แชร์ 4 ทริค วิธีสร้าง Online Community สำหรับธุรกิจ
แชร์ 4 ทริค วิธีสร้าง Online Community สำหรับธุรกิจ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้คนเราใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือกันหลายชั่วโมงต่อวัน บางทีตั้งแต่ลืมตาตื่นนอนก็จับมือถือแล้ว คนเราต้องการความใกล้ชิดและการสื่อสารเชื่อมต่อปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันอยู่เสมอ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการความเป็นส่วนตัวด้วย แม้จะในโลกออนไลน์ก็ตาม
ยิ่งกับคนรุ่นใหม่ที่มีความต้องการและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ดังนั้นการที่แบรนด์จะเข้าถึงกลุ่มคนบนโซเชียล ก็ควรทำความเข้าใจทั้งลักษณะของการใช้พื้นที่บนสื่อออนไลน์ และพฤติกรรมของคนที่ต้องการการโต้ตอบระหว่างกัน และวันนี้จะพาทุกคนมาดูกันว่าทำไมแบรนด์ถึงควรสร้าง Online Community สำหรับแบรนด์ของตนเอง การสร้างชุมชนของเรามีข้อดียังไง และมีทริคยังไงบ้าง ตามมาดูกันเลยค่า
3 Benefits ของการสร้าง Online Community
Online Community เป็นพื้นที่สำหรับการสนทนา แลกเปลี่ยนคำแนะนำ และสร้างความสัมพันธ์ และเรียกได้ว่าช่วยอำนวยความสะดวกในการมารวมตัวกันระหว่างผู้คนที่มีความสนใจร่วมกัน
It puts your brand at the center
หากเราใช้เวลากับการส่งเสริมและพัฒนา Community ของแบรนด์ Community ของเราก็จะกลายเป็นศูนย์กลางแหล่งข้อมูลสำหรับลูกค้าของเรา เป็นที่ที่ลูกค้าของเรารู้สึกมีค่า มีส่วนร่วม เหมือนกับว่าเวลาเขาอยากจะพูดอะไรแล้วมีคนรับฟังและมีคนได้ยินเสียงของพวกเขา
It provides you with endless insights
ในบางครั้งแบรนด์ต่าง ๆ ยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อให้ได้ Insight มา แต่ถ้าเราสร้าง Online Community ของแบรนด์เรา ก็จะสามารถรู้ Insight ได้จากการเคลื่อนไหวของลูกค้าในนี้ เพราะผู้คนมักจะพูดคุยเกี่ยวกับพฤติกรรม ความต้องการ ความสนใจของตน
และบางครั้งข้อมูลที่ได้ก็ถือได้ว่าเป็นความรู้ที่ประเมินค่าไม่ได้ ทำให้เราสามารถนำมาพัฒนาสินค้าและบริการของเราต่อไปได้ เช่น ธุรกิจหรืออุตสาหกรรมของเราจะสามารถทำอะไรให้ดีกว่าเดิมได้บ้าง? สินค้าของเราต้องปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาอะไรบ้างจากการสิ่งที่ได้ฟังคนพูดกัน? บอกเลยว่าข้อมูลเชิงลึกทั้งหลายอาจอยู่แค่ที่ปลายนิ้วนี่เอง
It creates free promotion, retention, and loyalty
อย่างที่เราทราบกันดีว่า การตลาดแบบปากต่อปากเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดที่มีค่าที่สุด และบางทีก็ยากที่จะสร้างขึ้นมาภายใน Community ที่เราสร้างขึ้นมาเอง
แต่การที่เรามี Online Community ที่ดีและแข็งแกร่ง ซึ่งใน Community ก็จะมีแฟน ๆ มากกว่าแค่สองสามคนแน่นอน และพอเป็น ‘กลุ่มแฟน ๆ’ เหมือนแฟนด้อม พวกเขาจะพูดคุยกันเกี่ยวกับความสนใจที่มีร่วมกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความกระตือรือร้นของคนได้มากกว่าเดิม
และหาก Community ของเรามีการจัดการที่ดี ก็จะสร้างแง่บวกต่อแบรนด์ของเรา ทำให้ผู้ติดตามมีแนวโน้มที่จะกระจายข่าวออกไปไกลกว่าแค่ใน Community นั่นเอง และเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่อยู่กับแบรนด์เราเพราะชอบสินค้าหรือบริการ แต่สามารถนำสู่ Customer Loyalty ในระยะยาวได้
4 Tips and tricks สร้าง Online Community ที่ดี
Find your niche
ทุกคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความชอบ ความคิด และความคิดเห็นเป็นของตนเอง เหตุผลที่ Online Community หรือออฟไลน์ก็ตาม มีพลังได้ ก็เพราะมันเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่ช่วยให้รู้สึกมีค่าในฐานะมนุษย์ คนเราต้องการความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัว แต่ก็อยากรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับผู้อื่นไปพร้อมกัน ไม่อยากรู้สึกโดดเดี่ยว
ดังนั้นเราควรหาเรื่องที่เฉพาะเจาะจงให้เจอ ว่าเราต้องการจะสร้าง Online Community เพื่อวัตถุประสงค์อะไร? เพื่อคนกลุ่มไหน? เพื่อให้คนที่เข้ามาร่วมใน Community นี้รู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และเจอคนที่มีความชอบเหมือนตัวเอง ค่อย ๆ ค้นหาดูว่าอะไรที่เป็นประโยชน์หรือสอดคล้องกับบุคลิกภาพลักษณ์ของแบรนด์ แนวคิดหรือกิจกรรมอะไรที่คนจะสามารถเปิดใจแบ่งปันความคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้อย่างเต็มที่บ้าง
เช่น กลุ่ม Facebook ที่เปิดมาเฉพาะเกี่ยวกับตลาดคนรักกล้องฟิล์ม ซึ่งก็จะมีคนมาลงขายกล้องฟิล์มด้วย หรือขอคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้กล้องนั่นเอง ทำให้คนในกลุ่มได้ทั้งสินค้าและความรู้ดี ๆ กลับไป (ผู้เขียนเองก็เคยซื้อกล้องฟิล์มมือสองจากกลุ่มคอมมูนิตี้คนรักกล้องฟิล์มเช่นกันค่า สภาพดีเหมือนใหม่มาก แถมให้คำแนะนำดีด้วยค่า)
Adding value
วิธีที่ดีที่สุดในการเข้าให้ถึงความชื่นชอบของผู้คนใน Community ของเรา คือการสนับสนุนเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวข้องและมีคุณค่าเท่านั้น อย่างก่อนโพสต์แสดงความคิดเห็นหรือสนับสนุนเนื้อหาอะไร ให้ถามตัวเองว่าสิ่งนี้ให้อะไรแก่ Community ของเราบ้าง หรือมันจะให้คุณค่ากับผู้คนในทางไหนบ้าง คนใน Community ถึงจะรู้สึกปลอดภัยและได้รับการคุ้มครอง สบายใจในการอยู่ใน Community
อย่างกลุ่ม Facebook ก่อนให้คนเข้ากลุ่มก็ควรจะมีการตั้งกฎให้รับทราบและปฏิบัติตามทั่วกัน เช่น ห้ามโพสต์สร้างความแตกแยก ห้ามประกาศขายสิ่งผิดกฎหมาย ห้ามแชร์เพจที่ไม่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
Create consistency
Community ที่ประสบความสำเร็จและมีความแข็งแกร่ง หรือได้รับความนิยม บางทีอาจจะเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ แต่ขยับขยายจนมีผู้ติดตามเป็นหมื่นเป็นแสนคนเลยก็ได้ ซึ่งหนึ่งในเคล็ดลับ คงไม่ใช่แค่ข้อมูลดี ใช้รูปภาพสวย แต่ความเป็นจริงมันอาจจะเรียบง่ายแค่มีแจ้งเตือนเข้ามาให้คนได้รับรู้ในทุกเช้า แต่สะท้อนถึงการสร้างความสม่ำเสมอที่สะดวกสบายที่สมาชิกสามารถตั้งตารอในทุก ๆ วันได้
Facilitate, don’t control
คงไม่มีใครอยากอยู่ในสังคมที่ถ้าอยากจะเสนอไอเดียหรือแสดงความคิดเห็นที ก็มีคนมาคอยคุมคอยจับผิดหรือตัดสินว่าสิ่งที่เราพูดมันไม่มีคุณค่า ดังนั้นบนโลกออนไลน์ก็เช่นกัน อย่าเป็น Community ที่คอยบงการควบคุมจนเห็นได้ชัด
เพราะสมาชิกใน Community ควรรู้สึกสบายใจที่จะแสดงความคิดเห็นและความคิดโดยไม่ต้องกลัวหรือกังวล ส่วนในเรื่องของข้อควรปฏิบัติต่าง ๆ สำหรับสมาชิก เราก็ยังคงเป็นผู้แนะนำแนวทางให้กับ Community ในฐานะผู้ช่วยอำนวยความสะดวก เช่น เปิดใจรับข้อเสนอแนะ เป็นต้น ไม่ใช่คอยจับผิดหรือควบคุมจนเกินไป เพราะสมาชิกใน Community ของเรามีคุณค่า และสมควรได้รับการเคารพและรับฟัง
เช่น LINE Openchat เป็น Online Community ที่ไม่ระบุตัวตนว่าสมาชิกในกลุ่มเป็นใคร รูปร่างหน้าตาแบบไหน เป็นเหมือนการสร้างความสัมพันธ์กับคนในสังคมที่มีความชอบเหมือนกัน ในขณะเดียวกันก็ยังมีความเป็นส่วนตัวอยู่ ทำให้คนกล้าที่จะพูดคุยอย่างสบายใจ ไม่กลัวที่จะถูกตัดสินนั่นเอง
และทั้งหมดนี้ก็คือ Benefits และ Tips and tricks สำหรับ วิธีสร้าง Online Community ที่ดีสำหรับธุรกิจ ให้สมาชิกทุกคนรู้สึก Comfort แสดงความคิดเห็น พูดคุยแนะนำกันในพื้นที่นี้อย่างรู้สึกปลอดภัย หวังว่าทุกคนจะสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดกับธุรกิจของตัวเองกันได้นะคะ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่าาา
ทุกคนสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram TwitterYoutube และ Blockdit ได้เลยค่า
