ถอดกลยุทธ์ Dookki เปิด Mukbang Sponsored ในร้านเพิ่มรสมาชิตะ แบบบุฟเฟ่ต์ต๊อกตัวแม่
พามาถอด กลยุทธ์ Dookki Topokki ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ต๊อกที่มีสาขาในประเทศเกาหลีและได้รับความนิยมอย่างมาก บางวันแม้จะไม่ใช่ไพร์มไทม์ก็คนเต็มร้านบ่อย ๆ สงสัยกันไหมคะว่าเค้ามีไฮท์ไลท์ทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ อะไรที่สังเกตได้จากคนนอกบ้างนะ ซึ่งผู้เขียนจะวิเคราะห์ในมุมมองของลูกค้าประจำด้วยเลยค่ะ~
เหตุผลที่เลือกร้าน Dookki มาพูดคุยกับนักการตลาดในวันนี้ก็เพราะผู้อ่านหลายท่านที่เป็นเจ้าของธุรกิจ หรือกำลังเตรียมตัวเป็นผู้ประกอบการในแวดวงธุรกิจร้านอาหาร ที่จัดว่าเป็นความท้าทายและสนุกสนานไปพร้อมกัน อย่างเช่น นอกจากที่จะมีคู่แข่งเกิดใหม่ได้ตลอดเวลาแล้วยังต้องติดตามกระแสและเทรนด์ของคนทาน ว่าเมนูที่จำหน่ายอยู่ยังติดปากลูกค้าไหม มีกระแสอะไรกำลังมาดึงยอดร้านเราอยู่หรือเปล่านะ
หากเราพูดถึงร้านนี้ แน่นอนว่ากลุ่มเป้าหมายหลักคือคนที่ชอบทานอาหารเกาหลี นักเรียน นักศึกษา คนที่ติดซีรีส์ วาไรตี้ ไอดอลนักร้อง หรืออินในพาร์ทใดพาร์ทหนึ่งของ K-Culture อยู่ในช่วงวัยนักเรียนไปจนถึงวัยทำงาน รูปแบบการทาน Dookki ดึงดูดเชฟกระทะ(หลุด)ที่ชอบแต่งรสชาติซอสเอง เลือกของที่อยากทานได้เองค่ะ เสมือนเป็น D.I.Y Food โดยที่มีสูตรของร้านแนะนำให้ แต่ก็มีไลน์อาหารพร้อมทานให้เลือกไม่ว่าจะเป็นของทอด ข้าวปั้น ชับแชร หรือจะสั่งรามยอนก็ยังได้
ทุกคนเห็นไหมคะว่าเมนูและกลุ่มเป้าหมายจะมีความชัดเจนได้ก็ต่อเมื่อเรารู้ว่าใครมีโอกาสจะเป็นลูกค้าของเราบ้าง แบ่งง่าย ๆ เลยก็คือคนที่อินเกาหลี และคนที่ชอบทานอาหารเกาหลี อีกกลุ่มคือคนที่ชอบปรุงตามใจอยาก ดังนั้นแล้วเราจะมาค่อย ๆ เจาะสิ่งที่เห็นจากโดยคนนอกว่ามีกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจอะไรบ้างจากร้านนี้~
เป็นการลงทุนทำ Sponsorship แล้วต่อยอดเป็น Commercial Ads ได้คุ้มเกินงบไปมาก
บรรยากาศแรกเมื่อเดินเข้าร้าน คือการเลือกสรรวัตถุดิบที่เราต้องการจะทานมาปรุงกับซอสสุดพิเศษ ที่มีสูตรไว้ให้ด้วยเพื่อความอร่อยตามต้นฉบับ สิ่งที่สังเกตได้เลยหลังโคเรโคเรและตักอาหารมาทานคือเมื่อเงยหน้าเหม่อมองบรรยากาศร้าน จะเจอหน้าจอที่มองเห็นง่าย ฉายคอนเทนต์ที่แบรนด์เข้าไปเป็น Sponsorship ไม่ว่าจะเป็น YouTuber ไทย เกาหลี รายการวาไรตี้กับพิธีกรไอดอลเกาหลี หรือซีรีส์พาร์ทที่มี Tie in ร้าน Dookki สาขาแม่ที่ประเทศเกาหลีค่ะ
สาขาที่ไปทานคือ Union Mall ในร้านจะมี 2 จอหลักแบบนี้อยู่บน Self Bar เหมือนได้ไอเดียการทานจากคอนเทนต์ที่เปิดอยู่เรื่อย ๆ เลย ไม่แน่ใจว่าสาขาอื่นมีจอเยอะกว่านี้ไหม แต่เมื่อ 3-4 ปีที่แล้วทานที่สาขาเอสพลานาดรัชดาก็มีมาตั้งแต่แรกแล้วค่ะ
ตัวอย่างคอนเทนต์ที่สปอนเซอร์ให้ YouTuber สายเกาหลีมาทานที่ร้าน
ส่วนตัวคิดว่าไม่ค่อยมีใครทำนัก ซึ่งถือเป็นการเอาเงินที่จ่ายไป มาต่อยอดทำเป็น Commercial Ads ภายในร้านได้อย่างฉลาด เพราะในเมื่อเราใช้งบประมาณไปกับการทำการตลาดแล้ว จะปล่อยให้วิ่งบนโซเชียลอย่างเดียวก็น่าเสียได้ นำมาเพิ่มรสมาชิตะ (อร่อย) ให้กับอาหารที่อยู่ในร้าน
เหมือนเป็น How To ให้ทั้งลูกค้าใหม่ และลูกค้าประจำเห็นว่าสามารถทานต๊อกได้อย่างไรบ้าง ซึ่งมันหลากหลายมาก ๆ จากวัตถุดิบที่มีให้เลือกทานไม่นับของทานเล่น
ใครที่มีร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ให้ตักเอง หรือเมนูที่เอาใจลูกค้าที่ชอบ Customize เองนำไปใช้สร้างบรรยากาศได้เช่นกันนะคะ หากมีคนดัง รายการดังเคยมาถ่ายทำที่ร้านก็ลองดำเนินการขอให้นำมาเปิดวนที่ร้านได้แทนที่จะเปิดสื่ออื่น ๆ ที่ไม่ช่วยให้ลูกค้า เอนจอยกับอาหารในร้านเรากันน้า
ดูไปกินไป เพิ่มรสมาชิตะ
ผู้เขียนมองว่ามันเป็นพฤติกรรมที่คนสมัยนี้เป็นกัน นับตั้งแต่เรามีหน้าจอเป็นอวัยวะ 33 นิสัยชอบหาอะไรดูไปเพลิน ๆ ระหว่างทานอาหารค่ะ ยิ่งถ้าเป็นเมนูเดียวกับที่ทานอยู่ยิ่งฟินและอร่อยไปอีก เพราะฉะนั้นเลยขอปักไว้ว่านี่เป็น 1 หนึ่งกลยุทธ์เล็ก ๆ ที่แอบซ่อนอยู่ภายใต้ความคึกคักของลูกค้าในร้าน Dookki ค่ะ
ไหนใครชอบดูม็อกบังระหว่างทานข้าวเหมือนกันคอมเมนต์เข้ามาหน่อย~ เราคือเพื่อนกันนะคะ ^^
Mukbang Content – กินยั่ว เรียกน้ำย่อยผ่านจอ
เห็นหัวข้อบทความแล้วแต่อาจจะยังมีคนงงว่า Mukbang -ม็อกบัง-먹방 คืออะไร อธิบายในบริบทไทย ๆ ก็คือการกินยั่วออกจอค่ะ เรามักจะเห็นคอนเทนต์แบบนี้ในแบบ กินจุ กินโชว์อาหารในปริมาณเยอะ ๆ เพื่อให้คอนเทนต์ดูหน้าสนใจมากกว่าการกินโชว์แบบทั่วไป คอนเทนต์กินโชว์หรือม็อกบังได้รับความนิยมทั่วโลกค่ะ เกาหลีก็อินกันมาก
และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่ทั้งหมดแต่เป็นส่วนเล็ก ๆ ที่ผู้เขียนเห็นว่าน่าสนใจสำหรับการทำธุรกิจอาหารเกาหลีให้ปังแบบตัวแม่ได้ท่ามการการแข่งขันที่สูง ร้านอาหารเกาหลีในไทยเกิดขึ้นทุกวันและมีทุกราคาบุฟเฟ่ต์ถูก-แพง
เพราะฉะนั้นมาตีกรอบการส่งเสริมการขายในช่วงนี้กัน ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง (20/09/2023)
เข้าเมือง ‘หม่าล่า’ ต้องหลิ่วตาตาม
แม้จะเป็นอาหารเกาหลีแต่ร้านบุฟเฟ่ต์ต๊อก Dookki Topokki ก็ไม่ตั้งหน้าตั้งตาขายแบบไม่มองกระแสเทรนด์ฮิตรอบตัวค่ะ เรื่องอาหารกับคนไทยนี่บอกเลยว่าไม่ตามไม่ได้ ทุกคนอาจจะเคยเห็นแบรนด์ใหญ่ ๆ เช่น MK ที่คอยอัปเดตเมนูพิเศษไม่ให้แบรนด์ตกขบวน มีน้ำซุปใหม่ เซ็ตใหม่แต่ละซีซั่น
กับต๊อกก็เช่นเดียวกัน เราสามารถขายสิ่งที่เป็น identity ของแบรนด์ได้ ในขณะเดียวกันก็ควรดึงดูดใจ สร้างความแปลกใหม่ให้กับลูกค้าได้เพื่อความสนุกสนานในการทานต๊อกรสชาติต่าง ๆ
นักการตลาดและเจ้าของธุรกิจคงทราบกันดีว่าปี 2023 กระหม่าล่ามาแรงสุด ๆ เพราะไต่ระดับการเสิร์จมาซักพักแล้ว ในปี 2023 นี้จะเห็นว่าสูงทีสุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านามเลยค่ะ เพราะตั้งแต่มีร้านหม่าล่าเข้ามาเปิดในไทยแบบจุก ๆ และมีนักท่องเที่ยว นักธุรกิจจีนเข้ามาในไทยพร้อมกับเผยแพร่ลัทธิ ‘หม่าล่าeveryday’ ไอเรามันก็เป็นคนไทยซะด้วยสิ มีหรอจะไม่ตอบรับของแซ่บ ๆ
ทำให้หลาย ๆ ร้านต่างก็เร่งเพิ่มเมนูซุปหม่าล่า หรือรสชาติหม่าล่าเข้ามาเพื่อรับกับความนิยมของคนทานค่ะ Dookki เดิมเน้นเกาหลีเกาใจ ก็ไม่ยอมตกขบวน ใส่ซอสและวัตถุดิบหม่าล่ายอดฮิตเข้ามาให้ลูกค้าได้เลือกทานกันอีกด้วย ในขณะเดียวกันก็สามารถรักษาเอกลักษณ์ของต๊อกเอาไว้ได้
ใช้ Customer Centric ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
แบรนด์ที่ใช้หลัก Customer Centric หรือทำธุรกิจโดบยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง อย่างเหมาะสมและถูกทาง มักจะได้ใจลูกค้าไปเต็ม ๆ ทั้งยังสร้าง Loyalty ได้ง่ายกว่าแบรนด์ที่มองข้ามความต้องการและความรู้สึกคนซื้อค่ะ
ซึ่งการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางไม่ได้ยากนักสามารถเริ่มจากทรัพยากรที่เรามี เพิ่มความใจกว้างอีกหน่อยก็ได้แล้วค่ะ อย่าง Dookki เค้ามีให้ลูกค้ามาทานคนเดียวได้ ในฐานะร้านบุฟเฟ่ต์หลาย ๆ ร้านอาจมองว่าการเปิดโต๊ะ เปิดเตาในราคาบุฟเฟ่ต์ให้คนเดียวมันจะสิ้นเปลือง (ผู้เขียนเจอที่เกาหลี เป็นกันแทบทุกร้าน) แต่เดี๋ยวนี้ในไทยก็เปิดกว้างให้กันการออกไปทานข้าวที่ร้านคนเดียวมานานแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะเอาความสะดวกของตัวเองเป็นหลัก
จากโปรนี้ไม่ทราบว่ายอดขายของร้านเพิ่มขึ้นหรือเปล่านะคะ แต่ที่มั่นใจคือ Brand Love เพิ่มขึ้นแน่นอน!
ปิดท้ายด้วยคำแนะนำสำหรับแบรนด์ ต้องตามรับฟีดแบคเสมอ
Twitter : Repost > Reply > Reaction > Report > Revise
แอดมิน Dookki Topokki Thailand จะกดรีหมดไม่สน ดุ๊กกี๊ ดุ้กกี้ ดุกกี้ dooki dookki แบบไหน หรือจะพิสดารกว่านี้แอดมินก็เสิร์จเจอด้วยการใช้ช่องค้นหาบน Twitter หรือแบรนด์ไหนจะใช้เครื่องมือช่วยก็ย่อมได้ อย่ามอนิเตอร์แค่ชื่อแบรนด์ตรง ๆ เพราะเราคือคนไทย ภาษาไทยดิ้นได้ 101 กระบวนท่าค่ะ เสิร์จให้หมดทุกคำที่อาจเป็นการพิมพ์ผิด ฉายา หรือตัวย่อต่าง ๆเพื่อติดตามมอนิเตอร์คนที่พูดถึงแบรนด์ พร้อมทั้งตอบกลับทวีตที่มีคำถามหรือสร้างรีแอคชั่นระหว่างแบรนด์กับลูกค้าด้วยภาษาที่เป็นกันเอง ใส่อิโมจิกุ๊งกิ๊ง
สิ่งแรกที่แนะนำสำหรับแบรนด์เลยก็คือการคอยรับฟังความเห็นของลูกค้า ง่าย ๆ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง Dookki เป็นอาหารเกาหลี เปิดเพลงเกาหลีที่ฮิตติดชาร์ตจนลูกค้าเอามาทวีตบ่อย ๆ ว่าชั้นมาทาน Dookki แล้วที่ร้านเปิดเพลงนี้ด้วยแหละ~ นอกจากนี้ยังมีการฉายรายการ คอนเทนต์เกาหลี แฟนด้อมเกาหลีใช้ Twitter เป็นแพลตฟอร์มหลักของ Community K-Culture เลยก็ว่าได้ค่ะ
สรุปการถอดกลยุทธ์ Dookki Topokki จากมุมมองคนนอก
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการถอดกลยุทธ์ร้านอาหารเกาหลีบุฟเฟ่ต์ต๊อก Dookki ที่นำมามาฝากในมุมมองของคนที่ไปทานเอง และอยากเอามาแชร์ให้นักการตลาดได้อ่านกันในบทความนี้ค่ะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำร้านอาหารให้เป็นที่นิยมแบบไม่ต้องสงสัยเลย
ชอบที่สุดคือการต่อยอดงบประมาณการทำสปอนเซอร์ มาเป็นวิดีโอ Commercial ฉายต่อในร้าน เพิ่มรสมาชิตะให้อาหารที่ลูกค้ากำลังทานอยู่ และเป็น How To ให้บางคนที่มาทานครั้งแรกได้กลาย ๆ ยังไม่นับการเปิดเพลงสร้างบรรยากาศเกาหลีเกาใจ ถูกใจกลุ่มเป้าหมายจริง ๆ เห็นได้จากการเก็บฟีดแบ็กบน Social Media
และที่มีตำแหน่ง Admin คอยมอนิเตอร์การพูดถึงตลอดเวลา รับรู้และสร้าง reaction ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้ดีเยี่ยมทีสุด ส่วนตัวมองว่าอาจจะดีเท่ากับพนักงานหน้าร้านที่ให้บริการโดยตรงเลยนะคะ ผู้ประกอบการยุคนี้ต้องใส่ใจทั้งหน้าร้านและโซเชียลเพื่อลูกค้าลูกค้าทั้งก่อนมา และหลังมาทานจริง ๆ ค่ะ สูตรปังเลยก็ว่าได้ คุณจะได้รับความคิดเห็นแบบตรงไปตรงที่สุดมาจากลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดียนี่แหละค่ะ
ใครที่ชอบบทความวิเคราะห์สนุก ๆ แบบนี้ อยากให้พูดคุยถึงแบรนด์ไหนอีกก็คอมเมนต์เข้ามาได้เลยน้า แล้วพบกันในบทความหน้าค่ะ
