การตลาด Pastel จับ Pain Point ผสาน Creative Marketing
สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน ในนี้มีผู้อ่านท่านไหนชอบใช้ยาดมกันบ้างคะ ผู้เขียนเป็นหนึ่งคนที่ชอบใช้ยาดมเช่นกัน ต้องยอมรับเลยนะคะ ยาดมกับการทำหายแทบจะเป็นของคู่กัน วันนี้ผู้เขียนเลยจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ Pastel ยาดมที่นำ Pain Point ของลูกค้ามาใช้จนเกิดเป็น เจาะการตลาด Pastel จับ Pain Point โดยใช้ Creative Marketing กันค่ะ
ใช้ความ Creative เริ่มแก้ Pain Point ด้วย Packaging
ก่อนที่จะไปพูดถึงความ Creative ของ Pastel ผู้เขียนขออธิบายเรื่องของ Pain Point ใฟ้ทุกท่านฟังคร่าว ๆ ดังนี้ก่อน เผื่อมีท่านไหนสงสัยว่า Pain Point คืออะไร แล้วทำไมเราต้องแก้จุดนี้ด้วยค่ะ
คำว่า Pain Point ถ้าแปลกันตรงตัวเลย จะแปลได้ว่า จุดเจ็บปวด และในทางการตลาดหรือธุรกิจ คำนี้จะถูกใช้เพื่อสื่อว่า คือความเจ็บปวดของลูกค้าที่พบปัญหา จากการใช้สินค้า รวมไปถึงพฤติกรรมผู้บริโภค ที่จริง ๆ มันควรสะดวกสบายมากกว่านี้ค่ะ นี่แหลค่ะ คือ Pain Point ของลูกค้าที่เรากำลังพูดถึง
ซึ่งถ้าธุรกิจ สินค้า หรือแบรนด์ค้นพบสิ่งนี้ ก็ต้องเร่งแก้ไขให้ลูกค้า หรือ นำจุดนั้นมาสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความเจ็บปวด หรือ ความต้องการของลูกค้านั้น ๆ
อย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวไปข้างต้น ปัญหาเรื่องการทำยาดมหาย แทบจะเป็นหนึ่งในปัญหาหลัก ๆ ของคนที่ใช้ยาดมเลยก็เป็นได้ หรือจะเรียกว่าเป็น Pain Point เลยก็ได้ ซึ่งทาง Pastel เองก็ได้เล็งเห็นในจุดนี้ และได้ทำ Packaging ออกมาให้ โดยเราสามารถหยิบดมโดยไม่ต้องเปิดฝาเลย
แถมยังมีรูสำหรับร้อยสายห้อย สำหรับคนที่ชอบนำยาดมไปรวมกับของในกระเป๋า อย่างผู้เขียนเองบางที่หยิบผิดหยิบถูก เพราะลักษณะค่อนข้างคล้ายกับลิปสติก หรือ น้ำหอมขวดเล็ก ๆ ที่ผู้เขียนชอบพก แต่ทาง Pastel ก็เข้าใจและแก้ไขจุดนี้เพิ่มเข้าไปด้วย
ชวนรู้จัก Creative Marketing
ก่อนที่เราจะพูดถึงด้านอื่น ๆ ของ การตลาด Pastel ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านทุกท่านรู้จักกับ Creative Marketing กันก่อนค่ะ
คำว่า Creative Marketing เกิดจากการรวมกันของ 2 คำ คือ Creative และ Marketing ค่ะ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วแปลออกมาก็จะได้ว่า “การตลาดสร้างสรรค์” นั่นเองค่ะ
โดยหลักของ Creative Marketing อาจเป็นการหาแนวความคิด ไอเดียใหม่ ที่ “สร้างสรรค์” ซึ่งอาจเป็นทั้งด้านการสื่อสาร การโฆษณาก็ได้ค่ะ เป็นการนำความคิดสร้างสรรค์มาต่อยอดจากการตลาดแบบเดิมค่ะ
อย่าง Pastel เองก็มีการทำ Creative Marketing โดยการนำ Cute Marketing เข้ามาช่วยด้วย กลายเป็นปลอกใส่ยาดมรูปสัตว์น่ารัก ๆ ใส่สายห้อย ใส่พวงกุญให้ดูน่ารัก ถือว่าเป็นการสร้างการสื่อสารแบบใหม่ ที่ทำให้ยาดมเป็นมากกว่ายาดมธรรมดาค่ะ
Cute Marketing คืออะไร
อธิบายแบบง่าย ๆ คือ เป็นการตลาดที่เน้นความน่ารัก ไม่ว่าจะออกสินค้า ดีไซน์แพจเกจจิ้ง หรือทำแคมเปญทางการตลาด อะไรก็แล้วแต่ต้องมีความ ‘น่ารัก’ ไว้ก่อน เพื่อใช้ดึงดูดคน/กระตุ้นภาพจำทางการตลาดของแบรนด์หรือสินค้า และทำให้เกิดความอยากได้อยากมีอยากซื้อในที่สุด
หรือพูดได้ว่า การตลาดสร้างสรรค์เป็นผสมผสานสิ่งต่างๆ ออกมาเป็นสิ่งใหม่ ๆ รวมไปถึงการสร้างและทำความเข้าใจแบรนด์ของเราให้กับลูกค้าด้วย และรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราต้องการอะไร และสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายค่ะ
ผู้เขียนก็ได้รวบรวมมาให้ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง เผื่อเป็นไอเดียสำหรับแบรนด์ที่อยากลองทำการตลาดสร้างสรรค์ค่ะ
- การสร้างแบรนด์
- ประสบการณ์ลูกค้า
- การโฆษณาและโปรโมชั่น
- บริการและผลิตภัณฑ์
และนี่ก็คือความหมายและแนวทางการทำ Creative Marketing ค่ะ เรามาดูกันต่อดีกว่าว่า การตลาด Pastel ได้นำ Creative Marketing มาใช้ยังไงบ้าง
สร้าง Brand Image โดยใช้ Creative และ Fandom marketing
หลังจากแก้ไข Pain Point แรกด้วย Packaging แล้ว ทาง Pastel ก็ได้เล็งเห็นถึงปัญหานึง คือ จริง ๆ แล้วมีกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบใช้ยาดมอยู่ แต่ด้วยภาพลักษณ์ชองการใช้ยาดม คือเหมาะสำหรับคนวัยทำงานหรือคนที่มีอายุเยอะหน่อยจริงมั้ยคะ
ดังนั้นทาง Pastel เองได้นำ Creative Marketing มาใช้โดยการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีรูปลักษณ์น่าใช้ ดูทันสมัยมากขึ้น พร้อมยังมีลูกเล่นทั้งสีของผลิตภัณฑ์ที่นอกจากจะมีความสนใจแล้ว ยังมีเครื่องประดับต่าง ๆ เสริมมาอีกด้วย
นอกจากนั้น Pastel ทำการตลาด Pastel โดยนำ แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล หรือที่เรารู้จักกันในนาม แบมแบม GOT7 มาโฆษณาในช่วงแรกด้วยค่ะ จนในช่วงแรกคนเรียกแทนว่า ยาดมแบมแบม กันเลยค่ะ
นอกจากใชัดารา นักแสดงรุ่นใหม่ เพื่อสร้าง Brand Image ให้กับแบรนด์แล้ว ถือว่า Pastel เองได้ใช้ fandom marketing ด้วยค่ะ ผู้เขียนขออธิบาย fandom marketing คร่าว ๆ ดังนี้นะคะ
fandom marketing คือการที่แบรนด์นำดารา ศิลปิน มาเป็นพรีเซนเตอร์ หรือ โฆษณา แล้วศิลปินกลุ่มนั้นมี แฟนคลับคอยซัพพอร์ตอยู่ ดังนั้นเมื่อศิลปินมาเป็นพรีเซนเตอร์ หรือ โฆษณาสินค้าไหน แฟนคลับก็คอยซัพพอร์ตสินค้านั้น ๆ ด้วยค่ะ
จากการสร้าง Brand Image ให้ดูน่าใช้ทันสมัย ประกอบกับการใช้ fandom marketing ทำให้ Pastel ตีตลาดยาดมไปสู่คนรุ่นใหม่ และ คนที่ใช้ยาดมเองอยู่แล้วได้ไม่ยากเลยค่ะ ซึ่งลำดับต่อไปผู้เขียนจะพาทุกท่านไปเจาะลึกการใช้ Creative Marketing ในการสื่อสารของ การตลาด Pastel กันค่ะ
ใช้ Creative Marketing ในการสื่อสาร
อย่างที่กล่าวไป Pastel ได้มีการใช้ Creative Marketing ในการสื่อสาร ผู้เขียนเลยอยากจะพาทุกท่าน ไปเจาะลึกว่าทาง Pastel มีการใช้ Creative Marketing ยังไงบ้าง
- โฆษณา ทาง Pastel ได้มีการใช้โฆษณาที่สื่อตรง Pain Point เลยว่า พกง่าย ฝาไม่หาย
- ใช้ดารา นักแสดงรุ่นใหม่ เพื่อสื่อถึงความทันสมัย
- มีการออกสินค้าที่สามารถใช้คู่กับตัวยาดมได้ เพิ่มความสนุกให้ผู้ใช้ ทั้งที่ใส่ยาดมคู่ ตัวการ์ตูนตกแต่งยาดม
- ออกผลิตภัณฑ์ที่มีหลายกลิ่นเพื่อมาตอบโจทย์ผู้ใช้ และทำให้ผู้ใช้มีความสนุกที่อยากทดลองใช้ อย่างกลิ่น มะม่วง มิกซ์เบอร์รี่ และตะไคร้เป็นต้นค่ะ
ถ้าผู้เขียนสังเกตว่าทาง Pastel มีการใช้ความ Creativeหลากหลายมาก เพราะทาง Pastel เองก็มีวิสัยทัศน์ที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ เพื่อความต้องการของผู้คนอย่างแท้จริงค่ะ
เพราะตัวผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพของ PASTEL เกิดขึ้นโดย พาสเทลคอลเลคทีฟ (Pastel Collective) ซึ่งเป็นกลุ่มคนจากหลากหลายสาขาอาชีพที่ทำงานร่วมกับเราเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาต้องการอย่างแท้จริงค่ะ
และทาง PASTEL เองก็มองว่า เมื่อคนหลากหลายกลุ่ม ได้พบเจอ ได้รับฟัง ได้แลกเปลี่ยนแนวคิด และได้ทำงานร่วมกัน ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้ นั้นย่อมดีกว่า “เดิม” ค่ะ
เริ่มจากการแลกเปลี่ยนบทสนทนาเกี่ยวกับชีวิตประจำวันอย่างตรงไปตรงมา จนก็ได้สร้างสรรค์แบรนด์ที่สะท้อนความต้องการในแต่ละวันของผู้คน ภายใต้โจทย์ที่ว่านวัตกรรมจะสร้างสรรค์ประโยชน์และผสานรวมเข้ากับวิถีชีวิตของผู้คนได้อย่างไรค่ะ
โดย PASTEL เองมีแนวคิดในการทำงานและออกผลิตภัณฑ์ว่าเป็นเรื่องปกติที่จะเจอกับวันแย่ๆ แต่ พาสเทล จะคอยช่วยสร้างความสุขเล็กๆน้อยๆ ให้กับวันเหล่านั้นเองค่ะ
เป็นไงบ้างคะ บทความ การตลาด Pastel จับ Pain Point ผสาน Creative Marketing ที่ผู้เขียนนำมาฝากกัน หวังว่าทุกท่านจะได้ไอเดีย Creative Marketing ไปปรับใช้กับธุรกิจหรือแบรนด์ของทุกคนนะคะ
ถ้าชอบ หรือ สนใจอยากอ่านบทความด้านการตลาดแบบนี้อีก ผู้เขียนฝากติดตามด้วยนะคะ หรือ ถ้าใครอยากให้ผู้เขียนนำมุมมองการตลาดแบบไหนมาเล่าให้ฟัง สามารถคอมเมนต์บอกกันได้เลยนะคะ
สำหรับนักอ่านที่ชอบ และ อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารด้านการตลาดต่าง ๆ สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนได้เลยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะヽ(•‿•)ノ
