กลยุทธ์ Facebook Ads 2024 เพิ่ม Conversions ด้วย Ad Creative

กลยุทธ์ Facebook Ads 2024 เพิ่ม Conversions ด้วย Ad Creative

การยิงโฆษณาบน Facebook หลังจากยิงไปแล้วสิ่งที่ทุกคนต้องการก็คือ เกิด Conversion ถูกมั้ยคะ ยิ่งการยิงเข้า Messager เพื่อปิดการขาย ยิ่งจำเป็น ดังนั้นบทความนี้ผู้เขียนเลยจะนำ กลยุทธ์ Facebook Ads 2024 ที่จะช่วยเพิ่ม Conversions จาก Ad Creative เพื่อสร้าง Conversions ทำให้ลูกค้าจากผู้ชมกลายเป็นผู้ซื้อให้ได้มากที่สุดนั่นเองค่ะ

ผู้เขียนคิดว่านักอ่านหลาย ๆ ท่านคงรู้จัก Facebook Ads กัน บางท่านอาจเคยยิง บางท่านอาจเคยได้ยินแต่ไม่เคยยิง บางท่านอาจทั้งยิงเอง และ จ้างยิงด้วย วันนี้นักเขียนเลยนำ กลยุทธ์ Facebook Ads 2024 มาแชร์ให้ทุกท่านกันค่ะ

เห็น Ads เดิมซ้ำ ๆ จนเป็น Creative Fatigue

Creative fatigue หรือ หากแปลตรงตัวจะได้ว่า ความเหนื่อยล้าในการสร้างสรรค์ แต่ที่แท้จริงคือปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ Ad Creative ซ้ำ ๆ เดิม ๆ เป็นเวลานาน จนทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่สนใจโฆษณานั้นอีกต่อไป ส่งผลให้ประสิทธิภาพของโฆษณาลดลง เช่น อัตราการมีส่วนร่วม (Engagement) ลดลง อัตราการคลิก (Click-through rate) ต่ำลง เป็นต้นค่ะ

โดยสาเหตุของ Creative fatigue มักเกิดจาก

  1. ใช้ Ad Creative ชุดเดิมซ้ำไปซ้ำมาเป็นระยะเวลานาน
  2. Ad Creative ขาดความแปลกใหม่ น่าสนใจ ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้
  3. แสดงโฆษณาต่อกลุ่มเป้าหมายเดิมๆ บ่อยเกินไป จนเกิดความรำคาญ

ซึ่งผลกระทบของ Creative fatigue ต่อแคมเปญโฆษณา คือ

  1. ผลลัพธ์ของแคมเปญตกต่ำลง เช่น Reach, Impression, การเข้าชมเว็บไซต์ หรือยอดขายลดลง
  2. ต้นทุนโฆษณาต่อการดำเนินการ (Cost per action : CPA) สูงขึ้น เนื่องจากโฆษณามีประสิทธิภาพต่ำลง
  3. ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์แบรนด์ในระยะยาว หากผู้บริโภครู้สึกเบื่อหน่ายหรือรำคาญโฆษณาของแบรนด์

ดังนั้นเพื่อป้องกัน Creative fatigue เราถึงต้องให้ความสำคัญกับการสร้าง Ad Creative ที่หลากหลาย โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ เนื้อหา ข้อความ ภาพ หรือวิดีโออยู่เสมอ

เพื่อให้น่าสนใจ และสร้างการมีส่วนร่วมจากกลุ่มเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้แคมเปญโฆษณาประสบความสำเร็จและให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวอีกด้วยค่ะ ถือว่าเป็น กลยุทธ์ Facebook Ads 2024 ที่น่าสนใจและทำตามค่ะ

ซึ่งผู้เขียนได้นำคำแนะนำจากทาง Meta มาเพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่กำลังต้องสร้าง หรือ ปรับเปลี่ยนตัว Ad Creative ค่ะ โดยจะมี 3 Step คือ

  1. Prevent creative fatigue – การป้องกัน
  2. Get creative inspiration – แรงบันดาลใจ
  3. Steal a creative strategy – กลยุทธ์การสร้างสรรค์

#Prevent creative fatigue

อันแรกเราต้องรู้ก่อนว่าเวลาตัว Meta ทำการเลือกว่า Ads ตัวนี้มีความแตกต่างกันหรือไม่ มีองค์ประกอบที่ดีรึเปล่า จะดูอย่างไร ซึ่งจากคำแนะนำจาก Meta โฆษณาของเราควรผสมผสานองค์ประกอบที่แตกต่าง คือ รูปแบบ ภาพ และข้อความ เป็นต้นค่ะ

1. รูปแบบ (Formats)

ใช้รูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย เช่น รูปภาพ วิดีโอ ภาพเลื่อน (carousel) Reel และ Catalog ไม่ควรใช้แค่รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเพียงอย่างเดียว เพราะลูกค้าแต่ละกลุ่ม จะตอบสนองแตกต่างกัน บางคนชอบรูป บางคนชอบวิดีโอ ดังนั้นความหลากหลายจะช่วยขยายการเข้าถึงได้ค่ะ

กลยุทธ์ Facebook Ads 2024 เพิ่ม Conversions ด้วย Ad Creative
ขอบคุณภาพจาก Meta

สิ่งควรทำ: ใช้รูปแบบที่หลากหลาย รูปภาพ วิดีโอ และ Reels เป็นต้น

สิ่งไม่ควรทำ: ใช้รูปแบบเดียวซ้ำ ๆ ในหลายโฆษณา

2. ภาพ (Visuals)

ใช้รูปภาพและวิดีโอโฆษณาที่มีสไตล์ ธีม องค์ประกอบ สี และเนื้อหาที่หลากหลาย ภาพควรมีความแตกต่างกัน ไม่ควรดูคล้ายกันเกินไปในโฆษณาแต่ละชิ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพ วิดีโอ หรือ Reel ทุกอย่างควรดูแตกต่างกัน ถึงแม้ว่าจะใช้สินค้าตัวเดียวกันก็ตามค่ะ

กลยุทธ์ Facebook Ads 2024 เพิ่ม Conversions ด้วย Ad Creative
ขอบคุณภาพจาก Meta

สิ่งควรทำ: นำเสนอสินค้าในองค์ประกอบที่แตกต่างกัน ทั้งในภาพถ่ายและวิดีโอ

สิ่งไม่ควรทำ: ใช้ภาพแบบเดิม ๆ มีองค์ประกอบคล้ายกัน

3. ข้อความ (Text)

ปรับเปลี่ยนข้อความโฆษณา คำพาดหัว คำอธิบาย และ Call-to-action ลองใช้รูปแบบข้อความ ความยาว การจัดวาง และมุมมองที่แตกต่างกัน แทนที่จะใช้ข้อความซ้ำ ๆ เดิม ๆ เพราะความหลากหลายของข้อความในโพสต์ก็มีความสำคัญพอ ๆ กับภาพหรือรูปแบบโฆษณา คำที่ใช้ควรแตกต่างและปรับให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายที่เรายิงโฆษณาไปหา

กลยุทธ์ Facebook Ads 2024 เพิ่ม Conversions ด้วย Ad Creative
ขอบคุณภาพจาก Meta

สิ่งควรทำ: ใช้ข้อความที่แตกต่างกัน เช่น คำถาม อาจเปลี่ยนคำอธิบายของสินค้า และประโยชน์เพื่อให้ดูแตกต่างกัน

สิ่งไม่ควรทำ: ใช้ข้อความแบบเดียวกันในทุก ๆ โฆษณา หรือพูดกับกลุ่มเป้าหมายเพียงแค่กลุ่มเดียว

สรุป ครีเอทีฟที่แตกต่าง หมายถึง โฆษณาแต่ละชิ้นมีการผสมผสานรูปแบบ สไตล์ภาพ และข้อความที่ไม่ซ้ำกัน เพื่อป้องกัน creative fatigue ในโฆษณา การสร้างความหลากหลายในหลาย ๆ ด้าน จะช่วยดึงดูดความสนใจ เพิ่มการมีส่วนร่วม และเพิ่มโอกาสในการชนะการประมูลโฆษณาของ Meta และส่งผลให้มีการเข้าชมจากระบบโฆษณาของ Meta มากขึ้นค่ะ

การใช้ Ad Creative ที่แตกต่างกันนอกจากจะช่วยป้องกัน Creative fatigue แล้วยังสามารถพัฒนาการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ด้วย

