การตลาด เฮลซ์บลูบอย แบรนด์ไทยขายสินค้าเดิมมา 64 ปี กำไรยังพันล้าน

การตลาด เฮลซ์บลูบอย แบรนด์ไทยขายสินค้าเดิมมา 64 ปี กำไรยังพันล้าน

การตลาด เฮลซ์บลูบอย แบรนด์ไทยขายสินค้าเดิมมา 64 ปี กำไรยังทะลุเป้าพันล้าน

Case Study วันนี้นุ่นอยากชวนพูดคุยถึงแบรนด์น้ำหวานไทย ขวัญใจทุกเพศทุกวัยมาเป็นเวลากว่า 64 ปี เพราะไปเจอทวีตที่กำลังเป็นไวรัลเกี่ยวกับความเป็นตำนานที่ใคร ๆ ก็ยอมรับค่ะ 

เรียกว่าหาได้อยากจริง ๆ กับแบรนด์ที่ไม่จำเป็นต้องลงสนาม Digital Marketing แบบเต็มตัวเพื่อที่จะอยู่ให้รอดในยุคนี้ มองผิวเผินเหมือนแบรนด์ไม่ได้ใช้ Data Driven หรือกลยุทธ์มากมาย อาศัยสินค้าให้ขายตัวเอง (เอ๊ะ.. ซึ่งก็แอบจริงแหะ) 

แต่มีมุมที่น่าสนใจเกี่ยวกับการแนะนำให้เอา Consumer voice มาพัฒนาสินค้า ที่อยากนำมาฝากในบทความนี้เพื่อให้นักการตลาดได้อ่านกันเพลิน ๆ จอย ๆ ว่าการตลาด เฮลซ์บลูบอยไปมาอย่างไรในมุมมองของนุ่นและสื่อไทยได้ความรู้และไอเดียกลับไปแน่นอนค่ะ   

กว่าแบรนด์จะยิ่งใหญ่ต้องผ่านบททดสอบมาไม่น้อย

เป็นแบรนด์ไทยอีกแบรนด์ที่มีจุดเริ่มต้นน่าสนใจ นักการตลาดอาจจะเคยอ่านจากแหล่งอื่น  ๆ กันมาบ้างแล้วนุ่นเลยจะขอเกริ่นนิดหน่อยว่าจุดเริ่มต้นมาจากกิจการร้านโชห่วยจนได้มีโอกาสใกล้ชิดลูกค้า เกิดไอเดียคิดค้นสูตรน้ำหวาน ๆ ขึ้นมาขายเองค่ะ 

และนุ่นว่าคนไทยเป็นอีกชาติที่ทานหวานกันเหลือเกิน ทั้งน้ำและอาหาร อาจเป็นเพราะสภาพอากาศและความเคยชินกับรสชาติ ช่วยให้รู้สึกมีแรงทำงาน 

หรือเด็กเล็กก็ถูกเลี้ยงให้อยู่กับของหวานประเภทต่าง ๆ กันมาในหลายครอบครัวค่ะ 

บวกกับความเป็นเจ้าแรก ๆ ที่เปิดตลาดในตอนนั้น คำว่าเปิดก่อนได้เปรียบใช้ได้กับบางแบรนด์จริง ๆ ทำดีก็กินยาว แต่ถ้าโดนแซงก็น่ากลัว สิ่งที่เฮลซ์บลูบอยเลือกทำคือค่อย ๆ ขายไปเรื่อย ๆ จนคนติดใจ ติดตลาด และเติบโตอย่างมั่นคง ท่ามกลางมรสุมทางเศรษฐกิจมาไม่รู้กี่ยุค คู่แข่งนับสิบนับร้อยเจ้าที่พยายามทำสินค้าขนาดเดียวกันมาเก็บเกี่ยวส่วนแบ่งทางการตลาด

แต่ด้วยการตลาดที่ยึดมั่นในหลักคุณภาพ เอกลักษณ์และไม่ท้าชนเท่าไหร่ทำให้สามารถยืนเป็น No.1 มาจนถึงปัจจุบันค่ะ

แบรนด์วาง Market Positioning เข้าถึงได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ โดยเฉพาะเด็ก ๆ

ถ้าพูดถึงน้ำหวาน เฮลซ์บลูบอย หวานชื่น รื่นรมย์แล้วล่ะก็ไม่ได้มีแค่เด็ก ๆ ชอบเท่านั้น แต่เดินไปอุดหนุนป้าร้านน้ำแข็งใสหน้าหมู่บ้าน หรือร้านคาเฟ่ราคาสูงขึ้นมาขายให้กับวัยทำงาน ทุก ๆ อาชีพที่รักความหวานทุกคนต่างรู้จักและไว้ใจในรสชาติเป็นอย่างดีใช่ไหมล่ะคะ

นุ่นคิดว่าการวาง Market Positioning ตั้งแต่เริ่มแรกช่วยให้แบรนด์สามารถขายของได้ง่ายขึ้น นอกเหนือจากคุณภาพสินค้าที่ขายตัวมันเองอยู่แล้วค่ะ วางตัวให้ Mass และราคาไม่แพง แม่ค้าเอื้อมถึงได้เท่านี้ก็มีคนช่วยแบรนด์ขายแล้วเปราะนึงแบบจุก ๆ

ที่นุ่นเรียกแขกด้วยตัวเลขกำไรพันล้านที่ Headline นั้นไม่ได้เวอร์เอาเอง เพราะ 3 ปีย้อนหลังมีข้อมูลของ บริษัท เฮลซ์เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ดังนี้ค่ะ 

  • ปี 2562 รวมรายได้ 3,769 ล้านบาท กำไร 1,099 ล้านบาท
  • ปี 2563 รวมรายได้ 3,320 ล้านบาท กำไร 1,057 ล้านบาท
  • ปี 2564 รวมรายได้ 3,563 ล้านบาท กำไร 1,137 ล้านบาท

ทั้งนี้ขอเจาะมาที่สินค้าที่ทำกำไรมหาศาลให้แบรนด์เพิ่มอีกนิดเพราะมีประเด็นที่ทุกคนน่าจะร้องอ่อ ไม่รู้เป็นกลยุทธ์หรือบังเอิญ แต่สิ่งนี้ทำให้คนซื้อมากกว่า 1 ขวดในครั้งต่อ ๆ ไปแบบเต็มใจเลยล่ะค่ะ

9 รสชาติที่แทบจะ Mass ทั้งหมด และสีแดงไหนที่ลูกค้าสับสน

นักการตลาดหรือคนที่ทำธุรกิจทราบดีว่าถ้ามี Product ไลน์เดียวกันแต่มากถึง 9 รสชาติเป็นไปได้ยากมากที่จะขายดีทั้งหมด แต่เฮลซ์บลูบอยเขาขายได้ดีจริง ๆ แทบทุกกลิ่นเลยค่ะ 

อย่างที่เรารู้กันว่าปัจจุบันแบรนด์ขายก้อนน้ำตาลและแค่น้ำหวานที่มีทั้งหมดถึง 9 รสชาติ ได้แก่ สละ ครีมโซดา มะลิ สตรอว์เบอร์รี่ สับปะรด องุ่น แคนตาลูป ซาสี่ และกุหลาบ ทุกคนชอบรสไหนกันคะ ตอนเด็ก ๆ นุ่นชอบกินน้ำแข็งใสน้ำมะลิผสมน้ำแดง แต่แยกกลิ่นไม่ออกนะ… 

ที่ฮอตสุด ๆ ก็หนีไม่พ้นน้ำแดงเฮลซ์บลูบอย สูตรในตำนาน แดงไหนที่ลูกค้าสับสนจนซื้อผิดอยู่บ่อย ๆ เพราะสีแดงมีทั้ง กลิ่นสตรอว์เบอร์รี่ กลิ่นสละ และกลิ่นกุหลาบ เห็นด้วยกับนุ่นไหมคะว่ามันแด๊งงง เหมือนกันแยกยากมาก ๆ 

และอย่างที่นุ่นเกริ่นเกี่ยวกับคุณภาพสินค้า แบรนด์ยอมทุ่มต้นทุนการผลิตและการขนส่งสินค้าที่เป็นขวดแก้ว ให้คงอยู่ตั้งแต่เริ่มขาย เพราะขวดแก้วจะรักษาคุณภาพของน้ำตาล ให้หวานนานกว่าขวดพลาสติกที่มีทุนต่ำกว่า มากกว่า 2-5 ปีเลยค่ะ

หนึ่งใน Product Innovation ที่แบรนด์ไม่ต้องทำเอง 

ขอบคุณเครดิตภาพและคอนเทนต์ https://kaijeaw.com/เพิ่งเคยเห็น-ตู้กดน้ำ  Korjakin – ก็จะกิน 

ด้วยความที่มีหลายกลิ่นฮิต หวานชื่น รื่นรมย์และเก็บไว้ได้นานเพราะ Packaging แบบขวดแก้วในราคาไม่แพงแล้ว สิ่งนี้ทำให้น้องถูกเอาไปประกอบเมนูหลากหลายที่เราเห็นตั้งแต่เด็กจนโต พบได้ตามหน้าปากซอยและบนห้าง

ที่นุ่นสนใจคือคนไทยสามารถครีเอตเพื่อทำมาหากินได้สนุกสุด ๆ ปีที่ผ่านมานี้เองมีคอนเทนต์​ #ตู้กดเฮลซ์บลูบอยโซดา ที่ขายได้ในราคาแค่ 15 บาท ซื้อง่ายขายคล่องเป็นอาชีพให้คนในชุมชนเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือลูกค้าไว้ใจว่าอร่อยแน่ ๆ

จนถึงตอนนี้เดี๋ยวเราส่อง Social Data จากทวีตไวรัลที่ทำให้เกิดบทความนี้ขึ้นมากันดีกว่าค่ะ มีหลายเมนชั่นที่น่าสนใจ รู้ว่าแบรนด์อาจจะไม่ได้มาเห็น แต่นักการตลาดฝึกอ่านฟีดแบ็กแบบนี้ไว้ปรับใช้กับการพัฒนาสินค้าแบรนด์ตัวเองกันนะคะ

อะ ชาวโซเชียลคิดเห็นกับแบรนด์เฮลซ์บลูบอยอย่างไรกันบ้างนะ? ทวีตนี้มียอด Impression ทะลุ 1.3M ไปแล้วไม่รู้แบรนด์ทราบหรือยัง แต่มาส่องหน่อยก็ดีน้าค้าา

การส่อง Social Data ด้วยตัวเองโดยเฉพาะผ่านช่องเสิร์จทวิตเตอร์เป็นสิ่งที่นุ่นแนะนำบ่อยมากแทบทุกบทความเลย เพราะคนในทวีตหรือโซเชียลจะไม่ค่อยกั๊ก พูดหมดเปลือกแล้วแต่เราจะกรอกสิ่งที่เป็นประโยชน์ออกมาค่ะ อย่างในตัวอย่างคือ น้องวัยเด็กที่ต้องถือขวดเฮลซ์บลูบอยอาจจะด้วยวันกินเลี้ยง เกิดอุบัติเหตุจนเป็นแผลมาถึงทุกวันนี้

เข้าใจว่าจุดยืนของแบรนด์คือการรักษาคุณภาพให้ดีที่สุดแต่ว่าลองเอาใจกลุ่มคนทานที่ใหญ่ที่สุดของแบรนด์ซักหน่อยก็น่าสนุกนะคะ ^^

มาถึงช่วงสุดท้ายกันแล้ว นุ่นขอปิดท้ายบทความดังนี้ค่ะ

ขอบคุณอ้างอิงบทสัมภาษณ์ คุณประยุทธ พัฒนะเอนก ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายต่างประเทศ บริษัท เฮลซ์เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ทายาทรุ่น 2 เฮลซ์บลูบอย จากกรุงเทพธุรกิจ ที่ได้สรุป Key to success ที่ทำให้แบรนด์น้ำหวานพันล้านของไทยอย่าง เฮลซ์บลูบอย ประสบความสำเร็จครองใจคนไทยมายาวนาน

ทำให้เราได้ย้ำว่าการทำแบรนด์ไม่ใช่แค่สักแต่ว่าขาย ผลิตเก่ง ซื้อโฆษณาเก่ง จ้างเก่งเท่านั้นแต่ต้องใส่ใจตั้งแต่คุณภาพของสินค้า แตะลิ้นแล้วรู้ว่าว่าเฮลซ์บลูบอย และความใส่ใจในการทำโฆษณา TVC ที่ติดหูติดปากของแบรนด์มาจนถึงทุกวันนี้ไม่ได้มีอะไรพิศดารไปมากกว่าเด็กผู้ชายสวมหมวกคาวบอย ถือหลอดขนน้ำหวานในแก้วค่ะ และที่สำคัญไม่แพ้กันคือ 

  • มุ่งหน้าไปยังสิ่งที่เราเชี่ยวชาญ แล้วทำให้สุดตัว ไม่หลงทางหรืองอกเรื่อยเปื่อย

สุดท้ายนุ่นเองก็ชอบที่จุดยืนของแบรนด์จะยึดหลักค่อย ๆ เติบโตกินเรียบและกินนาน ไม่กระโตกกระตากใคร ๆ ก็ยอมรับว่าเราคือเบอร์ 1 ในตลาดแล้วนั่นเองค่ะ 

หวังว่านักการตลาดจะสนุกกับเคสแบรนด์ไทย การตลาด เฮลซ์บลูบอย ที่นุ่นนำมาแชร์ในวันนี้นะคะ บทความหน้าอยากอ่านแบรนด์อะไร ลองคอมเมนต์เข้ามาได้เลยค่า~

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

Source Source Source Source

Noon Inch

นุ่น Business Data Research Analyst Specialist | Martech 🙋🏻‍♀️💻ใช้ชีวิตอยู่กับ Social Listening Tools เกือบทุกวันมาร่วม 6 ปี 🙋🏻‍♀️📈ทำงานด้าน Social Data Research ให้กับหน่วยงานรัฐและแบรนด์เอกชน 6 ปี 🙋🏻‍♀️✈️ชอบทำงานและชอบใช้เงิน แล้วก็เป็น K-POP🇰🇷 & Salmon Lover 🍣

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *