การตลาด Central สร้าง Brand Awareness ด้วย Land Mark
ทุกท่านเคยสังเกตมั้ยคะว่า Central แต่ละแห่งจะมีกิมมิคต่างกันไป เช่น Central ขอนแก่น คล้ายกระติ๊บข้าวเหนียว Central เชียงใหม่เป็นโคมลอย ที่เป็นแบบนี้เพราะ การตลาด Central ที่ตั้งใจสร้าง Central ให้เป็น Land Mark เอ๊ะ! แล้วทำไม Central ต้องทำแบบนั้นด้วย ก็เพราะสิ่งที่เรียกว่า Brand Awareness นั่นเองค่ะ
พอเห็นคำว่า Brand Awareness ทุกท่านคงจะคุ้นชินหูคำนี้กันอยู่บ้าง เพราะมักจะได้ยินคนพูดบ่อย แล้ว Brand Awarenes ที่ว่ามีความสำคัญยังไง แล้วจะสร้างแบบไหนได้บ้าง วันนี้เราเลยจะมาคุยเรื่อง Brand Awareness กันค่ะ
ทวนความจำ Brand Awareness กัน
ก่อนอื่นเลย เมื่อพูดถึง Brand Awareness สิ่งแรกที่นึกถึงคืออะไรกันคะ? แน่นอนว่าคงเป็นการสร้างแบรนด์ หรือ ธุรกิจของเราให้เป็นที่จดจำใช่มั้ยคะ
อย่างที่ทุกท่านทราบ คำว่า Brand Awareness เป็นศัพท์ทางการตลาด หมายถึง การรับรู้ของลูกค้าต่อสินค้า แบรนด์ หรือธุรกิจของเราค่ะ
หากธุรกิจมีการสร้าง Brand Awareness กับลูกค้าได้
ทำให้เขาจดจำและรับรู้ จะทำให้ลูกค้ารู้สึกดีต่อแบรนด์หรือธุรกิจของเรา
การสร้างการรับรู้ในแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะสินค้าหรือธุรกิจที่ต้องการโปรโมทสินค้าใหม่ หรือแม้แต่การ Rebranding ก็ต้องการ Awareness ให้คนรับรู้เช่นเดียวกันค่ะ
เพราะการสร้าง Brand Awareness ให้คนจดจำ สร้างการรับรู้ให้คนพูดถึง จะเป็นขั้นแรกของการสร้างยอดขาย หรือ มูลค่าให้กับธุรกิจของเราต่อไปนั่นเองค่ะ
ก็เหมือนกับ การตลาด Central ที่ผู้เขียนกำลังจะเล่าให้ฟังค่ะ โดย Central เองก็มีการสร้าง Brand Awareness ให้คนจดจำโดยการทำ Land Mark ตัวอาคารให้เป็นเอกลักษณ์ค่ะ
ภาพจำของทุกท่านเกี่ยวกับ Central เป็นยังไงกันคะ ห้างสรรสินค้าขนาดใหญ่ ห้างสำหรับเดินเล่นตากแอร์ ห้างที่มีสินค้าแบรนด์ดัง ๆ เป็นที่รวมร้านอาหารไว้สำหรับทานข้าวในช่วงพักเที่ยงหรือในวันหยุด หรือเป็นสถานที่ความทรงจำในช่วงวัยต่าง ๆ ของใครหลาย ๆ คน
สำหรับผู้เขียนเองนอกจากที่กล่าวมา หนึ่งสิ่งที่ผู้เขียนจดจำได้กับ Central ก็คือ รูปลักษณ์อาคารที่สวยงามและแตกต่างกันตามแต่ละสถานที่ค่ะ
อย่าง Central ขอนแก่นก็เหมือนกระติ๊บข้าวเหนียว Central เชียงใหม่ก็เป็นโคมลอย
Central ปิ่นเกล้าเป็นตึกทรงรีสูง ทำให้ความรู้สึกต่างกันออกไปในแต่ละที่เช่นกัน
ซึ่งต้องยอมรับเลยนะคะว่า ในแต่ละที่มีความสวยงามและเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่นเดียวกับ Central นครสวรรค์ ที่เปิดใหม่ในคอนเซ็ปต์ ‘สุขทุกวัน ที่สวรรค์นคร’ ซึ่งถือว่าเป็น New Land Mark ภาคกลางตอนบนเลยค่ะ
New Land Mark ภาคกลางตอนบน
อย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวไปถึง Central นครสวรรค์ ที่เป็น Land Mark แห่งใหม่ของภาคกลางตอนบน ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘สุขทุกวัน ที่สวรรค์นคร’ ค่ะ
โดยทาง Central นครสวรรค์เอง ก็อยากให้ที่นี่เป็น Land Mark แห่งการพักผ่อนและชาร์จพลังให้ชีวิตผู้คนที่มา ซึ่งได้นำความสะดวกสบายที่ครบครัน พร้อมทั้งตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และทุกเจนเนอเรชั่นด้วยค่ะ
โดย Central นครสวรรค์ มีคอนเซ็ปต์ Chinese Village สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะของจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมของชาวจีน ทำให้ทุกมุมของห้าง กลายเป็น Land Mark ที่ทุกคนต้องปักหมุดเช็คอิน แชะ แชร์กันแบบจัดเต็มค่ะ
ซึ่งทางผู้เขียนเองก็ได้มัดรวมไฮไลต์สิ่งที่ควรทำควรรู้ เป็น Must-do activity ที่ Central นครสวรรค์ ก่อนไปเที่ยวที่ Central นครสวรรค์ มาฝากกันค่ะ
Must-do activity ที่ Central นครสวรรค์
สิ่งแรกคือ Central นครสวรรค์ มีทั้งหมด 4 ชั้น โดยแบ่งดังนี้ค่ะ
• ชั้น GF โซน Fashion & Accessories Lifestyle & Living Restaurant & Café, Showcase, ตลาดเจ้าธารา, สุขสวรรค์สแควร์ สุขสวรรค์การ์เด้น
• ชั้น 1F โซน Beauty & Wellness, Fashion, Electronic & Tech, Tech space
• ชั้น 2F โซน Education, ร้านอาหาร-คาเฟ่, ธนาคาร, Playland Little Campus
• ชั้น 3F เป็น Entertainment Nakhon Sawan Hall
นอกจากนั้นยังมีแบรนด์มากถึง 500 แบรนด์ดังระดับโลก ที่ Central นครสวรรค์ นี้ด้วยค่ะ ซึ่งทาง Central นครสวรรค์ ถือว่ามีแบรนด์ลิสต์มากที่สุดในภาคกลางตอนบน รวมทั้งมีแบรนด์ดังที่เปิดครั้งแรกที่นี่ด้วยค่ะ อย่าง Lancome, Estee Lauder, Mac, Bobbi Brown, Samsonite, Dyson, Nespresso และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นยังมีแบรนด์อื่น ๆ อีก ผู้เขียนได้แบ่งหมวดหมู่ เพื่อให้สามารถแยกง่ายตามนี้ค่ะ
หมวด Fashion & Lifestyle :
Uniqlo, Muji, Adidas, Birkenstock, Beautrium, Crocs, Cps-Chaps, CC Double O, Converse, Levi’s, Lyn, Lyn Around, Jaspal, Jelly Bunny, The Next, Glazziq, และ Optical 88
หมวด Food :
Bonchon, Boost Juice, GAGA, Kansei Sushi, Laem Charoen Seafood, Passion Brew Café, Sukishi Korean Charcoal Grill, Zen Restaurant, Fresh Me, Fuji Japanese Restaurant, Inthanin, Kamu, Katsuya, KOI The, Laoyuan, Ochaya, Oishi Ramen, Olino, Ootoya, Pepper Lunch, Salad Factory และ Otori-Yaki
หมวด IT, Education & Beauty Clinic :
I Studio, TG Fone, Shichida, Playsound, โรงเรียนกวดวิชานครสวรรค์สอนเสริมThe G, The Klinique, Gangnam Clinic, Nitipon Clinic, และ Infinity Medial
เป็นไงคะ เยอะจุใจสุด ๆ ไปเลย แต่เท่านั้นยังไม่พอทาง Central นครสวรรค์ ยังมีจุด Check-in เอาใจสาย Content และ Instagrammable กับมุมถ่ายรูปสุดคิวท์ ดึงกิมมิกนครสวรรค์ สร้างสรรค์และออกแบบลวดลายศิลปะบนฝาท่อ เพื่อรอให้ทุกคนมาเช็คอิน ทั้ง 5 ชิ้นงานทั่วศูนย์การค้า
และยังมี 5 Mascots of Happiness สัญลักษณ์แห่งความสุขผ่าน Mascot สิงโตและเสือ 5 ตัว ตัวแทนของชาวจีนทั้ง 5 ชาติพันธุ์ อีกด้วยค่ะ
และนอกจากนั้นยังมีบริการที่เวรี่เอ็กซ์คลูซีฟ!! คิดไม่ออก บอกผู้ช่วยช้อป ไม่มีค่าใช้จ่าย ยกหูโทรหา Personal Shopper โทร.1425 กด 3 ได้เลยค่ะ หากอยากติดตามข่าสารของ Central นครสวรรค์ สามารถติดตามได้ที่ Facebook ได้เลยค่ะ
หากใครแวะไปชิมช้อป หรือ หาไอเดียสร้าง Brand Awareness อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้นะคะ ส่วนทางผู้เขียนเองถ้ามีโอกาสไปเที่ยวก็จะแวะไปเช่นกันค่ะ
แล้วถ้าผู้อ่านท่านไหนชอบ หรือ สนใจอยากอ่านบทความด้านการตลาดแบบนี้อีก ผู้เขียนฝากติดตามด้วยนะคะ หรือ ถ้าใครอยากให้ผู้เขียนนำมุมมองการตลาดแบบไหนมาเล่าให้ฟัง สามารถคอมเมนต์บอกกันได้เลยนะคะ
สำหรับนักอ่านที่ชอบ และ อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารด้านการตลาดต่าง ๆ สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนได้เลยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะヽ(•‿•)ノ
บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ
นอกจากนั้นผู้เขียนได้รวบรวมบทความแนะนำให้ผู้อ่านด้านการทำ Brands
โดยสามารถอ่านต่อตามรายชื่อด้านล่างเลยค่ะ
บทความแรกเป็นเรื่องของการสร้าง Brand Image พร้อมกับการทำ Sustainability ของลอรีอัลค่ะ
กลยุทธ์ ลอรีอัล 2024 จับมือ DHL สร้าง Brand Image กับ Sustainability
บทความต่อมาเป็นการสร้าง Brand โดยใช้ Pain Point ของผู้บริโภคผสานกับ Creative Marketing ของ Pastel ค่ะ
การตลาด Pastel จับ Pain Point ผสาน Creative Marketing
ผู้เขียนหวังว่าจะชอบกันนะคะ พบกันใหม่บทความหน้าค่ะ ヽ(•‿•)ノ