ขอบคุณภาพจาก Meta

อีกสิ่งหนึ่งคือ เมื่อ Creative fatigue เกิดขึ้น จะทำให้ Conversion ลดลงประมาณ 45% ดังนั้นถ้าโฆษณาของเราดูคล้ายกันไปหมด จะทำให้เราพลาดโอกาสในการขาย รวมทั้งการพัฒนากลุ่ม Target ของเรา ไม่รู้ว่าลูกค้าในกลุ่มนั้น ๆ ชอบโฆษณาแบบไหนกันแน่ค่ะ

ดังนั้นมาดูกันดีกว่าค่ะว่าวิธีที่จะทำให้เราป้องกัน Creative fatigue และ เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ยังไงบ้าง

1. คิดถึง Persona ที่แตกต่างกันในกลุ่มเป้าหมายของเรา

กลุ่มเป้าหมายของเราย่อมมีคนที่มีความสนใจและพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ซึ่งก็จะส่งผลให้มีความชอบ Ad Creative ที่ต่างกันด้วย

2. สร้าง Ad Creative ตาม Persona ที่แตกต่างกัน

พัฒนากลยุทธ์โฆษณาที่หลากหลาย เพื่อสื่อสารไปยังลูกค้าหลากหลายกลุ่มที่แตกต่างกัน รวมถึงเราต้องหาแนวคิด ไอเดีย และแรงบันดาลใจที่แตกต่างกันด้วย

3. ทดสอบ Ad Creative โดยใช้ระบบของ Meta

ให้ Meta ปรับแต่งโฆษณาโดยอัตโนมัติเพื่อส่งว่า Ad Creative อันไหนจะได้ผลดีที่สุดในแต่ละกลุ่มเป้าหมายของเรา

ทั้งหมดนี้ก็คือวิธีการป้องกันและพัฒนาในส่วนของ Part การป้องกัน Creative fatigue นั่นเองค่ะ ต่อมาเราจะมาดูกันในส่วนของแรงบันดาลใจเพื่อสร้าง Ad Crative กันค่ะ

#Get creative inspiration

10 IDEA เพื่อช่วยสร้างสรรค์ผลงานที่หลากหลาย

สามารถลองนำไอเดียโฆษณา Reels เหล่านี้มาเป็นจุดเริ่มต้น และใช้ไอเดียเหล่านี้เป็นตัวอย่างในการปรับเปลี่ยนแนวทางการสร้างสรรค์ค่ะ สามารถกดเข้าไปดูตัวอย่าง Video ได้ ที่นี่ ค่ะ

ขอบคุณภาพจาก Meta

1. THE TUTORIAL : Highlight your expertise

  • บอกสิ่งที่ผู้ชมจะได้รับใน 3 วินาที สื่อสารให้ชัดเจนว่าเราจะพูดอะไรในช่วงวินาทีแรกๆ เช่น ‘3 วิธีในการ …’
  • ใช้ Text Stickers และการตัดภาพแบบไวและกระชับ นำเสนอเคล็ดลับ เนื้อหาต่าง ๆ ให้เข้าใจง่าย โดยใช้ Text Stickers เพื่อให้สามารถตัดภาพได้ไว และ กระชับขึ้น
  • ใช้เครื่องมือแปลงข้อความเป็นเสียง: อาจใช้เครื่องมือแปลงข้อความเป็นเสียง เพื่อเน้นย้ำข้อความ ทำให้เราสามารถทั้งแสดงให้ดูและบอกเล่าให้ฟังพร้อมกันได้ค่ะ

2. THE LISTICLE : Use text stickers to break down a video

  • นำเสนอสินค้าหลายชิ้น ถ้ามีสินค้าหลายอย่างที่อยากโชว์ ลองใช้เสียงบรรยายประกอบวิดีโอและแบ่งออกเป็นส่วน ๆ โดยใช้ Text Stickers เพื่อแบ่งวิดีโอออกเป็นส่วน ๆ
  • ถ่ายและเล่า ใช้ Text Stickers เพื่อเสริมเรื่องราวในวิดีโอหรือทำให้เข้าใจง่ายขึ้น
  • ทำให้ง่ายและเป็นธรรมชาติ เขียนรายการ 3 คุณสมบัติหรือประโยชน์ที่อยากเน้น จากนั้นก็คิดว่าคนทั่วไปจะพูดถึงสิ่งเหล่านี้ในชีวิตประจำวันด้วยภาษาแบบไหนค่ะ

3. THE POV : Show a relatable perspective

  • เริ่มจากความต้องการของลูกค้า คิดว่ามีอุปสรรค ความต้องการ อะไรบ้างในสินค้าของเรา และใช้สิ่งเหล่านั้นเป็นจุดเริ่มต้นในการเขียนสคริปต์
  • ใช้มุมมองของเจ้าของแบรนด์ ถ้าเจ้าของแบรนด์ หรือ ตัวเราเองมีเรื่องราวน่าสนใจ ให้แบ่งปันแนวคิดหรือแรงบันดาลใจ
  • สร้าง Social Proof ใช้ Social Proof เช่น รีวิวจากลูกค้าจริงเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับโฆษณา
กลยุทธ์ Facebook Ads 2024 เพิ่ม Conversions ด้วย Ad Creative
ขอบคุณภาพจาก Meta

4. THE “TYPES OF” : Reimagine your products as different situations

  • โชว์สินค้าหลากหลาย เลือกเพลง ธีม กระแสที่กำลังฮิตใน Reels หรือในปัจจุบัน แล้วจับคู่กับสินค้าของเรา
  • แสดงความหลากหลายของสินค้า คิดตัวละครหรือคน 5 แบบ พวกเขาจะใช้สินค้านี้อย่างไร
  • แสดงบุคลิกของแบรนด์ เขียนคำ 3 คำที่สื่อถึงแบรนด์ แล้วเขียนสถานที่หรือสถานการณ์ที่เข้ากันกับบรรยากาศนั้น

5. THE EXCLUSIVE : Try out urgency and exclusivity

  • ตามฤดูกาล ถ่ายสินค้าตามฤดูกาลที่จำหน่ายในช่วงเวลาจำกัด
  • ทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษ โชว์สินค้า Limited Edition หรือหายาก เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่ากำลังซื้อของพิเศษ
  • ใช้ข้อความบนหน้าจอ เพิ่มข้อความเพื่อเน้นสิ่งที่พิเศษหรือ Limited Edition เพื่อให้ลูกค้ารีบคว้าโอกาส

6. THE Q&A : Reframe a product as a conversation

  • ค้นหาความต้องการที่แท้จริง เขียนปัญหาหรืออุปสรรคทั้งหมดที่มีอยู่ของแบรนด์ จากนั้นเขียนสคริปต์ถาม-ตอบเพื่อแก้ไขทีละข้อ
  • ทำให้แบรนด์เป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนา รูปแบบถาม-ตอบช่วยให้เราสามารถใส่ชื่อแบรนด์ลงในบทสนทนาได้ง่าย ซึ่งเป็นวิธีธรรมชาติในการสร้างการจดจำ
  • อย่ากลัวที่จะเพิ่มความตลก หลังจากคิดบทสนทนาไว้แล้ว ก็ทำให้ตัวละครของเรามีความตลกเท่าที่จะทำได้ค่ะ
กลยุทธ์ Facebook Ads 2024 เพิ่ม Conversions ด้วย Ad Creative
ขอบคุณภาพจาก Meta

7. THE NON-COMMITTER : Promote delivery and return options

  • ทำให้การจัดส่งเป็น Value Prop โชว์ว่าออเดอร์ทั้งหมดจะได้รับการจัดส่งใน 2 วันและคืนสินค้าฟรี ทำให้ลูกค้าลองใช้สินค้าได้ง่าย
  • เล่นกับความลังเลของลูกค้า เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการความพึงพอใจทันทีและต้องการตัวเลือกในการลองสินค้าก่อนตัดสินใจ
  • ถ่ายคลิปแกะกล่อง ลองถ่ายวิดีโอแกะกล่องหรือก่อน-หลัง เพื่อแสดงให้เห็นว่าสินค้ามาถึงหน้าบ้านลูกค้าอย่างไร

8. THE PRODUCT DEMO : Show your product in a fun way

  • ใช้ Green Screen เพื่อผสมผสานการสาธิตสินค้า รวมเข้ากับคนที่อยู่ด้านหน้า
  • โชว์ในชีวิตจริง แสดงให้เห็นคนใช้สินค้าในชีวิตจริง แต่ลองคิดว่าจะเพิ่มจุดพลิกผันหรือช่วงที่ไม่คาดคิดลงใน Reel ได้ยังไง
  • ใช้เสียงประกอบ ลองใช้เสียงประกอบเพื่อเพิ่มมิติใหม่ให้กับการสาธิตสินค้าค่ะ

9. THE BEFORE & AFTER : Dramatize the benefit

  • ทำให้ประโยชน์ของสินค้าเป็นจริง แสดงให้เห็นชีวิตที่ไม่มีสินค้าของเรา จากนั้นแสดงให้เห็นว่าพอมีสินค้าของเราจะช่วยเปลี่ยนแปลงยังไง
  • หยุดเสียงเน้นจังหวะ หาเพลงที่มี ‘จังหวะตก’ ชัดเจน ซึ่งจะช่วยในช่วงเวลาของการเปลี่ยนฉากทำให้ดูน่าสนใจ
  • ใช้จุดพลิกผัน หากต้องการใช้การเปลี่ยนฉาก ลองคิดดูว่ามันควรอยู่ตอนต้น ตอนท้าย หรือแม้แต่ตรงกลางของคลิปค่ะ

10. THE TRANSITION SEQUENCE : Use jump or swipe cuts on video clips

  • โชว์สินค้าที่แตกต่าง เลือกสินค้าของคุณ แล้วคิดเทคนิคการเปลี่ยนฉาก เพื่อเชื่อมระหว่างสินค้า
  • โชว์แค่สินค้าเดียว เปลี่ยนฉากหลังหรือคน แต่ใช้สินค้าเดิมเพื่อแสดงในสถานการณ์ต่างๆ
  • สร้างบุคลิกของแบรนด์ ลองคิดว่าดนตรี เสียงประกอบ หรือเสียงบรรยาย จะเปลี่ยนอารมณ์ของ Reel ให้เข้ากับแบรนด์ของเราได้ยังไงค่ะ

วิธีใช้ Meta AI เพื่อขับเคลื่อน Ad Creative ที่แตกต่าง

ขั้นตอนที่ 1 วางแผนกลยุทธ์ Ad Creative

สร้าง Ad Creative 3-5 รายการโดยใช้รูปแบบ ภาพ และข้อความที่แตกต่างกัน ซึ่งจะสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้

ขั้นตอนที่ 2 เลือกการกำหนดเป้าหมายกว้างๆ สำหรับแคมเปญ

ปรับกลุ่มเป้าหมายใน Ads Manager เพื่อให้เข้าถึงผู้คน 2-5 ล้านคน สิ่งนี้ให้ตัวเลือกมากขึ้นสำหรับโฆษณาของคุณ เพื่อให้ Meta แสดงโฆษณาเหล่านั้นกับส่วนต่าง ๆ ของกลุ่มเป้าหมายของคุณ

ขั้นตอนที่ 3 ปล่อยให้ Meta AI หาลูกค้าที่เหมาะสมสำหรับโฆษณา

เปิดใช้งาน Advantage+ placements และ Advantage+ creative เพื่อให้อัลกอริทึมของ Meta สามารถหากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมสำหรับโฆษณา และลดความ creative fatigue

#Steal a creative strategy : Case Study

Wild Alaskan Seafood Company มีต้นทุนต่อการดำเนินการต่ำกว่า 43% และการซื้อเพิ่มขึ้น 1.8 เท่า ด้วยการใช้ครีเอทีฟที่แตกต่างกันในโฆษณา

ขอบคุณภาพจาก Meta

THE STORY : Sustainably sourced seafood

Wild Alaskan Seafood Company ก่อตั้งโดยชาวประมง Wild Alaskan Company เป็นร้านขายปลาออนไลน์ที่ทุ่มเทยึดมั่นในมาตรฐานทั้งในด้านคุณภาพและความยั่งยืนของอาหารทะเล

บริษัทผสมผสานประวัติศาสตร์และความเชี่ยวชาญหลายชั่วอายุคนในอุตสาหกรรมอาหารทะเลของอลาสกากับแพลตฟอร์มการตลาดและโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซที่สร้างขึ้นเองซึ่งให้บริการในรูแปบบสมาชิกทั่วสหรัฐฯ

มีแผนพื้นฐาน 3 แบบ – Wild Salmon Box, Wild Whitefish Box หรือ Wild Combo Box – รวมถึงโปรโมชั่นสำหรับสมาชิกตามฤดูกาลและปริมาณค่ะ

Wild Alaskan Seafood Company หาลูกค้าซื้ออาหารทะเลมากขึ้นด้วยโฆษณาแบบวิดีโอที่แตกต่างบน Facebook โดยทาง Wild Alaskan Seafood Company ได้ทดสอบโฆษณาด้วยวิดีโอตามปกติเทียบกับโฆษณาด้วยวิดีโอตามปกติผสมกับโฆษณาวิดีโอใหม่ที่แตกต่าง และพบว่ามีต้นทุนต่อการดำเนินการต่ำกว่า 43% เมื่อใช้ครีเอทีฟทุกประเภทร่วมกันค่ะ

THE GOAL : Increasing seafood subscriptions

Wild Alaskan Company ต้องการเข้าถึงผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเลมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับแผนการเป็นสมาชิกของแบรนด์ และเพิ่มยอดขายค่ะ

THE SOLUTION : Rigorous creative testing

Wild Alaskan Company ตัดสินใจทดสอบครีเอทีฟโฆษณาที่เข้มงวดมากขึ้น โดยแคมเปญตามปกติของบริษัทใช้ครีเอทีฟโฆษณา 3 ประเภทขึ้นไปแต่มีลักษณะที่คล้ายกัน ซึ่งมักเน้นที่กระบวนการจัดส่งและเน้นย้ำข้อเสนออาหารที่ยั่งยืนของแบรนด์

แต่สำหรับครีเอทีฟใหม่ บริษัทเน้นเหตุผลอื่น ๆ ในการซื้อ เช่น เพื่อส่งเสริมนิสัยการกินที่ดีต่อสุขภาพ หรือปรับข้อความสำหรับกลุ่มประชากรที่อายุน้อยกว่า

ดังนั้น Wild Alaskan Company จึงดำเนินการ A/B Test แคมเปญ “A” ซึ่งประกอบด้วยโฆษณา 3-5 รายการโดยใช้ครีเอทีฟตามปกติของบริษัท เทียบกับแคมเปญ “B” ที่ประกอบด้วยโฆษณาตามปกติเหล่านั้นร่วมกับโฆษณาหลายรายการที่มีครีเอทีฟใหม่สดใหม่ ซึ่งไม่เพียงแตกต่างจากโฆษณาตามปกติ แต่ยังแตกต่างจากกันเองอีกด้วยค่ะ

ขอบคุณภาพจาก Meta

โดยบริษัทร่วมมือกับ Meta Business Partner อย่าง VidMob เพื่อสร้างครีเอทีฟใหม่ที่ใช้ในกลุ่มทดสอบ ความแตกต่างจากครีเอทีฟตามปกติคือ พวกเขามีดนตรีที่ร่าเริงและภาพเคลื่อนไหวที่มีชีวิตชีวามากขึ้น ตัวอย่างเช่น

โฆษณาวิดีโอที่มีภาพและข้อความทับซ้อนเน้นประโยชน์ด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการกินอาหารทะเลจากธรรมชาติ โฆษณาทั้งหมดจะมีข้อเสนอส่วนลด 15 ดอลลาร์สำหรับกล่องแรกที่สั่งซื้อ และปุ่ม “รับข้อเสนอ” ที่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของบริษัทค่ะ ดูวิดีโอที่นี่

Wild Alaskan Company แสดงโฆษณาให้ผู้ใหญ่ชาวสหรัฐฯ อายุ 25 ปีขึ้นไป โดยใช้ Advantage+ placements (ชื่อเดิมคือ automatic placements) เพื่อส่งโฆษณาผ่านทุกตำแหน่งโฆษณาของ Meta โดยดูว่าตำแหน่งใดน่าจะผลักดันผลแคมเปญที่ดีที่สุดด้วยต้นทุนต่ำที่สุด และใช้ Advantage campaign budget (ชื่อเดิมคือ campaign budget optimization) เพื่อจัดสรรงบประมาณโดยอัตโนมัติระหว่างชุดโฆษณาที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดแบบเรียลไทม์อีกด้วยค่ะ

