วิธีทำ Instagram Influencer Marketing ให้เวิร์ก ดีลแล้วไม่เสียเวลา

วิธีทำ Instagram Influencer Marketing ให้เวิร์ก ดีลแล้วไม่เสียเวลา

ดีลงาน Instagram Influencer Marketing ยังไงไม่ให้เสียเวลา!

อย่างที่เราทราบกันดีว่าในวันนี้ไม่ใช่แค่ฝั่งเอเจนซี่ ที่ต้องตื่นตัวเรื่องการใช้อินฟลูฯ  แต่แบรนด์เองได้มีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นมาดูแลงานจ้างอินฟลูเองกันอย่างแพร่หลายซักพักแล้ว นั่นคือตำแหน่งที่เกี่ยวกับ Influencer marketing ที่มีบทบาทสำคัญตามการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับแพลตฟอร์มและคอนเทนต์ใหม่ ๆ นั่นเองค่ะ

นักการตลาดอาจจะเบื่อกับกลยุทธ์การใช้ Influencer แต่ปฎิเสธไม่ได้เลยนะคะว่าเป็นส่วนสำคัญของการทำการตลาดมานานและยังไม่มีทีท่าว่าจะดรอปลง เพียงแต่ปรับคอนเทนต์ให้เป็นไปตามพฤติกรรมการเสพสื่อของผู้บริโภคเท่านั้นเอง 

โดยในบทความนี้เราจะเน้นมาที่แพลตฟอร์ม Instagram ที่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มเพื่อเติบโตของแบรนด์ แต่ก็ปรับใช้กับการจ้างอินฟลูฯ แพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้นะคะ 

เหตุผลหนึ่งที่ผู้เขียนอยากแชร์ในบทความนี้เป็นเพราะเพื่อน ๆ ที่ทำงานติดต่อกับอินฟลูฯ มาบ่นให้ฟังไม่ขาดสายว่าตอนนี้เทรนด์ไปเร็วมาก และมี KOL มากมายที่ไม่รู้จะเลือกใช้ยังไงดี ดีลงานกับอินฟลูหลายคนแล้วรู้สึกเสียเวลามาก ๆ ด้วยปัจจัยหลายอย่าง สไตล์ไม่ได้ ความเข้าใจไม่ตรงกัน 

จริงอยู่ที่วิธีการแก้ง่าย ๆ คือการสื่อสารและบรีฟงานให้ดี แต่ผู้เขียนจะมาช่วยลิสต์ให้ว่ามีวิธีที่จะสื่อสารยังไง เพื่อให้รัดกุมในการดีลงานระหว่างแบรนด์กับอินฟลูค่ะ 

อันดับแรก ต้องหาคนที่ใช่มาร่วมงานด้วยก่อน

การที่คุณจะรู้ว่าใครเหมาะกับเรา แบรนด์เองก็ต้องมีภาพที่ชัดเจน รวมทั้ง Goal ที่ช่วยให้การเลือกหาอินฟลูได้ตรงเป้ามากที่สุดนะคะ กำลังจะทำแคมเปญอะไร ภาพลักษณ์ที่อยากสื่อถึงกลุ่มเป้าหมาย อยากให้อินฟลูมาช่วยในแง่ไหน กระตุ้นยอดขาย? สร้างการรับรู้? โปรโมตกิจกรรม?

หลังจากนั่นจึงมาเริ่มหา Influencer ที่ดีและเหมาะกับแบรนด์ก็เปรียบเป็น best partnerships ลองดูตามลิสต์นี้เพื่อใช้เช็คว่า นี่คือคนที่ใช่สำหรับแบรนด์คุณไหม?

บทความนี้อาจจะไม่ได้แนะนำ Tools ที่มีให้เลือกใช้สำหรับหาอินฟลูมากมายนัก จะเน้นลิสต์ให้ทุกคนลองทำตามเบื้องต้นก่อนนะคะ

Instagram Influencer Marketing
photo : later.com
  • Monitor Influencers & Creators ที่มักพูดถึงแบรนด์เรา ข้อนี้จะทำให้เราได้ลิสต์คนที่อินกับความเป็นเรา ยิ่งถ้ารู้ว่าพูดถึงแล้ว Follower ของเค้ามีฟีดแบ็กอย่างไรก็จะยิ่งดีค่ะ
  • ใครคือคนที่ Target Audience ของเราชอบและพูดถึง
  • เช็ค Influencer & Creator’s Key Performance Metrics บนไอจีตอนนี้มีฟีเจอร์ซ่อนไลค์และคอมเมนต์ซึ่งอาจทำให้เราเห็นเอนเกจได้ไม่ทั้งหมด เพราะฉะนั้นให้ลองเช็กจากโพสต์อื่น ๆ ที่เปิดไว้ แล้วดูว่าคนไลค์คนคอมเมนต์เป็นใคร คนจริง ๆ หรือบอทเอ่ย~

ซึ่งเครื่องมือที่แนะนำคือ Social Listening แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ตามก็ได้เพราะมีตัวเลือกอื่น ๆ อีกมากเลยน้า และใน Instagram แนะนำให้เช็คจาก #hashtag และช่อง Tag post เราจะเห็นแอคเคาท์ที่เคยพูดถึงเราค่ะ

7 Highlight Checklist ที่ต้องคุยก่อนตกลงดีล

Contact Details ที่ต้องพิจารณาให้ดีก่อนดีล ทั้งฝั่งผู้จ้างและผู้ถูกจ้าง ให้เวลากับจุดนี้หน่อยจะช่วยลดปัญหาและความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ระหว่างแคมเปญค่ะ

  1. Payment: ค่าจ้างเท่าไร รวมถึงระยะเวลาการออกบิล หรือจะมีสิ่งจูงใจอื่น ๆ นอกเหนือจากเงินสดไหม เช่น ผลิตภัณฑ์ฟรี เป็นต้นค่ะ

เมื่อพูดถึงค่าตัวก็ต้องเกิดกระบวนการ Negotiate Budget อย่างครอบคลุมค่ะ ราคายังไง โพสต์แบบไหนชาร์จเพิ่มเท่าไหร่ นี่คือสิ่งที่เราต้องใช้พิจารณาเบื้องต้นค่ะ

  • ขึ้นอยู่กับ influencer’s reach and engagement: เอนเกจสูงก็ราคาสูงตาม แต่ต้องเช็คด้วยว่าเอนเกจมากจากยูสเซอร์ที่เข้าข่ายกลุ่มเป้าหมายของเราจริง ๆ
  • ขึ้นอยู่กับประเภทคอนเทนต์เพราะ Instagram Reel or carousel อาจมีราคาสูงกว่าการโพสต์แบบภาพปกติค่ะ
  • ขึ้นอยู่ resources ที่ใช้ในการสร้างคอนเทนต์ เค้าต้องเขียนสคริปต์เองไหม มีค่าโปรดักชันอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า
  • ขึ้นอยู่กับจำนวนโพสต์ และความถี่
  • ขึ้นอยู่กับ Usage rights สิทธิ์ในการใช้คอนเทนต์ ข้อนี้สำคัญมาก แม้เราจะจ้างเค้าผลิตคอนเทนต์ให้ก็ต้องตกลงว่านำมาใช้ซ้ำหรือนำมาใช้งานต่อได้หรือเปล่า ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกค่ะ

2. Briefing materials: บรีฟที่ดีแบรนด์ต้องเตรียมจุดประสงค์และเป้าหมาย สิ่งที่ Do / Don’t รวมทั้งเตรียมคำถามที่พบบ่อย ปูข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์และยผลิตภัณฑ์ เพื่อให้อินฟลูนำไปตีโจทย์ต่อได้เร็วขึ้น

3. Deadlines: ระบุให้ชัดเจนว่าต้องส่งมอบคอนเทนต์ หรือโพสต์วันไหน ถ้าจะให้รัดกุมคือเพิ่มเงื่อนไขการเลทงานค่ะ เลทกี่วันต้องชดเชยค่าเสียหายเท่าไหร่ยังไง หรือต้องแจ้งล่วงหน้าว่าจะเลทอย่างน้อยกี่วัน

4. Condition การโพสต์ : ระยะเวลาแคมเปญ ทางอินฟลูจะมีการลบโพสต์หรือเปล่า

5. สิทธิ์การใช้งาน: อย่างที่กล่าวไปว่า Usage rights สิทธิ์ในการใช้คอนเทนต์ ข้อนี้สำคัญมาก อย่างเช่นถ้าหากเราต้องการนำมาโพสต์ซ้ำในแพลตฟอร์มอื่นหรือรีโพสต์ในแอคเคาท์แบรนด์ต้องมีการตกลงกันก่อนนะคะ

6. Sensitive clause: อินฟลูสามารถรับงานจากแบรนด์คู่แข่งในระยะเวลาที่ Collaboration กับเราได้ไหม ข้อนี้เป็นมารยาทพื้นฐานจากฝั่งอินฟลูเองที่จะไม่ควรโพสต์แบรนด์คู่แข่งในเวลาติดกันก็จริง แต่ในแต่ความรัดกุมหากเป็นแคมเปญที่ซีเรียสมาก ๆ ก็ควรคุยใก้ชัดเจนนะคะ

7. Cancellation clause: การยกเลิกดีลอาจเกิดขึ้นได้จากทั้งสองฝั่งค่ะ เช่นแบรนด์ไม่ได้มีการสานต่อแคมเปญแล้ว หรือเปลี่ยนทิศทางการสื่อสาร หรือฝั่งอินฟลูที่เกิดเคสที่ไม่สามารถทำตามที่ดีลได้ ต้องมีข้อตกลงเมื่อต้องยกเลิกดีลในระยะเวลากี่วันก่อนเริ่มงานจะดีที่สุดค่ะ

ปิดท้ายด้วยไอเดีย Collaborate x Instagram Influencer เพื่อ Brand Growth

จีบอินฟลูที่ใช่ด้วย Product Gifting

ตัวอย่างจาก Netflix ที่ต้องการโปรโมตหนังเรื่อง มัธยามซอมบี้ เลยจัดส่งของไปให้กับ KOL บน IG ที่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาด

ซึ่งผู้เขียนมองว่าการให้ของีหลายแบบ จะให้เป็นสินค้า การ์ด ดอกไม้ ก็อาจจะดูธรรมดาไป แต่สิ่งที่ช่วยอินฟลูเหล่านั้เรียก Reaction จากผู้ติดตามได้ด้วยคือของจะต้องน่าสนใจ และสื่อสารได้ตรงประเด็น ในตัวอย่างคือส่งเป็นของที่อยู่ในเรื่องเพื่อให้เกิดอารมณ์ร่วม ในคอมเมนต์ก็มีพูดถึงชุดนักเรียนด้วยค่ะ

นอกจากตัวอย่างนี้แล้ว สานต่อให้เกิด Longevity and Relationship Building ก็สำคัญเช่นกัน จริงอยู่ที่การ Collaboration ครั้งนึงจะสร้างอิมแพ็คได้ตามเป้าแล้ว แต่การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้มีอิทธิพลสร้างประโยชน์ที่ยั่งยืนได้เช่นกัน เพราะเมื่อเค้าอินกับความเป็นแบรนด์อย่างแท้จริง เค้าจะสามารถสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ดีนั่นเองค่ะ

อ่านบทความ ทริค Influencer Gifting กลยุทธ์ ที่ทำให้แบรนด์โดดเด่นและได้ใจอินฟลูฯ ต่อ

Co-create Authentic Content

จริงใจเข้าไว้ค่ะ เพราะผู้บริโภคยุคใหม่เค้ามองจากปากซอยก็รู้เลยว่า อ่อออออ โพสต์นี้แบรนด์จ้างชัวร์ แบบนี้เราก็ต้องลองการคอลแลปให้สมจริงมากขึ้น ถ้าไม่เคยใช้ก็ให้เค้าพูดเลยว่าไม่เคยใช้ และใช้ให้ดู หรือให้เวลาในการสร้างคอนเทนต์ สตอรี่แบบเฉพาะตัว และประสบการณ์ที่แท้จริงก่อนก็ได้เช่นกันค่ะ ลองดูนะคะ

โดยสรุปแล้ว Instagram Influencer Marketing เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการตลาดยุคใหม่อย่างปฎเสธไม่ได้ และไม่ใช่เอเจนซี่เท่านั้น แบรนด์เองก็หาคนที่จะสามารถทำตำแหน่งดีลงานกับอินฟลูได้โดยตรงแล้วค่ะ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของมันไม่ใช่แค่ในการเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเท่านั้น แต่ยังอยู่ในความสอดคล้องของแคมเปญเราด้วย และอย่าลืมการประเมินผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง บทความนี้จึงสรุปรวมวิธีการการหาคนที่ใช่มาร่วมงาน Checklist ที่ต้องคุยก่อนตกลงดีล ไปจนถึง ไอเดีย Collaborate กับอินฟลูเพื่อ Brand Growth

ลองนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับแบรนด์ของตัวเอง เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้มั่นใจว่าการทำ IG Influencer Marketing จะได้ประสิทธิภาพสูงสุดกับคุณค่ะ

แนะนำหนังสือที่เกี่ยวข้อง

source source

Noon Inch

นุ่น Business Data Research Analyst Specialist | Martech 🙋🏻‍♀️💻ใช้ชีวิตอยู่กับ Social Listening Tools เกือบทุกวันมาร่วม 6 ปี 🙋🏻‍♀️📈ทำงานด้าน Social Data Research ให้กับหน่วยงานรัฐและแบรนด์เอกชน 6 ปี 🙋🏻‍♀️✈️ชอบทำงานและชอบใช้เงิน แล้วก็เป็น K-POP🇰🇷 & Salmon Lover 🍣

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *