Case Study Personalization เปลี่ยนลูกค้าธรรมดาเป็นลูกค้าชั้นดีด้วย Customer Data

Case Study Personalization เปลี่ยนลูกค้าธรรมดาเป็นลูกค้าชั้นดีด้วย Customer Data

บทความชุด 15 Case Study Personalization ตัวอย่างกลยุทธ์การตลาดแบบรู้ใจ Personalized Marketing มาถึงส่วนที่สอง กับการเปลี่ยนลูกค้าธรรมดาให้กลายเป็นลูกค้าชั้นดี ด้วย Customer Data ที่มีครับ

ลูกค้าชั้นดี หรือ Loyalty Customers เป็นอะไรที่นักการตลาดและแบรนด์ต่างๆ อยากให้มีเยอะๆ มากที่สุด แต่ปัญหาคือเรากลับมีลูกค้ากลุ่มนี้น้อยมาก ทำไมหละ ?

ขนาดเราเองซื้อสินค้าอยู่มากมายหลายแบรนด์ รู้จักแบรนด์ต่างๆ ก็มากมายมหาศาลยิ่งกว่านั้นอีก แต่เอาจริงๆ แล้วเรากลับเป็นลูกค้าชั้นดีที่คอยติดตามข่าวสารอยู่แค่ไม่กี่แบรนด์จริงไหมครับ

คนเรามักจะมีสองสามแบรนด์แหละที่เราคอยรออีเมลอัพเดทข่าวอยู่ตลอดเวลา เมื่อไหร่ส่งข้อความ LINE มาจะรีบกดเปิดดูก่อน นั่นก็เพราะเราชอบแบรนด์นี้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะด้วยสินค้าหรือบริการที่แตกต่างจริงๆ แต่ส่วนหนึ่งก็คือการที่แบรนด์นี้มักทำการตลาดแบบรู้ใจ หรือมักจะถึงขั้นโดนใจเราเป็นประจำ

ดังนั้นจะเห็นว่าการจะสร้าง Loyal Customers หรือลูกค้าชั้นดีนั้นไม่ยากเกินจะทำได้ แต่ที่ยากเกินจะทำไหวคือเราไม่สามารถทำแบบนี้กับลูกค้าทุกคนได้นั่นเองครับ มันก็เลยกลับมาที่เรื่องของการใช้ Customer Data Driven Marketing หรือการตลาดแบบฉลาดใช้ดาต้าลูกค้าเพื่อสร้างยอดขายให้มากขึ้น

ใน Case Study Personalization Part 2 นี้จะพามาดูเคสการเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปให้กลายเป็นลูกค้าชั้นดี ใครที่มีแต่ลูกค้าใหม่อยู่ตลอดเวลา ลองมาดูกันนะครับว่าเราจะบิ๊วลูกค้าชั้นดีจาก Customer Data ลูกค้าที่มีได้อย่างไร

Case Study Personalization ที่ 5 Personalized Communication Message แค่ทำการตลาดด้วยข้อความที่ตรงใจ ก็เพิ่มโอกาสขายได้ง่ายขึ้น

Case Study Personalization Part 2 กลยุทธ์การตลาดแบบรู้ใจที่จะเปลี่ยนลูกค้าธรรมดา ให้กลายเป็นลูกค้าชั้นดีด้วย Customer Data

ในแต่ละวันเราเห็นโฆษณากันหลายพันไปจนถึงหลายหมื่น ก็แล้วแต่ว่าอ้างอิงงานวิจัยของสถาบันไหนนะครับ แต่ประเด็นหลักคือทำไมเรากลับจดจำโฆษณาเหล่านั้นไม่ค่อยได้เท่าไหร่เลยหละ ?

ไม่ใช่ว่าโฆษณาเหล่านั้นทำออกมาไม่ดี เพราะโฆษณาส่วนใหญ่ล้วนแต่คิดคอนเซปมาเป็นอย่างดี ไหนจำการปั้นคำ Copywriting ให้คมคายที่สุด ทำ Design มาอย่างสวยที่สุด แต่ทำไมโฆษณาหลายพันชิ้นถึงไม่ได้ติดอยู่ในความทรงจำเราสักเท่าไหร่หละ ?

เพราะโฆษณาเหล่านี้ไม่โดนใจ หรือไม่ตรงกับความสนใจเท่าไหร่ เปรียบกับคนก็เหมือนคนที่พยายามเล่าเรื่องตลกให้เราฟัง โดยที่เราไม่สนใจเลยว่าเราอยากฟังสิ่งนั้นหรือไม่ หรืออยู่ในบริบทที่พร้อมจะรับฟังเรื่องตลกไหม

เช่น ถ้าผมได้รับโฆษณาจากร้านนายอินทร์ทางอีเมล หรือโซเชียลมีเดีย แน่นอนผมเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ แต่ประเด็นคือผมไม่ได้ชอบอ่านหนังสือทุกแนวที่มีขายในร้านนายอินทร์ไง

ดังนั้นถ้าร้านนายอินทร์ส่งโฆษณาหนังสือชนิดที่ผมไม่เคยซื้อกับที่ร้านมาก่อน ก็น่าจะเดาได้ไม่ยากว่าโฆษณาชิ้นนั้นน่าจะสูญเปล่า ไม่ก่อให้เกิดยอดขายหรือ Conversion ใดๆ

แล้วเราจะทำการตลาดอย่างไรกับลูกค้าเก่า อย่างผมที่ชอบแวะซื้อหนังสือที่ร้านนายอินทร์อยู่เป็นประจำหละ สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนจะทำ Marketing ใดๆ คือการเข้าไปดู Customer Data ข้อมูลลูกค้าแต่ละคนก่อนว่าควรทำการตลาดกับลูกค้าเก่า หรือลูกค้าปัจจุบันแต่ละคนแบบไหนถึงจะดีที่สุด

นั่นหมายความว่าเราต้องไล่เรียงวิเคราะห์ข้อมูลประวัติการซื้อของลูกค้าแต่ละคน แล้วจับกลุ่ม Customer Segment ที่มีความคล้ายกันไว้ด้วยกัน ก่อนค่อยทำ Marketing แบบ Personalization อย่างไร

Case Study Personalization Part 2 กลยุทธ์การตลาดแบบรู้ใจที่จะเปลี่ยนลูกค้าธรรมดา ให้กลายเป็นลูกค้าชั้นดีด้วย Customer Data

กลับมาที่ผมอีกครั้ง ทีนี้ถ้าทีมการตลาดร้านนายอินทร์ใส่ใจวิเคราะห์ข้อมูลประวัติการซื้อผมสักหน่อย ก็พอจะเห็น Pattern รูปแบบหนังสือที่ผมซื้อเป็นส่วนใหญ่คือแนว How to กับ History เป็นหลัก เมื่อรู้แบบนี้ทีมการตลาดก็พอเดาได้ว่าควรส่งโฆษณาหนังสือแบบไหนให้ผมเห็น แน่นอนว่าต้องไม่ใช่แนววรรณกรรมหรือ Fiction ซึ่งผมไม่เคยอ่านมาก่อน และแน่นอนว่าโอกาสที่ผมจะกดโฆษณาชิ้นนั้นจนกดซื้อสินค้านั้นต่ำมากจนแทบจะเป็นศูนย์

แต่ในขณะเดียวกันหลักทฤษฎีการตลาดก็พร่ำสอนเรามาว่า “ให้ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ แล้วยอดขายจะตามมา” ทีนี้เมื่อทีมการตลาดรู้แล้วว่าผมเคยซื้อหนังสือแนวไหนมาก่อน และยิ่งซื้อแต่แนวนั้นเป็นประจำจาก Customer data ก็พอจะให้เป็นแนวทางไอเดียได้ไม่ยากว่าควรส่งโฆษณาหนังสือแบบไหนมาให้ผม

แล้วยิ่งเราเอา Customer data จากช่องทางต่างๆ เชื่อมไว้ด้วยกัน จากเว็บ จากแอป จากอีเมล หรือจากแชทลูกค้า ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราประกอบ Persona เห็นภาพ Customer 360 ได้

Case Study Personalization Part 2 กลยุทธ์การตลาดแบบรู้ใจที่จะเปลี่ยนลูกค้าธรรมดา ให้กลายเป็นลูกค้าชั้นดีด้วย Customer Data

หรือถ้าเราไม่เอาข้อมูลประวัติการซื้อมาวิเคราะห์ เราอาจจะเลือกเอาข้อมูลสิ่งที่ลูกค้าแต่ละคนให้ความสนใจล่าสุดมาต่อยอดแทน ดูสินค้าแบบไหนไว้ ค้นหาอะไรมา หรือกดอะไรใส่ตะกร้า ทั้งหมดนี้ก็สามารถเอามาทำ Personalization ได้

เราไม่ต้องส่งโฆษณาสินค้าชิ้นเดียวกันให้กับทุกคนเสมอไป เราสามารถส่งการตลาดเฉพาะสิ่งที่ลูกค้าแต่ละคนสนใจได้ ให้ส่วนลดเฉพาะที่ต้องให้ เพราะบางคนแค่อยากให้เราสะกิดแจ้งเตือนเมื่อมีสินค้าใหม่เข้ามาก็พร้อมซื้อแล้ว

พอเห็นภาพ Case Study Personalization ที่ 5 ที่เปลี่ยนลูกค้าธรรมดา ให้กลายเป็นลูกค้าชั้นดีด้วยการตลาดแบบรู้ใจด้วย Customer Data แล้วใช่ไหมครับ

การตลาดแบบรู้ใจนั้นไม่ยาก แค่ต้องใช้ความใส่ใจเพื่อจะรู้จักลูกค้าแต่ละคนให้ดีขึ้นก่อนทำการตลาดออกไป ถ้าทำได้แค่นี้รับรองว่ายอด Conversion คุณจะต้องเพิ่มขึ้นจากการตลาดแบบหว่านที่เคยทำมาแน่นอนครับ

ถ้าอยากให้คนจำการตลาดเราได้ เราต้องเริ่มจากการจำลูกค้าแต่ละคนให้ได้ ว่าพวกเขาแต่ละคนมีพฤติกรรมอย่างไรครับ

อ่าน Case Study Personalization ก่อนหน้า : https://www.everydaymarketing.co/knowledge/case-study-personalization-4-predict-pattern-impulse-customer-purchase/

อ่าน Case Study การตลาดแบบรู้ใจที่ 6 ต่อ :

https://www.everydaymarketing.co/knowledge/case-study-personalization-7-excellence-marketing-strategy-for-loyal-customer-segment/

Source

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *