Behavioral Marketing หรือการตลาดแบบกระตุ้นพฤติกรรมให้คนอยากทำตามเป้าหมายที่เราวางไว้ ฟังดูอาจเป็นเรื่องยากเกินไป แต่ถ้าเราเข้าใจ Insight ว่าทำไมคนส่วนใหญ่จึงทำแบบนั้นเราก็จะสามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้ง่ายขึ้น ก็เหมือนกับแคมเปญการตลาดหนึ่งที่ประเทศสิงค์โปรเมื่อหลายปีก่อน พวกเขาค้นพบว่าส่วนใหญ่ติดมือถือกันงอมแงมจนทำให้อัตราการอ่านหนังสือลดลงไปไม่น้อยที่สะท้อนผ่านยอดขายสำนักพิมพ์ต่างๆ นั่นเอง
วันนี้จะมาแนะนำเพื่อนๆ ในการตลาดวันละตอนให้รู้จักแพลตฟอร์มคุณภาพของคนไทยที่ชื่อว่า Blockdit ที่ผมเพิ่งได้รับคำเชิญชวนให้ไปสร้างเพจในนั้นเช่นกัน สารภาพตรงๆ จากที่เคยได้ยินชื่อ Blockdit มานานแต่ก็ไม่เคยมีเวลาลงไปศึกษาเรียนรู้ทำความเข้าใจ แต่เมื่อได้ลองเข้าไปรู้จักและทำความเข้าใจบวกกับพูดคุยกับ User
Personalized Marketing กำลังกลายมาเป็นหัวใจสำคัญของการตลาดของทุกธุรกิจ แม้แต่สิ่งของที่เป็นโลกออฟไลน์แบบสุดๆอย่าง Magazine หรือนิตยสารนั้นก็ยังต้องปรับตัวตามให้ทันโลกดิจิทัล ด้วยการเปลี่ยนรูปแบบโฆษณาในเล่มใหม่ ให้เลือกจาก data ที่เก็บมาจากพฤติกรรมของคนอ่านบนออนไลน์
ท่ามกลางวิกฤต COVID-19 กับการรณรงค์ Social Distancing ให้ผู้คนอยู่ในบ้านเป็นหลักหรือถ้าจะออกไปข้างนอกบ้านก็ขอให้เว้นระยะห่างระหว่างคนรอบข้าง 2 เมตรเป็นอย่างน้อย มีบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ชื่อว่า Time
The Big Issue นิตยสารแรกของโลกที่อ่านจบแล้วขายต่อช่วยคนขายให้มีรายได้เพิ่ม แคมเปญการตลาดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษครับ เมื่อนิตยสารชื่อดังที่ชื่อว่า The Big Issue ที่มีผู้อ่านมากกว่า
ทำไม Vogue ถึงผันตัวจากนิตยสารสุดหรูมาสู่ธุรกิจใหม่อย่างรับจัดงานแต่งงาน งานนี้มีที่มาที่ไปให้วิเคราะห์กันอย่างน่าสนุก Vogue นิตยสารแฟชั่นชื่อดังระดับโลกที่แทบไม่มีผู้หญิงที่รักการแต่งตัวคนไหนจะไม่รู้จัก เป็นหนึ่งในนิตยสารที่มีอิทธิพลต่อแฟชั่นระดับโลกมาก เรียกได้ว่าเมื่อไหร่ที่มีงานเดินแฟชั่นของ Vogue เมื่อนั้นธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นทั้งหลายต้องหยุดมอง
ตอนนี้ผมยังอยู่ที่โอซาก้า บังเอิญพบเห็นสิ่งนี้น่าสนใจเลยอยากเอามาเล่าให้ฟังกัน กับหนังสือรูปแบบใหม่ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะนี่คือหนังสือที่กลายเป็นกระเป๋าทั้งใบแถมเท่ห์ด้วย จากภาพจะเห็นว่าหนังสือแต่ละเล่มก็แถมสิ่งพิมพ์ที่ต่างกัน ในบ้านเราผมเคยเห็นแค่แถมบัตรซื้อหนึ่งแถมหนึ่งของสตาร์บั๊ค อย่างดีก็แถมกระเป๋าผ้าใบเล็กๆ แต่พอมาเห็นที่ร้านหนังสือในโอซาก้าครั้งนี้ บอกได้เต็มปากเลยว่า “ไม่เล็กนะครับ”
เดี๋ยวก่อนๆๆ Free Media แบบนี้ก็ได้หรือครับ? จากภาพคุณจะเห็นลายน้ำบนภาพที่ชัดเจนมาก จนพาลให้สงสัยว่าหลุดการอนุมัติออกมาเผยแพร่ได้อย่างไร ไม่รู้ว่าเป็นแผนการตลาดเพื่อสร้างกระแสของคอมมูนิตี้มอลล์แห่งนี้ หรือไวรัลโปรโมตสต็อกโฟโต้เจ้านี้กันแน่ และเพียงแค่ข้ามคืน ลายน้ำหายไปแล้ว!?
การตลาด ที่เราจะเล่าให้ฟังนี้ หนอนหนังสือ สำนักพิมพ์ และโดยเฉพาะนักเขียนหนังสือ นี่คือเคสการตลาดที่คุณไม่ควรพลาด ในประเทศโคลอมเบีย โดยเฉลี่ยแล้วประชากรอ่านหนังสือถึงคนละ 2.2 เล่มต่อปี