เทคนิคการตลาด 5W1H วิเคราะห์ Data หา Solution ง่าย ๆ ใน 6 ขั้นตอน

เทคนิคการตลาด 5W1H วิเคราะห์ Data หา Solution ง่าย ๆ ใน 6 ขั้นตอน

เพื่อน ๆ นักการตลาดคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับ 5W1H คือ เทคนิคการตลาดที่เรียบง่าย แต่ทรงพลัง และไม่ว่ายุคสมัยจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เทคนิคการตลาด 5W1H ก็จะยังคงใช้ได้อยู่เสมอ จะเรียกว่าเป็นหนึ่งในพื้นฐานของวิชาการตลาดเลยก็ว่าได้ แล้วเทคนิคที่ว่าเรียบง่ายแต่ทรงพลังนี้มีความสำคัญอย่างไร บทความนี้จะมาอธิบายให้ฟังค่ะ 

5W1H เป็นเทคนิคการตลาดที่ผู้เขียนชอบมากที่สุด ด้วยความเรียบง่ายไม่ซับซ้อน แต่กลับช่วยให้เราแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น หากลูกค้าเปรียบเสมือนคนที่มีปัญหา นักการตลาดอย่างเรา ๆ นี่แหละค่ะที่เป็นคนแก้ปัญหาให้กับลูกค้าเหล่านั้นในรูปแบบของสินค้า/บริการต่าง ๆ 

เทคนิคการตลาด 5W1H นี้ บางครั้งเรียกว่า Kipling Method ใช้เพื่อหาคำตอบที่มีอยู่อย่างกระจัดกระจาย และกระตุ้นให้เกิดแนวคิดที่อาจมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหา และในท้ายที่สุดแล้ว แนวคิดนี้จะนำไปสู่แนวทางปฏิบัติเพื่อขจัดข้อผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพ และปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น 

เทคนิคการตลาด 5W1H วิเคราะห์ Data หา Solution ง่าย ๆ ใน 6 ขั้นตอน
ขอบคุณรูปภาพจาก Slidemodel

เทคนิคการตลาด 5W1H ก็มีอีกชื่อหนึ่งว่า “6 Serving Men of Creativity” เป็นท่อนหนึ่งของบทกวีที่ปรากฏใน “Just So Stories” ของ Rudyard Kipling ในปี 1902 

… “I keep six honest serving-men

(They taught me all I knew);

Their names are What and Why and When

And How and Where and Who” …

Kipling,1902

ซึ่งวิธีการของ Kipling นั้นคล้ายคลึงกับวิธีการปรับปรุงกระบวนการอื่น ๆ เช่น การวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริง หลักการ 5S Lean และวงจร PDCA

 5W1H คือ เทคนิคการตั้งคำถาม และวิธีการแก้ปัญหาที่ตอบรับองค์ประกอบพื้นฐานทั้งหมดภายในปัญหา ซึ่งได้แก่ อะไร (What), ใคร (Who), เมื่อใด (When), ที่ไหน (Where), ทำไม (Why), และอย่างไร (How) 

โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อมองหาแนวคิด และไอเดียจากมุมมองที่หลากหลาย เพื่อทำความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทั่วไปวิธีนี้จะใช้เป็นเทคนิคในการปรับปรุงองค์กรเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเดี๋ยวจะมาอธิบายให้ได้อ่านกันทีละส่วนนะคะ 

WHAT? 

อะไร? – เป็นคำถามที่ถามเพื่อให้อธิบายสถานการณ์, ประเด็น, ปัญหาที่เกิดขึ้น, หรือวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ซึ่งจะช่วยให้เราระบุหัวข้อหลัก และกำหนดทิศทางสถานการณ์ได้ เป็นการวางรากฐานสำหรับคำถามที่ตามมา คำถามนี้เป็นการวางรากฐานสำหรับวิธี 5W1H และช่วยในการมุ่งเน้นไปที่ประเด็นหลัก

ยกตัวอย่างคำถาม เช่น

  • ปัญหาของลูกค้าอะไร?
  • ประเด็นหลักที่ต้องแก้ไขคืออะไร?
  • ผลลัพธ์ที่ต้องการคืออะไร?

WHO?

ใคร? – หมายถึง บุคคล หรือกลุ่มเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับประเด็นหรือสถานการณ์นั้น ๆ รวมไปถึงบุคคลที่พบปัญหา, ผู้ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้, และผู้รับผิดชอบในการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เป็นไปได้ การรู้ว่า ‘ใคร’ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำหนดความรับผิดชอบ และทำความเข้าใจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

ยกตัวอย่างคำถาม เช่น

  • ใครคือผู้มีส่วนได้เสียหลัก?
  • ใครเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ?
  • ใครจะได้รับผลกระทบจากปัญหา?

WHERE?

ที่ไหน? – ช่วยระบุตำแหน่งของเหตุการณ์ หรือปัญหา ซึ่งอาจหมายถึงที่ตั้งทางกายภาพ, แพลตฟอร์มเสมือน, หรือแม้แต่แผนกเฉพาะภายในบริษัท การระบุสถานที่ของเหตุการณ์ หรือปัญหาอาจให้บริบทที่สำคัญ และกลายเป็นสิ่งที่มีผลต่อไปในอนาคต อาจจะไม่เสมอไป แต่ก็ยังจำเป็นต้องพิจารณา

ยกตัวอย่างคำถาม เช่น

  • ปัญหาเกิดขึ้นที่ไหน?
  • ทรัพยากรหลักอยู่ที่ไหน?
  • ปัญหาเกิดขึ้นอยู่ที่ไหน?

WHEN?

เมื่อไร?จังหวะ เวลาของสถานการณ์, เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อใด, หรือคาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด การทำความเข้าใจไทม์ไลน์สามารถช่วยในการวางแผน ระบุรูปแบบ หรือป้องกันการเกิดซ้ำของปัญหาได้ นอกจากนี้ยังช่วยจัดลำดับความสำคัญและกำหนดความเร่งด่วนของปัญหาอีกด้วย

ยกตัวอย่างคำถาม เช่น

  • ปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อใด?
  • กำหนดเวลาโครงการคือเมื่อใด?
  • สินค้าจะเปิดตัวเมื่อไหร่?
  • เราจะนัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาได้เมื่อใด

WHY?

ทำไม? คำถามที่มุ่งหวังให้เข้าใจเหตุผลเบื้องหลังสถานการณ์ เหตุใดจึงเกิดปัญหา หรือเหตุใดเราจึงต้องการบรรลุเป้าหมายเฉพาะเจาะจง โดยเจาะลึกถึงสาเหตุ และแรงจูงใจที่ซ่อนอยู่ ช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และอำนวยความสะดวกในการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ การตอบคำถาม ‘ทำไม’ นี้ ทำให้เราสามารถระบุผลที่ตามมาจากการไม่แก้ไขปัญหาได้ 

ยกตัวอย่างคำถาม เช่น

  • เหตุใดปัญหาจึงเกิดขึ้น?
  • ทำไมเราจึงต้องทำโครงการนี้ให้สำเร็จ?
  • เหตุใดผลิตภัณฑ์นี้จึงจำเป็นสำหรับบริษัทของเรา?

HOW?

อย่างไร? – เป็นคำถามเกี่ยวกับกระบวนการ สถานการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร หรือเราจะบรรลุผลตามที่ต้องการได้อย่างไร คำถามนี้ส่งเสริมการอภิปรายเกี่ยวกับวิธีการ และกลยุทธ์ เพื่อเป็นแนวทางในการนำไปปฏิบัติ หรือการแก้ไขปัญหา เมื่อถามว่า ‘อย่างไร’ จำเป็นต้องพิจารณามุมมองที่แตกต่างกัน และสำรวจแนวทางต่าง ๆ 

ยกตัวอย่างคำถาม เช่น

  • ปัญหาเกิดขึ้นได้อย่างไร?
  • เราจะบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการได้อย่างไร?
  • เราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร?

การถามคำถามเหล่านี้จะช่วยให้นักการตลาดเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงปัญหา และความต้องการของลูกค้า โดยการจัดโครงสร้างความคิดอย่างเป็นระบบ และเน้นข้อมูลที่สำคัญ ด้วยเหตุนี้เทคนิคการตลาด 1W1H สามารถช่วยให้เพื่อน ๆ รับรู้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ดังกล่าว

ตัวอย่างการใช้ เทคนิคการตลาด 5W1H

เพื่อให้เพื่อน ๆ เข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าเราจะนำวิธีนี้ไปใช้กับธุรกิจอย่างไร ผู้เขียนเลยนำตัวอย่างสถานการณ์มาให้ด้วยค่ะ โดยยกตัวอย่างสถานการณ์บริษัทแห่งหนึ่งที่กำลังจะเปิดผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ 

  • WHAT? –  บริษัทวางแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ขวดน้ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมใหม่ โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ และใส่ใจสิ่งแวดล้อม
  • WHO? – ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด และการขาย มีหน้าที่หลักในการเปิดตัว กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผู้ชื่นชอบการออกกำลังกาย และลูกค้าที่ใช้ขวดน้ำเป็นประจำ
  • WHERE? –  ผลิตภัณฑ์จะเปิดตัวครั้งแรกในร้านค้าออนไลน์ของเรา และต่อมาในร้านค้าปลีก จุดมุ่งหมายเบื้องต้นจะอยู่ที่ตลาดท้องถิ่น โดยมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปทั่วโลก
  • WHEN? – วันที่เปิดตัวตามแผนคือหกเดือนนับจากนี้ ทำให้เรามีเวลาเพียงพอสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การทดสอบ และการพัฒนาแคมเปญการตลาด
  • WHY? – การเปิดตัวนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงของแบรนด์ของเราในด้านสินค้าคุณภาพสูง และยั่งยืน
  • HOW? – ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์จะออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์ทดสอบคุณภาพและความทนทาน ทีมการตลาดจะสร้างแคมเปญส่งเสริมการขายโดยเน้นไปที่คุณลักษณะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประโยชน์ต่อสุขภาพของผลิตภัณฑ์ ทีมขายจะใช้ประโยชน์จากเรา

ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ วิธี 5W1H เป็นเทคนิคการตลาดที่สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่การเริ่มต้นทำธุรกิจ, การวางแผนกลยุทธ์การตลาด, การพัฒนาองค์กร, หรือแม้แต่มีชีวิตประจำวันเราก็สามารถใช้ 5W1H ได้เช่นกัน และยิ่งตั้งคำถามได้ดีเท่าไหร่ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะมีประสิทธิภาพมากเท่านั้น 

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นปัญหาระดับบุคคล หรือระดับองค์กร เทคนิคการตลาด 5W1H จะช่วยให้เพื่อน ๆ วิเคราะห์ และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่จึงเป็นที่มาของความเรียบง่ายแต่ทรงพลังของ 5W1H นั่นเองค่ะ

พาไปรู้จักกับ Marketing Framework ที่น่าสนใจ ตามไปอ่านต่อได้เลยที่

Sasiwimon Chumart

"แตงกวา" - ชอบภูเขา หลงรักทะเล หาเงินไปเล่นเซิร์ฟที่แหลมหญ้า กินกาแฟเพื่อมีชีวิตรอด นอนน้อยเป็นกิจวัตร ชอบกินเป็นชีวิตจิตใจ ตั้งใจเขียนงานมาก เพราะทุกคนต้องได้อ่านผลงานที่ดีที่สุด!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *