Authenticity Marketing สำหรับ Brand Luxury ผลักดันดารา ศิลปินให้ไปไกลระดับโลก

Authenticity Marketing สำหรับ Brand Luxury ผลักดันดารา ศิลปินให้ไปไกลระดับโลก

Authenticity Marketing สำหรับ Brand Luxury ผลักดันดารา ศิลปินให้ไปไกลระดับโลก

Authenticity Marketing คืออะไร? 

Authenticity Marketing แปลแบบง่าย ๆ ก็คือการทำการตลาดแบบจริงใจ หรือการตลาดแบบแท้จริง อาจฟังแล้วกว้างฟังแล้วดูเหมือนง่ายผิวเผิน แต่ในยุคนี้มันไม่ใช่อย่างที่เราคิดครับ 

จากประสบการณ์จริงเกี่ยวกับการทำ KOLs / Influencers Marketing  แบรนด์มักสั่งให้โพสต์ด้วยรูปแบบ มุม หรือแม้กระทั่งท่าการถือสินค้าที่ต้องเป็น Pattern เดียวกันหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้ารู้ดีว่าโพสต์นี้แบรนด์จ้างนะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชินตากันไปแล้ว เพียงแต่ว่าจะทำอย่างไรให้แบรนด์ได้ Benefits สูงสุดล่ะ? ตัวอย่างเช่น แบรนด์แฟชั่นส่งกระเป๋าให้กับดาราท่านหนึ่ง เท่าที่ผมเห็นดาราท่านนั้นโพสต์ไม่ต่ำกว่า 5-6 ครั้ง และนำใช้ในชีวิตประจำวันจริง ๆ อย่างน้อยทำให้เห็นว่าดาราท่านนั้นชื่นชอบกระเป๋าจริง ถ้าคุณภาพไม่ดีหรือไม่สวยเขาคงไม่ใช้บ่อยขนาดนั้น 

แบรนด์ดังคาดหวัง ‘ความจริงใจ’ แบบไหนจากผู้มีชื่อเสียง

ข้อนี้ทั้งเอเจนซี่และแฟนคลับต้องจดแล้วล่ะครับ เพราะด้านภาพรวมของตลาด บุคคลที่มีชื่อเสียงส่วนมากจะคำนวนการโพสต์เป็นราคาต่อ 1 ครั้ง จบแล้วจบเลย หรือแม้กระทั่งไปร่วมงานทั้งที่เมืองไทยและเมืองนอก ในฝั่งของแบรนด์ส่วนมากก็คาดหวังว่าบุคคลที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น จะถ่ายทอดประสบการณ์ให้ผู้ติดตามผ่าน Instagram Stories ประหนึ่งว่าเกาะติดสถานการณ์ทุกโมเมนท์ หรือมีคอนเทนต์เบื้องหลังที่สร้างเอนเกจต่อเนื่อง

แต่ถ้าบุคคลที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นไม่ได้ทำสิ่งที่แบรนด์คาดหวัง หรือไม่ได้รู้สึกประทับอะไรมากกว่าการจ้างงาน ซึ่งน่าเสียดายมากนะครับ หากพลาดโอกาสที่จะรักษาโอกาสดี ๆ จากแบรนด์ระดับโลกไปแล้ว มันก็มักจะผ่านไปเลย ยากที่จะได้โอกาสนั้นอีก

จริง ๆ ที่ผมกล่าวเรื่องนี้ขึ้นมาเนื่องจากผมมองว่าอุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศไทยนั้นโตอย่างมโหฬาร มีความนิยมขนาดได้รับการยอมรับจากทั่วโลกขนาดที่ว่า แต่ยังไม่สามารถผลิตคนให้ไปสู่ระดับนานาชาติให้ทันความต้องการของตลาดได้ ดังนั้นผมมองว่าทั้งผู้จัดการ เอเจนซี่ที่บริหารเป็นกุญแจสำคัญมากที่สุดก็ว่าได้ ที่จะดัน Talent จากตัวดาราศิลปินที่คุณมีโดดเด่นและเตะตา เป็นที่รักของแบรนด์ห้ได้ ควรเริ่มหันกลับมาดูอย่างจริงจังว่าจะวางแผนอย่างไรไม่ให้เพชรในมือต้องเสียโอกาสหลาย ๆ อย่างไปเพราะความไม่พร้อมของการบริหาร ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ตั้งแต่การวางแผนการสร้าง Character ให้กับศิลปิน จวบจนกระทั่งบริหาร Social Media ไม่ให้กลายเป็นช่องทางการขายของจนเกินไป

แนะนำการสร้าง Personal Branding และ Roadmap ที่ควรสร้างไปพร้อมๆกับศิลปิน

ขอแอบเล่าเรื่องดาราศิลปินกับแบรนด์ต่าง ๆ จากประสบการณ์ส่วนตัวเลยว่าจะทำอย่างไรถึงจะเหมาะสมที่สุด แน่นอนว่าเหล่า Talent ที่อยู่ในตลาด ต่างก็มองแบรนด์สูง ๆ ทั้งนั้นใช่ไหมครับ ดีงนั้นผมคิดว่าการ สร้าง Personal Branding ให้กับเขาเหล่านั้นเป็นเรื่องสำคัญทีเดียว 

เช่นถ้าดาราท่านนั้นชอบดนตรี ชอบกีฬา เราควรมองหาแบรนด์ที่มีความสัมพันธ์กับกิจกรรมเหล่านั้นทำให้ตัวเด็กเองไม่อิลักอิเหลื่อที่ทำหน้าที่เป็นผู้สื่อสาร หรือแม้กระทั่งนั่งคุยและคอยอัพเดทกับ Talent อย่างจริงจังว่าเขาชอบอะไรแล้วเราพร้อมผลักดันไปทางไหนอย่างเต็มที่ วางแผนงานให้ดาราเหล่านั้นอย่างชัดเจน ไม่สะเปะปะรับงาน

และที่สำคัญ ผมขอย้ำว่าสำคัญมาก Social Media ของศิลปิน / ดาราท่านนั้นจะต้องได้รับการให้ความใส่ใจอย่างสูงสุด ถ้าขายของทุกโพสต์ แบรนด์ดีๆที่ไหนจะอยากเข้ามาใช่ไหมครับ ควรแทรกด้วยไลฟ์สไตล์ของ Talent บ้าง ไปแสดงคอนเสิร์ต ชีวิตประจำวัน แฟชั่นสนามบิน ไปพบแฟนคลับ ไปทำกิจกรรมเพื่อสังคม 

หรือแม้แต่ไปทานอาหาร (ไปร้านอาหารก็ถ่ายรูปสวยได้เหมือนถ่ายแฟชั่นนะครับ) ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ต้องการวางแผนอย่างรัดกุม และไม่ควรรับงานนะครับหากจะบอกว่า ‘คุณครับงานนี้รับแต่ขอลบภายใน 72 ชั่วโมงหรือหนึ่งเดือน’ เพราะในมุมลูกค้าคงไม่มีใครอยากทำงานกับคนที่ไม่ได้มีความยินดียินร้ายกับแบรนด์ที่จ่ายให้ระดับ 6 หลัก

อย่างศิลปินฝั่ง K-POP ค่ายใหญ่ ๆ มักกำหนดภาพลักษณ์ และพยายามสื่อสารผ่านเพลง วาไรตี้ หรือ Vlog ส่วนตัวที่ทำให้ Personal Branding ของศิลปินได้แสดงออกอย่างเต็มที่ครับ ทำให้เวลามีภาพกับสินค้าของแบรนด์ออกมา ก็ดูค่อนข้าง Relate & Relevant กับความชอบของศิลปิน แม้แฟนคลับจะรู้ว่าแบรนด์จ้างก็ไม่มีความรู้สึกติดขัดอะไร เป็นต้นครับ


อีกตัวอย่างหนึ่ง หลังจากที่ผมได้มีโอกาสคุยกับน้องเจฟ ซาเตอร์พร้อมกับผู้จัดการว่า เราอยากผลักดันน้องให้ไประดับ Global ผมเองได้คุยโดยวางแผน ภายในระยะเวลา 6 เดือน ปัจจุบัน น้องเพิ่งไปโชว์ VALENTINO ที่มิลานมาและได้รับกระแสตอบรับจากทั่วโลกรวมถึงแบรนด์เป็นอย่างดี แน่นอนว่าก่อนมาถึงจุดนี้น้องก็น่าจะปฏิเสธการทำงานกับแบรนด์ระดับโลกไปไม่ต่ำกว่า 5 แบรนด์ เพื่อให้ภาพของตัวเองชัดที่สุด

จะว่าโชคดีก็ได้เพราะจริง ๆ แล้วในชีวิตจริงมีสิ่งแวดล้อมและมีองค์ประกอบมาเกี่ยวข้องเยอะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการส่วนตัว หรือบริษัทที่ดูแลบุคคลเหล่านั้น แฟนคลับ ช่วงของละครหรือเพลง มิวสิวีดีโอหรือแม้กระทั่งทีมการตลาด ผมมองว่าทุกคนมีองค์ประกอบสำคัญที่จะผลักดันดาราเหล่านั้นไปข้างหน้าถ้ามองง่าย ๆ ว่าดาราดังคนที่มีพรสวรรค์อย่างสูงแต่ว่าผู้จัดการไม่สามารถผลักดันได้ดาราคนนั้นก็จะหยุดอยู่แค่ในระดับภายในประเทศ

กลับกันนะครับหากผู้จัดการคนนั้นมีวิสัยทัศน์และมองหนทางที่ไกลและกว้างกว่าแค่เม็ดเงินระยะสั้น ๆ ดาราท่านนั้นสามารถก้าวข้ามไปสู่ระดับโลกได้ แน่นอนล่ะครับว่าองค์ประกอบเหล่านี้ต้องถูกสนับสนุนด้วยบริษัทต้นสังกัด วินัยของศิลปินเหล่านั้น ผลประโยชน์ในระยะสั้นยังไงมันก็หอมหวล แต่ในระยะยาวมันจะส่งผลให้กับหลายฝ่ายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอุตสาหกรรมบันเทิงตัวดาราคนนั้นเองบริษัท

ดารา/ ศิลปินไทยไม่จำเป็นต้องหยุดอยู่แค่ในประเทศอีกแล้ว

ซึ่งในวันนี้แล้วผมอยากจะเน้นย้ำว่าดาราไทยไม่จำเป็นต้องมองแค่ในประเทศไทยอีกต่อไปแล้วดาราไทยสามารถโตไประดับโลกได้เพราะฉะนั้นทุกคนมีส่วนผลักดันทั้งหมด ทั้งนี้ทั้งนั้นการแสดงออกจากดารา ศิลปินท่านนั้นจะต้องดูเป็นธรรมชาติ อย่างเวลาทีมผมคัดเลือก Talent เพื่อนำเสนอแบรนด์ อย่างแบรนด์ Jewellery เราก็เลือกคนที่ใส่ Jewellery จริงๆก่อน ไม่ใช่จะเลือกเอาแต่คนที่ดัง หรือเน้น Engagement สูงก่อน

 พราะท้ายที่สุดแล้วหาก Talent ที่เราเลือก ในชีวิตประจำวันไม่ได้ใช้สินค้านั้นจริงๆ หรือใช้แบรนด์คู่แข่ง (อาทิแบรนด์โทรศัพท์) อาจเกิดกระแสลบหรือตอบโต้ได้ อย่างเช่นถ้าแฟนคลับเห็นแล้วดูว่าไม่เหมาะสมอาจกลายเป็นกระแสลบได้ อย่าลืมว่าแฟนคลับเป็น หนึ่งในหัวใจหลักในการผลักดันศิลปินดาราไปสู่ดวงดาวเช่นเดียวกัน

บทส่งท้าย

เราอย่าลืมว่าทุกวันนี้เหล่าศิลปินดาราแทบจะทุกคนกลายเป็นเครื่องจักรในอุตสาหกรรมบันเทิง บริษัทต้นสังกัดหรือเหล่าผู้จัดการก็พยายามผลักดันเขาเพื่อให้ดาราศิลปินเหล่านั้นได้ภาพลักษณ์ที่ดีหรือแม้กระทั่งได้ Awareness สูงสุด แต่อาจลืมวาง Brand Positioning ให้กับดาราท่านนั้น ๆ หรือแม้กระทั่งเส้นทางหรือแผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ลองกลับมาทบทวนอีกครั้งว่าเราจะปรับแผนอย่างไรดี 

เพราะการดูแลดาราท่านหนึ่งก็เหมือนการขับเคลื่อนแบรนด์ แบรนด์หนึ่ง ลองใช้ Authenticity Marketing โดยสร้าง Personal Branding จากตัวดาราศิลปินเองไปพร้อมกับความเอาใจใส่เพชรที่คุณมีอยู่ในมือให้ดี 

  • คุณจะสร้าง Brand Positioning อย่างไร 
  • จะรับงานประเภทไหนบ้าง 
  • งานไหนเป็นงานได้โล่ งานไหนเป็นงานรับสตางค์ 
  • จะรับบ่อยแค่ไหน
  • จะรับแบรนด์ประเภทใดบ้าง
  • จะต้องไปโชว์ตัวงานใดบ้าง 
  • ต้องไปแฟนมีทกี่ครั้งต่อปี 
  • ต้องรับงาน Global level อย่างไร

ผู้จัดการที่ดี ต้องคอยดูแม้กระทั่ง Social Media ต้องปรับให้เหมาะสมกับเอกลักษณ์หรือลักษณะส่วนบุคคล งดดองศิลปินไว้ในค่ายเพราะกระแสและ Brand Ranking ของตัวบุคคลอาจจะไม่ได้หยุดรอคุณ 

ในขณะเดียวผมก็ไม่ได้หมายความว่าควรรับงานจน Social Media กลายเป็นเพจขายของ ผู้จัดการต้องทำให้รูปที่โพสต์ดู Authentic ที่สุดและยังอยู่ใน Condition ที่แบรนด์ต้องการครับ

Authenticity Marketing for Luxury Brand

ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่ผมอยากแชร์จากประสบการณ์ส่วนตัวแก่แบรนด์ เอเจนซี่ ค่ายที่ดูแลดาราศิลปินไปจนถึงแฟนคลับครับ สำหรับบทความหน้า ขอสปอยเลยว่า สนุกแน่นอน เราจะมาดูกันว่าในช่วงแฟชั่นวีค 3 เดือนแรก ใครคือ ‘ตัวตึง’ สายแฟ ทั้งด้านการออกอีเวนท์ในไทย และใครที่ไปทะยานในระดับโลก

รวมถึงแบรนด์ไหนที่สร้างกระแสกระเพื่อมได้อย่างทั่วถึงจากการดักฟังเสียงบนโซเชียลมีเดีย ด้วยเครื่องมือ Social Listening อย่างไรรอติดตามได้เลยนะครับ 

ติดต่อหรือสอบถามเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ Group Z International  หรือ [email protected] 

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

Nopnarit Lieopanich

กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท Group Z International ผู้เชี่ยวชาญการสื่อสารประชาสัมพันธ์และการสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์สินค้าลักซ์ชัวรี่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *