เรียนรู้ 5 วิธี สร้าง Personal Branding ให้แข็งแกร่ง จาก Apple
Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon เคยกล่าวแบบติดตลกไว้ว่าการ สร้าง Personal Branding คือ สิ่งที่ผู้คนพูดถึงเราเมื่อเราไม่อยู่ในห้อง ซึ่งเป็นความคิดที่น่าสนใจ ยิ่งในยุคที่อิทธิพลในโลกออนไลน์มีส่วนสำคัญ การสร้างแบรนด์ในยุคที่มีคู่แข่งเยอะ เราต้องออกแบบวิธีว่าอยากให้โลกมองเห็นเรายังไง
และการจะสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ความจริงใจคือกุญแจสำคัญ ให้สะท้อนตัวตนที่แท้จริงว่าเราคือใคร เก่งอะไร และต้องการนำเสนออะไรลงไปในความเป็นแบรนด์
ในบทความนี้จะมาแชร์ 5 ทริคสำหรับการสร้าง Personal Branding และตัวอย่าง Case Study จาก APPLE แบรนด์ดังระดับโลกกันนนน
1. Decide how you want to be seen อยากให้คนมองเรายังไง
การสร้าง Personal Branding ให้แข็งแกร่งและมีความจริงใจ ก่อนอื่นเราต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าต้องการให้คนอื่นมองเรายังไง
เหมือนเวลาเราอยู่กับเพื่อน อาจจะเป็นคนสบาย ๆ และผ่อนคลาย การแต่งตัว เสื้อผ้า การใช้ภาษา กิริยาท่าทางของเราก็สะท้อนถึงสิ่งนั้น หรือตอนที่เราต้องการถูกมองว่าเป็นมืออาชีพมากขึ้น ก็จะแต่งกายด้วยชุดที่เป็นทางการมากขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะและน่าเชื่อถือมากขึ้น
อย่าง Apple เองทุกคนน่าจะเห็นกันจนเป็นภาพจำติดตาได้เสมอว่า Steve Jobs จะสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผ่านการสื่อสารด้วยเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเช่นกัน คือ กางเกงยีนส์กับเสื้อคอเต่า สื่อถึงความเรียบง่าย
สร้าง Personal Branding อาจไม่ได้หมายถึงพยายามสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้กับตัวเอง แต่แก่นของมันคือการฝึกหาและเน้นย้ำจุดแข็งที่แท้จริงที่ตัวเรามีต่างหาก ไม่ใช่สร้างจุดแข็งที่ไม่มีอยู่จริง
ดังนั้นก่อนจะไปถึงขั้นอื่น ๆ ขั้นแรกเริ่มต้นด้วยการถามคำถามที่ชัดเจนกับตัวเองก่อน เช่น
- สิ่งที่แบรนด์จะนำเสนอหลัก ๆ ให้กับผู้บริโภคคืออะไร?
- อะไรทำให้เรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว? ไม่ซ้ำกับใคร
- จุดแข็งของแบรนด์เราคืออะไร?
- เรามีสไตล์ที่แตกต่างจากคนอื่นหรือไม่?
การรู้คำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ ก็จะทำให้ต่อยอดไปสู่การสร้างกลยุทธ์ในการสื่อสาร และทำให้สร้างความสัมพันธ์กับผู้คนได้ง่ายขึ้น
2. Amplify what you offer ถ่ายทอดตัวตนออกไปอย่างจริงใจ
หากเราคาดหวังที่จะเชื่อมต่อกับผู้บริโภค เราเองก็จะต้องเข้าถึงคุณค่าที่เราอยากจะนำเสนอให้ได้มากที่สุด อินให้สุดก่อน และคิดดูว่าสิ่งที่เราจะให้กับผู้คน จะช่วยแก้ปัญหาอะไรให้พวกเขาได้บ้าง?
สร้าง Personal Branding โดยมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่ทำแล้วมีความสุขจริง ๆ หรือเป็นสิ่งที่ถนัดจริง ไม่เสแสร้ง สมมติเราอาจจะเก่งเป็นพิเศษในเรื่องการทำคลิปสั้น เป็นต้น ดังนั้นเราก็สามารถสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองในเรื่องนี้ได้ คือวางตำแหน่งตัวเองในฐานะผู้เชี่ยวชาญในสิ่งนั้น รวมถึงให้คำแนะนำให้คนอื่นว่าสามารถนำไปต่อยอดได้ยังไงบ้าง
เวลาที่คนเห็นตัวตนที่จริงใจ ความมีเสน่ห์นั้นจะดึงดูดผู้คนเข้ามาหาเราเอง ดังนั้นจงพยายามแผ่สิ่งเหล่านั้นออกไป ใส่ความรู้ ใส่ประสบการณ์ส่วนตัว ใส่ความหลงใหลลงไปในสิ่งที่เราจะสื่อ จะทำให้ไม่มีใครเทียบเราได้
อย่าง Steve Jobs เองก็เรียกได้ว่าเป็นกูรูด้านเทคโนโลยี และได้นำความเชี่ยวชาญนั้นมาใช้กับการทำงาน จึงได้กำเนิดออกมาเป็นแบรนด์ Apple ที่ดังระดับโลกขนาดนี้ได้
3. Know your audience and your competition เข้าใจลูกค้าและคู่แข่ง
แน่นอนว่าเราต้องให้ความสำคัญด้วยว่าเรากำลังสื่อสารกับใคร หากเรากำหนดกลุ่มลูกค้าที่เหมาะสม ก็จะเป็นคนประเภทที่สนใจสิ่งที่เราเป็นเราจริง ลองติดตามดูว่าพวกเขาเป็นใคร ชอบอะไร และไม่ชอบอะไร รวมถึงแบรนด์อื่น ๆ ที่พวกเขาเชื่อมโยงด้วย
ที่สำคัญอย่าลืมดูคู่แข่ง แบรนด์อื่น ๆ ที่ครองตลาดเดียวกันที่ลูกค้าเราไปซื้อ ศึกษาดูว่าแต่ละแบรนด์มีความเหมือนต่างกันอย่างไร อะไรทำให้เราแตกต่างได้บ้าง ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการค้นหาช่องว่างที่ทำให้เราโดดเด่นในตลาด
โดย Apple เอง ก็มีความแตกต่างที่โดดเด่นออกมาจากแบรนด์คู่แข่งอื่น ๆ ในตลาด เพราะวางตัวเองไว้ในภาพลักษณ์ที่มีความ Premium การดีไซน์ ซอร์ฟแวร์ เทคโนโลยีที่ล้ำนำทันสมัย มุ่งมั่นที่จะมีจุดยืนและมีภาพจำเฉพาะตัวที่ชัดเจนมากมาตลอด ทำให้สร้างความแตกต่างจากรายอื่น ๆ ได้ ทำให้เปิดตัวสินค้ากี่รอบคนก็ยังให้ความสนใจแบบล้นหลาม
4. Establish a tone of voice สื่อสารด้วยภาษาที่เหมาะสม
การสร้าง Personal Branding มีความลึกซึ้ง และควรรักษาความสอดคล้องกันในทุก ๆ องค์ประกอบที่สำคัญ ต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่าคำประเภทใดที่ทำให้ลูกค้าเข้าใจเรา โน้มน้าวใจลูกค้าได้
สำหรับในทุก ๆ ช่องทางที่เราใช้สื่อสารกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ ทวีต เว็บไซต์ หรือการสนทนาส่วนตัวกับลูกค้า ก็ควรดูให้แน่ใจว่าได้รักษา Tone of Voice ที่สะท้อนถึงตัวตนของแบรนด์ได้อย่างถูกต้องสมควรหรือไม่
อย่างแบรนด์ที่มีความเป็นทางการ ต้องการความจริงจัง ความน่าเชื่อถือ ก็คงไม่สื่อสารหรือทักทายด้วยภาษาที่ว่า เฮ้ เป็นไงบ้างจ๊ะสาวสาว หรอกใช่ไหมล่ะคะ เพราะฉะนั้นลองหาจุดที่เหมาะกับเรา หาระดับภาษา การสื่อสาร ที่สามารถสะท้อนความเป็นตัวตนของแบรนด์ออกไปได้อย่างดีที่สุด
ในส่วนของการสื่อสารในแบบฉบับ Apple แม้จะเป็นแบรนด์เทคโนโลยีสุดล้ำที่แสนจะพรีเมียม แต่ก็ยังคงความเรียบง่าย ความขี้เล่น ผู้คนรู้สึกจับต้องได้และเข้าถึงง่ายอยู่ แฝงเข้าไปในโฆษณาต่าง ๆ (อย่างคลิปในหัวข้อถัดไป)
5. Set up your online platforms มีตัวตนในโลกออนไลน์
โซเชียลมีเดียไม่ใช่เครื่องมือเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว ธุรกิจต่าง ๆ ใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ในการสร้างเครือข่าย เป็นพื้นที่โฆษณา แสดงทักษะความสามารถ และสร้างแบรนด์ของตนเองได้
เพราะฉะนั้นใช้พื้นที่ในโซเชียลที่ทุกวันนี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายให้เป็นประโยชน์ เช่น ทำคอนเทนต์ให้ความรู้ใน TikTok จนวันนึงคนอาจจะจำเราได้แม่นเลยก็ได้ค่ะ
ในส่วนของ Apple แน่นอนว่ามีตัวตนในโลกออนไลน์สุด ๆ เราเห็นโฆษณาของ Apple ผ่านหูผ่านตาตลอด อย่างเช่นคลิปนี้เป็นตัวอย่างโฆษณาของ Apple ที่สื่อสารถึงหากคุณใช้ Apple จะสามารถมั่นใจไร้กังวลได้เลยเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลด้านสุขภาพ ถือว่ามีความสร้างสรรค์ ไม่ใช่แค่โฆษณามือถือที่มาขายแต่มือถือ แต่มีการสร้างเรื่องราว เชื่อมโยงกับสถานการณ์ในชีวิตจริงเวลาคนไปตรวจสุขภาพหรือหาหมอให้คนรู้สึก Relate ได้ง่าย
ถอดบทเรียนการ สร้าง Personal Branding ฉบับ Apple
1. Commit to a Strong, Cohesive Aesthetic ยึดมั่นในเอกลักษณ์ของตัวเอง
เมื่อ iPod เครื่องแรกเปิดตัวในปี 2544 เสน่ห์อยู่ที่การออกแบบที่ใช้งานง่ายและดูทันสมัย และหลังจากนั้นของผลิตภัณฑ์ Apple ก็ยังคง Concept ต่อ ๆ ไป จนทุกคนจำได้ว่านี่คือ iPhone หรือ MacBook มีหน้าตาเป็นยังไง
นอกจากนี้ที่สำคัญ Steve Jobs ยังพัฒนาและรักษาเอกลักษณ์ของตัวเอง คือการแต่งกายกางเกงยีนส์และชุดคอเต่า สื่อถึงความเรียบง่าย มีประสิทธิภาพ ดังนั้นเมื่อเราจะสร้าง Personal Branding ให้ถามตัวเองดูว่าจะสามารถสร้างภาพที่ผู้คนจะจดจำเราได้อย่างไร ที่เชื่อมโยงกับเราได้ในทันที
2. Do Good Work ทำงานดีเกินความคาดหวัง
การพัฒนาแบรนด์ที่ดูทันสมัยและน่าดึงดูดเพียงภายนอกนั้นไม่เพียงพอ แต่ต้องทำงานที่ดีให้ตรงตามหรือเกินความคาดหวังของผู้คน
อย่างผู้ใช้ Apple ไว้วางใจผลิตภัณฑ์ Apple ก็จริง แต่เพื่อให้มั่นใจว่าความไว้วางใจนั้นจะคงอยู่ระยะยาว Apple ก็จำเป็นต้องผลิตผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อไป นี่คือหัวใจหลักของการ สร้าง Personal Branding
3. Be Ahead of Trends ก้าวนำหน้าเทรนด์
เมื่อสิบปีที่แล้ว ไม่มีใครมีคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต แต่ในปัจจุบันคือฮิตฮอตแพร่หลายมาก เพราะ Steve Jobs ไม่เคยกลัวที่จะให้บริษัทลงทุนในเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากระแสในปัจจุบัน
และเมื่อใดก็ตามที่ผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อม เขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญในการจัดงานเปิดตัวที่มีชื่อเสียงระดับสูง ดังนั้นแต่ละนวัตกรรมจึงสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก
4. Be Interesting, Be Diverse น่าสนใจและหลากหลายเข้าไว้
Steve Jobs ไม่ใช่แค่กูรูด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เขายังเป็นมนุษย์ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาอีกด้วย เขาศึกษาวรรณคดีและศิลปะที่ Berkeley และได้นำความเชี่ยวชาญนั้นมาใช้กับงานของเขาที่ Apple
ทำให้ Apple ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทเทคโนโลยีอีกต่อไป แต่ยังเป็นบริษัทเพลงและบริษัทสื่อ ที่มีความสนใจและมีความสามารถที่หลากหลาย แม้ว่าการสร้าง Personal Branding จะต้องมีความเหนียวแน่นเป็นหนึ่งเดียว แต่ก็ไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อ
สรุปการสร้าง Personal Branding ยังไงให้แข็งแกร่ง
เป็นยังไงกันบ้างคะกับบทความนี้มาแชร์ 5 ทริคการสร้าง Personal Branding และตัวอย่าง Case Study ถอดบทเรียนจาก APPLE แบรนด์ดังระดับโลกกัน ก่อนอื่นเลยเราควรจะคิดก่อนว่าอยากให้คนมองเราและแบรนด์แบบไหน มีเอกลักษณ์โดดเด่นในด้านใด หรือจะใช้ความรู้ความสามารถของตนมานำเสนอและช่วยเหลือผู้คนได้ยังไง แน่นอนว่าอย่าลืมว่าต้องมีความเป็นตัวเองและถ่ายทอดออกไปอย่างจริงใจด้วย
เพราะการทำ Personal Branding ก็เหมือนเจ้าของแบรนด์ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับแบรนด์ เพราะคนมักจะมีภาพจำที่ชัดเจน อย่างนึกถึง Apple ก็ต้องนึกถึง Steve Jobs ชื่อเสียงของบุคคลจึงสำคัญเช่นกัน หากไม่จริงใจหรือทำอะไรไม่โปร่งใส คนก็อาจไม่สนับสนุนได้ในชั่วพริบตาเดียว
และทุกคนสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram TwitterYoutube และ Blockdit ได้เลยค่า
