3 กลยุทธ์การตลาดมัดใจวัยรุ่น Gen Z Marketing Insight 2024

3 กลยุทธ์การตลาดมัดใจวัยรุ่น Gen Z Marketing Insight 2024

เผยเคล็ดลับการตลาดมัดใจวัยรุ่น Gen Z Marketing Insight 2024 อยากทำแคมเปญการตลาดกับคนรุ่นใหม่ให้ประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มจากการเลิกคิดเองเออเองว่าวัยรุ่นวันนี้จะเหมือนวัยรุ่นวันวานแบบ Gen Y หรือ Millennials ได้แล้ว

นักการตลาดอย่างเราโดยเฉพาะคนรุ่น Gen Y และ Gen X ขึ้นไปต้องทำการบ้านใหม่หมด ยกเครื่อง Research วัยรุ่นเดิมทิ้ง แล้วหันมาใช้ Social Listening หรือ Data ให้มากขึ้น และนี่ก็เป็น 3 กลยุทธ์การตลาดหลักสำหรับนักการตลาดที่อยากจะมัดใจวัยรุ่น Gen Z 2024 ให้อยู่หมัดครับ

1. เลิก UGC หันมาสู่ Co-Creation

แคมเปญการตลาดแบบ UGC หรือ User Generated Content ที่เคยใช้ได้ผลกับวัยรุ่น Gen Y หรือ Millennials นั้นไม่เวิร์คกับวัยรุ่น Gen Z อีกแล้วครับ

เพราะวัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่วันนี้พวกเขาไม่ชอบให้ใครมาตีกรอบกำหนดว่าควรจะต้องทำอะไร หรือควรจะต้องทำแบบไหน นักการตลาดอย่างเราต้องรู้จักดูและฟังพวกเขาให้มากขึ้น สังเกตว่าพวกเขาทำอะไร แล้วก็ต่อยอดจากสิ่งนั้นที่พวกเขาทำไปแล้วแทน

อย่างแบรนด์ EOS ที่ต่อยอดสินค้าใหม่จากคลิปไวรัลบน TikTok ที่มีคนพูดถึงการเอาโฟมโกนขนของแบรนด์มาใช้โกนในที่ลับได้อย่างดีเยี่ยม แบรนด์ไม่กลับที่จะเอาคำหยาบซึ่งถือเป็นคำทั่วไปสำหรับวัยรุ่นทุกวันนี้แล้วมาใช้บนแพคเกจจิ้ง แต่ก็ไม่ได้ฉวยโอกาสเอาคำพูดของเจ้าตัวมาใช้เปล่าๆ แต่มีการให้เครดิตชัดเจนบวกกับส่งของที่ระลึกให้ถึงบ้านเพื่อแสดงออกว่าขอบคุณอย่างจริงจัง

ในบ้านเราก็เคยเห็นได้จากกระแสปีโป้ม่วง ที่ถูกนำมาต่อยอดกลายเป็นปีโป้แยกสีขายชัดเจน ผลคือยอดขายก็เพิ่มขึ้นเพราะคนได้กินแต่สีที่ตัวเองชอบ หรืออย่างรองเท้าแตะ Crocs ที่ก็ไป Collaboration กับแบรนด์ต่างๆ มากมาย ทำให้สินค้าอย่างรองเท้าแตะที่แมสจนดูน่าเบื่อมีสีสันขึ้นมาได้ตลอดเวลา และนั่นก็นำไปสู่โอกาสในการซื้อรองเท้าแตะคู่ที่สอง สาม สี่ และห้า กลายเป็นว่ามีกลุ่มแฟนคลับที่สะสมรองเท้า Crocs คอลเลคชั่นต่างๆ อย่างจริงจังไม่แพ้กลุ่มคนสะสม Sneaker แล้ว

สรุปได้ว่าถ้าอยากทำแคมเปญการตลาดได้ถูกใจวัยรุ่น Gen Z 2024 ต้องคอยหมั่นเฝ้าดู ฟัง สังเกต ผ่าน Social Listening เป็นอย่างน้อย เจอลูกค้าพูดถึงเราในแง่ดีต้องรีบหยิบมาต่อยอดให้ไว จนอาจนำไปสู่การสร้างสินค้าหรือบริการใหม่ๆ ร่วมกันได้ แล้วคุณจะกลายเป็นแบรนด์ที่ดูเท่ห์เสมอสำหรับพวกเขา

ถ้าอยากรู้ว่าจะเริ่มต้นใช้ Social Listening ได้อย่างไร อ่านต่อได้ที่บทความนี้ครับ

2. Brave Brand แบรนด์ต้องกล้าและบ้าให้สุด

เลิกทำการตลาดแบบครึ่งๆ กลางๆ และทำ Communication แบบตามๆ กันมาเสียที เพราะถ้าแบรนด์ไหนยังเป็นแบบนั้น บอกได้เลยว่าคุณจะไม่มีตัวตนในความจำของวัยรุ่น Gen Z 2024 แน่

เพราะวันนี้คนรุ่นใหม่เขาต้องการแบรนด์ที่กล้าที่จะต่างแบบสุดๆ เลิกทำอะไรที่เป็น Norm ได้แล้ว อย่างสินค้าประเภทน้ำแร่ธรรมชาติ ถ้าให้หลับตาคิดภาพคุณก็พอเดาออกใช่ไหมว่าจะสื่อสารมามุขใด หนีไม่พ้นน้ำตก เสียงนก เสียงลำธารไหล บวกกับคนหน้าตาดี หุ่นดี ผิวพรรณดี อะไรเทือกๆ ที่นี้ Gen Z เดาได้บอกได้เลยว่าพวกเขาไม่มีทางเอาเงินไปซื้อคุณง่ายๆ แน่

แต่กับแบรนด์น้ำแร่ธรรมชาติอย่าง Liquid Death ที่แม้จะทำน้ำแร่ธรรมชาติคุณภาพสูงออกมาขายเหมือนที่มีอยู่ดาษดื่นทั่วไปเต็มตู้แช่ในท้องตลาดแล้ว สิ่งที่ต่างอย่างสุดโต่งของแบรนด์นี้คือ Brand Positioning หรือจุดยืนของแบรนด์ จุดขายของแบรนด์ และการสื่อสารของแบรนด์ ที่กล้าจะเล่าเรื่องสินค้าผ่านการ์ตูนสุดโหด ไม่ทำการตลาดแบบโลกสวยที่แบรนด์น้ำแร่ธรรมชาติอื่นๆ ทำมาก่อน

หรือจะไปให้สุดอย่าง Patagonia ที่รักธรรมชาติแบบสุดๆ ถึงขนาดบอกให้ลูกค้าเดิมอย่าเพิ่งซื้อใหม่ถ้ามันเสียหายหรือขาดเพียงเล็กน้อย ใจกว้างขนาดทำคลิปสอนวิธีการซ่อมและดูแรรักษาเสื้อผ้า Patagonia ให้ลูกค้าใช้ได้นานๆ เพราะเขาบอกว่าถ้าคุณซื้อใหม่โดยยังไม่จำเป็นก็เท่ากับเป็นการทำร้ายโลกทางอ้อมครับ

พอเห็นภาพความสุดของแบรนด์ที่เล่าให้ฟังแล้วใช่ไหมครับ แต่ถ้านึกไม่ออกว่าสุดยังไงได้อีก ก็ลองอ่านย้อนหลังบทความนี้เต็มๆ ได้ที่ลิงก์นี้เลย

https://www.everydaymarketing.co/trend-insight/brave-brand-marketing-strategy-and-case-study-campaign-from-gen-z-insights-2024/

3. Eazy for Every Z แคมเปญการตลาดที่(วัยรุ่น)ทุกคนเข้าถึงง่าย

แต่เดิมแบรนด์ชอบทำให้ตัวเองดูหรูหรา ลึกลับ เข้าถึงยาก แบรนด์ธรรมดาอยากพรีเมียม ส่วนที่พรีเมียมก็อยาก Exclusive หรือ Luxury ไปเลย แม้กลยุทธ์การตลาดเหล่านี้จะเคยใช้ได้ผลกับวัยรุ่นสมัยก่อนอย่าง Gen Y หรือ Millennials หรือ Gen X เป็นอย่างดี แต่ก็ใช่ว่าจะใช้ได้กับวัยรุ่นอย่าง Gen Z 2024 ทุกวันนี้ เพราะ Insight พวกเขาไม่เหมือนกัน

แต่สิ่งหนึ่งที่อยากอธิบายให้ชัดเจนก่อน การที่บอกว่าทำแบรนด์ สินค้า หรือบริการของเราเข้าถึงวัยรุ่นได้ง่ายขึ้นนั้นผมไม่ได้หมายถึงการทำการตลาดแบบ Mass Marketing นะครับ แต่มันคือการทำให้สินค้าเราสามารถเข้าถึงวัยรุ่นกลุ่มต่างๆ ที่ไม่ได้แมสมากเหมือนเดิมมากขึ้น มันคือกลยุทธ์การตลาดแบบ Long-tail ก็ว่าได้ เพราะเมื่อเราสามารถจับกลุ่มคนเล็กๆ น้อยๆ มารวมกันได้ นั่นหมายถึงกลุ่มเป้าหมายก้อนใหญ่ที่จะสร้างรายได้ให้แบรนด์เรามหาศาล

McDonald’s เองก็ทำแคมเปญการตลาดที่ชื่อว่า Famous Orders ทำให้ร้านฟาสต์ฟู้ดที่อาจจะดูจืดชืดไม่เร้าใจ กลับมามีสีสันได้ด้วยการสื่อสารให้คนรู้ว่าเวลาคนดังซูเปอร์สตาร์ระดับโลกมากินร้าน McDonald’s นั้นพวกเขาสั่งกันอย่างไร

นั่นหมายความว่าวัยรุ่นที่เงินไม่เยอะก็สามารถกินตามคนดังได้สบายๆ หรือดีไม่ดีอาจกินได้มากกว่าคนดังด้วยก็ได้ เพราะสุดท้ายแล้วก็ใช้เงินแค่ไม่เท่าไหร่ที่ร้าน McDonald’s จริงๆ (ไม่นับค่าเงินไทยนะ)

หรือการเปิดโอกาสให้ลูกค้ากลายเป็นผู้ช่วยค้าขายให้แบรนด์เรา การทำ Affiliate marketing เองก็เป็นกลยุทธ์ที่ดีที่ทำให้เหล่าวัยรุ่น Gen Z อยากจะช่วยสนับสนุนแบรนด์เราได้ เมื่อพวกเขาใช้แล้วชอบก็อยากบอกต่อ แต่แทนที่จะบอกต่อเฉยๆ แบบวัยรุ่นยุคเก่าๆ ก็สู้แปะลิงก์ Affiliate link ทำเงินสักหน่อยจะเป็นไร

แต่ปัญหาสำคัญคือแบรนด์ต้องพยายามทำให้เรื่องนี้ไม่โหลเกินไป ต้องทำให้มีความ Exclusivity สักหน่อย อาจจะเปิดให้ขายได้เฉพาะสินค้าที่เจ้าตัวเคยซื้อไปแล้วเท่านั้น เพื่อยืนยันว่าเป็นลูกค้าตัวจริงจึงจะมีสิทธิ์ในการรับส่วนแบ่งเมื่อขายได้จริงๆ จากแบรนด์ครับ

สรุป 3 กลยุทธ์การตลาดมัดใจวัยรุ่น Gen Z Marketing Insight 2024

ทำความเข้าใจวัยรุ่นยุคใหม่อย่างใกล้ชิด ถ้าไม่รู้จะตามติดพวกเขาอย่างไร ก็เรียนรู้ที่จะใช้ Social Listening ด้วยตัวเองได้แล้วครับ จากนั้นก็สื่อสารให้แตกต่าง แม้จะเป็นสินค้าที่มีขายทั่วไปเต็มท้องตลาด ก็สามารถทำแคมเปญการตลาดให้ต่างจน Gen Z จดจำได้ไม่ยาก สุดท้ายคือการทำสินค้าเพื่อวัยรุ่นทุกคนอย่างแท้จริง ยิ่งคุณสามารถเข้าถึงพวกเขาได้มากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งรู้สึกดีกับคุณมากเท่านั้น

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Gen Z กลายเป็นกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 2024 ไป ดังนั้นนักการตลาดคนไหนที่พร้อมเข้าใจพวกเขามากกว่า ก็จะได้รับโอกาสจากเงินในกระเป๋าพวกเขามากมายครับ

อ่านแล้วลองเอาไปคุยกับทีมเพื่อปรับใช้กับแผนการตลาด Gen Z 2024 นะครับ

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *