ศึกเดือดธุรกิจค้าส่ง Makro พลิกโฉมครั้งใหญ่ ต้อนรับน้องใหม่ GO Wholesale
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสถานการณ์ COVID-19 ที่กินเวลานานนับปีนั้น ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่เมื่อเรามองถึงปลายปี 2564 ด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐบาล ประกอบกับมาตรการควบคุมสถานการณ์โรคระบาดที่ดีขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจมีการฟื้นตัว โดยเฉพาะในภาคของธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ การแข่งขันกันระหว่างเจ้าตลาดค้าส่งยักษ์ใหญ่อย่าง Makro และน้องใหม่ในตลาดอย่าง GO Wholesale บทความนี้จะมาเจาะลึกถึงกลยุทธ์ที่ Makro ใช้รับมือต่อการมาถึงของ GO Wholesale จะมีกลยุทธ์ไหนน่าสนใจบ้างตามไปดูกันเลย!
โดยวันที่ 27 ตุลาคม 2566 – นาง เสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่ง Makro บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “Makro ดำเนินธุรกิจเคียงข้างสังคมไทยมาอย่างยาวนานกว่า 34 ปี ด้วยความมุ่งมั่นในการเป็นคู่คิดทางธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพการดำเนินงานในทุกมิติ จึงปรับรูปลักษณ์ใหม่ของ Makro สาขาศรีนครินทร์ ให้มีความเป็นค้าส่งสมัยใหม่ โดยชูจุดเด่นแหล่งรวมสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาค้าส่งที่ดีที่สุด และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกด้านบริการที่รองรับความต้องการของผู้ประกอบการและลูกค้าทุกกลุ่ม ด้วย 5 จุดแข็ง ได้แก่
- พื้นที่จำหน่ายอาหารสดที่กว้างขวางกว่าเดิม และครบครันที่สุดบนถนนศรีนครินทร์ ด้วยสินค้าเพื่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการกว่า 30,000 รายการ
- สินค้ากลุ่มเบเกอรี และสินค้าอุปโภค (Non-food) แนวใหม่ ตกแต่งทันสมัย โดดเด่นทั้งด้านคุณภาพ และราคา
- อัปเกรดป้ายแสดงราคาสินค้าเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ESL) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า
- โปรโมตสินค้าผ่านสื่อดิจิทัลภายในสาขา เพิ่มโอกาสทางการขายให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ
- ศูนย์อาหาร “Lotus’s Eatery” ที่รวมร้านเด็ดเจ้าดังมาไว้ที่นี่ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้า โดยจะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้
นอกจากการพลิกโฉมครั้งใหม่แล้ว เพื่อเป็นการฉลองการก้าวสู่ปีที่ 34 ของ Makro ศรีนครินทร์ จึงได้จัดแคมเปญแทนคำขอบคุณด้วยโปรโมชันสุดพิเศษ, มินิคอนเสิร์ต, กิจกรรม Meet & Greet กับนักแสดงหนุ่มชื่อดัง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย
… “ โดยในวันเดียวกันที่เปิดตัว ‘Makro ศรีนครินทร์’ โฉมใหม่ ก็เป็นวันเดียวกับวันที่เปิดตัว ‘GO Wholesale’ ธุรกิจค้าส่งแห่งแรกในเครือ เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์อีกด้วย! “ …
เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ได้เปิดตัว “GO Wholesale” สาขาศรีนครินทร์ แห่งแรก บนพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร มุ่งเน้นเป็นแหล่งค้าส่งสินค้าเพื่อผู้ประกอบการ ขนาดใหญ่ ครบครันด้วยสินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 20,000 รายการจากทั่วทุกมุมโลก โดยมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการทั้งรายย่อย และรายใหญ่
ไม่ว่าจะเป็น บริการตัดแต่งเนื้อสด ผักสดตามความต้องการใช้งาน, บริการบ่มเนื้อ Dry Age, ศูนย์รวมของวัตถุดิบที่เป็นสินค้า SME ชื่อดังจากทั่วไทย, ‘Beverage Solution’ มุมให้คำปรึกษากับผู้ที่ต้องการเริ่มต้น ต่อยอด หรือพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่ม, สินค้าที่เกี่ยวกับธุรกิจเดลิเวอรี, ศูนย์ให้คำปรึกษาทางธุรกิจ (Business Center), และ “ห้อง Workshop” ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เข้ามาเรียนรู้ พัฒนาทักษะอาชีพ จากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ
วิเคราะห์กลยุทธ์รับมือของ Makro ที่มีต่อการมาถึงของ GO Wholesale
ปัจจัยที่ส่งเสริมให้ Makro ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากการมาถึงของคู่แข่งรายใหม่ในตลาดที่ไม่ใช่แค่ GO Wholesale งานนี้แม็คโครจะมีวิธีการรับมืออย่างไร ไปดูกันเลยดีกว่า!
Makro เลือกปรับโฉมสาขาที่อยู่ในละแวกเดียวกับคู่แข่ง
การที่ 2 ธุรกิจที่ขายสินค้า-บริการเหมือนกัน ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน ก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่สามารถลดความเป็นไปได้ที่จะถูกชิงส่วนแบ่งทางการตลาดในบริเวณนั้นไป ประกอบกับ Makro สาขาศรีนครินทร์นั้นอยู่ไม่ห่างจาก Makro – Lotus’s Mall และ Makro Food Service สาขาแพรกษามากนัก เรียกได้ว่าล้อมคู่แข่งไว้ทุกทิศทาง นอกจากนี้ยังทำให้ถนนศรีนครินทร์กลายเป็น “ย่านกลุ่มการค้าส่ง” ดึงดูดให้ผู้คนที่ต้องการซื้อสินค้าราคาส่งเข้ามาจับจ่ายในบริเวณนี้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งก็เป็นไปตามทฤษฎี Hotelling’s Law ที่กล่าวว่า “ธุรกิจจะปรับตัวเข้าหากันเสมอ”
Makro จัดงานวันเดียวกับวันที่คู่แข่งเปิดตัว
นอกจากจะจัดงานอีเวนต์ในวันเดียวกันเพื่อดึงดูดความสนใจแล้ว Makro ยังได้จัดแคมเปญแทนคำขอบคุณด้วยโปรโมชันสุดพิเศษ, มินิคอนเสิร์ต และกิจกรรม Meet & Greet อย่างใกล้ชิดกับนักแสดงหนุ่มชื่อดัง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” รวมถึงเพลิดเพลินไปกับงาน Food Festival รวมสารพันอาหารรสเลิศจากร้านค้ามากมาย สนุกกับกิจกรรมท้าสุดยอดนักกินร่วมแข่งขันกินกุ้ง และแข่งกินจุหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีส ชิงเงินรางวัลมากมาย ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม จากชาวสมุทรปราการ รวมถึงผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ และบริเวณใกล้เคียง
Makro ย้ำชัดถึงความเป็น “ตัวจริงค้าส่ง”
ตอกย้ำผู้นำค้าส่งตัวจริง 34 ปีที่เคียงข้าง สร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการ ภายใต้แนวคิด “โตมาด้วยกัน โตไปด้วยกัน” และแทนคำขอบคุณลูกค้าด้วยโปรโมชันย้ำจุดแข็งของตน อาทิ ‘โปรแรงถล่มเมือง’ ลดราคาเป็นพิเศษสินค้าไอเท็มลับ, ‘โปรโมชันลดแรง’ พิเศษวันเดียวเท่านั้น ฯลฯ อื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ยังได้มีการโพสต์วิดีโอผ่านช่องทาง Facebook โดยมีเนื้อหาย้ำถึงความเป็นผู้นำในด้านธุรกิจค้าส่ง ด้วยคำกล่าว “ไม่พูดเยอะ ไม่พูดซ้ำ! แม็คโคร ตัวจริงค้าส่ง 27 ตุลาคม ไม่ต้อง Go ไปไหน! มีเซอร์ไพรส์! มาที่เดียวครบ! จบที่แม็คโครศรีนครินทร์!” (คลิกเพื่อรับชมวิดีโอได้ ที่นี่)
Makro เผยโมเดลธุรกิจใหม่ “Hybrid Wholesale”
นอกจากนี้ Makro ได้เผยถึงโมเดลธุรกิจแบบใหม่ ‘Hybrid Wholesale’ ที่ผสานจุดแข็งของ Makro ที่เป็นผู้นำในด้านธุรกิจค้าส่ง เข้ากับ Lotus’s Mall ศูนย์การค้าที่มีจุดแข็งในการเป็น Smart Community Center ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ แบบ One Stop Service บนพื้นที่กว่า 12,000 ตารางเมตร ของ Makro สาขาสมุทรปราการ หรือที่ใช้ชื่อว่า “Makro – Lotus’s Mall สมุทรปราการ” โดยมีเป้าหมายคือการขยายฐานลูกค้าให้กว้างยิ่งขึ้นในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถดึงดูดลูกค้าได้อยู่ที่ประมาณ 8,000 คน/วัน
เหตุการณ์ครั้งนี้ เผยให้เราเห็นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยนั้นมีแนวโน้มเป็นไปในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน แต่ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวของธุรกิจ หรือการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ในตลาด ล้วนส่งผลดีต่อผู้บริโภคอย่างเรา ทั้งในด้านความหลากหลายในการเลือกซื้อ ราคา และคุณภาพของสินค้า และยังส่งผลให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อแข่งขันกันตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ตลาดมีความพร้อมที่ดีในการรับมือกับอุตสาหกรรม และสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ในเร็ว ๆ นี้ เราอาจจะได้เห็นผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นอีกหลายราย รอติดตามกันได้เลย!
อัปเดตข่าวสาร ความรู้ได้แบบไม่มีสะดุด ตามไปอ่านกันต่อได้เลยที่!
