Personal Brand คืออะไร? พร้อมแนะนำ 4 ขั้นตอนทำยังไงให้คนจดจำ

Personal Brand คืออะไร? พร้อมแนะนำ 4 ขั้นตอนทำยังไงให้คนจดจำ

สวัสดีค่านักการตลาดและนักอ่านทุกคน วันนี้อยากจะพามาดูกันว่า Personal Brand คือ อะไร? พร้อมแชร์เกี่ยวกับวิธีสร้าง Personal Brand สำหรับตัวเองกันค่ะ บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราถึงต้องมี Brand เป็นของตัวเองด้วย?

เพราะในบางครั้งบางคราวเรามีโอกาสได้เห็นคนที่จบปริญญาสูง ๆ หรือสถานที่ศึกษาชื่อดัง แต่กลับถูกปฏิเสธในการทำงาน อย่างเช่น ไม่ให้เลื่อนตำแหน่ง เป็นต้น เหตุผลคือ “เพราะไม่มีใครรู้จักคุณ”

และคงเป็นสิ่งที่เราหลายคนเคยเจอมาในช่วงต้นของการเริ่มทำงาน เพราะบางครั้งเราละเลย หรืออาจจะไม่ได้ถูกสอนมาให้เรียนรู้ในเรื่องของวิธีสร้าง Personal Brand แต่ในบทความนี้จะพาทุกคนมาดูกันว่า Personal Brand คืออะไร พร้อม 4 Steps ง่าย ๆ อ่านจบแล้วสามารถลงมือทำได้เลยค่า

Personal Brand คืออะไร แตกต่างจากการสร้างชื่อเสียงยังไง?

หลายคนอาจจะมีคำถามเกิดขึ้นในใจว่าในเมื่อเราเป็นคนเก่ง ทำไมเราถึงยังไม่ก้าวหน้า หรือยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งบ้าง แต่ในสังคมการทำงานจริง มีคนเก่งมากมายอยู่รอบตัวเรา และบางทีทุกคนก็มีความโดดเด่นเหมือน ๆ กันหมด

ดังนั้นหากเราต้องการนำเสนอ หรือออกแบบวิธีที่อยากให้คนมองเราแบบไหน อยากมีตัวตนที่ชัดเจนออกมา คือต้องทำมากกว่าการสร้างชื่อเสียงที่ดี แต่ต้องมี Personal Brand ที่ชัดเจนต่างหาก

อย่างชื่อเสียงของเรานั้นมาจากความคิดเห็นและความเชื่อที่คนอื่นสร้างขึ้นมา จากการดูการกระทำหรือพฤติกรรมของเราโดยรวมเอาเอง 

แต่ในทางกลับกัน Personal Brand คือ พูดง่าย ๆ มันมีเจตนามากกว่านั้น มันเป็นวิธีการที่เราสามารถออกแบบได้ว่าต้องการให้คนอื่นเห็นเรายังไง เรามีอำนาจในการกำหนดแบรนด์ของตัวเอง

โดยความตั้งใจของเราว่าอยากให้คนมองเราแบบไหนเนี่ย ต้องสอดคล้องกับการกระทำที่เราแสดงออกไปด้วยนะคะ ซึ่งก็จะมีอิทธิพลต่อความคิดที่คนอื่นจะมองเรา

เอาล่ะค่ะในเมื่อตอนนี้เรารู้แล้วว่า Personal Brand คืออะไร ต่อไปจะพามาดูกันว่าแล้วมี วิธีสร้าง Personal Brand อะไรบ้าง และเราจะสามารถเริ่มสร้างแบรนด์ของตัวเองได้ยังไงค่า

วิธีสร้าง Personal Branding ใน 4 Steps ง่าย ๆ 

Step 1: Figure out what drives you ต้องรู้ก่อนว่าเราต้องการอะไร

เมื่อเรารู้แล้วว่า Personal Brand คือ อะไร มาดูวิธีการสร้าง Personal Brand ในขั้นตอนแรกกันค่ะ เราควรเริ่มต้นด้วยการถามตัวเองก่อน เช่น

  • อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและไปทำงาน 
  • ทักษะหรือความสามารถไหนที่ภูมิใจมากที่สุด
  • งานประเภทไหนที่ทำให้รู้สึกมีกำลังใจจะทำ
  • วิชาไหนที่ทำให้สนใจได้มากที่สุด
  • 10 ปีต่อจากนี้ อยากมีส่วนช่วยอะไรให้กับโลกบ้าง
  • มีอะไรที่เหมือนกันกับคนที่เราชื่นชมมากที่สุด

