ กับการที่คนเริ่ม Engage กับแบรนด์ผ่านการใช้ AR มากขึ้นด้วย ซึ่งในผลสำรวจยังพบอีกด้วยว่าการใช้งาน AR จะโตขึ้นอีก ในอีก 5 ปีข้างหน้า ในฐานะเครื่องมือในการช่วยให้ Shopping Experience ของคนดีขึ้นค่ะ
ในปี 2020 อย่างที่เราทุกคนรู้กันว่าชีวิตเราทุกคนล้วนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ตั้งแต่เจ้าเชื้อไวรัสโควิด19 แพร่ระบาดออกไปทั่วโลก เราไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้เหมือนเคย เราต้องเปลี่ยนมาเรียนและทำงานแบบออนไลน์ภายในไม่กี่วันทั้งที่เคยพยายามทำมาหลายปีแต่ไม่เคยสำเร็จผลพร้อมใจเท่าครั้งนี้ และนอกจากการแพร่ระบาดของเจ้าเชื้อไวรัสโควิด19 เรายังเจอกับปัญหามลพิษทางอากาศขั้นสูงสุดในหลายพื้นที่บนโลกในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน (บ้านเราก็
หากเปรียบเทียบกับการใช้งานในต่างประเทศ ดูเหมือนว่าในบ้านเราแอปโซเชียลเก๋ๆ อย่าง Pinterest อาจจะดูไม่ฮิต และเป็นที่นิยมเท่าที่ควร อย่างมากสุดหลายๆ คนอาจจะมีไว้หา Quotes เอามาแปะเป็น Caption เก๋ๆ ใน Instagram แทนเสียด้วยซ้ำ แต่รู้หรือไม่ว่า จริงๆ แล้วในต่างประเทศเนี่ย Pinterest เค้าฮิตกันคล้ายๆ
Coty Inc. ธุรกิจความงามยักษ์ใหญ่ที่ร่วมกับบริษัทในเครือผู้ผลิตทำการตลาดจัดจำหน่ายและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามทั่วโลก โดยแบ่งดำเนินการในสามส่วนคือ 1.Luxury จะมีผลิตภัณฑ์น้ำหอมและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางผ่านร้านค้าปลีกหลายแห่งรวมถึงน้ำหอมห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลอดภาษี 2. The Consumer Beauty
ในช่วง Social distancing จากโควิด19 ทำให้คนส่วนใหญ่ออกจากบ้านไปไหนไม่ได้จนทำให้กระแสการประชุมออนไลน์กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำกัน แต่หนึ่งในปัญหาของธุรกิจ Beauty เครื่องสำอางคือเมื่อลูกค้าไม่ได้ออกไปลองก็อาจทำให้ยากจะตัดสินใจซื้อสินค้าใหม่ได้ ทาง L’ORÉAL
เพราะวิกฤตทำให้หลายธุรกิจต้องรีบปรับตัว ตั้งแต่การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ทุกธุรกิจต้องดิ้นรนหาทางออกและทางรอดใหม่ๆ และก็มีธุรกิจร้านตัดแว่นออนไลน์แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Glazziq ที่พวกเขาไม่มีหน้าร้านเป็นของตัวเองมาตั้งแต่วันแรกที่ทำธุรกิจ เพราะพวกเขาเป็น Digital Business
Facebook AR Camera ผ่าน Filter คืออีกหนึ่งเทรนด์ที่ไม่ใช่กำลังมา แต่มาซักพักแล้วในกลุ่มวัยรุ่นที่เป็น Gen Z และคนรุ่นใหม่
เรื่องของเรื่องคือจากสถิติพบว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่เกือบ 70% ไม่ได้ทำประกันบ้านไว้ ดังนั้นถ้าโชคร้ายเกิดไฟใหม้หรือโจรขึ้นบ้านขึ้นมาก็เท่ากับว่าที่อุตส่าห์ตรากตรำทำมายากจะจับมือใครดมได้ ดังนั้นบริษัทประกันภัยหัวสมัยใหม่แห่งหนึ่งในอเมริกาที่มีชื่อว่า Hippo Insurance ที่มีประกันบ้านคุ้มครองไปยันการถูกขโมยข้าวของโดยเฉพาะสินค้าไฮเทค หรือของเล่นนวัตกรรมราคาแพงต่างๆในบ้านสมัยใหม่ด้วย เลยเสนอตัวช่วยดูแลบ้านให้คุณฟรีๆแม้จะยังไม่ได้เป็นลูกค้าก็ตามที่ชื่อว่า