THE RESULTS : A wildly successful campaign

Wild Alaskan Company ตัดสินผลลัพธ์ของแคมเปญระหว่างวันที่ 21 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ 2022 นี้โดยใช้การศึกษา Conversion Lift ซึ่งเผยให้เห็นว่า ผลลัพธ์เมื่อใช้ครีเอทีฟตามปกติร่วมกับครีเอทีฟใหม่ที่แตกต่างกัน

  • ต้นทุนต่อการดำเนินการ (ผู้ซื้อใหม่) ต่ำกว่า 43%
  • การซื้อมากขึ้น 1.8 เท่า
  • ยอดขายเพิ่มขึ้น 2.3 เท่า

เครื่องมือของ Meta ที่ใช้

  • โฆษณาวิดีโอ : ดึงดูดความสนใจด้วยโฆษณาวิดีโอที่น่าสนใจ
  • Advantage+ placements : ปรับแต่งโฆษณาของคุณเพื่อค้นหาตำแหน่งวางโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
  • การวัดผล : ตัดสินใจทางการตลาดที่ดีขึ้นตามข้อมูลเชิงลึก

Megan Gallagher ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดประสิทธิภาพของ Wild Alaskan Company กล่าวว่า

“เราสงสัยว่าการทำให้ครีเอทีฟโฆษณาของเราแตกต่างกันจะช่วยผลักดันประสิทธิภาพแคมเปญที่แข็งแกร่งขึ้นได้หรือไม่ ครีเอทีฟตามปกติของเราสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของอุตสาหกรรมในปัจจุบันภายในพื้นที่การสมัครสมาชิกอีคอมเมิร์ซ

แต่เราตัดสินใจทดสอบวิดีโอครีเอทีฟใหม่ ๆ ที่สดใหม่เทียบกับครีเอทีฟตามปกติ เพื่อดูว่าอะไรใช้ได้ผลดีที่สุด แต่ที่น่าประหลาดใจคือ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดมาจากการใช้ครีเอทีฟตามปกติควบคู่กับครีเอทีฟที่แตกต่างกัน”

ขอขอบคุณภาพจาก Shutterstock AI Generator
Prompt : People looking at dashboard A/B test

โดยเราสามาถลองใช้กลยุทธ์นำ Ad creative เดิมผสมกับ Ad creative ใหม่ตาม Wild Alaskan Company ทำก็ได้ เพื่อลองดูผลลัพธ์ ไม่แน่ว่าเราอาจได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นแบบที่ Wild Alaskan Company ทำก็ได้ค่ะ

และทั้งหมดนี้คือ กลยุทธ์ Facebook Ads 2024 เพิ่ม Conversions ด้วย Ad Creative ที่ผู้เขียนนำมาฝากค่ะ ถ้าชอบ หรือ สนใจอยากอ่านบทความด้านการตลาดแบบนี้อีก ผู้เขียนฝากติดตามด้วยนะคะ หรือ ถ้าใครอยากให้ผู้เขียนนำมุมมองการตลาดแบบไหนมาเล่าให้ฟัง สามารถคอมเมนต์บอกกันได้เลยนะคะ 

สำหรับนักอ่านที่ชอบ และ อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารด้านการตลาดต่าง ๆ สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนได้เลยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะヽ(•‿•)ノ

Source Source

อยากอ่านบทความการตลาดเพิ่มเติม ลองเลือกอ่านบทความด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ

กลยุทธ์ Facebook Ads 2024 สร้างยอดขายเพิ่มขึ้นด้วย Reel

สรุป 7 Digital Consumer Insights 2024 จาก Facebook หรือ META

Mywmint

มิวมิ้น เรียก มิ้น ก็ได้ค่ะ ● ⋏ ● เป็น Junior Marketing Content Creator ของการตลาดวันละตอนค่ะ รับบท Marketer ฝึกหัด ٩(◕‿◕)۶ ตั้งใจสรรสร้างทุกบทความ หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์ และ ชอบนะคะ ขอฝากเนื้อฝากตัวไว้ด้วยฮะ ʕっ•ᴥ•ʔっ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *