Data Research Insight บ้านเดี่ยว เทรนด์และปัญหาที่แบรนด์ต้องรู้

สำหรับรีพอร์ตเล่มนี้จะพาทุกคนมาดู Data Research Insight บ้านเดี่ยว เทรนด์ต่าง ๆ ที่แบรนด์ต้องรู้ค่ะ เพราะตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นตลาดหนึ่งที่มีอิมแพคกับเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งนักการตลาด แบรนด์ เอเจนซี่ นายหน้าก็ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลแทบจะเป็นหลักในการดำเนินธุรกิจ

และเช่นเคยเราจะมาวิเคราะห์ Social Data ผ่านการใช้เครื่องมือ Social Listening : Mandala เพื่อช่วยเปิดมุมมองให้เราได้เห็นเทรนด์ตลาดทั้งหมดมากขึ้น และสามารถเจาะการพูดถึงแบบลงลึก จากแพลตฟอร์ม​ Social Media ที่มีลูกค้าของทุกธุรกิจรอให้เราใช้ประโยชน์อยู่ เพราะทุกวันนี้ใคร ๆ ก็ใช้ช่องทางออนไลน์ Social Media ต่าง ๆ ทำให้โซเชียลได้กลายเป็นแหล่งข้อมูลให้เราทำรีเสิร์จแบบเข้ากับยุคสมัยมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ต่อไปได้

ทั้งนี้สามารถนำข้อมูลไปต่อยอดเพื่อธุรกิจได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมเติมเต็มข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ โดยผู้สนับสนุนใจดี Sellsuki  บริการ Solution ครบวงจรสำหรับคนทำธุรกิจ โดยสามารถดาวน์โหลดตัวเต็มได้ที่ฟอร์มท้ายบทความค่ะ และใช้เป็นตัวอย่างการเล่นกับ Social Listening ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักของการทำรีเสิร์จ เราจะเห็นทั้งเทรนด์ที่วัดด้วยการโพสต์ และการมีส่วนร่วม (Engagement) ของลูกค้าอีกด้วยค่ะ 

8 ขั้นตอนการทำงานกับ Social Listening

ซึ่งเราจะใช้ 8 ขั้นตอนที่เราใช้กับเครื่องมือ Social Listening ของการตลาดวันละตอนเพื่อเริ่มหา insight จาก Social Data ออกมาค่ะ 

STEP 1 – 2 Research Keyword, Collecting Data

ขั้นตอนที่สำคัญของการทำรีเสิร์จโดยเครื่องมือ Social Listening คือการทำ Research Keyword เพื่อกวาดข้อมูลที่เกี่ยวข้องเข้ามาวิเคราะห์ โดยเราจะไม่ใช้คำว่า บ้าน เฉย ๆ เพราะจะทำให้ Social Data หลั่งไหลเข้ามามากเกินไป คำว่าบ้านเราใช้ได้มากกว่า 1 ความหมายค่ะ

ไม่ว่าจะเป็น บ้านศิลปิน หน้าตาบ้าน ๆ เป็นต้น จึงใช้คำว่า : บ้านเดี่ยว และเสริมบริบทตลาดการซื้อขายบ้านที่อยากรู้เพิ่มเติม เลยมีคำว่า ซื้อบ้าน ขายบ้าน เข้ามาเสริมค่ะ

Collecting Data ดึงข้อมูลย้อนหลัง : 01/08/2023 – 01/12 /2023 หรือ 4 เดือน มีข้อมู 60,231 Mentions บนช่องทาง Facebook Twitter Instagram Youtube และ TikTok 

และข้อมูลที่ได้เป็นโพสต์สาธารณะ ภายใต้นโยบาย Policy ของแพลตฟอร์มนั้น ๆ ค่ะ

STEP 3 Cleansing Data

ขั้นตอนนี้แนะนำให้ทำก็ต่อเมื่อข้อมูลเริ่มนิ่ง ไม่มีตัวเลขเพิ่มแล้ว เป็นการ Review ว่ามีข้อมูลแบบไหนบ้าง และข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องก็ลบออกค่ะ

จะต้องใช้เทคนิคการคลีนออกตามความเหมาะสม เพื่อให้ข้อมูลมีคุณภาพ ผลวิเคราะห์ก็จะค่อนข้างแม่นยำมากขึ้นเท่านั้นนั่นเองค่ะ

สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคลีนดาต้าอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพมากที่สุดมาวิเคราะห์ Trend & Insight ได้ที่บทความนี้ค่ะ > https://www.everydaymarketing.co/trend-insight/top10-influencers-investment-money-2023-on-tiktok/

STEP 4 Conversation Analysis

อย่างที่เห็นใน STEP 3 ในระหว่างที่ทำความสะอาดข้อมูล จะได้อ่าน Social Data ที่หลังไหลเข้ามาจาก Keyword จนทำให้พอจะเหลือเฉพาะโพสต์ที่เราต้องการ อ่านและวิเคราะห์ข้อมูลต่อเพื่อหาว่าการพูดถึงบ้านเดี่ยวแบบไหน insight ที่จะเป็นประโยชน์กับคนที่อยู่ในวงการอสังหาฯ มีข้อมูลแบบไหนบ้างและอยากมาเล่าต่อในรีพอร์ตเล่มนี้ ซึ่งตอนนี้โซเชียลมีข้อมูลดังกล่าวกระจัดกระจายอยู่มาก ไม่เป็นกลุ่มก้อนทำให้เรายังใช้มาวิเคราะห์ insight อะไรไม่ได้ลึกนัก ณตอนนี้ค่ะ ต้องมาเริ่ม STEP ที่ 5 กันต่อ 

ซึ่งในการอ่านข้อมูล เรามักจะเริ่มจากฟีเจอร์พื้นฐานในหน้า Dashboard แรกไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม Top post เพื่อรู้ภาพรวมข้อมูลที่ได้รับความนิยมค่ะ 

Social Data Stat Overview

สัดส่วนการพูดถึง (Mentions) – สำหรับบ้านเดี่ยวมีข่าวมากมายที่เกิดขึ้นในเวลาแค่ 4 เดือนที่ผ่านมาค่ะ อย่างไวรัลที่ผ่อนบ้านเป็นหมื่น แต่ได้ตัดเงินต้นเพียง 5 บาทเท่านั้น เรื่องนี้ก็ทำให้คนบนโซเชียลแชร์การผ่อนบ้านของตัวเองมากมาย เป็น Topic สุดฮอตหนึ่งของปีเลย

การมีส่วนร่วม (Engagement) – บน​ YouTube แน่นอนว่าเอนเกจจะมาจาก Influencer ที่รีวิวบ้าน แบรนด์ยิงโฆษณา และการขายบ้านในรูปแบบอื่น ๆ ค่ะ

การมีส่วนร่วม ลบยอดวิวยูทูป (Engagement ignore view) – เราจะเห็นศักยภาพของแพลตฟอร์มอื่นเมื่อ ignore view ช่วยค่ะ ทำให้รู้ว่า Facebook TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่แบรนด์พุ่งเป้าไปที่การลงข่าวหนัก ๆ

ดู Timeline by Engagement โดยที่เรา Ignore ยอดวิวจาก YouTube ออกทั้งหมดเพราะรู้แล้วว่า YouTube มีคอนเทนต์ประเภทไหนบ้าง ทำให้เห็นว่าแพลตฟอร์มที่สร้างเอนเกจได้ตลอดระยะเวลาเก็บข้อมูล 4 เดือนคือ Facebook ที่มาจากเพจของสำนักข่าว กูรูเรื่องบ้าน กูรูเรื่องการลงทุน

Facebook – Thairath – ไทยรัฐออนไลน์ ซื้อบ้านทิ้งไว้ 32 ปี กลับมาอีกทีถูกเพื่อนบ้านยึด – รีโนเวทใหม่

Twitter – Twitter Account โมบายอายุ 21 ซื้อบ้าน / กุตอน21 ซื้อบั้ม

Instagram – mixxiw #พฤกษาอยู่ดีมีสุข #พฤกษาใส่ใจเพื่อทั้งชีวิต

TikTok – Just_noon จะรีบเก็บเงินซื้อบ้าน แล้วมารับสัตว์เลี้ยงไปอยู่ด้วยภายใน 1 ปี

YouTube – Supalai Supalai SALE YAI 138 ย่าน จัดจ้านทุกดีล

เมื่อดูเทรนด์จาก Hashtag ประกิบจะเริ่มเห็นว่าโพสต์ที่กล่าวถึงจะมาจากโพสต์ที่ติด #บ้านเดี่ยว เป็นหลัก นอกจากนี้จะมีความพร้อมอยู่ บริการการตรวจบ้าน โครงการ บ้านมือสอง อสังหาริมทรัพย์ รีวิวบ้าน ปัจจัยอื่น ๆ ในการเลือกซ์้อบ้าน เป็นสารตั้งต้นของรีพอร์ตเล่มนี้ที่จะค่อย ๆ มาเจาะดูค่ะ

STEP 5 Categorize Data 

การจับกลุ่มข้อมูลเพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ เห็นตัวเลขสัดส่วนชัดเจน ซึ่งโจทย์ควรจะตั้งมาจาก Social Data ที่มี เราจะได้อ่านจำนวนมากอยู่แล้วตั้งแต่ขั้นตอนการคลีน อีกทางคือโจทย์จากสิ่งที่เราต้องรู้ สิ่งที่จะมีประโยชน์กับธุรกิจมากที่สุด และใช้ฟีเจอร์ Tag บนเครื่องมือ Social Listening เพื่อรวมข้อมูลให้เป็นกลุ่มก้อนค่ะ 

ตัวอย่างเบื้องต้นเกี่ยวกับการติดแท็ก ลองดู ที่นี่ ค่ะ หรือจะมาอัปเดตเทคนิคกับเครื่องมือเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ในคลาสออนไลน์ของเราก็ได้ อ่ายรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ท้ายบทความค่ะ 

STEP 6 Data Visualization

ทำข้อมูลที่มีมหาศาลให้อ่านง่ายขึ้น วิธีนี้สำคัญไม่แพ้กันเพราะสิ่งที่คุณทำมาทั้ง 5 ขั้นตอนจะแทบไม่มีประโยชน์เลยเพราะไม่สามารนำเสนอให้คนอื่นเข้าใจได้ บางคนอาจถนัดทำใน PPT,​ Power Bi, Data Studio หรืออื่น ๆ ก็สามารถนำข้อมูลไปลองทำต่อได้เลยค่ะ

Categories ที่แบ่งออกมา แบ่งตามข้อมูลที่เจอหลังอ่านและวิเคราะห์ล่วงหน้า ซึ่งผู้ที่ใช้ Social Listening ก็สามารถกำหนดหัวข้อหลัก และ Insight ที่ตัวเองอยากรู้ได้เช่นกัน มาดูกันว่า 60,231 Mentions นั้นเมื่อแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ เราจะเจออะไรบ้าง 

ซึ่งผู้เขียนได้เลือก Analysis การพูดถึงบ้านเดี่ยว จัดเป็น 5 กลุ่มตามภาพด้านบน เรียงตาม Journey ที่ต้องการ

1. ลักษณะบ้าน 29%
2. Objective 14%
3. TOP การแต่งบ้าน 26%
4. TOP เลือกซื้อบ้านจากอะไร 4%
5. ข้อกังวล 4%
6. Insight อะไรที่ทำให้งบบานปลาย 11%

#1 บ้านแบบ 2 ชั้น

ลักษณะของบ้านเดี่ยวที่โพสต์บนโซเชียลผู้เขียนได้แบ่งกลุ่มเป็น 3 กลุ่มและมีอันดับดังนี้ค่ะ

1. บ้าน 2 ชั้น 62% มาจากบ้านที่โพสต์ขายบนโซเชียลส่วนใหญ่ เป็น 2 ชั้น
2. บ้านชั้นเดียว 26% มาจากบ้านที่โพสต์ขายเป็นหลักเช่นกัน แต่ก็มีคอนเทนต์ที่น่าสนใจเรียกเอนเกจได้อย่าง “ไอเดียบ้านชั้นเดียว+สวน”
3. บ้าน 3 ชั้น 12% โฆษณาบ้านหรู VIVE 2 โครงการใหม่ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น

#2 Objective การซื้อบ้าน – ธุรกิจด้านอสังหา

จุดประสงค์ที่คนเราซื้อบ้านไม่ใช่เพียงเพื่ออยู่อาศัยเท่านั้น เราลองมาดูมุมมองอื่น ๆ กันเพิ่มเติมกันนะคะ โดย TOP 3 จะเริ่มจากการทำธุรกิจอสังหา ซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่า หรืออาชีพนายหน้านั่นเองค่ะ นอกจากนี้ยังมีคอนเทนต์จากเหล่ากูรูด้านอสังหา ให้ความรู้ผ่านคอนเทนต์ ที่น่าสนใจคือนายหน้าที่ทำคลิปพรีเซ็นบ้านพร้อมที่ดินอย่างมืออาขีพ จะช่วยให้ขายได้เร็ว และแต่ละคนก็มีกลยุทธ์ต่างกันไป เช่น วิดีโอบน YouTube

#2 Objective การซื้อบ้าน – เป้าหมายของชีวิต

ถัดมาคือการคนไทยมีค่านิยมว่าซื้อบ้านถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ และเป้าหมายของชีวิต ยิ่งซื้อได้ด้วยอายุน้อย ก็ยิ่งน่าอวด ซึ่งการโพสต์จะเป็นภาพที่ถ่ายหน้าบ้าน พร้อมครอบครัว หากแบรนด์มีบริการนี้เหมือนกับการส่งมอบรถยนต์ก็จะยิ่งทำให้ลูกค้าประทับใจ เพราะมีภาพสวย ๆ ไปลงโซเชียลพร้อมทั้งโปรโมตแบรนด์ไปด้วยได้เลยนะคะ

#2 Objective การซื้อบ้าน – เพื่อให้มีพื้นที่เลี้ยงสัตว์

อันดับ 3 ตะตุตุมิมาก เหล่าทาสหมาทาสแมวต้องเข้าใจสิ่งนี้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะการมีบ้านจะทำให้สัตว์เลี้ยงได้มีพื้นที่มากขึ้น บวกกับ pet humanization ที่เรามองสัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนคนในครอบครัว จึงอยากดูแลค้าให้ดีที่สุดตอนนี้แบรนด์อสังหาก็หันในมาจับเทรนด์นี้กันมาก เช่น AP THAI

#3 TOP การแต่งบ้าน

การแต่งบ้านมักใช้คำว่าโมเดิร์นแล้วจึงแบ่งสไตล์ตามโครงการอีกครั้งค่ะ ซึ่งมีหลายแขนงมาก ๆ ส่วนมากแบรนด์จะเป็นผู้โพสต์เอง User ทั่วไปจะไม่ค่อยพูดถึงตรง ๆ เท่าไหร่ ต้องใช้การเสิร์ชคำว่า แต่งสวน จัดสวนในบ้าน ทำสวนในบ้าน เพื่อจับกลุ่มเข้า Nuture Style เป็นต้นค่ะ

ซึ่งนอกจากนี้ยังมีสไตล์ที่มาแรง สามารถปาดได้ทุกเทรนด์นั่นก็คือการแต่งบ้านตามฮวงจุ้ยค่ะ ด้วยความเชื่อต่าง ๆ ตามบุคคล บอกเลยว่าใครสายนี้เค้าไปสุดกันจริง ๆ เล่นเอาดีไซน์เนอร์ปาดเหงื่อมาหลายเจ้าแล้ว~

#4 TOP สิ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้าน

เรามาดูกันต่อว่าปัจจัยอะไรบ้างนะที่ทำให้คนเลือกตกลงปลงใจซื้อบ้านซักหลัง ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลจากโพสต์ของแบรนด์ โปรโมตเตอร์เข้ามาด้วย ทำให้เห็นว่าข้อไหนที่มีการพูดถึงบ่อย ๆ แบรนด์ต้องโพสต์บ่อย ๆ นั่นสามารถนับเป็นปัจจัยที่สำคัญได้เช่นกัน

1. ส่วนกลาง 37%
2. ระบบความปลอดภัย 23%
3. ทำเลใกล้ทางด่วน 18% เพราะอยู่ชานเมืองแต่ขึ้นทางด่วนได้ง่าย ๆ ถือว่าโอเคกว่าอยู่ในเมืองซะอีกค่ะ
4. ทำใกล้ห้าง ตลาด 16%
5. สภาพหลังฝนตก 5% เพิ่งมีทวีตที่แมสไปเมื่อไม่นานมานี้ว่าใครที่จะซื้อบ้านต้องมาลองดูตอนที่ฝนตกดูก่อน น้ำท่วมไหม การระบายน้ำเป็นอย่างไร
6. นิติหมู่บ้าน 1% เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เพราะการดูแลลูกบ้านก็สำคัญกับการทำแบรนด์ค่ะ
7. ใกล้ที่ทำงาน / ใกล้โรงเรียนลูก

#5 TOP ข้อกังวล เกี่ยวกับการซื้อบ้าน

ข้อกังวลสำหรับคนจะซื้อบ้าน หลังการวิเคราะห์ Social Data พบว่าบริการเรื่องการตรวจบ้านก่อนรับมอบเป็นเรื่องที่ลูกค้าให้ความสำคัญขั้นตอนนึงเลยค่ะ มีการทวิตและโพสต์ถามให้แนะนำอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นแบรนด์ควรมีพาร์ทเนอร์ตรวจบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าเป็นทางเลือกอีกทางนะคะ

ถัดมาคือเรื่องเพื่อนบ้าน อันนี้บุญใครบุญมันจริง ๆ ค่ะ จะมาอยู่ซัก 3-5 วันเพื่อดูบรรยากาศเรื่องสองเพื่อนบ้านก่อนซื้อก็ทำไม่ได้ แบรนด์ลองหาวิธีลดข้อกังวลนี้ให้ลูกค้าตัวเองเพิ่มเติมนะคะ เหมาะกับโครงการที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม Luxury ขึ้นไปค่ะ

นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องที่เราเห็นบนโซเชียลบ่อย ๆ อย่างดอกเบี้ยบ้านหรือการกู้บ้านที่ทำให้คนไทยกังวลว่าตัวเองจะส่งไหวไหม อีกทั้งสภาพเศรษฐกิจที่ต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อนจะทำอะไรอีกด้วยค่ะ

#6 Insight ที่ทำให้งบซื้อบ้านบานปลาย

คนซื้อบ้านเข้าใจสิ่งนี้ดี เรื่องงบบานปลายจริง ๆ เกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่เจ้าของโครงการ การส่งมอบ ช่าง หรือดินฟ้าอากาศต่าง ๆ กิเลสความหาทำ ส่งผลต่องบประมาณทั้งสิ้นค่ะ อย่างไรก็ตามลองจับกลุ่มวิเคราะห์สถิติออกมาดังนี้ค่ะ การตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ > แต่งสวน ทำสวน > งานช่าง ต่อเติม ซ่อมแซม > งานหลังคา รางน้ำ > งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่

TOP5 Facebook Page ที่นับยอดเอนเกจจาก “ทุกโพสต์” ในเพจที่อยู่ในระยะเวลาและคีย์เวิร์ดที่กำหนดเท่านั้น

1. AP Thai 1.72M Engagement
2. AP Thai_Townhome 720K Engagement
3. Sansiri PLC 331K Engagement
4. Land and Houses 282K Engagement
5. Frasers Property Home 212K Engagement

TOP5 Instagram account ที่นับยอดเอนเกจจาก “ทุกโพสต์” ในแอคเคาท์ที่อยู่ในระยะเวลาและคีย์เวิร์ดที่กำหนดเท่านั้น

1. sansiriplc 88K Engagement
2. mixxiw 61K Engagement
3. sobeautifulhomes 52K Engagement
4. theearthe 40K Engagement
5. thinkofliving 39K Engagement

TOP5 YouTube channel ที่นับยอดเอนเกจจาก “ทุกคลิป” ในช่องที่อยู่ในระยะเวลาและคีย์เวิร์ดที่กำหนดเท่านั้น

1. Supalai 4.6M Engagement
2. Sansiri PLC 3.8M Engagement
3. Thanakrit house 3.1M Engagement
4. New World Finance by Thanayos Kongpichetkul 2.4M Engagement
5. LandandHouses 2M Engagement

TOP5 TikTok account ที่นับยอดเอนเกจจาก “ทุกคลิป” ในช่องที่อยู่ในระยะเวลาและคีย์เวิร์ดที่กำหนดเท่านั้น

1. just_noon 266K Engagement
2. nwfinance 212K Engagement
3. modern.property 195K Engagement
4. bestlivingchiangmai 171K Engagement
5. reviewbyo 93K Engagement

Pick up 5 Video content ที่น่าสนใจบน YouTube

โฆษณาจาก Supalai

𝐒𝐮𝐩𝐚𝐥𝐚𝐢 𝐒𝐀𝐋𝐄 𝐘𝐀𝐈 138 ย่าน…จัดจ้านทุกดีล รับดีลเด็ดจากบ้านเดี่ยว / บ้านแฝด / ทาวน์โฮม ทั่วประเทศ ของ ศุภาลัย

Thanakrit house

คอนเทนต์ขายบ้าน บ้านธนกฤษณ์ ธีมละครคุณธรรม

ข่าวไวรัลเพื่อนบ้าน

สร้างบ้าน 9 ล้าน เจอเพื่อนบ้านเลี้ยงวัวส่งกลิ่นเหม็น ทักท้วงโดนด่า ขึ้นป้ายไล่ให้ไปอยู่ป่า

สัมมากร

“สัมมากร” อ่านว่า สัม-มา-กร ไม่ใช่สรรพกร

Data Research Insight บ้านเดี่ยว

เป็นอย่างไรบ้างคะกับรีพอร์ต Data Research Insight บ้านเดี่ยว ที่พามาเจาะ insight เรื่องบ้านผ่าน Social Listening ยกตัวอย่าง Cat&Tag ที่สามารถนำไปปรับใช้ต่อได้เช่น ลักษณะบ้านส่วนใหญ่พูดถึง 2 ชั้น > Objective การซื้อบ้านเพื่อลงทุนและเป็นเป้าหมายของชีวิต > การแต่งบ้านแบบโมเดิร์น และมีธรรมชาติ สวนสีเขียว

> TOP เลือกซื้อบ้านจากการดูแลส่วนกลาง ความสะดวกสบายในแง่ทำเล > ข้อกังวล ก็มีบริการที่แบรนด์ควรนำไปต่อยอด การตรวจบ้าน กิจกรรมทดลองอยู่กับเพื่อนบ้าน สุดท้ายเราพูดถึง Insight อะไรที่ทำให้งบบานปลายบ้างในการซื้อบ้าน ไม่ลืมที่จะลิสต์ Influencer หรือแบรนด์ที่ทำ Engagement ได้ดีที่สุดภายใต้คีย์เวิร์ดและระยะเวลาที่กำหนดค่ะ

ในบทความนี้ว่าละเอียดแล้ว แต่ยังข้อมูลดี ๆ ยังไม่หมดแค่นี้ค่ะ นักการตลาด เจ้าของธุรกิจ และบุคคลทั่วไปทุกคนสามารถโหลดตัวเต็มได้ที่ด้านนี้เลย สามารถนำข้อมูลไปปรับใช้ ช่วยในการตัดสินใจได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ขอแค่เครดิตกลับมาที่การตลาดวันละตอน และ Sellsuki ที่เป็นสปอนเซอร์ใจดีที่มาสนับสนุนการแชร์ข้อมูลดี ๆ แบบนี้ค่ะ

ติดตาม Sellsuki ช่องทางอื่น ๆ Webstie Facebook LINE : @sellsuki Tel. : 02-026-3250

ฝากอีกนิดหากใครต้องการข้อมูลไปทำสื่อแชร์ต่อ ทำซ้ำ หรือต่อยอด แค่ส่ง Backlink กลับมาที่บทความนี้ และส่งลิงก์สื่อที่คุณนำไปต่อยอดมาที่ [email protected] เท่านั้นเอง และสามาระหาอ่าน Data Research Insight by Social Listening เพิ่มเติมได้ที่นี่

หรือถ้าอยากเรียนการใช้ Social Listening ให้เป็นด้วยตัวเอง ก็สามารถลงเรียนกับการตลาดวันละตอนได้ หรือจะส่งทีมมาเรียนก็ได้

คลาสเรียนออนไลน์ Social Listening Analytics

คลาสเรียนออนไลน์ Social Listening เน้น Workshop ลงมือทำจริงด้วยตัวเอง รุ่นล่าสุด ศุกร์สุดท้ายของเดือน เปิดแล้ว
เรียนสดทางออนไลน์ ผ่าน Zoom เต็มวัน 9:00 – 15:00
ค่าเรียนคนละ 9,900 บาท รับจำกัดรุ่นละ 20 คน (ถ้าเต็มรุ่นนี้ต้องขอให้รอรุ่นหน้า)
อ่านรายละเอียดและสมัครก่อนเต็มได้ที่ลิงก์นี้ครับ

https://bit.ly/sociallisteningclass

แล้วคุณจะรู้ว่าการเข้าถึง Insight และ Opportunity ใหม่ๆ เป็นเรื่องง่ายแค่ใช้ Social Listening ให้เป็น

ตัวอย่างผลงานนักเรียนรุ่น 21 

คุณอุ้มเป็นผู้เรียน Social Listening Analytics รุ่น 21 ของการตลาดวันละตอนที่กลับมา Present การบ้านหลังจากที่ได้เรียนผ่านไป 1 สัปดาห์ เธอเอาไปทำงานกันของลูกค้าอาหารแมวรายหนึ่ง ทำให้พบ Data Insights มากมายที่คาดไม่ถึง

เธอใช้แนวทาง 8 ขั้นตอนการใช้ Social Listening โดยการตลาดวันละตอน (ที่อยู่ในหนังสือ Social Listening ด้วย) ไล่ทำตามทุกขั้นตอนจนทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนโดยไม่หลงทาง

1. Set Objective & Research Keywords
2. Set Social Listening & Collecting Data
3. Cleansing Data
4. Conversation Analysis
5. Categorized Data
6. Visualization
7. Summary Insights
8. Strategy & Recommendation

ถ้าดูจากภาพจะเห็นว่า เธอพบว่าอาหารแมวชนิดไหนได้รับความสนใจมากที่สุด หรือ Insights อาหารแมวจากช่วงวัยที่น่าสนใจ ว่าคนเลี้ยงแมวใส่ใจเมื่อแมวเริ่มอายุเยอะกว่าแมวโตทั่วไป จนสุดท้ายออกมาเป็นกลยุทธ์เพื่อนำไป Set Business Strategy & Marketing Communication ต่อ

ซึ่งผู้เรียนที่นำเครื่องมือกลับไปปรับใช้และมาส่งอัปเดตการบ้านได้แบบนี้ก็รับ Certified จากพี่หนุ่ย เจ้าของคลาสไปเลย~