คำถามเหล่านี้จะสามารถช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น รู้ว่ามีมุมมอง มีความเชื่อแบบไหน หลงใหลกับเรื่องอะไรเป็นพิเศษ หรือทำให้รู้เป้าหมายบางอย่างที่เรากำลังอยากที่จะสร้างมันขึ้นมาอยู่ในตอนนี้

ตัวอย่างเช่น บางทีอาจจะได้ค้นพบว่าเราเก่งในเรื่องการจัดการความขัดแย้งนะเนี่ย ชอบระดมความคิดใหม่ ๆ หรือสนุกกับการซัพพอร์ตคนอื่น เป็นต้น

ซึ่งการที่เรารู้จักตัวเอง สามารถตอบตัวเองได้ว่าต้องการเป็นแบบไหน จะช่วยให้เราสามารถควบคุมทักษะหรือความสามารถที่มีอยู่ เพื่อแสดงพฤติกรรมออกไป(อย่างจงใจ)ในเวย์ที่แสดงถึงจุดแข็งหรือความมีแพชชั่นจนคนอื่นสัมผัสได้อย่างชัดเจน ทำให้ Personal Brand ของเราโดดเด่ดชัดเจนขึ้น

Step 2: Align your values to the organization’s goals ปรับจุดแข็งให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร

แน่นอนว่าหากเราอาศัยอยู่ในองค์กร อาจจะไม่ได้สามารถเป็นตัวเองได้เกินร้อย หากต้องการเติบโตในบทบาทที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน สิ่งสำคัญคือเราต้องหาวิธีเชื่อมโยง Personal Brand ของเราเข้ากับเป้าหมายขององค์กรด้วย

เริ่มต้นด้วยการมองหาคนที่ประสบความสำเร็จและน่าชื่นชมที่อยู่ภายในบริษัทของเราก่อนก็ได้ค่ะ สังเกตพฤติกรรมและลักษณะนิสัยที่เขาแสดงออกมาอย่างสม่ำเสมอ เช่น ดูว่าจุดแข็งของเขาคืออะไร พฤติกรรมของเขาช่วยให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้าได้ยังไงบ้าง

และให้ย้อนกลับไปที่ขั้นตอนที่หนึ่ง ลองพิจารณาดูถึงเป้าหมายและคุณค่าที่เราตอบตัวเองเอาไว้ ลองดูว่าเราเห็นความสอดคล้องระหว่าง ทักษะที่เรามีในปัจจุบัน กับ สิ่งที่องค์กรต้องการ หรือไม่ 

ถ้าคำตอบคือใช่ ให้ไปเน้นการพัฒนาสิ่งที่สอดคล้องกันเหล่านั้นเลยค่ะ แต่ถ้ายังไม่ เราอาจต้องขยายขีดความสามารถของตัวเองเพิ่มเติมดู อย่าเพิ่งท้อใจนะคะ เพราะอย่างน้อยการสำรวจตัวเองก็ทำให้เกิดการพัฒนาได้ค่ะ

เช่น หากเรามองว่าตัวเองเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน ก็อาจตัดสินใจเลือก “ผู้สร้างนวัตกรรม” เป็น Personal Brand ของตัวเองได้

ที่สำคัญขั้นตอนต่อไปคือเราต้องทำค่ะ ลงมือทำ พัฒนา และแสดงให้คนอื่นเห็นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ถูกมองว่าเราเป็นผู้ริเริ่มนั่นเอง

สรุปง่าย ๆ ประเด็นของ Step ที่ 2 นี้คือ การปรับสิ่งที่เราหลงใหลหรือจุดแข็งของเรา ให้สอดคล้องกับเป้าหมายหรือค่านิยมหลักขององค์กร และใช้ความหลงใหลนั้นขับเคลื่อนการเติบโตในสายอาชีพและพัฒนา Personal Brand ของตัวเองต่อไป

Step 3: Map your stakeholders หาคอนเนคชันในองค์กร

วิธีสร้าง Personal Brand ในขั้นตอนต่อมาคือแน่นอนว่าในโลกธุรกิจ เราอาจไม่สามารถประสบความสำเร็จได้หากไม่มีใครรับรู้สิ่งที่กำลังทำอยู่

ดังนั้นถ้าหากต้องการให้คนในองค์กรมองเห็นเรามากขึ้น ให้ลองวิเคราะห์ว่าใครเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียบ้าง ใครเป็นผู้ที่มีอิทธิพลในองค์กรหรือโปรเจคนั้น ๆ ที่กำลังทำอยู่ แล้วจึงค่อยวางแผนในการหาทางเชื่อมโยงคอนเนคชันกับพวกเขา

อาจจะไม่มีวิธีที่ถูกต้องซะทีเดียวค่า แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจและวางแผนเอาไว้ก่อนว่าเราต้องการเข้าถึงใครและเพราะอะไร อาจจะเป็นคนทั่วไปในองค์กรที่เราอยากทำความรู้จักเอาไว้ หรือเป็นคนที่สามารถช่วยให้เราก้าวหน้าในองค์กรได้

ซึ่งบางครั้งหากเราทำงานดี ทำงานสำเร็จ เราก็จะมีโอกาสในการเข้าถึงคนเก่ง ๆ แล้วเรียนรู้เพิ่มเติมจากเขาได้ไปเองตามธรรมชาติ

และเราสามารถใช้ความรู้ที่มี เพื่อวางตำแหน่ง Personal Brand ของตัวเองได้ว่า เราเองก็เป็นคนที่สามารถเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตของคนอื่นได้นะ หรือเป็นคนที่สามารถสร้าง Impact ให้กับองค์กรได้เหมือนกัน

Step 4: Make yourself visible มีตัวตน กล้าที่จะช่วยเหลือและแนะนำอย่างจริงใจ

หากเห็นคนอื่นในองค์กรมีปัญหา เราสามารถแสดงตัวตนช่วยเหลือ แนะนำ กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นได้ กุญแจสําคัญคือต้องแสดงความสนใจอย่างจริงใจด้วยค่ะ คนถึงจะรับรู้ได้ว่าเราใส่ใจในสิ่งที่พวกเขากังวลหรือปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ 

ซึ่งการแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเราเป็นยังไง เราสามารถช่วยเหลือและเป็นประโยชน์กับคนอื่นได้ และทำอะไรให้องค์กรดีขึ้นได้บ้าง ก็เป็นโอกาสที่ดีในการแสดง Personal Brand ของเราให้โดดเด่นออกมาชัดเจน

ซึ่งก็จะช่วยให้สามารถเน้นย้ำจุดแข็งของตัวเราเอง ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยเหลือคนอื่นแก้ไขปัญหาได้ด้วย โดยที่คนอื่นจะไม่รู้สึกว่าที่เราทำไปเพราะสนใจแค่ความก้าวหน้าของตัวเองเท่านั้น

สรุป 4 วิธีการสร้าง Personal Brand ยังไงให้คนจดจำ

เป็นยังไงบ้างคะสำหรับบทความนี้เราก็ได้รู้จักกันแล้วว่า Personal Brand คือ อะไร และ วิธีสร้าง Personal Brand ง่าย ๆ ใน 4 ขั้นตอน สรุปสั้น ๆ อีกครั้งว่า 4 Steps ของเรามีอะไรกันบ้าง

  • Step 1: Figure out what drives you ต้องรู้ก่อนว่าเราต้องการอะไร
  • Step 2: Align your values to the organization’s goals ปรับจุดแข็งให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร
  • Step 3: Map your stakeholders หาคอนเนคชันในองค์กร
  • Step 4: Make yourself visible มีตัวตน กล้าที่จะช่วยเหลือและแนะนำอย่างจริงใจ

ดูแล้วอาจเหมือนจะเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ แต่ความจริงแล้วการสร้าง Personal Branding คือวิธีที่เรากําหนดคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แล้วนํามาใช้ในอาชีพหน้าที่การงาน ให้มีศักยภาพในการทำงานได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้นนั่นเอง 

เพราะการที่เราสามารถแสดง Personal Brand ของตัวเองออกมาได้อย่างชัดเจน จะช่วยให้คนอื่นเข้าใจว่าเราเป็นใคร มีตัวตนยังไง ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและแท้จริงมากกว่าเดิม และทำงานจนบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้ค่า

และทุกคนสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram TwitterYoutube และ Blockdit ได้เลยค่า

Source

บทความเกี่ยวกับ Personal Branding ที่แนะนำให้อ่านต่อ

Fern Panassaya

เฟิร์น Junior Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *