เปรียบเทียบ ChatGPT vs Gemini AI ตัวไหนดีกว่ากัน?

เปรียบเทียบ ChatGPT vs Gemini AI ตัวไหนดีกว่ากัน?

เราทุกคนรู้ดีว่าความนิยมของ ChatGPT นั้นทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google ถึงกับต้องเร่งรุดลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง วันนี้ผู้เขียนจึงรวบรวมข้อมูลของเจ้า AI ทั้งสองตัวมาเปรียบเทียบให้เพื่อน ๆ นักการตลาดได้อ่านกัน กับ “เปรียบเทียบ ChatGPT vs Gemini ตัวไหนดีกว่ากัน?”

ซึ่งหลังจากเปิดตัว ChatGPT ไปได้ไม่นาน Google ก็เปิดตัว AI Tools ตัวใหม่ในชื่อ ‘Gemini’ (เดิมชื่อ Bard) Chatbot เวอร์ชันใหม่ที่ Google เองก็เคลมว่ามีประสิทธิภาพเทียบเท่า (หรืออาจจะมากกว่า?) ChatGPT ที่เป็นตัวเอกของวงการ AI ในขณะนี้ จะเป็นอย่างไร แล้วนักการตลาดอย่างเราจะใช้ตัวไหนดี ตามไปอ่านกันเลยดีกว่า!

เปรียบเทียบ ChatGPT vs Gemini AI ตัวไหนดีกว่ากัน?

‘Gemini’ เป็น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models : LLM) ที่ทรงพลังที่สุดของ Google เป็นโมเดลต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Foundation Models : MFM) ซึ่งเป็นโมเดลที่สามารถประมวลผลข้อมูลได้มากกว่าหนึ่งประเภทในเวลาเดียวกัน 

Google’s newest AI in 90 seconds | Gemini

ซึ่ง AI Tools ที่ Google เปิดตัวในครั้งนี้ มีด้วยกัน 3 รูปแบบ Gemini Nano, Gemini Pro และ Gemini Ultra ที่ยังไม่ได้เปิดตัว ซึ่งแต่ละแบบนั้นถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ด้วยเช่นกัน 

  • Gemini Ultra — โมเดลที่ใหญ่ที่สุด และมีความสามารถมากที่สุด สำหรับงานที่มีความซับซ้อนสูง
  • Gemini Pro — โมเดลระดับกลาง รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของนักพัฒนา และธุรกิจ มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการใช้งานกับแอปพลิเคชันต่าง ๆ
  • Gemini Nano — รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนอุปกรณ์พกพาโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการการ Localized Processing ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ ณ วันนี้ Gemini Nano มีให้บริการใน Pixel 8 Pro แล้ว
เปรียบเทียบ ChatGPT vs Gemini AI ตัวไหนดีกว่ากัน?
ขอบคุณรูปภาพจาก Google DeepMind

ซึ่งมันได้รับการออกแบบมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงพลัง และความสามารถที่มากกว่ารุ่นก่อน ด้วยฟีเจอร์หลายรูปแบบ ที่สามารถประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, เสียง, หรือโค้ด 

ChatGPT (Chat Generative Pre-trained Transformer) คือ AI Chatbot โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models : LLM) ที่ใช้การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing : NLP) ถูกพัฒนาขึ้นโดย OpenAI เพื่อสร้างบทสนทนาที่เหมือนมนุษย์ สามารถตอบคำถาม และเขียนเนื้อหาต่าง ๆ รวมถึงบทความ, โพสต์บนโซเชียลมีเดีย, เรียงความต่าง ๆ

โดยที่ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง และกำหนดทิศทางของบทสนทนาให้มีความยาว, รูปแบบ, สไตล์, และระดับของการสนทนาที่ต้องการได้ ปัจจุบันเป็นเวอร์ชัน ChatGPT-4 ที่อัปเดตมาจาก ChatGPT-3.5 ซึ่งจะให้ข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้น และรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 40% 

เปรียบเทียบ ChatGPT vs Gemini AI ตัวไหนดีกว่ากัน?
ขอบคุณรูปภาพจาก W3schools

ทำความเข้าใจก่อนว่าทั้งสองตัวนี้ มีพื้นฐานมาจาก โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกเทรนด้วยข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตจำนวนมากมายมหาศาล ถึงแม้ว่าเราจะเรียกมันว่า Chatbot แต่ก็ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ต่างกันออกไป 

โดย ChatGPT นั้นถูกออกแบบมาเพื่อโต้ตอบกับผู้ใช้ในรูปแบบของแชทบทสนทนา ในขณะที่ Gemini ถูกออกแบบมาเพื่อประมวลผลข้อมูล และทำงานโดยอัตโนมัติ ในทางที่ช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดเวลา และไม่ต้องใช้ความพยายามมาก

ดังนั้นการเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่าง AI สองตัวนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมอง และวัตถุประสงค์ของการใช้งาน เนื่องจากทั้งสองเป็น AI Matchine Learning ดังนั้นจึงมีความแตกต่างที่สำคัญในแง่มุมมองต่าง ๆ ดังนี้

ChatGPT มักมีประสิทธิภาพในการตอบคำถามทั่วไป และสามารถเข้าใจคำถามที่มีความซับซ้อนได้ดี เช่น การให้คำแนะนำ การตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไป แต่ Gemini นั้นจะมีประสิทธิภาพในการตอบคำถามเรื่องที่มีความซับซ้อนสูง, เป็นเชิงวิชาการ หรือเป็นเรื่องเฉพาะทาง มากกว่าการตอบคำถามทั่วไป

  • ใช้โมเดลสถาปัตยกรรม GPT (Generative Pre-trained Transformer) ซึ่งได้รับการฝึกอบรมด้วยข้อมูลที่มากมายจากเว็บไซต์ และเอกสารทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต
  • โมเดลที่ใช้นั้นมีขนาดใหญ่ และสามารถเข้าใจ และตอบคำถามทั่วไปได้อย่างครอบคลุม
  • ChatGPT มีการปรับปรุง และการอัปเดตเป็นประจำเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และความสามารถในการตอบคำถาม
  • Gemini เป็นระบบที่ใช้การเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) เพื่อสร้างโมเดลที่สามารถตอบคำถาม และดำเนินการในเรื่องที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น การทำธุรกรรมทางการเงิน
  • โมเดลใน Gemini อาจมีขนาดที่ใหญ่กว่า และถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน
  • Gemini อาจมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าในการตอบคำถามเชิงวิชาการ หรือเรื่องที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น และอาจให้คำตอบที่ “เกินความจำเป็น” ในการตอบคำถามทั่วไป

ดังนั้นต้องการระบบที่สามารถตอบคำถามทั่วไป และให้ข้อมูลทั่วไป อาจเลือกใช้ ChatGPT แต่ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการข้อมูลที่เฉพาะทาง มีความเป็นคำตอบเชิงวิชาการจ๋า ๆ อาจเลือกใช้ Gemini ก็ได้

ข้อดีอย่างหนึ่งของ Gemini ก็คือ เมื่อเราป้อน Prompt ไปแล้ว ระบบจะทำการพิจารณาข้อมูลจาก 2 แหล่งคือ บนเซิร์ฟเวอร์ของ Google และข้อมูลที่ได้จากการ Training Data

ในทางกลับกัน ChatGPT มักจะตอบคำถามโดยอาศัยข้อมูลจากการ Training Data เพียงอย่างเดียว และบ่อยครั้งที่ ChatGPT มักจะให้คำตอบที่มาจากแหล่งข้อมูลเดียว แทนที่จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดที่สามารถเข้าถึงได้แล้วสรุปมันออกมา ซึ่งบางครั้งอาจทำให้ผู้ใช้ได้ข้อมูลล้าสมัย แต่เราก็สามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้ด้วยการ Prompt ให้มันค้นหาในเว็บ เพื่ออัปเดตข้อมูลให้เป็นข้อมูลปัจจุบันได้ แต่สิ่งนี้ไม่จำเป็นสำหรับ Gemini เลย

ChatGPT เวอร์ชันก่อนหน้าทำได้แค่อ่าน และสร้างข้อความเท่านั้น แต่หลังจากที่อัปเดตเป็น GPT-4 แล้ว ChatGPT จึงมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลภาพ และเสียงได้อีกด้วย 

ChatGPT สร้างภาพโดยใช้โมเดล DALL-E ที่พัฒนาโดย OpenAI ส่วน Gemini ใช้เครื่องมือ Imagen 2 ของ Google ซึ่งจะให้ภาพที่สมจริงและมีหลายรายละเอียดมากกว่า อย่างไรก็ตาม การใช้ ChatGPT ในการเจเนอเรตภาพนั้น มีความเสถียรมากกว่า และสามารถตีความ Prompt ของผู้ใช้ได้ดีกว่า ในเรื่องของการเจเนอเรตภาพ ChatGPT ทั้ง ๆ ที่ใช้ Prompt เดียวกัน

ChatGPT มีความปลอดภัยในการสื่อสาร และการจัดเก็บข้อมูลของลูกค้า แต่อาจมีความเสี่ยงในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจถูกใช้ในการสร้างโมเดล ส่วน Gemini มีความปลอดภัยที่สูงเนื่องจากการดำเนินการ และการจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ต้องเป็นไปตามข้อกำหนด และมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด

AI ทั้งสองตัวนี้ ผู้ใช้สามารถประยุกต์ใช้ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้ตามต้องการ เช่น การผนวกกับแอปพลิเคชัน หรือระบบบริหารจัดการข้อมูล ดังนั้นการเลือกใช้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและวัตถุประสงค์ของการใช้งานแต่ละรายการ

Gemini Advanced ยังมอบสิทธิประโยชน์ของ Google One ซึ่งรวมถึงพื้นที่เก็บข้อมูลระบบคลาวด์สูงสุด 2 TB, พร้อม Gemini ใน Google Doc,Gmail และมอบการอัปเกรด Google Meet ให้อีกด้วย เช่น วิดีโอคอลแบบกลุ่มที่นานขึ้น และคุณภาพวิดีโอที่ดีขึ้น 

ข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดประการหนึ่งของ ChatGPT Plus เหนือ Gemini Advanced คือ GPT Store ซึ่งขับเคลื่อนโดย ChatGPT ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับงานที่มีความเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า และให้ความแม่นยำสูงกว่า เนื่องจากโมเดลเหล่านี้ได้รับการเทรนด้วยดาต้าเฉพาะ

ก็คงไม่สามารถบอกได้ว่า AI ตัวไหนดีกว่ากัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเพื่อน ๆ ด้วยค่ะ ทั้งสองตัวนี้ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ และมักจะให้ข้อมูลที่ผิดบ่อยครั้ง ตัวอย่างเช่น Gemini บอกว่า Dall-E 2 ของ OpenAI ไม่ได้ใช้ Diffusion Model Technology และ ChatGPT บอกว่า Gemini ไม่สามารถสร้างภาพได้ 

แต่สำหรับผู้เขียนเองแล้ว ก็คงเลือกใช้ ChatGPT-4 ต่อไป เนื่องจากคุ้นชินกับเจ้า AI ตัวนี้ไปเสียแล้ว และ ChatGPT-4 เองน่าจะเหมาะสำหรับการเขียน, การสร้างเอกสาร, การสรุป, การสร้างภาพเพื่อจุดประสงค์ทั่วไปมากกว่า 

แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะ ถนัดใช้ตัวไหนมากกว่ากัน?

บทความดี ๆ รอให้เพื่อน ๆ ตามไปอ่านกันอยู่นะ ไปอ่านต่อกันได้เลยที่!

Sasiwimon Chumart

"แตงกวา" - ชอบภูเขา หลงรักทะเล หาเงินไปเล่นเซิร์ฟที่แหลมหญ้า กินกาแฟเพื่อมีชีวิตรอด นอนน้อยเป็นกิจวัตร ชอบกินเป็นชีวิตจิตใจ ตั้งใจเขียนงานมาก เพราะทุกคนต้องได้อ่านผลงานที่ดีที่สุด!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *