ทำ​ SEO​ ใน​ธุร​กิจ​ B2B​ อย่างไรให้เข้าถึงลูกค้า​และติดหน้าแรกบน​ Google​

ทำ​ SEO​ ใน​ธุร​กิจ​ B2B​ อย่างไรให้เข้าถึงลูกค้า​และติดหน้าแรกบน​ Google​

อย่างที่เรารู้กันดีว่าธุรกิจ​ B2B​ หรือ​Business​-to-Business​ นั้นเป็นการทำการค้าระหว่างธุรกิจ​กับธุรกิจด้วยกัน​ เมื่อกลุ่มเป้าหมายนั้นไม่ใช้ผู้บริโภค​ แต่เป็นองค์กร​หรือกลุ่มฑธุรกิจ​เหมือนกัน กลยุทธ์​ในการทำการตลาด​รวมถึงการทำ​ SEO​ สำหรับธุรกิจ​ B2B​ จึงแตกต่างออกไป​ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ​ Content​ หรือการเลือก​ Keyword​

วันนี้แบมเลยรวบรวมเอาเทคนิคในการทำ​ SEO​ สำหรับธุรกิจ​ B2B​ มาให้ได้ลองศึกษา​กันดูว่า​ เราควรเริ่มต้นที่ตรงไหน​ แล้วต้องทำอย่างไรเว็บไซต์​ของคุณ​ถึงจะติดอันดับต้นๆ​ ในการค้นหาบน​ Google​ ได้

ความแตกต่างระหว่างการทำ​ SEO​ ในธุรกิจ​ B​2B และ B2C

สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็​นได้ชัดระหว่างธุรกิจ​ B2B​ และ​ B2C ก็คือกลุ่มเป้าหมาย​ วิธีการ​หาข้อมูล Journey ในการเลือกซื้อ​ ไปจนถึง​ผู้มีอำนา​จในการตัดสินใจ​ซื้อ

ซึ่งเราสามารถแยกความแตกต่าง​ในการทำ​ B2B SEO​ ออกมาเป็นประเด็นสำคัญ​ได้​ ดังนี้

1.Sale Funnel มีความซับซ้อน

ส่วนใหญ่แล้วกระบวนการตัดสินใจในการซื้อของกลุ่​มเป้าหมาย​ในธุรกิ​จ B2B นั้นค่อนข้าง​ที่จะ​ซับซ้อน​ และมีขั้นตอนมากกว่าการซื้อขายทั่วไป​ เพราะเป็นการซื้อขายกันระหว่างธุรกิจ​กับ​ธุรกิจ​ จึงเป็นดีลขนาดใหญ่และมูลค่าค่อนข้างสูง​ 

ซึ่งในการซื้อแต่ละครั้งจะต้องผ่านการหาข้อมูลอย่างละเอียด​ ทำให้กระบวนการซื้อของ​ธุรกิจ​ B2B​ นั้นใช้เวลานาน และส่วนมากมักผ่านหลายขั้นตอนก่อนการตัดสินใจซื้อ​ รวมถึงในบางครั้งผู้ตัดสินใจก็ไม่ได้มีคนเดียวด้วย

2.Keyword​ มีปริมาณน้อยกว่า

เนื่องจากสินค้าและบริการของธุรกิ​จ​ B2B​ ส่วนใหม่มักจะเป็น​ Nich Product​ & Service​ จึงทำให้มีปริมาณ​คีย์เวิร์ด​ที่เกี่ยวข้อง​กับสินค้าและบริการ​น้อยลงตามไปด้วย​ 

ถึงแม้จะมีปริมาณ​คีย์เวิร์ด​ที่น้อยรวมถึงมี​ Search​ Volume​ ต่ำกว่าธุรกิจ​ประเภท​อื่น​ แต่ถ้าเราเลือก​คีย์เวิร์ด​ที่เฉพาะ​เจาะจง​ บ่งบอกถึง​สินค้า​และบริการชัดเจน​ รวมถึงเป็นคำที่ลูกค้าน่าจะค้นหา​ ก็สามารถทำให้​ การทำ​ SEO​ ประสบ​ความสำเร็จ​และเข้าถึงกลุ่ม​เป้า​หมา​ยได้เช่นกัน

3.ต้องการความเชี่ยวชาญ​สูง

สำหรับธุรกิจ​ B2B​ นั้น​ “ความเชี่ยวชาญ” เป็นปัจจัย​ที่จำเป็นและสำคัญ​มาก​ เพราะหากเราแสดงให้เห็น​ว่าธุรกิจข​องเรานั้นมีความเชี่ยวชาญมากกว่า ก็ย่อมเพิ่มความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจของลูกค้าได้มากกว่า​ ว่าสินค้าและบริการ​ของเรานั้นจะช่วยแก้ไขปัญหาให้ธุรกิจ​ของเขาได้

นอกจากนี้ในมุมมองการทำ​ SEO​ ความเชี่ยวชาญ​ก็เป็นปัจจัยที่ทาง​ Google​ เอามาใช้เป็น​เกณฑ์​ใน​การ​พิจารณา​ด้วยเช่นกัน​

7 กลยุทธ์​ ในการทำ​ SEO​ ใน​ธุร​กิจ​ B2B​ ให้ประสบความสำเร็จ​

ลองมาดูกันว่าจะมีแนวทางไหนบ้างที่จะช่วยให้เราสามารถ​ปรับปรุง​ SEO​ ใน​ธุร​กิจ​ B2B​ ให้ประสบ​ควา​มสำเร็จ​ และสามารถไต่ขึ้นเป็นอันดับต้นๆ​ ในหน้าการค้นหาได้บ้าง

1.สร้าง​ Buyer Persona​ เพื่อรู้จักตัวตนของลูกค้า

การทำ​ Persona เป็นวิธีการจำลองบุคลิกหรือลักษณะของกลุ่ม​เป้าหมาย​ออกมาเพื่อเป็นตัวแทนกลุ่มคนที่เราคาดการณ์​ว่าจะเป็นลูกค้าในอุดมคติ​

ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนแรกที่ควรทำ เพราะการทำ​ Buyer​ Persona​ จะทำให้เราเข้าใจและเห็นภาพกลุ่มลูกค้าของเราชัดเจน​มากขึ้น​ เพราะ​ธุรกิจ​ B2B ส่วนใหญ่จะมีผู้ที่มีอำนาจ​ในการซื้อที่แตกต่างกันหลายคน สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าคนเหล่านี้เป็นใคร ปัญหาของพวกเขาคืออะไร​ Journey​ ในการหาข้อมูลในโลกออนไลน์​เป็นอย่างไรบ้าง​ 

ยิ่งเรารู้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น​ เพราะสิ่งเหล่านี้​จะทำให้สามารถ​วางกลยุทธ์​การตลาด​ วางแผนการใช้คีย์เวิร์ด​ รวมถึง​การสื่อสารผ่านการทำคอนเทนต์ให้ตรงกับความต้องการของ​กลุ่ม​เป้าหมาย​มากที่สุด​นั่นเอง

2.ทำความเข้าใจช่องทางการขาย

ก่อนที่เราจะทำ​ SEO​ และค้นหาคีย์เวิร์ด​ที่ผู้ซื้อของเราใช้อยู่​ เราต้องทำความเข้าใจ​ว่ากระบวนการขายเฉพาะของธุรกิจของเรานั้นทำงานอย่างไร​ ทั้งในเรื่องของช่องทาง​ ขั้นตอนการซื้อ​ รวมถึงวิธีการติดต่อ

โดย​วิธีที่ได้ผลดีที่สุดก็คือเรียกทีมขายเข้ามาสอบถาม​เลยค่ะ​ เพราะทีมขายเป็นทีมที่เจอกับลูกค้ามากที่สุด​ จึงรู้ดีว่าลูกค้า​แต่ละคนมาจากช่องทางไหน​ แต่ละช่องทางขายของเรายังมีช่องโหว่อะไรบ้าง​ จากนั้นจึงค่อยนำข้อมูล​ที่ได้มาวิเคราะห์คำถามที่ลูกค้า​มักถามบ่อยๆ​ เวลาเฉลี่ยในการตัดสินใจ​ซื้อ​ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับช่องทางการขาย และเหตุผลที่ลูกค้าเลิกใช้​ เพื่อจะได้มองหาวิธีการสื่อสาร​ และคีย์เวิร์ด​ที่ตรงกับลูกค้าต้องการ​

3.วิเคราะห์​ Keyword​

การ​วิเคราะห์​คีย์เวิร์ด​โดยละเอียดถือเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ B2B SEO ให้ประสบความสำเร็จเลยทีเดีย​ว

บอกเลยว่าการหา​คีย์เวิร์ด​ที่เหมาะสมกับธุรกิจ​ได้นั้นจะทำให้เราสามารถเจาะลึกและค้นหาโอกาสในจับเป้าหมาย​ให้อยู่​หมัด​ แล้วกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้แหละที่จะเป็นส่วนสำคัญ​ใน​การผลักดันให้ธุรกิจ​ของเราเติบโตแบบออร์แกนิกได้ในที่สุด

โดยเราต้องเลือกคีย์เวิร์ด​ที่คิดว่ากลุ่มเป้าหมาย​จะใช้เพื่อค้นหาธุรกิจของเรา​ เช่น​ ถ้าคุณทำธุรกิจ​อาคารสำนักงานให้เช่า​ คุณการอาจใช้คีย์เวิร์ด​ว่า​ เช่าสำนักงาน​+โลเคชั่น​ เป็นต้น

ซึ่งเราสามารถ​เช็กปริมาณการค้นหา​ และคีย์เวิร์ด​ไอเดียอื่นๆ​ ได้โดยใช้เครื่อมืออย่าง​ SEMrush หรือ​ Ubersuggest​ ก็ได้เช่นกัน

4.ปรับโครงสร้างเว็บไซต์​

การปรับโครงสร้าง​เว็บไซต์​ให้เป็นมิตร​กับ​ SEO​ นั้นสำคัญไม่แพ้กับการเลือก​คีย์เวิร์ด​เลยค่ะ​ เพราะโครงสร้างเว็บไซต์​จะเป็นการบอกได้ว่าภายในเว็บของเรานั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้าง แล้วแต่ละหน้านั้นมีความเชื่อมโยงกันอย่างไร 

นอกจากนี้การทำโครงสร้างเว็บไซต์ให้ดีจะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย​ ไม่สับสน​ ไม่กดออกระหว่างทาง ถือได้ว่าเป็นการช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับกลุ่ม​เป้าหมาย​ไปในตัวด้วย

โดยโครงสร้าง​เว็บไซต์​ที่ดีนั้นต้องมีการจัดกลุ่มข้อมูล​ในหมวดหมู่​เดียวกัน​ไว้ที่เดียวกัน​ มีการไล่เรียงลำดับขั้นของเนื้อหาจากภาพรวมไปยังเนื้อหาที่มีความเฉพาะเจาะจงขึ้นเรื่อยๆ​ ที่​สำคัญ​ ถ้าจะทำอันดับในหน้านั้นๆ​ ควรมีการคลิกเข้าไปเพื่อ​ดูเนื้อหาไม่เกิน​ 5 คลิก​นับตั้งแต่หน้า Homepage 

5.อย่าละเลย​ Landing​ Page​

จุดประสงค์​หลัก​ของ​การ​ทำ​ Landing Page นั้นคือการเปลี่ยนให้คนที่มาดูข้อมูล​ในเว็บไซต์​กลายเป็น​ Lead​ หรือว่าที่ลูกค้าเราให้ได้​ 

เพราะฉะนั้นการจะทำหน้า Landing Page​ ควรกำหนดวัตถุประสงค์​ให้ชัดเจนว่าเราต้องการอะไร​ เช่น​ ต้องการให้ลูกค้ากรอกข้อมูลเพื่อให้พนักงานขายติดต่อกลับ​ หรือเป็นหน้าที่นำเสนอสินค้าและบริการ​ เป็นต้น​ ซึ่งในหน้า​ Landing Page​ นี้ควรจะมีปุ่ม​ CTA​ ที่ชัดเจน​ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายทำตามวัตถุประสงค์​ที่เราตั้งไว้

6.​สร้าง​ Content​ ที่มีประโยชน์​และ​เกี่ยวข้องกับธุรกิจ​

หนึ่งใน​ปัจจัย​ที่ทาง​ Google​ ใช้ในการพิจารณา​ในการตัดอันดับหน้าเว็บไซต์​ก็คือเนื้อหาที่มีประโยชน์​ ที่เขียนขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญ​ ​โดยเนื้อหาเหล่านั้น​ต้อง​มี​ความ​เกี่ยวข​้องเว็บไซต์​ หรือสินค้า​และบริการของเราด้วย

นอกจากการเลือกใช้คีย์เวิร์ด​ให้ถูกต้อง​แล้ว​ เราควรนำคำหลักเหล่านั้นมาใช้ในการสร้างเนื้อหาที่มีประโยชน์​กับคนอ่าน​ รวมถึงกลุ่มเป้าหมายที่อาจจะกลายมาเป็นลูกค้าของเราในอนาคต​ โดยเลือกหัวข้อการเขียนให้มีความเฉพาะ​เจาะจง​ เพื่อแสดงถึงความเชี่ยวชาญ​ในธุรกิจ​นั้นๆ​ เช่น​ ถ้าเราทำธุรกิจ​สำนักงานให้เช่า​ เราก็อาจจะเขียนบทความในหัวข้อ​ 10 เทคนิค​ในการเลือกสำนักงานให้เช่า​สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่​ หรือ​ 5 ทำเลสำนักงานเช่ายอดฮิต​ ใจกลางเมือง​ เป็นต้น

ที่สำคัญการลงบทความหรือเนื้อหาต่างๆ​ นั้นควรทำอย่างสม่ำเสมอ​ และมีปริมาณมากพอที่จะทำให้​ Google​ เข้าใจได้ว่าเว็บไซต์​ของเรา​นั้นกำลังพูดถึง​เรื่อง​อะไร​ด้วย

สำหรับการทำ​ Backlink​ นั้นมีประโยชน์​ต่อ​การทำ​ SEO​ ทั้งในด้าน​การ​ส่ง​ Traffic​ เข้ามายังเว็บไซต์​ของ​เรา​ ทำให้มีคนเข้ามาเยี่ยม​ชม​ในเว็บไซต์​ของเรา​มากขึ้น​

ดังนั้นเมื่อเราสร้าง​ Content​ คุณภาพ​ขึ้นมาแล้ว​ ก็อย่าลืมที่จะโปรโมตเนื้อหาเหล่านั้น​ อาจจะ​ด้วย​การ​แชร์ผ่านช่องทาง​ Social​ Media​ ของเรา​เอง​ หรือนำลิงก์ไปปล่อยยังเว็บไซต์​ต่างๆ​ ที่มีความเกี่ยวข้อง​กับเนื้อหาของเรา​ก็ได้เช่นกัน

ถึงแม้ว่าธุรกิจ​ B2B​ จะเป็นธุรกิจ​ที่มีความเฉพาะ​เจาะ​จงทั้งในฝั่งของสินค้าและบริการ​ รวมทั้งกลุ่มเป้าหมาย​ จนทำให้หลายธุรกิจ​มองว่าการทำ​ SEO​ สำหรับ​ B2B​ นั้นคงเป็นไปได้ยาก

แต่จากคำแนะนำต่างๆ​ ที่แบมรวบรวมมาให้​ จะเห็นว่าแม้จะยาก​สักหน่อย​ แต่ถ้าเรารู้เทคนิคแล้วรับรองว่าต้องทำได้อย่างแน่นอน​ ยังไงก็ลองเอาเทคนิค​เหล่านี้ไปปรับแต่งเว็บไซต์ให้รองรับกับการทำอันดับกันดูนะคะ

ส่วนใครที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับการทำ SEO แบมแนะนำให้ไปอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ เลยค่ะ

ในบทความหน้าแบมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะคะ

ที่มา

Bambinun*

Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน ที่หลงรักการเล่าเรื่องผ่านตัวหนังสือ พอๆ กับการกินของอร่อย และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเป็นทาสแมว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *