สรุปมาแล้ว 4 กลยุทธ์ การบริหารจัดการ Agency ยุคใหม่ สไตล์ MI Group

สรุปมาแล้ว 4 กลยุทธ์ การบริหารจัดการ Agency ยุคใหม่ สไตล์ MI Group

สวัสดีค่ะชาว Marketer ทุกท่านสำหรับถอดรหัสการตลาดวันละคนใน Week นี้ ผู้เขียนนำความรู้ดี ๆ มาฝากอีกเช่นเคยค่ะ ในครั้งนี้มาใน Live หัวข้อ การบริหารจัดการ Agency ยุคใหม่ ในบทความนี้ได้สรุป ” 4 กลยุทธ์ ” การบริหารจัดการการทำงานAgency ยุคใหม่สไตล์ MI Group ไว้แล้ว รับรองบนความนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งด้านการทำงาน และการบริหารคนกับคุณแน่นอนค่ะ ในครั้งนี้พี่หนุ่ยได้เชิญ คุณโบ้ ภวัต เรืองเดชวรชัย President & CEO Media Intelligence Groupที่จะมาเผยวิถี Agencyยุคใหม่ รวมถึงการบริหารจัดการคนค่ะ

กลยุทธ์ที่ 1. Agency = Contract + Content

จุดเปลี่ยนของเอเจนซี่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2014 เดิมเคยคากการการทำการตลาดยุคใหม่จะเกิดในปี 2027 แต่เพราะโควิดทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ทั้ง online transection E-comerce ที่ก้าวกระโดด ทำให้ผู้บริโภคพฤติกรรมเปลี่ยน และทำให้ทีมทำงานทั้งหมดในวงจรธุรกิจ ทั้ง Marcom Marketer และเอเจนซี่ก็ต้องเปลี่ยนการทำงานไปหมด จากเดิม

  • เดิมเอเจนซี่มีหน้าที่ซื้อมีเดีย แต่ปัจจุบัน มีหน้าที่ช่วย Marcom ช่วยดูการใช้ Data  ดู Enrich ดูการวัดผล
  • ในอดีต เอเจนซี่เก่งเรื่อง Contract คอยดู Chanel เป็นหลัก แต่ปัจจุบันเอเจนซี่ต้องมีความสามารถทั้ง Contract และ Content มาคู่กัน เอเจนซี่จะทำงานแค่คอยดูว่าจะลงสื่อช่องทางไหนอย่างเดียวไม่ได้ อีกต่อไปแล้ว แต่ต้องไปพร้อมกับ Content ต้องช่วยดูว่าลูกค้ากลุ่มนี้เหมาะกับคอนเทนต์แบบไหน ลงช่องทางอะไร วัดผลอย่างไร
  • เอเจนซี่วันนี้ ทำหน้าที่มากขึ้น เพื่อสอดคล้องกับผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมถึงการทำ Data driven 

“สโลแกนนี้ยังใช้ได้ดีกับการทำงานเอเจนซี่ : ถูกคน ถูกใจ ถูกที่ ถูกเวลา”

Agency ยุคใหม่ต้องมีความรู้ด้าน Mar-Tech

ณ ปัจจุบัน ทุกกลุ่มลูกค้ามีความซับซ้อนหมดไม่ใช้แค่ Young Gen แต่เอเจนซี่ต้องเป็น Adviser ให้กับลูกค้า เรื่อง Mar-tech ต่างๆเป็นสิ่งที่เอเจนซี่จะต้องรู้ และเน้นสายเทคโนโลยี และ Data มากขึ้น องค์กรก็ต้องอัพสกิลให้พนักงานมากขึ้น ต้องคอยเติมคน และความรู้ให้คนเก่ามากขึ้น

กลยุทธ์ Agency

กลยุทธ์ที่ 2. การเลือกคนที่มีประสิทธิภาพมาทำงาน Agency สไตล์ MI group 

กลยุทธ์ การเลือกพนักงานเข้ามาร่วมงานสไตล์ MI group เราจะเลือกการเติมคนที่มีทักษะ หรือมีความรู้พื้นฐานที่โลกยุคใหม่ต้องการ ต้องมีความรู้เรื่อง

  • Data engineer ปรับจากเดิมที่มีแต่กลุ่มงานศิลปะ
  • มี Adtitude Fast runner 
  • มีใจที่ Open mind

ต้องมีความสามารถ เรื่อง Creativity Content Creation และ Technology ต้องมีควบคู่กัน หรืออาจอยู่ในคน ๆ เดียวกัน

2.1.Media Planner ณ ปัจจุบันเป็นอย่างไร

เมื่อก่อน Media Planner มีหน้าที่ดูแลสื่ออันน้อยนิดที่มีในสมัยก่อน เช่น ทีวี Billbord แต่ปัจจุบันต้องบริการทั้งหมด

  • หา Target ว่าเป็นใคร มีใครบ้าง และแตกออกมากให้ละเอียด
  • วิเคราะห์ว่า แต่ละ Target มี Behavior อย่างไรบริโภคสื่ออย่างไร 
  • แล้วเมื่อแตกกระจายออกมาแล้วส่งให้ครีเอทีฟที่ทำงานควบคู่กัน โดยมี Big Idea แล้ว นำ Target ไปคิดงานต่อภายใต้ Big Idea เดิม เพื่อให้เข้ากับกลุ่มนั้นๆ

2.2.Creative  ปัจจุบันต้องทำอย่างไรให้ทำงานไหว?  ครีเอทีฟเอเจนซี่ จะเป็นผู้ คิด Big Idea และทำหน้าที่

  • คิด Key Visual 
  • คิด cut through
  • คิด Creativity หรือที่เรียกกันว่า One size Fits All 

ครีเอทีฟในวันนี้ เมื่อเห็นแผนจากแพลนเนอร์ จะต้องนำสิ่งที่ได้จากแพลนเนอร์มาบริหารงานจาก Big Idea เดิม และแพลนเนอร์จะมีหน้าที่เข้าไปทำงานร่วมกัน และนำไปปรับใช้ 

และ Planner จะต้องมีการประสานงาน วิเคราะห์หาสื่อ อินฟลูเอนเซอร์ ติ๊กตอกเกอร์ และยูทูปเบอร์ คุยกัน หาทางออกตรงกลางเพื่อให้ทำงานต่อได้ และช่วยเราขายของได้ 

“Creative ต้องเข้าใจมีเดีย และมีเดียต้องเข้าใจครีเอทีฟ ปัจจุบัน งานทั้งสองส่วนจะมีความเบลอๆ กันอยู่แต่มีความสร้างสรรค์ เนื่องจากลูกค้ามีความซับซ้อนขึ้น งานจึงซับซ้อนขึ้นตามพฤติกรรมลูกค้า”

กลยุทธ์ Agency

กลยุทธ์ที่ 3. MI group บริหารงาน Agency แบบ “One team one goal”

เอเจนซี่ในปัจจุบันต้องเป็นแบบ Seamless มีการการออกแบบ Gole และ KPI ให้เป็นทีมคือ “ One team one goal ”งานแต่ละงานแยกไม่ได้ วิธีการ คือให้ทุกคนรับผิดชอบเป้าหมายเดียวกันภายใต้ความเก่งเฉพาะด้านของแต่ละคน การแบ่งงานงานต้องชัดเจน ว่าจะให้ใครเป็นคน Focus ค่ะ

3.1.การบริหารคนแต่ละ Gen ต้องเลือกใช้วิธีที่เหมาะกับแต่ละบุคคล  

ความซับซ้อนของเมททริค ระหว่าง Gen เป็นงานที่ท้าทายผู้บริหารอย่างมาก จะบริหารงานอย่างไรในองค์กรที่มีทุก เจน อยู่แบบนี้ MI group มี Gen Y + Gen Z  รวม 65% ที่ผ่านมาไม่เคย Ley Off ไม่เคยมีปัญหาเรื่อ Gen X และ Baby boomer เพราะกลุ่มผู้ใหญ่เปิดใจ เพราะเข้าใจว่าในบางเรื่องเก่งไม่เท่าเด็ก แต่มีสกิลด้านการตัดสินใจ คนรุ่นใหม่มีความรู้ รวดเร็ว และมีความคาดหวัง Hamdle ยากแต่เอาอยู่ มีหลายวิธีการเลือกใช้ตามแต่ละบุคคล ต้องยอมรับว่าการบริหารคนเป็นสิ่งที่ยาก แต่สามารถทำได้ สามารถวัดได้จาก Turnover Rate ของบริษัท

3.2.บริหารจัดการคน Gen Z สไตล์ MI group

สำหรับคุณโบ้ มองเห็นว่าคนรุ่นใหม่ชอบความยืดหยุ่น ไม่ฟิกซ์เกินไป เช่น การทำงานแบบ Hybrid work place แต่งานไม่เสีย ความโปร่งใสระหว่าง Management กับพนักงาน ในอดีตเรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องต้องบอกพนักงานเสมอไป แต่ปัจจุบันเด็กรุ่นใหม่อยากรู้ที่มาที่ไปของการตัดสินใจนั้น ๆ และทำให้เค้ามีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด

กลยุทธ์ Agency

คนจะขยับจากคนทำงานไปสู่หัวหน้างาน ในสายเอเจนซี่ต้องมี สกิลอย่างไรบ้าง?

Geowth mindset ต้องมี เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เค้าต้องพร้อมที่จะเรียนรู้ตลอดเวลา สามารถ Handle ได้ ไม่ว่าจะเรื่องคน เรื่องงาน หรือลูกค้า ทุกคนต้องมีความตื่นตัวที่จะเรียนรู้ พยายามให้ไม่มี Hilucky เยอะ ใครชอบทำอะไรก็ให้ทำแบบนั้น และให้ความก้าวหน้าในสายงานของเค้า ให้สิ่งตอบแทนที่เหมาะสม ให้การยอมรับ และ Value 

“รู้ว่าต้องเรียนรู้อะไร และไม่เป็นภาระข้างบน ช่วยเหลือข้างล่างให้ได้”

ยิ่งเป็นหัวหน้าไม่ได้ทำงานด้วยตัวเอง ต้องรู้เขารู้เรา  Handle คนเป็น คนที่เป็นหัวหน้าต้องรับมือให้ดี เป็นการกรองทุกอย่างไม่ให้ไปถึงลูกน้อง People skill ต้องมีพอ ๆ กับสกิลการทำงาน

งานหลักของ CEO คืออะไร

1. Manage คน : ใส่คนให้ถูกต้องตามเนื้องานของเค้าตามวิถีใหม่ 2. หา New S curve : คอยมองหา opportunity หาพื้นที่  หรือน่านน้ำใหม่ ไม่ถึงกับการกระโดดไปทำเรื่องให้หม่ เเต่ทำเรื่องเดิม ในพื้นที่ใหม่ การสร้างความยั่งยืน หรือเติบโตจะอยู่ในธุรกิจแบบเดิมไม่ได้  3.People management : การบริหารคน ความรู้สึก กำลังใจ สวัสดิการ รีวอร์ด และทำงานร่วมกับ HR 

กลยุทธ์ที่ 4. วิถีถัดไปของ MI Group การหาช่องทางที่เป็นมากกว่า Agency 

MI Group มองหาNew s curve ใหม่ ๆให้กับธุรกิจ หลังโควิดมาโฟกัสเรื่องทำคอนเทนต์ เช่น คอนเทนต์ซีรีย์ คอนเทนต์เฟสติวอลที่สร้างรายได้ใหม่ให้ และมี อีก 3 อย่างที่กำลังทำ 

1. งาน Content : เรารู้วิถีของกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มย่อย ต้องการอะไร ยอมรับบางอันกำไรดี บางอันเฟลแต่ต้องทำเพื่อความก้าวหน้าทางธุรกิจ

2. International market Expantion : หันไปช่วยลูกค้าในการทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น คือการช่วยแบรนด์ไทยที่ต้องการหาน่านน้ำใหม่เหมือนกัน เดิมให้พาร์ทเนอร์ เป็นคนรับงานนี้ไป แต่ปัจจุบันลงไปทำเอง ช่วยลูกค้าทำ marketing communication

3.E-commerce : การหาช่องทางจาก Affiliate การซื้อขายของ โอกาสที่เกิดขึ้นจะต้องไม่คอนฟริกกับลูกค้าหาสินค้าที่ยังไม่มีใครทำ มีส่วนได้เสียจากค่าคอมมิชชัน

กลยุทธ์ Agency

Q : หากมีลูกค้ามาจ้าง แล้วต้องการทำในสิ่งที่เราเคยทำแล้วไม่เวิร์คจะทำอย่างไร

A : ปัจจุบันลูกค้าซาดิส ถ้าหากมียูสเคสแล้วเราค้านลูกค้าก็สามารถทำได้ และลูกค้าชอบให้ Agency แสดงความคิดเห็นออกมาเยอะ ๆ

กลยุทธ์ 3A ฝากถึงคนที่จะเข้ามาทำงานใน Agency 

Awere : หูตาเปิดตลอดเวลา เรียนรู้เยอะ ๆ ถ้าคิดว่ารู้แล้วแล้ว Adap : กล้าที่จะปรับเปลี่ยน  Atility : มี Skill การปรับตัวสูง คิดเร็ว ทำเร็ว ถ้าไม่ดีก็ปรับใหม่

Marketer รุ่นใหม่ : ยอดขายเป็นเรื่องสำคัญ 

แต่การใช้งานเอเจนซี่ให้ถูกก็สำคัญ อะไรไม่รู้บอกไม่รู้ อะไรที่รู้ควรบอกให้เคลีย เอเจนซี่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอยู่แล้วหากจะทำงานกับเอเจนซี่ต้องบอกความต้องการ และข้อจำกัดของเราให้หมดก็จะสามารถทำงานกับเอเจนซี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปท้ายบทความ ฝากชาว Marketer

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับบทความนี้ที่ผู้เขียนได้นำมาฝากกัน จากความรู้เรื่องเอเจนซี่ในวันนี้ ผู้เขียนเห็นถึงการปรับตัวในทุกวงการที่เปลี่ยนแปลงหลังช่วงโควิด และการปรับตัวให้รับกับพฤติกรรมของลูกค้าในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น Marketer Agency และ Marcom ทุกคนล้วนเป็นส่วนผสมที่ต้องปรับสูตรให้กลมกล่อมเพื่อเสริฟสินค้าของลูกค้าได้โดนใจผู้บริโภคเหมือนกัน และการทำงานร่วมกันก็สำคัญหากเราทำงานแบบเดิม ๆ ไม่มีการปรับตัวให้เข้ากับยุค และคนที่ทำงานร่วมก็คงจะอยู่ไม่รอดในภาวะการแข่งขันแบบนี้แน่ๆ 

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งกับคนที่ทำงานสายอื่นแล้วอยากเปลี่ยนแนวมาทำเอเจนซี่ และคนที่ทำงานในเอเจนซี่อยู่แล้วกันนะคะ เพื่อให้เราทุกคนสามารถพัฒนาตัวเองได้ทันตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปแบบก้าวกระโดด หากใคสนใจชม Live ผู้เขียนแปะลิงก์ไว้ที่ด้านบนบทความแล้วนะคะ แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความถัดไป สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ(>‿◠)✌

อ่านบทความที่น่าสนใจ

อัพเดทข่าวสาร เพื่อติดปีกให้คุณเป็นนักการตลาดที่ไม่ OUT !!!  อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม คลิกที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ เพจการตลาดวันละตอน เว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนค่ะ

Chulee.

นักพัฒนาผลิตภัณฑ์และสื่อสารการตลาด / นักเขียนบทความการตลาด ชอบงานศิลปะ งานครีเอท ไอเดีย เจ๋ง ๆ จึ้ง ๆ! น้องใหม่ทีมการตลาดวันละตอน ฝากผลงานด้วยนะคะ :) ♥รักเวลา... เวลามีค่ามากที่สุด⏰

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *