Luxury Brand Social Stat Q2/2023 การใช้คนดัง เกาหลี x ไทย ปังจริงไหม?

Luxury Brand Social Stat Q2/2023 การใช้คนดัง เกาหลี x ไทย ปังจริงไหม?

Luxury Brand Social Stat Q2/2023 การใช้คนดัง เกาหลี x ไทย ปังจริงไหม?

ในช่วง Q2/2023 หลายคนที่ติดตามวงการแบรนด์หรู หรืออีเวนต์จากแบรนด์หรู คงได้เห็นความร้อนแรงของงานต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งเทรนด์ #Iftentouchwewillbuy ทำให้ผมอยากมาแชร์เกี่ยวกับสูตรสำเร็จของ Luxury แบรนด์ที่ใช้ดาราไทยและดาราเกาหลีควบคู่กัน ว่าใช้แล้วปังจริงหรือ  

และการใช้ดาราจะสามารถสร้างยอดขายให้แบรนด์ได้จริงหรือเปล่า เราจะมาหาคำตอบด้วยกันจากการ ส่อง conversation บน social media  

ทั้งนี้หลังจากที่ผมได้เขียนจับลึกแบรนด์แฟชั่นไหนเป็นที่นิยมที่สุดในประเทศไทยในช่วง Q1/2023 ไปแล้ว จะเห็นได้ว่า Louis Vuitton Engagement สูงสุดจาก Dancing Pumpkin แคมเปญที่แบรนด์ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังอย่าง Yayoi Kusamaจนมาถึง  Q2/2023 ที่แบรนด์แฟชั่นต่างพาเหรดการจัดอีเวนต์ รูปแบบต่างๆมากมาย แต่ที่เห็นเป็นกลยุทธ์ในช่วงไตรมาสสอง ด้วยการดึงดาราเกาหลีมาร่วมงานในประเทศไทย 

ไปดูกันครับว่าไตรมาสสอง แบรนด์ยอดนิยม 5 ลำดับ ที่ถูกพูดถึงบนโซเชียลมีเดียมีใครบ้าง และดิออร์ของสองหนุ่ม มายและอาโป ยังสามารถครองแชมป์ได้อยู่หรือเปล่า

โดยข้อมูลในบทความนี้ อ้างอิงจากเครื่องมือ Social Listening ที่วิเคราะห์จากคีย์เวิร์ด Luxury Brand ช่วง Q3/2023 เท่านั้น ภายใต้เงื่อนไข PDPA ของแต่ละแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

TOP 5 Brand Engagement 

Luxury Brand เกาหลี

เริ่มต้นภาพรวมจะเห็นได้เลยว่าแบรนด์ที่เข้ามาเป็นที่ยอดนิยมและได้รับการกล่าวถึงบนโซเชียล มีเดียมีทั้งหมด 5 แบรนด์ จากการใช้ Social Listening Tools : Mandala ในการเก็บข้อมูล

โดยมีอันดับหนึ่งคือ DIOR แต่จะเห็นได้ว่า 3 อันดับแรกจะมีเอนเกจเมนท์ที่สูงกว่าอีก 2 แบรนด์ นั่นเป็นเพราะว่า กลยุทธ์ในการใช้ดาราเกาหลีกับดาราไทยที่ทำให้เกิดยอดเอนเกจเมนท์สูงขึ้นอย่างยิ่งจะเห็นได้จาก Pie chart ว่าเอนเกนจ์เมนท์มากสุดมาจากอินสตาแกรมส่วนตัวของดารา (สีชมพู)

เดี๋ยวเราจะค่อย ๆ มาเจาะลึกกันทีละแบรนด์เลยนะครับ  

DIOR นำโดยฮวังอินยอบ และ คิมเบอร์ลี่

Luxury Brand เกาหลี

เริ่มต้นกันที่ DIOR Menwear จัดขึ้นที่ไอคอน สยามในเดือนเมษายน 2565 มีดาราไทยทั้งหมด 4 คน และดาราเกาหลี 1 คนคือ Hwang In Youp เป็นที่รู้จักกันดีจากบทบาทพระรองในเรื่อง True Beauty      (ความลับนางฟ้า) ที่โด่งดังมาตั้งแต่ Webtoon ที่เป็นแอปพลิเคชันสำหรับอ่านนิยายหรือการ์ตูนหลากหลายรูปแบบ ได้รับความนิยมทั้งในเกาหลี และต่างประเทศ โดยเฉพาะรูปที่มาอีเว้นต์ประเทศไทยได้รับเอนเกจเมนท์บนอินสตาแกรมสูงเกือบ 63% เลยทีเดียวครับ

CR : VOGUE THAILAND

มากไปกว่านั้น Dior ยังมี Dioriviera ที่ The Surin Phuket เป็นอีเวนต์รอบ 2 ของแบรนด์ที่จัดขึ้นที่ริมชายหาตภูเก็ต คิมเบอร์ลี่ที่ได้เอนเกจเมนท์สูงสุด 43.4% และมีการใช้ดาราซ้ำกับอีเวนต์รอบแรกเพียงคนเดียว คือ ตู ต้นตะวัน ครับ

ถัดมาเป็นการดูว่าการพูดถึง DIOR ทั้งหมดมาจากเรื่องอะไร ซึ่งแสดงผลจากกราฟ จะเป็นในเรื่องของดาราที่ 73.6%  และโดยเอนเกจเมนท์จากข่าวต่างๆที่ 77.2% 

PRADA นำโดยโซมี และ วิน เมธวิน

อีกแบรนด์ที่มีการใช้คนดังเกาหลีกับคนดังในไทย  คือ PRADA โดยมี Jeon Somi นักร้องสาวไอดอลของเกาหลีจากค่าย Black Label ที่ได้เอนเกจเมนท์ไปถึง 36.5% 

ซึ่งปกติแล้ว โซมีจะออกงานของ PRADA ในฐานะ Brand Ambrassador ของทางฝั่งเกาหลีบ่อยๆ และในครั้งนี้ที่มาร่วมงานอีเว้นต์ Prada Extends โดยมี Dj. Richie Hawtin หรือ Plastikman โดยที่ไทยเป็นดรอปที่ 4 จากที่จัดในลอนดอน โตเกียว ไมอามี่ และกรุงเทพ 

และเนื่องจากเป็นงานปาร์ตี้ทำให้ต้องมีการใช้ดาราถึง 13 คนและยังมีนักร้องฮิปฮอปอีก 2 คนคือ มิลลิและยังโอม 

หัวข้อที่ผู้คนบนโซเชียลมีเดีย จะเป็นการพูดถึงจากชื่อ ดาราเป็นส่วนมากถึง 91.7% และจากเอนเกจเมนท์ 59.3% แต่หัวข้อที่ถูกเพิ่มเข้ามาคือ บรรยากาศงานที่แขกภายในงานถ่ายรูปแล้วอัพลงบนโซเชียล มีเดียส่วนตัวโดยได้เอนเกจเมนท์ที่ 3.2% ครับ

CR : VOGUE THAILAND

SAINT LAURENT นำโดยเตนล์ ลีและมาร์ค ต้วน

Luxury Brand เกาหลี

มาถึงกันอีกแบรนด์ที่คนดังมาร่วมงาน มีความโดดเด่นและมีเอนเกจเมนท์บนโซเชียลมีเดียที่สูงมากเป็นอันดับ 3  คือ Saint Laurent Pop up Store ที่สยามพารากอนในเดือนพฤษภาคม ดาราฝั่งเกาหลีคือ Ten Lee ที่เป็นนักร้องไอดอลเกาหลีจากวง NCT, WayV, SuperM ที่ได้เอนเกจเมนท์สูงสุดถึง 84.6% มาจากช่องทางได้จากไอจีส่วนตัวมากที่สุด

ในส่วนของเอนเกจเมนท์ของดาราบางท่านอาจจะมีน้อย เนื่องจากมีการซ่อนไลก์รูปบนไอจี และไม่ได้ลงรูปแต่เอนเกจเมนท์ที่ได้ก็ไม่น้อยเลยครับ

ส่วนหัวข้อที่ถูกพูดถึงโดยเมนชั่น แน่นอนว่าจะต้องเป็นดาราที่มางานอีเวนต์ถึง 75.6% มาจากการที่แฟนคลับพูดถึงทั้งเตนล์ ลีและมาร์ค ต้วนบนช่องทางทวิตเตอร์ ในทางกลับกันโดยเอนเกจเมนท์นั้นมาจากเนื้อหาที่เป็นข่าว โดยจะมีในเรื่องของแฟนคลับที่นำข่าวมีรีโพสต์จากสื่อต่างๆเพราะทางสื่อจะมีรูปโมเมนท์ต่างๆที่เอ็กคลูซีฟกว่าและโพสต์รวดเร็วกว่าด้วย

กลยุทธ์ในการเลือกดาราเกาหลี x ดาราไทย สำหรับ Luxury Brand สำคัญมาก

จากสถิติดังกล่าวทำให้เราเห็นแล้วว่าการเลือกใช้ดาราเกาหลีและดาราไทย ควบคู่กันสามารถสร้าง Ripple effect ได้เป็นอย่างดีเพราะทุกวันนี้ตามบทความที่ผมเคยเขียนไปดาราไทยนั้นไม่เพียงแต่สร้างกระแสในประเทศแต่สามารถสร้างกระแสได้ทั่วทุกประเทศในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้  การผนวกเข้ากับดาราเกาหลีทำให้กระแสยิ่งร้อนแรงขึ้นโดยเฉพาะในตลาดประเทศไทยที่ชื่นชอบซีรีย์เกาหลีเป็นทุนอยู่แล้ว แต่กระนั้นก็ตามการเลือกดาราที่เหมาะสมและสม่ำเสมอสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนเป็นหัวใจที่ขาดไม่ได้ครับ

และทำให้เข้าใจว่าการเลือกเชิญ ผู้มีชื่อเสียงที่มาในงานอีเว้นต์จะสามารถ Engage กับกลุ่มคนแบบไหน (หรือมีผู้ติดตามเป็นกลุ่มคนรุ่นไหนมากกว่า) ดาราบางคนจะเป็นกลุ่ม Gen Z หรือ Gen Y  มีความแมสกับกลุ่มบางกลุ่มคน

ซึ่งเคสตัวอย่างจาก 3 แบรนด์ข้างต้น คือ DIOR ที่มี Hwang In Youp มาใน Dior Menwear ที่ ICONSIAM ส่วนของแบรนด์ PRADA ก็เป็น Jeon Somi มาในงาน Prada Extends ที่ Warehouse Stadium โดยเพราะดาราเกาหลีนั้นทำให้เกิดเอนเกจเมนท์และ Social Voice บนโซเชียล มีเดียมากมายจากการที่พูดถึงดาราเกาหลีที่มางานในไทย หรือแบรนด์ Saint Laurent ที่เพราะมีเตนล์และมาร์ค ต้วนมาออกงาน Pop up ที่สยามพารากอน จนทำให้มีคนซื้อของแบรนด์และติดแฮชแทค #iftentouchwewillbuy ลงบนโซเชียล มีเดียครับ  

#iftentouchwewillbuy  

ท่ามกลางกระแสความสับสนการเลือกดาราให้เหมาะกับ แบรนด์ว่าจะเลือกภาพลักษณ์มาก่อนยอดขายหรือคำนึงว่าดาราคนนั้นสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ในมุมมองของผม  Brand Ambassador หรือ Friend of the Brand ต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ของผู้ที่จะมาเป็นตัวแทนการสื่อสารให้กับแบรนด์นั้นๆ ส่วนการสร้างยอดขายน่าจะเป็นผลประโยชน์ที่ตามมาทีหลัง แน่นอนว่าถ้า   แบรนด์แอมบาสเดอร์สามารถสร้างยอดขายให้กับแบรนด์ด้วยจะถือว่าสุดยอด 

ตั้งแต่เริ่ม มีการใช้ดารามา promote สินค้าแฟชั่นผมจำได้ว่าคนที่สร้างยอดขาย มโหฬารได้แก่ เป๊ก ผลิตโชค ที่แบรนด์ไหนเชิญมางานก็ขายได้เนื่องจากแฟนคลับ นุช สนับสนุนเต็มที่  ไบรท์ วชิรวิชญ์ และวิน เมธวิน ก็สร้างแรงกระเพื่อมด้านยอดขายไม่แพ้กันจวบจนกระทั่งไปเซ็นสัญญากับ Luxury Brand fashion เจฟ ซาเตอร์เป็นอีกหนึ่งคนที่ผมเห็นกับตาว่า แฟนคลับวิ่งเข้าไปซื้อสินค้าของ Valentino เพื่อสนับสนุนดาราคนที่เขาชอบ 

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ยังว้าวได้อีกกับ #iftentouchwewillbuy กระแสบนทวิตเตอร์หรือ ‘X’ ที่แฟนคลับของเตนล์ ปลุกปั้นขึ้นมา เพื่อสนับสนุนเตนล์ ใช้สำหรับสินค้าทุกอย่าง ไม่จำกัดเฉพาะ YSL จวบจนกระทั่งเราเห็นจากการใช้ Social listening tools เห็นเทรนด์นี้ขึ้นมาอีกครั้งในช่วงที่ Saint Laurent เปิด pop up ที่สยามพารากอน 

ทุกวันนี้ดาราไทย เกาหลีจึงกลายเทรนด์ของโลกที่จะต้องมี Friend of the Brand หรือ Brand Ambassador ให้กับแบรนด์แฟชั่นต่างๆซึ่งแม้ว่าดาราชื่อดังเหล่านี้สามารถช่วยส่งเสริมการขายได้ แต่ผมยังยืนยันว่าการจะเลือกใครมาทำงานกับแบรนด์ควรจะคำนึงถึงภาพลักษณ์ที่เหมาะสมกับแบรนด์เป็นหัวใจสำคัญ

ทำไมถึงเกิดแฮชแท็ก #iftentouchwewillbuy และเกิดขึ้นเมื่อไหร่

แฮชแท็กนี้เกิดจากกลุ่มแฟนคลับที่มีเมนหรือ Main(คนที่เราชอบและพร้อมสนับสนุน) คือ convince สำคัญ เต็มใจช่วยกันซัพพอร์ตเตนล์บนทวิตเตอร์มากที่สุด โดยที่จะใช้แฮชแท็กนี้มานานมากๆแล้ว และในช่วงงาน YSL ที่ผ่านมาก็มีการทวีตเล่นแท็กนี้อีกครั้งหลังจากเตนล์ไปงานป๊อบอัพแล้วหรือการซื้อหลังจากที่เตนล์ได้จับสินค้าต่าง ๆ โดยอาจจะไม่จำเป็นว่าเตนล์จะเป็น Brand Ambassador หรือไม่ 

สรุป Luxury Brand Social Stat Q2/2023  สูตรการใช้นดัง เกาหลี x ไทย ปังแบบเกินคาด

หวังว่าจะเป็นอีกรีพอร์ตที่ทำให้ทุกคนได้เห็นข้อมูลแบบเจาะลึกสุด ๆ จากสถิติและการวิเคราะห์ของผมในบทความชุดนี้ ที่กวาดเข้ามาภายใต้การทำงานของระบบ​ Social Listening และทีมวิเคราะห์ตัวเลขเพิ่มเติม เพื่อแทร็ก Luxury Brand Social Stat Q2/2023 เทียบทั้ง 5 แบรนด์ เจาะเพิ่มใน 3 อันดับแรก ให้ได้เห็นถึงกิจกรรมของแบรนด์ดังที่ใช้ดาราเซเลบเป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างอิมแพ็คได้ดี ต่อยอดไปถึงการสร้างเทรนด์ที่ทำให้เกิดยอดขายได้จริง ๆ เห็นทั้งสถิติและกระแสที่วัดผลได้ ซึ่งการตลาดแบบนี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับตลาด Luxury 

สุดท้ายนี้เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสูตรสำเร็จของการใช้ตัวเต็งเกาหลี x ตัวเต็งไทย ประกบกันถือเป็นการช่วยสร้าง Ripple effect ได้เป็นอย่างดีให้แค่แบรนด์หรูครับ ผนวกกับบทความชุดก่อน ๆ การเลือกซุปเปอร์สตาร์มาร่วมงาน Luxury Brand – NOT JUST EXPOSURE BUT CONVERSION ก็จะทำให้เห็นภาพที่ชัดมากขึ้น  

และการทำการตลาดผ่านอีเวนต์ ใช้ดาราไม่ใช่แค่ช่องทางโซเชียลเท่านั้นนะครับ ประเทศไทยเรายังสามารถสร้างลูกเล่นประสบการณ์ผ่านช่องทางดิจิทัลอย่าง LINE Official ได้ด้วย จะมาเล่าเคสสนุก ๆ เกี่ยวกับ LINE Interface ให้ทุกคนในบทความหน้าอย่างแน่นอน หวังว่าจะรออ่านกันเหมือนเดิมนะครับ

ติดต่อหรือสอบถามเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ Group Z International  หรือ [email protected] 

อ่านบทความก่อนหน้า

Nopnarit Lieopanich

กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท Group Z International ผู้เชี่ยวชาญการสื่อสารประชาสัมพันธ์และการสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์สินค้าลักซ์ชัวรี่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *