สรุป Insight Gen X, Gen Y, Gen Z, Alpha และ Baby Boomer ปี 2024 จาก TCDC

สรุป Insight Gen X, Gen Y, Gen Z, Alpha และ Baby Boomer ปี 2024 จาก TCDC

กลับมาอีกครั้งกับการสรุป Consumer Insights ทุก Generation ตั้งแต่ Baby Boomer, Gen X, Gen Y หรือ Millennials, Gen Z และ Alpha ประจำปี 2024 จากรายงานเจาะเทรนด์โลกของ TCDC โดยการตลาดวันละตอน หนึ่งในบทความที่มีคนค้นหาและเข้ามาอ่านมากที่สุดของเรา

แม้ปีนี้ TCDC ปล่อยรายงานออกมาช้ากว่าปกติทุกปี แต่ก็พบว่าเนื้อหาอัดแน่นเต็มไปด้วยคุณภาพยิ่งกว่าเดิม ถ้าอยากอ่าน Consumer Insight ในปีก่อนๆ ที่การตลาดวันละตอนสรุปไว้ เชิญไล่ตามลิงก์นี้ได้เลยครับ

Insight ทุก Generation 2023 : https://www.everydaymarketing.co/trend-insight/consumer-insight-all-generation-baby-boomer-gen-x-gen-y-millennial-gen-z-alpha-from-tcdc/

Insight ทุก Generation 2022 ถูกแชร์ไปกว่า 14,xxx ครั้ง : https://www.everydaymarketing.co/trend-insight/insight-all-generation-baby-boomer-gen-x-gen-y-millennials-gen-z-alpha-2022/

Insight ทุก Generation 2021 ถูกแชร์ไปกว่า 14,xxx ครั้ง : https://www.everydaymarketing.co/trend-insight/insight-all-generation-2021-baby-boomer-gen-x-gen-y-gen-z-alpha-from-tcdc-report/

Insight ทุก Generation 2020 ถูกแชร์ไปกว่า 83,xxx ครั้ง : https://www.everydaymarketing.co/trend-insight/summary-all-generation-insight-from-tcdc-report-2020/

ถ้าพร้อมจะอ่านสรุป Consumer Insights ทุก Generation ประจำปี 2024 แล้ว เชิญครับ

Insight Baby Boomer 2024 ผู้บริโภคกลุ่มสูงวัยที่หัวใจวัยรุ่น

สรุปแบบแฮชแท็ก

#BabyBoomer2024 #FacebookAddict #ชอบลองแอปใหม่ #จ่ายเงินในแอปง่าย #เปิดรับIoT #ติดคุยแชทกับเพื่อน #อยากทำงานจนถึงวันสุดท้าย #งานที่ปรึกษามากประสบการณ์ #ขอใช้เงินให้หมดก่อนตาย #ชอบสั่งอาหารผ่านแอป #AgelessMarketing #แต่งตัวเก่ง #ElderInfluencer #ปลูกผักกินเอง #ออกกำลังกายนานสุด #สินค้าอัลไซเมอร์  

ผู้บริโภคกลุ่มสูงวัยที่สุดตามนิยมของนักการตลาดวันนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาวันนี้จะใช้มือถือ เล่นโซเชียล และก็เครื่องมือดิจิทัลได้อย่างเชี่ยวชาญไม่แพ้ลูกๆ หลานๆ คนทุกเจนแล้วครับ

Baby Boomer ในปี 2024 ยังคงใช้ Facebook เป็นโซเชียลมีเดียหลักในการรับรู้ข่าวสารใหม่ๆ แต่ก็ตามมาด้วย TikTok ทำให้บรรดานักการตลาดต่างๆ ที่มีพวกเขาเป็นกลุ่มเป้าหมายก็จะยิงแอดโฆษณาไปยังสองช่องทางนี้เป็นหลัก

และที่น่าสนใจกว่าคือกลุ่ม Baby Boomer นั้นเป็นคนที่ชอบทดลองดาวน์โหลดแอปใหม่ๆ เยอะมาก มากถึง 1.2 พันครั้งต่อเดือน(ทั่วโลก) ในวันนี้การดาวน์โหลดแอปลดต่ำลงมากจนแทบจะเป็น 0 สำหรับคนวัยอื่น ทำให้แบรนด์ต่างๆ หันมาทำโฆษณาผ่านแอปฟรีที่ Baby Boomer ชอบใช้กัน

หรืออาจจะหันมาทำแอปเพื่อหาเงินกับ Baby Boomer เป็นหลัก ด้วยการเปิดให้โหลดใช้งานบางฟีเจอร์ได้ฟรี แต่ถ้าอยากใช้งานได้เต็มๆ ก็ต้องยอมจ่ายเงินสักหน่อย และบอกได้เลยว่าคนกลุ่มนี้แหละชอบใช้เงินในแอปมากเป็นพิเศษครับ

แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือ Baby Boomer ไม่ชอบถูกจับตามอง ถูกห้าม หรือถูกสั่งให้ทำหรือไม่ทำอะไร แม้จะเป็นไปเพื่อสุขภาพร่างกายความปลอดภัยของพวกเขา สิ่งที่เราต้องทำให้พวกเขารู้สึกคือ เราไม่ควบคุมหรือสั่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกถูกบังคับ แต่เราต้องทำให้พวกเขารู้สึกว่าเราพร้อมช่วยเหลือตามเงื่อนไขของพวกเขาแทน โดยจะเอาพวกอุปกรณ์ IoT เข้ามาช่วยก็ได้ เพราะพวกเขาคุ้นเคยกับดิจิทัลแล้ว

และจะดีมากถ้าอุปกรณ์ IoT หรือแอปเหล่านั้นทำให้พวกเขาสามารถติดต่อกับเพื่อนวัยเดียวกันได้ตลอดเวลาครับ

Baby Boomer กว่า 40% ตั้งใจว่าจะทำงานจนกว่าจะถูกไล่ออกจากงาน ไม่ว่าด้วยเหตุผลทางการเงินหรืออาจจะแค่เบื่อไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ ก็ได้ จึงทำให้ผู้สูงวัยหลายคนเลือกจะทำงานต่อถึงอายุ 70 ปี หรือทำไปให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้

แต่จะไม่ได้ทำทุกงาน จะขอเลือกทำแต่งานที่เห็นคุณค่าในสิ่งที่พวกเขาทำเท่านั้น และก็ไม่ชอบงานประเภทที่แบ่งแยกตามวัย ขอเป็นงานที่ได้ทำกับคนทุกวัย ในแง่มุมนึงนี่น่าจะเป็นโอกาสของแบรนด์ ที่จะดึงกลุ่มผู้บริโภคสูงวัยให้กลายเป็น Brand Advocate ได้กลายๆ

แต่สิ่งหนึ่งที่ Baby Boomer จะขอจากที่ทำงานคือการลาที่ยืดหยุ่นสำหรับการไปหาหมอหรือรักษาสุขภาพ ก็แน่นอนว่าสุขภาพเยอะขนาดนี้ก็ต้องหาหมอรักษาโน่นนี่นั่นมากเป็นพิเศษ สรุปง่ายๆ คือมีงานดีๆ สนุกๆ ให้ Baby Boomer ทำ ค่าตอบแทนอาจไม่ต้องมาก แต่ขอวันลาที่ยืดหยุ่นตามสุขภาพก็พอ

Baby Boomer 2024 กล้าใช้เงินแบบไม่ประหยัดอีกต่อไป

ก็จากวิกฤตโควิด19 การล็อกดาวน์ทั้งหลาย ทำให้พวกเขารู้สึกว่าชีวิตนั้นสั้นกว่าที่คิด ถ้ามีเงินเหลือก็รีบใช้ ออกไปหาความสุขให้ชีวิตเฮือกสุดท้ายดีกว่า

ชอบใช้เงินกับการหาประสบการณ์สนุกๆ ทิ้งท้ายแบบ YOLO เพื่อที่ตายไปจะได้เสียดายชีวิตน้อยที่สุด ไปจนถึงลงทุนเรื่องสุขภาพ และก็น่าสนใจว่ากับเรื่องการสั่งอาหารผ่านแอปหรือ Delivery นั้นก็ได้รับความสนใจจาก Baby Boomer ไม่น้อย

ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาไม่อยากรู้สึกว่าตกยุค อยากลองอะไรใหม่ๆ สำหรับคนวัยตัวเอง แม้จะดูเป็นอะไรที่ธรรมดาเฉยๆ สำหรับคนวัยอื่นก็ตาม

Ageless Marketing เทรนด์การตลาดแบบไม่จำกัดอายุ

แน่นอนว่า Baby Boomer นั้นทำงานหนักมากในวัยหนุ่มสาวยาวจนถึงเกษียณ ทำให้พวกเขามักพลาดกิจกรรมสนุกๆ ในช่วงอดีตไปไม่น้อย หลายคนจึงมองหากิจกรรมเหล่านี้ในช่วงบั้นปลาย ตั้งแต่การออกกำลังกาย ไปจนถึงการแต่งตัวสีสันจัดจ้าน

เรื่องเฟอร์นิเจอร์ของใช้ภายในบ้านก็จะเลือกที่เหมาะกับสภาพร่างกายในปัจจุบันมากขึ้น แต่ก็ต้องดูดีไม่ดูแก่ ไม่ดูป่วย ไม่ดูเชยนะ เหมือนที่ธุรกิจของ SCG เองก็มีไลน์ใหม่ที่แตกออกมาเพื่อกลุ่ม Baby Boomer ที่ยังมีใจกระฉับกระเฉง เพียงแต่ร่างกายอาจไม่คล่องแคล่วว่องไวเท่าเดิม

Elder Influencer เทรนด์อินฟลูสูงวัย

เมื่อผู้สูงวัยจำนวนมากเริ่มลองหันมาปั้นตัวเองเป็น Influcenrer แข่งกับคนรุ่นลูกรุ่นหลานก็ไม่น้อย เราจะได้เห็นภาพ Elder Influencer กันมากขึ้นในบ้านเราและทั่วโลก รอติดตามให้ดีนี่คือเทรนด์ใหม่จากคนรุ่นเก่าที่นักการตลาดต้องฉวยโอกาสให้ทัน

แต่ก็มี Baby Boomer บางคนที่เบื่อโซเชียลแล้วเพราะใช้งานมามากพอ ก็เริ่มหันไปสู่โลกออฟไลน์ เน้นปลูกอะไรกินเองแบง่ายๆ เพื่อให้มีกิจกรรมทำยามว่าง อีกแง่หนึ่งก็ยังได้ในเรื่องของสุขภาพ ตรงที่ได้กินของที่ปลูกเองแบบไม่ใส่สารเคมีปรุงแต่ง แถมยังได้ความภูมิใจได้ควบคู่กัน

ดังนั้นสินค้ากลุ่มสุขภาพลองหาวิธีการทำ DIY Package ให้เหล่า Baby Boomer ไปปลูกทำกินเองได้ง่ายๆ ที่บ้านกันดูนะครับ

สุดท้ายเรื่องการออกกำลังกายกับ Baby Boomer

ไม่น่าเชื่อว่าจากข้อมูลพวกเขาออกกำลังเฉลี่ยในแต่ละสัปดาห์นานถึง 215 นาที!! มากกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง เทียบกับคนเจนอื่นที่ออกกำลังกายเฉลี่ยแค่สัปดาห์ละ 111 นาทีเท่านั้น!! ไม่ถึงสองชั่วโมงดีด้วยซ้ำ

และนั่นก็หมายความว่าสินค้ากลุ่มสุขภาพทั้งการกินและกายออกกำลังกายจะทำเงินได้ดีกับผู้บริโภคกลุ่มสูงวัย Baby Boomerเป็นอย่างมาก

ทิ้งท้ายด้วยสินค้าไฮไลท์ที่พวกเขาให้ความสำคัญที่สุด ก็คือการป้องกันอาการของโรคอัลไซเมอร์ ถ้าใครหยิบเรื่องนี้เป็นจุดขาย คงได้เงินจาก Baby Boomer ไปไม่น้อยแน่ครับ

ปล. เบื่อแล้วเบาหวาน น้ำตาล หันมาใส่ใจเรื่องอัลไซเมอร์กันให้มากขึ้นในปี 2024 นะครับ

สรุป Insight Baby Boomer 2024 

ดูเหมือนผู้บริโภคสูงวัยจะกล้ามากขึ้นกว่าทุกปี จากพิษโควิดทำให้พวกเขาตื่นตัวกลัวจะไม่ได้ใช้เงินและชีวิตที่เหลือ พวกเขาจึงกล้าใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มที่ แถมยังออกกำลังกายนานที่สุดกว่าคนทุกเจน จบท้ายคือโรคอัลไซเมอร์กลายเป็นสิ่งที่ Baby Boomer ให้ความสำคัญอย่างมากในปีนี้

Insight Gen X 2024 (1965-1980)

สรุปแบบแฮชแท็ก

#วัยกลางคน #กังวลเรื่องเกษียณและสุขภาพ #หนี้สินเยอะกว่าทุกเจน #วัยผู้บริหารแต่เสี่ยงตกงาน #วัยต้องรีและอัปสกิลตัวเองครั้งใหญ่ #วัยที่นักการตลาดชอบลืม #วัยที่ไม่มีตัวตนอยู่ในโฆษณา #วัยทองพันล้าน #MenopauseMarket #วัยผิวและผมแห้ง #วัยชอบซื้อไปลองใช้ #วัยO2Omarketing 

ดูเหมือน Gen X จะกลายเป็นวัยกลางคนเต็มตัวที่เต็มไปด้วยความกดดัน ทั้งจากการต้องวางแผนเกษียณหลังการทำงาน วางแผนเรื่องสุขภาพและประกันของตัวเอง วางแผนเพื่อพ่อแม่ที่เป็น Baby Boomer สูงวัยแต่มีชีวิตที่ยาวนานกว่าคนแก่รุ่นก่อน บวกกับยังคงมีห่วงเรื่องลูกอยู่บ้าง แม้จะไม่มากแต่ก็ยังปล่อยวางไม่ได้

และจากรายงานเจาะเทรนด์โลก TCDC 2024 ก็ยังบอกว่ากลุ่มคน Gen X นั้นมีภาระหนี้สินสูงสุดกว่าคนทุกเจน นั่นก็เพราะต้องดูแลทั้งพ่อแม่และลูกไปพร้อมกันในช่วงชีวิตที่ผ่านมา

คนเจนนี้เกิดและโตมาในช่วงพิษเศรษฐกิจโลกครั้งสำคัญทั้งนั้น แม้หลายคนจะกลายเป็นผู้บริหารสำคัญในองค์กรต่างๆ แต่ก็ยังไม่วายเห็นการถูกปลดหรือปิดตัวของบริษัทลงไป ส่งผลให้กลายเป็นคนว่างงานที่หางานได้ยากยิ่ง

แล้วไหนจะถูกคนรุ่นใหม่ Gen Y ขึ้นมาเป็นผู้บริหารแทนที่ตัวเองอีก ทำให้ Gen X หลายคนต้องอัปทักษะความรู้ใหม่ พวก Digital Leadership Bootcamp หรือหลักสูตร Transformation มากมายที่เต็มไปด้วย Gen X เข้ามาเรียนเพราะไม่อยากตกยุคไป

ในสื่อโฆษณาเองก็ผลักภาพของ Gen X ให้หลุดจากโลกไปมาก เพราะด้วยอายุที่ไปถึงเลข 4 จนถึง 5 ทำให้แบรนด์ต่างๆ ไม่ค่อยเลือกนักแสดงวัยพวกเขามาออกทีวีเท่าไหร่ ส่วนดาราวัย Gen X ก็มักจะถูกรับบทให้เป็นพ่อหรือแม่ของพระเอกนางเอกอีกที 

สรุปง่ายๆ ได้ว่า Gen X นั้นเป็นกลุ่มวัยที่นักการตลาดมองข้าม ทั้งที่ไม่ควรมองข้ามเพราะพวกเขายังมีศักยภาพในการใช้เงินที่เพิ่มขึ้นตามวัย

สินค้ากลุ่มผู้หญิงเจนเอ็กซ์ก็เริ่มโฟกัสเรื่องการแก้ปัญหาผิว ผม และหนังศรีษะ ซึ่งผู้หญิงกลุ่ม Gen X เริ่มกลายเป็นวัยทองไม่น้อย ทำให้ฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปส่งผลต่อร่างกายที่ต้องการสินค้าแบบใหม่ไม่เหมือนกับหญิงสาววัยเลข 3 หรือ 2 โดยสิ้นเชิง (ที่สองกลุ่มนี้มักจะใช้สินค้าทดแทนกันได้)

การตลาดวันละตอนเองก็เคยเขียนบทความเรื่องเทรนด์ Menopause Market กลุ่มตลาดผู้หญิงวัยทอง โอกาสและขุมทองของนักการตลาดกว่า 1 พันล้านคน

และจากข้อมูลเองบอกให้รู้ว่ากว่าครึ่งของผู้หญิง Gen X นิยมซื้อเพื่อทดลองใช้ และที่เหลือก็ซื้อผ่านออนไลน์ นั่นหมายความว่าคุณควรทำสินค้าขนาดทดลองใช้เพื่อขายคนกลุ่มนี้ แล้วก็วางแผนการตลาดเพื่อดึงให้กลับมาซื้อไซส์ใหญ่ขึ้นโดยไว

จากข้อมูลก็พบอีก Insight ที่น่าสนใจว่าผู้บริโภคกลุ่ม Gen X นั้นมีการซื้อสินค้าซ้ำด้วยความถี่ที่ต่างกันระหว่างช่องทางออนไลน์กับออฟไลน์

กลุ่มซื้อออนไลน์จะซื้อแค่ไตรมาสละครั้ง ส่วนกลุ่มซื้อออฟไลน์จะซื้อเฉลี่ยเดือนละครั้ง นั่นหมายความว่ากลยุทธ์การตลาดกับกลุ่ม Gen X เมื่อแยกตามช่องทางก็ต้อง Personalization ให้เข้ากับพฤติกรรมการซื้อของพวกเขาด้วย

  • กลุ่มออนไลน์อาจเป็นกระตุ้นให้ซื้อถี่ขึ้นโดยมีส่วนลดหรือ Incentive บางอย่างให้
  • กลุ่มออฟไลน์อาจเป็นกระตุ้นให้ซื้อของมากชิ้นขึ้น หรือที่เรียกว่าเพิ่มยอดในบิลแต่ละเดือนแทนครับ

สรุป Insight Gen X 2024

เต็มไปด้วยแรงกดดันรอบด้าน ทั้งสุขภาพ การเงิน และครอบครัวที่ต้องดูแล แถมยังต้องรักษาตำแหน่งงานในบริษัทที่เหลือลดน้อยลงทุกวัน บวกกับถูกลืมจากนักการตลาด คนโฆษณา ด้วยการไม่ค่อยเห็นคน Gen X วัยเดียวกันตามสื่อต่างๆ บ้างเลย

สุดท้ายกลุ่มวัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือน คือกลุ่มใหญ่ที่นักการตลาดต้องตามเกมให้ทัน สุดท้ายคือต้องมีกลยุทธ์โปรโมชั่นให้เข้ากับพฤติกรรมการซื้อที่แตกต่างกันตามช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ครับ

Insight Gen Y หรือ Millennials 2024 (1981-1995)

สรุปแบบแฮชแท็ก

#มีเยอะสุดในโลก #และมีมากสุดในอาเซียน #กลุ่มขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก #หนึ่งในสามโสดอยู่บ้านพ่อแม่ #SoloEconomy #หมู่บ้านคนโสด #อยู่เป็นคู่ไม่มีลูก #เลี้ยงสัตว์เป็นลูก #ใช้เงินเที่ยวเก่ง #LuxuryTraveler #ดื่มกาแฟหนักเกินไป

ไม่น่าเชื่อว่าเกินกว่าครึ่งของ Millennials หรือ Gen Y นั้นจะอยู่ในอาเซียน จากตัวเลขทั้งหมด 1,800 ล้านคน เป็นคนอาเซียนไปแล้ว 1,100 ล้านคน ส่งผลต่อภาคธุรกิจและเศรษฐกิจอย่างมาก เพราะ Millennials วันนี้กลายเป็นวัยที่สะสมเงินทองสร้างเนื้อสร้างตัวมากที่สุด

และหนึ่งในเงินที่ Gen Y ใช้ด้วยมากที่สุดก็คือใช้กับกลุ่ม Alpha หรือคนที่เป็นลูกๆ ของเขานั่นเอง

แต่ก็น่าสนใจว่า 36% ของ Gen Y ที่โสดนั้นยังคงอาศัยอยู่กับพ่อแม่ในบ้านหลังเดิม นั่นหมายความว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะไม่โตกับคนกลุ่มนี้ที่ไม่มีความจำเป็นที่จะมองหาบ้านหลังใหม่ เรื่องนี้ก็สอดคล้องกับเทรนด์ Solo Economy ว่าร้านค้าหรือธุรกิจต่างๆ ต้องมีแพคเกจสำหรับคนมาใช้บริการคนเดียวที่ดูเพิ่มขึ้นทุกปีครับ

อ่านเรื่อง Solo Economy เศรษฐกิจคนโสดในการตลาดวันละตอนต่อ

แต่โอกาสของตลาดธุรกิจอสังหากับคนโสดยังมีอยู่ เมื่อเกิดเทรนด์ใหม่อย่างการสร้างหมู่บ้านคนโสดให้ม่รวมตัวกัน อยู่ร่วมกันเป็นเพื่อนบ้านกันไปจนแก่เฒ่า หรือแม้แต่กับการเช่าบ้านแชร์กับคนโสดแปลกหน้าอยู่ด้วยกันในต่างประเทศก็ตาม

เรียกได้ว่าคนโสดก็มีวิธีชีวิตรูปแบบหนึ่ง โดยเฉพาะคนโสด Gen Y ที่ไม่ได้โสดเพราะไม่มีใครเอา แต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่เอาใครมาเป็นคู่กวนใจเพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระเต็มที่ครับ

หรือถ้าไม่โสดก็อาจเลือกอยู่เป็นคู่รักที่ไม่มีลูก เพราะด้วยความกดดันทางสังคมและการเงิน ว่าการมีลูกแล้วเลี้ยงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในปัจจุบันนั้นต้องใช้เงินมหาศาลเลยทีเดียว

หลายคนจึงเลือกข้ามเรื่องมีลูกไป อยู่ด้วยกันเป็นสองตายายทำงานหาเงินและใช้เงินด้วยกันไปเรื่อยๆ ส่วนคนที่คิดจะมีลูกนั้นก็จะชะลอการมีลูกออกไปเรื่อยๆ จนกว่าสถานะทางการเงินจะพร้อมจริงๆ

หรือที่เราเริ่มเห็นกันมากขึ้นคือการมีสัตว์เลี้ยงเป็นลูก ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวก็ตอบรับเทรนด์นี้ ทั้งสายการบินไปจนถึงโรงแรมที่พักต่างๆ ครับ

และจากการไม่มีลูกไม่มีภาระของ Gen Y หลายคน ทำให้พวกเขากลายเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจ Luxury Travel กินหรูอยู่สบายจำนวนมาก คนกลุ่มนี้ไปเที่ยวทีใช้เงินเยอะ พักแต่โรงแรมหรูหราเพื่อประสบการณ์ขั้นสุด ใครทำตลาดกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด คิดให้ออกว่าเราจะทำอย่างไรให้กลุ่มคู่รักมีอายุ ไม่มีลูกแต่มีเงินนั้นกลายเป็นลูกค้าหลักของเรา

อีกหนึ่งเทรนด์สุดท้ายของ Insight Gen Y หรือ Millennials 2024 คือการดื่มกาแฟ

แต่ไม่ใช่การดื่มกาแฟแบบที่คิดกัน เพราะมันคือการกินกาแฟที่มากเกินไปจนก่อให้เกิดอาการเมากาแฟอย่างไม่น่าเชื่อ เลยทำให้กลุ่มสินค้ากาแฟแบบไร้คาเฟอีนโตกับคนกลุ่มนี้แบบเงียบๆ ส่วนตัวผมเองก็ดื่มวันละ 2-3 เป็นปกติ ยังไม่ถึงขนาดเมากาแฟ แต่ถ้าวันไหนกินไปเกิน 3 แก้ว บอกเลยว่าอาการเมาหรืออึนๆ กาแฟจะโผล่มาให้รำคาญทั้งวันครับ

ดังนั้นกลุ่มสินค้าที่กระตุ้นให้ Gen Y ตื่นตัวเพื่อการทำงานหนักได้ทั้งวันจึงมีโอกาสจะทำเงินจากคนกลุ่มนี้ได้ดี ลองดูว่าถ้าไม่เป็นกาแฟจะเป็นอะไร แล้วยิ่งถ้าตื่นตัวและได้สุขภาพด้วยหละก็ คงทำเงินแบบไม่หวาดไม่ไหวแน่ๆ ครับ

สรุป Insight Gen Y หรือ Millennials 2024

มีเยอะสุดในอาเซียน และกลายเป็นเป้าหมายหลักของนักการตลาด ให้ความสำคัญกับลูกมาก จนถึงขั้นอาจยอมไม่มีลูกเลย กลุ่มคนที่โสดก็ก่อให้เกิดธุรกิจใหม่ที่ไม่เคยมี Solo Economy เรื่องนี้ต้องหาอ่านต่อ https://www.everydaymarketing.co/trend-insight/solo-economy-thai-and-asean-digital-consumer-insights-2024-from-meta-report/

บ้านเพื่อคนโสดก็ต้องมา โสดแต่ไม่จำเป็นต้องเหงา จับคนโสดมาอยู่ด้วยกันได้ หรือกับกลุ่ม Gen Y ที่ไม่โสดแต่เลือกจะไม่มีลูก ก็กลายเป็นลูกค้าชั้นดีของการท่องเที่ยวแบบ Luxury Travel ทั่วโลกครับ

Insight Gen Z (1996-2011)

สรุปแบบแฮชแท็ก

#NeedExperience #OfflineBecomeExclusive #Y2K #Nostalgia #DigitalLess #FleaMarket #PopUpStore #NicheMarket #ESG #WorkFromAnywhere #HybridWork #LGBTQ+ #OpenRelationship

Gen Z ภาพจำของคนส่วนใหญ่ยังคงเป็นวัยรุ่นจากวันวาน แต่หารู้ไม่ว่าพอผ่านวิกฤตโควิด19 มา พวกเขาเหล่านี้ก็กระโดดข้ามจากวัยรุ่นมาเป็นวัยทำงานจำนวนมหาศาล

หลายคนเรียนจบในช่วงล็อกดาวน์ ทำให้ต้องหางานแบบงงๆ เจอเพื่อนใหม่แบบไม่เจอหน้า ได้รู้จักกันทางออนไลน์หรือ Zoom ล้วนๆ ดังนั้นสิ่งที่ Gen Z ถลิวหามากที่สุดในปี 2024 คือ Experience และต้องเป็น Physical Experience ไม่ชอบการออนไลน์ ขอไปเจอกันที่โลกจริงออฟไลน์ดีกว่า

บวกกับการคิดถึงวันวานในวัยเด็กของ Gen Y ตอนต้น ทำให้กระแส Y2K กลับมาฮิตระเบิดไปทั่วโลกเมื่อปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดสินค้าเก่าๆ กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง

แผ่นเสียงเอย เทปเอย ซิดีเอย ไปจนถึงวิทยุเทปเก่าๆ เอย เริ่มถูกเอามาจัดวางขายอย่างเด่นชัด (เพิ่งเห็นที่ญี่ปุ่นมาและแพงมากด้วยครับ)

สรุปได้ว่าถ้าอยากทำการตลาดกับ Gen Z ให้ออกมาดีต้องพยายามจัดกิจกรรมออฟไลน์ให้พวกเขาได้ออกมาเจอและสนุกกันนอกหน้าจอแทนครับ

Insight Gen Z 2024 มีความเบื่อโลกออนไลน์มากกว่าคนทุกเจน แม้พวกเขาจะใช้มันเก่ง แต่กลายเป็นว่าถ้าเลือกได้จะขอไปใช้ชีวิตในโลกออฟไลน์จริงมากกว่า ชอบซื้อของตามร้าน โดยเฉพาะร้านประเภท Pop-up Store เพราะนอกจากจะออฟไลน์แล้วยังได้ประสบการณ์พิเศษแบบมีชั่วคราว มันคือความ Exclusivity ของพวกเขา ที่คนเจนอื่นไม่เข้าใจครับ

บวกกับกระแส IYKYK = If you know, you know. อารมณ์ว่าถ้าถ้าคุณรู้ก็แสดงว่าคุณรู้ คุณคือคนในกลุ่มไม่กี่คนที่รู้เรื่องนั้น พวกเขาไม่ชอบอะไรที่ Mass มากๆ อีกต่อไป ขออะไรที่เฉพาะกลุ่มคนเล็กๆ ที่มีความสนิทกันเข้าไว้ ดูเหมือนโจทย์ท้าทางของนักการตลาดกับผู้บริโภคกลุ่มนี้คือจะจับ Niche อย่างไรให้ครบและคุ้มต้นทุนการตลาดที่ลงไป

Gen Z ยังใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและโลกเป็นอย่างมาก พร้อมจ่ายเพื่อแบรนด์เหล่านั้นอย่างเต็มที่ แต่ขอเป็นแบรนด์ที่ไม่แมสมากไป เพราะไม่อยากดูโหล และถ้าหาซื้อยากๆ ได้ยิ่งดี มันคือความท้าทายในการเป็นเจ้าของของ Gen Z ฟังดูยากดีมั้ยครับนักการตลาด Gen Y และ X

Insight Gen Z กับการทำงาน

พวกเขาต้องการงานที่ Flexible จริงๆ แบบ Work from Anywhere หรือ Hybrid Work จริงจัง จะให้เข้าออฟฟิศ 5 วันบอกเลยว่าขอบาย ดังนั้นใครอยากได้ Gen Z เก่งๆ มาทำงานด้วยต้องเข้าออฟฟิศ 3 ทำงานจากที่บ้าน 2 เป็นอย่างน้อยครับ

สุดท้ายเรื่องสุขภาพเพศของ Gen Z พวกเขาเหล่านี้ยอมรับในความหลากหลาย แถมยังเปิดกว้างด้านเพศ พร้อมเปิดใจยอมรับความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่ๆ ก็เป็นอีกโจทย์ทิ้งท้ายของแบรนด์ว่าจะทำอย่างไรกับ Insight เรื่องความหลากหลายและปิดกว้างด้านเพศของ Gen Z ดี

สรุป Insight Gen Z 2024

กลายเป็นผู้ใหญ่และวัยทำงานเต็มตัว ออนไลน์มาเยอะจนเบื่อเริ่มหนีมาโลกออฟไลน์มากขึ้นแล้ว ไม่ชอบอะไรที่แมสมากๆ ถ้าให้ดีต้องทำให้ Niche เฉพาะกลุ่มจริงๆ ไปเลย อยากได้ประสบการณ์ออฟไลน์เยอะๆ และก็เลือกที่จะทำงานแบบ Flexible มากกว่าจะเข้าออฟฟิศทุกวันแบบคนเจนก่อนแล้ว

สุดท้ายเปิดกว้างเรื่องเพศ เพราะต้องการค้นหาตัวตนที่แท้จริงมากกว่านี้ นี่คือวัยรุ่นเจนใหม่ที่ไม่เหมือนวัยรุ่นเจนไหนๆ ที่เคยเป็นมา อย่าคิดว่าวิธีทำการตลาดกับวัยรุ่นที่เคยประสบความสำเร็จในวันวาน จะใช้ได้ผลกับวัยรุ่น Gen Z วันนี้ครับ

Insight Alpha (2010-2024)

สรุปแบบแฮชแท็ก

#มีเยอะสุดในโลก #มีอำนาจการตัดสินใจซื้อภายในบ้าน #ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม #Diversity #Equality #Phygital #AIgeneration #งานใหม่ที่โลกไม่รู้จัก #คุยแบบเท่าเทียมด้วยเหตุผล #ชอบเล่นเกมยามว่าง 

Generation Alpha เด็กในวันนี้จะกลายเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า จากข้อมูลบอกให้รู้ว่าในปี 2024 นี้เองโลกเราจะมี Alpha มากถึง 2.2 พันล้านคน แม้จะเยอะกว่า Gen Y ก่อนหน้าถึง 500 ล้านคน แต่ด้วยความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยที่ยังไม่มีเท่า ก็เลยต้องยกให้ Gen Y เป็นอันดับ 1 ของนักการตลาดทั่วโลกครับ

จากข้อมูลบอกให้รู้ว่าครอบครัวยุคใหม่ที่มี Gen Alpha ในบ้านนั้นตัดสินใจตามลูก หรือถ้าลูกค้านการซื้อนั้นก็มีโอกาสจะถูกปัดตกโดยง่าย

Insight Alpha นั้นพวกเขามองว่าทุกคนควรจะเท่าเทียมกัน ดังนั้นแบรนด์ต้องสนับสนุนเรื่องนี้ถ้ามีพวกเขาเป็นกลุ่มเป้าหมาย หรือถ้ามีกลุ่ม Millennial Parent เป็นกลุ่มเป้าหมายครับ

Gen Alpha เกิดมาพร้อมกับการเห็นโลกว้างผ่านทางออนไลน์ เห็นคนทั้งโลก เห็นคนต่างสีผิว คนเห็นต่างวัฒนธรรม ได้คุยกับคนต่างชาติต่างภาษาอาจจะผ่านเกมที่เล่น ทำให้ Alpha มีความเป็น globalization มากที่สุด

การตลาดแบบ Equality & Diversity Marketing ต้องมา จะ Stereotype แบบเดิมไม่ได้ จะทำการตลาดแบบลืมคนบางกลุ่มเหมือนเดิมนั้นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคุณจะโดนพวกเขาแบนไปตลอดกาลแน่ๆ

Gen Alpha นั้นเกิดมาในยุค Digital 100% และ Always On แบบเน็ตต้องเร็วตลอดเวลา บวกกับโตมาในยุคของ AI ทำให้พวกเขาสามารถจัดการและรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดีกว่าเจนก่อนๆ

อยากรู้อะไรหาได้ทุกอย่างผ่าน YouTube ทำให้การลงมือทำของ Alpha เป็นเรื่องง่ายถ้าอยากทำ และคาดว่า 65% ของตำแหน่งงานในยุค Gen Alpha โตเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน จะเป็นตำแหน่งงานที่ไม่เคยมีมาก่อนบนโลกใบนี้

กับเด็ก Gen Alpha ชอบให้คุยกับพวกเขาตรงๆ คุยกับพวกเขาด้วยเหตุผล เสมือนพวกเขาเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง คนเจนนี้ไม่สนใจเรื่องอายุ แต่เคารพที่ความคิด ดังนั้นอย่าสื่อสารออกในแบบที่มองพวกเขาเป็นเด็ก แต่ให้มองว่าพวกเขาคือผู้ที่มีความคิดใหญ่ในร่างที่ยังเล็ก แล้วจะทำให้ Alpha เปิดใจรับมากกว่า

เรื่องความบันเทิงยามว่างนั้น Gen Alpha ชอบเล่นเกมมากกว่าดูหนังหรือทำอย่างอื่อน ดังนั้นนักการตลาดต้องคิดกลยุทธ์ Game Marketing ให้ดีถ้าต้องการให้คนกลุ่มนี้ฟังอย่างตั้งใจ

สรุป Insight Alpha 2024

มีจำนวนมากที่สุดถึง 2,200 ล้านคน มีอำนาจในการตัดสินใจว่าพ่อแม่ Millennial Parent ควรซื้อหรือไม่ซื้ออะไรมากกว่าเด็กเล็กเจนก่อน

มีความหลากหลายในการมองโลก สังคม และให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมในทุกด้าน อยากทำอะไรหาข้อมูลด้วยตัวเองได้ เรียนรู้ด้วยตัวเองเก่ง เกิดและโตในยุค AI ซึ่งจะมาพร้อมกับตำแหน่งงานใหม่ๆ ที่เราไม่เคยรู้จักในวันนี้

ชอบให้สื่อสารแบบผู้ใหญ่คนมีเหตุผลด้วยกัน ไม่ชอบให้สั่งหรือใช้อายุมากดดันว่าต้องทำอะไร ชอบเล่นเกมยามว่างมากกว่าคนทุกเจน นี่คือเด็กยุค AI ที่จะก้าวขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ในอีกแค่ 6 ปีข้างหน้าครับ

สรุป Consumer Insights ทุก Generation ตั้งแต่ Baby Boomer, Gen X, Gen Y หรือ Millennials, Gen Z และ Alpha ประจำปี 2024

ภาพรวม Consumer Insights & Trends ในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อนพอสมควร คนกล้าใช้ชีวิตกันมากขึ้น แต่ก็เครียดกันมากขึ้น และก็ใส่ใจเรื่องสุขภาพจิตใจกันมากขึ้น ไปจนถึงมองการทำงานรูปแบบใหม่ ไม่เน้นตายตัวติดกับที่ แต่เน้นการสร้าง Productivity ให้ดีขึ้นกว่าเดิม บวกกับเด็กรุ่นใหม่ก็มองโลกในมุมที่ต่าง จะมาใช้ทัศนคติแบบเก่ากับพวกเขานั้นไม่ได้อีกต่อไป

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นักการตลาดในการตลาดวันละตอนไม่มากก็น้อย ถ้าสนใจอยากดาวน์โหลดรายงานตัวเต็มจาก TCDC ไปอ่าน เชิญลิงก์นี้เลยครับ : https://www.tcdc.or.th/th/all/service/resource-center/e-book/34204-trend-2024

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *