ชวนเจาะลึกแนวคิดของ “Haier” กับการใช้ Pain Point สร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค
ด้วยสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ส่งผลให้ผู้บริโภคแต่ละคนต้องเจอกับปัญหาหลากหลายทั้งเล็กและใหญ่แตกต่างกันออกไปซึ่งแต่ละคนก็มักจะมองหาวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาเหล่านั้น เพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น และมีความสุขมากยิ่งขึ้น
แต่คำถามก็คือจะมีสักกี่แบรนด์ที่เข้าใจในสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการจริงๆ?
ทุก Pain Point คือแรงบันดาลใจสำคัญ
บางแบรนด์อาจจะเลือกสนใจแค่การผลิตสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค แต่สำหรับ Haier นั้นเลือกที่พัฒนาสินค้าเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาที่ลูกค้าเจอได้อย่างแท้จริง
ถึงแม้ Haier นั้นจะเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี แต่ก็ไม่ทำให้ Haier หยุดพัฒนา แต่กลับกัน Haier กลับนำความเก๋าประสบการณ์มาช่วยพัฒนานวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ๆ เพื่อช่วยแก้ปัญหาและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ผู้บริโภค
โดยใช้การรับฟังความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลักว่าผู้บริโภคนั้นจะต้องเผชิญ Pain Point อะไร แล้วนำปัญหาเหล่านั้นมาเป็นแรงบันดาลใจพัฒนาเทคโนโลยีและ สร้างความโดดเด่นของสินค้าให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการในตลาดได้ ภายใต้คอนเซปต์ “Haier Inspired Living” หรือ การใช้ชีวิตของคุณคือแรงบันดาลใจของเรา
สะท้อนตัวตนแบรนด์ผ่านแคมเปญโฆษณา
สำหรับแคมเปญโฆษณา Better Than Yesterday นั้นยิ่งทำให้เราเห็นแนวคิดและตัวตนของแบรนด์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยตัวโฆษณานั้นจะหยิบเอา Painpoint ในอดีตของผู้บริโภคมาเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ในวันนี้และวันต่อ ๆ ไปของ Haier เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกบ้าน
ซีนแรกเปิดตัวมาด้วยซีนการเปรียบเทียบระหว่าง 2 บ้านที่มีกิจวัตรไม่ต่างจากครอบครัวทั่ว ๆ ไป แต่บ้านหลังนึง กลับทำทุกอย่างได้รวดเร็วกว่า แถมยังมีเวลาเหลือมากกว่า ทำให้เราเห็นถึงชีวิตที่ถูกยกระดับให้ดีขึ้นได้ ด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Haier
กิจวัตรที่ 1: สะดวก ง่าย ไม่เสียเวลา
บ้านแรกตื่นนอนแล้วต้องวุ่นวายเดินหารีโมตแอร์ที่หายังไงก็ไม่เจอสักที ในขณะที่บ้านถัดมาแค่ลุกขึ้นมาก็ปิดแอร์ได้จากแอปพลิเคชันในมือถือได้เลย
กิจวัตรที่ 2: ทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันได้ ไม่ต้องรีบ
บ้านหลังแรกหลังจากตื่นแล้วคุณแม่บ้านต้องรีบเช็กของในตู้เย็นเพื่อเตรียมออกไปตลาด เพื่อรีบกลับมาเตรียมอาหาร ส่วนบ้านหลังถัดมา คุณแม่บ้านกำลังยืนอยู่หน้าตู้เย็น มือขวากดสั่งของผ่านตู้แล้วค่อยๆ ทำกับข้าวไปแบบชิลๆ เรียกว่าคนเดียวก็เอาอยู่
กิจวัตรที่ 3: สะดวกกว่าด้วยเทคโนโลยี
ส่วนเจ้าลูกชายของบ้านแรก พอจะดูการ์ตูนทั้งทีก็ต้องไปกดรีโมตอยู่นานสองนาน ส่วนลูกชายบ้านหลังทางขวา ก็เข้าดูยูทูป ด้วยการสั่งงานด้วยเสียง ก็ได้ดูการ์ตูนเรื่องสนุกๆ พร้อมป๊อปคอร์นรสโปรดแบบสบายอารมณ์
กิจวัตรที่ 4: จัดการทุกอย่างเรียบร้อยได้ ไม่ต้องเปลืองแรง
หมดวันแล้วคุณแม่บ้านหลังซ้ายก็หมดแรงตามไปด้วยส่วนคุณแม่บ้านหลังขวา ยังเหลือแรง เหลือเวลาไปทำสิ่งที่ตัวเองรักทำสิ่วที่ตัวเองสนใจได้อีกเพียบ เพราะจัดการทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วนั่นเอง
จากกิจวัตรประจำวันที่จำลองไว้ในวิดีโอโฆษณาตัวนี้แสดงให้เห็นว่า Haier รับรู้และเข้าใจใน Pain Point ที่ผู้บริโภคเจอ ว่าปัญหาเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ และไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง เหมือนอย่างคอนเซปต์ที่ว่า Haier Inspired Living หรือ การใช้ชีวิตของคุณคือแรงบันดาลใจของเรา
ดังนั้นการพัฒนาเทคโนโลยีของ Haier จึงเป็นการพัฒนาและแก้ไขเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานโดยไม่ได้มองแค่คุณแม่บ้านเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสามารถแก้ไข้ปัญหาให้ใช้งานได้ง่าย สะดวกสบาย และใช้งานได้ทั้งครอบครัวด้วย
เพิ่มไลน์สินค้า Smart Home เพื่อตอบโจทย์ Smart Life
ถ้าถามว่านอกจากการทำความเข้าใจ Insight และรับฟังความต้องการของผู้บริโภคแล้ว อีกจุดแข็งหนึ่งของแบรนด์ที่โดดเด่นไม่แพ้กันก็คือ การมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ และพยายามปรับตัวเพื่อให้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบันที่หมุนเร็วขึ้นทุกที
ซึ่งจากในวิดีโอโฆษณาเอง เราจะเห็นสินค้าประเภท Smart Home จาก Haier อยู่หลายประเภท ทั้งนี้ก็เพื่อให้สินค้านั้นๆ สามารถตอบสนองความต้องการของการใช้ชีวิตในวิถีใหม่ ครอบคลุมไลฟ์สไตล์คนได้ในทุก Gen นั้นเอง
ซึ่งสินค้า Smart Home ในวิดีโอโฆษณา ที่จะช่วยยกระดับชีวิตเราให้ Smart ขึ้นนั้นมีอะไรบ้าง มาดูกัน
• Air Conditioner:
Self-PurifyTM นวัตกรรมแอร์ฟอกอากาศ ดักฝุ่นพิษและเชื้อโรคขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.99% ด้วยแผ่นกรองอากาศ Super IFD Filter ซึ่งในขณะที่ฟอกอากาศ ฟิลเตอร์นี้จะสร้างกระแสไฟฟ้าสถิตเพื่อดูดซับฝุ่นในอากาศด้วย
นอกจากนี้ยังควบคุมและสั่งการผ่าน Haier Smart Application จะสั่งเปิด สั่งปรับ หรือสั่งปิด ก็ทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้รีโมต
• Washing Machine:
i-Refresh Technology เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยกำจัดเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ และลดรอยยับบนเสื้อผ้าที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งโปรแกรมนี้สามารถปรับระดับการทำความร้อนได้ 3 ระดับ และ ปรับระยะเวลาในการใช้งานได้ด้วย
• Hop to Hood:
เป็นเตาแก๊สชนิดฝัง ที่สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องดูดควันของ Haier ได้ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีป้องกันความปลอดภัย 3 อย่าง คือระบบตรวจจับอุณหภูมิระยะไกลอัจฉริยะ ฉนวนกันความร้อน 5 ชั้น ป้องกันไม่ให้ความร้อนจากเปลวไฟกระทบการทำงานของที่ตรวจจับอุณหภูมิ และระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ เพื่อคำนวนอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ
มาพร้อมกับเทคโนโลยีตรวจจับแหล่งความร้อน NTC เมื่อน้ำในภาชนะแห้ง หรือไม่มีภาชนะบนเตาแก๊สนาน 3 นาที ระบบก็จะตัดแก๊สโดยอัตโนมัติ เรียกได้ว่าปลอดภัยสุดๆ
• Haier HQLED TV:
เป็น TV ที่รองรับระบบ Android 9.0 สามารถดาวน์โหลด Application ความบันเทิงได้ครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Disney+ Hotstar, VIU, Line TV, We TV, YouTube หรือ Netflix
มาพร้อมหน้าจอแบบเต็มตาขนาด 65 นิ้ว ความละเอียดระดับ 4K ให้ภาพสวย คมชัด และยังสั่งงานด้วยเสียงผ่านรีโมทด้วย Voice Intelligence ได้อีกด้วย
• Haier Multidoor Refrigerator:
ตู้เย็นยุคใหม่ที่มาพร้อมระบบ IoT ที่สามารถจัดการวัตถุดิบต่าง ๆ ภายในตู้เย็นได้ผ่านจอหน้าตู้ ของอะไรมีก็รู้ ของอะไรหมดก็สามารถสั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์จากหน้าจอของตู้เย็นได้เลย
ตู้เย็น IoT ที่มาพร้อม Smart UI Interface ใช้งานง่ายด้วยอินเตอร์เฟสอัจฉริยะ พร้อมกับ Food Management สามารถจัดการวัตถุดิบต่าง ๆ ภายในตู้เย็นได้ผ่านจอหน้าตู้
ถ้าจะบอกว่า Haier ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่เป็นผู้ผลิตความสะดวกสบายที่ทำให้ผู้ใช้มีความสุขทุกครั้งเมื่อได้ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นก็คงไม่เกินจริงนัก
เพราะไม่ว่าจะในส่วนของตัวแคมเปญโฆษณาก็ดี หรือตัวสินค้าเองก็ดีนั้นช่วยตอกย้ำและสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจของ Haier ต่อปัญหาของผู้บริโภคอย่างแท้จริง แม้ปัญหานั้นจะเป็นแค่ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน Haier ก็ไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆแต่กลับนำปัญหาเหล่านั้นมาต่อยอดพัฒนาเพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าแบบแฮปปี้ที่สุด
สำหรับใครที่อยากลองสัมผัสนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพจาก Haier ที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ในทุกมิติ การติดตามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.haier.com/th