Data Research Insight น้ำหอม ที่ไม่ได้มีดีแค่หอม By Social Listening
เครื่องหอมอย่างน้ำหอมที่มีมาอยู่ช้านานในโลกนี้ ตั้งแต่หลายพันปีก่อนจนถึงปัจจุบัน เทรนด์หรือความต้องการใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ ดังนั้น ในบทความนี้เราจะพามาอัปเดตเทรนด์น้ำหอม ไปกับ Data Research Insight น้ำหอม แบบเจาะลึกกันเพื่อให้เท่าทันกระแสของผู้บริโภคไปพร้อม ๆ กันค่า
โดย Insight ในบทความนี้ เราใช้ Social listening tool อย่าง Mandala ที่ทีมการตลาดวันละตอนใช้อยู่เป็นประจำมาเสาะหาว่า คนพูดถึงน้ำหอมในแง่มุมไหนบ้าง เช่น กลิ่นที่คนมองหา แบรนด์ใดบ้างที่คนพูดถึงบ่อย ๆ สิ่งที่คนมองหาจากน้ำหอมคืออะไร เป็นต้น เพื่อเป็นประโยชน์และไอเดียให้กับนักการตลาด ผู้ประกอบการ และผู้อ่านทุกท่านค่ะ
ในบทความนี้เราจะพามาดูทั้งขั้นตอนกระบวนการทำ 8 ขั้นตอนดังรูป และ Insight ที่เจอมาแบ่งปันทุก ๆ คนกันค่ะ
STEP 1 – 2 Research Keyword, Collecting Data
มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรก Research Keyword โดยตัว Keyword ที่เลือกใช้มีดังนี้ค่ะ
- Keyword ที่ใช้มีดังนี้ : น้ำหอม, Perfume โดยคำพวกนี้เป็นคำที่สื่อถึงบริบทของน้ำหอมได้ทั้งหมดและสามารถเก็บข้อมูลมาให้เราได้มากถึง 50,000 mentions
- ระยะเวลาที่ใช้ในการดึงข้อมูล : 01/03/2023 – 31/01/2024 หรือประมาณ 11 เดือนกว่าย้อนหลัง
ปล. การเลือกใช้ Keyword สามารถอ่านศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่
หลังจากเซตตัว Keyword เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ การ Collecting Data โดยระบบได้กวาดข้อมูลมาให้เราได้ทั้งหมดจำนวน 50,000 mentions ซึ่งจำนวนนี้ถือว่าเพียงพอต่อการนำไปใช้วิเคราะห์ในเบื้องต้นได้แล้วค่ะ
STEP 3 Cleansing Data
ก่อนที่จะได้ Insight มานั้น ต้องขอบอกว่าข้อมูลที่เราดึงมา มันไม่ได้มีข้อมูลที่เราจะใช้ได้ทั้งหมด 100% เพราะฉะนั้นเราจะต้องมา Cleansing data ซะก่อน โดยการ Cleansing data ของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละคนค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น โพสต์ขายน้ำหอมปรับอากาศ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในโพสต์นี้มีคำว่า “น้ำหอม” อยู่ในโพสต์ แต่บริบทของข้อความไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกับหัวข้อที่เราต้องการ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงต้องคัดกรองข้อมูลก่อนนั่นเองค่ะ
โดยวิธีการลบข้อมูลที่เราไม่ต้องการออกก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้ 1. กดที่ปุ่ม Exclude 2. กดลบที่ปุ่มถังขยะ หรือ 3. เลือกคีย์เวิร์ดที่จะ Exclude ในข้อความโดยการคลุมดำคำนั้นได้เลย สามารถเลือกใช้วิธีไหนก็ได้ตามความถนัดเลยค่ะ
STEP 4 Conversation Analysis
หลังจากที่เราทำการคลีนข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อมาที่เราจะเห็นก็คือข้อมูลแบบองค์รวมว่าประเด็นเกี่ยวกับน้ำหอมที่มีการพูดถึง คนพูดถึงในแง่มุมไหนบ้าง พูดถึงอย่างและแบบไหน ช่องทางไหนที่มีการพูดถึงบ้าง เทรนด์และไทม์ไลน์การพูดถึงในแต่ละช่วงเป็นอย่างไร
โดยสิ่งเหล่านี้จะช่วยไกด์ให้เราทำขั้นตอนต่อไปได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งก็คือการทำ Categorize Data หรือการจัดข้อมูลให้อยู่เป็นหมวดหมู่นั่นเองค่ะ
ทีนี้เรามาดูกันแต่ละส่วนกันดีกว่าค่ะ ว่าแต่ละแพลตฟอร์มมีการพูดถึงน้ำหอมมากน้อยแค่ไหน
เรามาดูในแง่ของส่วนแบ่งแพลตฟอร์มในมิติของ Mention, Engagement และ Ey Engagement ignore view กันก่อนค่ะ เพื่อที่จะทำให้เราได้มองเห็นภาพกว้างมากขึ้นว่าแพลตฟอร์มไหนคนมีการพูดถึงหรือมีส่วนร่วมกับประเด็นต่าง ๆ ที่ความเกี่ยวข้องกับ ‘น้ำหอม’
- By Mention: จากข้อมูลบ่งชี้ว่า Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่มีการถูกใช้เพื่อถึง น้ำหอม มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ Twitter, Instagram, YouTube และ TikTok ตามลำดับ โดยรูปแบบโพสต์ส่วนใหญ่จะมาจากเพจ Beayty, Pet Influencer ต่าง ๆ เช่น Eveanboy, นางพญาปลวก เป็นต้น นอกจากนี้ก็จะเป็นเพจแบรนด์/ ร้านค้า Beauty ต่าง ๆ
- By Engagement: ในทางกลับกับสำหรับด้าน Engagement แพลตฟอร์มอย่าง YouTube ขึ้นนำมาเป็นอันดับหนึ่ง (นับรวมยอดวิวเข้าไปด้วย) รองลงมาคือ Instagram และอื่น ๆ ตามลำดับ ซึ่งคอนเทนต์ส่วนใหญ่ในช่องทง YouTube จะเต็มไปด้วยช่องรีวิวน้ำหอม, Influencer ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับน้ำหอม รีวิวน้ำหอม ซื้อน้ำหอม เป็นต้น
- By Engagement ignore YouTube view -เพราะ YouTube มีการนับยอดวิวไปด้วย เราเลยกดเอาช่องทางนี้ออกเพื่อให้เห็นภาพรวมของช่องทางอื่น ๆ ค่ะ โดย Instagram ยังเป็นช่องทางที่ได้รับเอนเกจเมนท์สูงสุดอีกด้วย เพราะเป็นหนึ่งในช่องทางที่ร้านค้า, แบรนด์ต่าง ๆ ใช้เป็นหนึ่งในช่องทางการขายสินค้านั่นเองค่ะ
มาต่อกันด้วย Social Data By Timeline ในที่นี้เราจะดูข้อมูลสองส่วนด้วยกันค่ะ 1. By Mention เพื่อดูว่าเทรนด์ของการพูดถึงเป็นยังไง 2. By Emgagement Ignore YouTube สาเหตุที่เอาแพลตฟอร์ม YouTube ออก เพราะเป็นช่องทางที่นับยอดวิวเข้าไปด้วย ทำให้กินสัดส่วนของแพลตฟอร์มอื่น ๆ จึงเอาออกเพื่อที่จะได้ดูในแพลตฟอร์มอื่นบ้าง ว่าคอนเทนต์ไหนที่ได้รับความนิยมบ้างนั่นเองค่ะ
- By Mention: เราจะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลา 11 เดือนที่ผ่านมา น้ำหอม มีการถูกพูดถึงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงไตรสมาสสุดท้ายของปีที่มีการถูกพูดถึงมากอย่างเห็นได้ชัด จากบริบทที่ได้จากการขุดค้นทำให้เราได้พบว่า ในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงปลายปี ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เพจหรือ Influencer หลาย ๆ คนจึงเริ่มทำการโพสต์เกี่ยวกับการรีวิวน้ำหอมที่ตนได้ใช้มาพร้อมป้ายยา แนะนำว่าควรใช้น้ำหอมตัวไหน รวมถึงคอนเทนต์สอบถามน้ำหอมที่ควรมีต้อนรับปีใหม่นั่นเอง
- By Engagement Ignore YouTube: เราจะเห็นว่า Instagram และ Facebook คือแพลตฟอร์มที่ได้การมีส่วนร่วมเด่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด องค์รวมเราจะเห็นได้เลยว่าคอนเทนต์ส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมจะเป็นไปในเชิงของดาราที่เป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอม KOL, Influencer ต่าง ๆ ที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับน้ำหอมนั่นเองค่ะ
STEP 5 Categorize Data
หลังจากที่เราคัดกรองข้อมูล ได้ข้อมูลที่พร้อมใช้งานจริง ๆ และเห็นถึงภาพรวมของการพูดถึงเกี่ยวกับ น้ำหอม ว่ามีการพูดถึงในมุมมองในบ้าง พูดถึงแบบใด สิ่งที่เราต้องทำต่อไปคือการ จัดกลุ่มข้อมูลค่ะ ซึ่งก่อนที่เราจะจัดกลุ่ม เราต้องมาถามตัวเองก่อนว่า เราต้องการรู้อะไรจากมันบ้าง และข้อมูลบอกอะไรให้เราได้รู้บ้าง เพื่อที่จะวิเคราะห์ข้อมูลออกมา
โดยการจัดกลุ่มข้อมูลบทความนี้ จะแบ่งออกเป็น 4 Category เพื่อหาเป็น Insight ออกมา 4 หัวข้อ ดังนี้
- สาเหตุที่คนเลือกใช้น้ำหอม
- กลิ่นของน้ำหอมที่มีการพูดถึง
- ปัจจัยที่คนมองหาจากน้ำหอม
- Top 10 Brands ที่มีการพูดถึง
จากนั้นจะใช้ Tag ในการจัดกลุ่มข้อมูลค่ะ และคำที่ใช้ค้นหาเพื่อทำการจัดกลุ่มให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนจะเป็นตามในรูปด้านบนค่ะ ใครจะแบ่งหัวข้อมากกว่านี้ก็ได้นะคะ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ต้องการจะหา และข้อมูลพาเราไปหาได้ค่ะ
STEP 6 Data Visualization
เมื่อทำขั้นตอนของการจัดหมวหมู่ Data เสร็จแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 6 คือ การทำ Data Visualization วิธีการทำก็สามารถทำได้หลายทางแล้วแต่ความถนัด เช่น Power Bi, Looker Studio, Excel, Tableau เป็นต้น อย่างผู้เขียนจะเลือกทำใน Canva เพราะเป็นช่องทางที่ถนัดใช้ที่สุด โดยขั้นตอนนี้จะเป็นการนำข้อมูลทั้งหมดที่เราได้ทำการเตรียม มาทำการแปลงเป็นภาพที่เข้าใจง่ายขึ้น
Insight #1 ไม่ว่าจะหญิงหรือชายใช้น้ำหอมเพื่อเสริมความมั่นใจให้กับตัวเอง
เรามาดูกันที่ Insight แรกที่ได้จากการใช้ Social listening กันค่ะว่าสาเหตุที่คนเลือกใช้น้ำหอมมีอะไรบ้าง โดยข้อมูลในส่วนนี้เราจะแบ่งออกเป็น 2 เพศด้วยกัน คือ เพศหญิงและเพศชาย โดยภาพรวมเราจะเห็นได้ว่า มี 6 สาเหตุหลัก ๆ ด้วยกันที่ส่งผลให้คนเลือกใช้น้ำหอม
- เสริมความมั่นใจให้ตัวเอง
- เสริมภาพลักษณ์
- ดับกลิ่น
- อยากดูแพง
- ให้แฟนหลง
- ดึงดูดเพศอื่น
จากการขุดค้นของเราทำให้พบว่าเพศหญิงและเพศชายมีสาเหตุในการเลือกใช้ที่แตกต่างกัน เพื่อให้เห็นรายละเอียดมากขึ้น ดังนั้น เราจะพามาเจาะแยกแต่ละเพศกันค่ะว่าเพศหญิง/ชาย มีสาเหตุอะไรบ้าง และเพราะอะไร
สาเหตุแรกที่ผู้หญิงเลือกใช้น้ำหอมคือ เสริมความมั่นใจให้กับตัวเอง ซึ่งคิดเป็น 40.3% โดยเราพบว่าน้ำหอมมีส่วนช่วยในแง่ของความหอม เมื่อตัวหอม แล้วจึงรู้สึกมั่นใจ รู้สึกว่าวันนี้สวยกว่าวันไหนที่ไม่ได้ฉีด หากต้องไปเจอผู้คน ตัวหอมจะดีกว่าตัวไม่หอม รองลงมาก็จะเป็นในแง่ของการใช้เพื่อช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้กับตัวเอง 21.8% เพราะน้ำหอมแต่ละกลิ่น แต่ละแบรนด์ก็จะมีภาพลักษณ์ที่แตกต่างกันไป กลิ่นช่วยสร้างคาแรคเตอร์ให้กับผู้ใช้ได้
ปัจจัยกับกลิ่นก็ถือว่าตรงตัว เพราะน้ำหอม ช่วยทำให้ตัวเราหอม ดับกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ได้ จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เพศหญิงเลือกใช้น้ำหอมนั่นเองค่ะ
ที่น่าสนใจคือ สาเหตุ 3 อันดับสุดท้าย อยากดูแพง ให้แฟนหลง และดึงดูดเพศตรงข้าม สาเหตุเหล่านี้ถือว่าค่อนข้างว้าวได้ที่ได้ทำ Social listening เรื่องนี้ค่ะ เพราะไม่คิดว่าจะมีสาเหตุเหล่านี้อยู่ด้วย จากบริบททำให้เราได้พบว่า น้ำหอมช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกแพงได้เนื่องจากกลิ่น กลิ่นเหมือนพวกคนรวย ผู้ดีที่มักมีกลิ่นแบบนี้ ทำให้น้ำหอมบางตัวผู้ขายถึงกับโปรโมทว่าเป็นน้ำหอมคนรวยเลยก็มี!
4.4% บ่งชี้ว่าใช้น้ำหอมเพื่อทำให้แฟนหลง โดยหลงในทีนี้เราพบว่ามักจะเกี่ยวกับในแง่มุม 18+ เป็นซะส่วนใหญ่ โดยจะใช้ฉีดเมื่อต้องทำภารกิจกระชับมิตรกับแฟนของตน หรือแฟนมาหา/ ต้องไปเจอแฟนเมื่อไหร่จะเลือกฉีด สรุปได้ว่าน้ำหอมช่วยทำให้ชีวิตคู่รักดีขึ้นนั่นเองค่ะ
สาเหตุสุดท้ายคือการใช้เพื่อดึงดูดเพศอื่น 3.6% บริบทจะตรงตัวคือ การใช้เพื่อดึงดูดเพศอื่น เพราะกลิ่นสามารถช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้กลิ่น เข้าข่ายกับประโยคที่ว่าตัวหอมใครก็อยากเข้าหานั่นเองค่ะ
กล่าวโดยสรุป เราจะเห็นได้ว่า Insight ที่ได้จากการใช้ Social listening ในประเด็นนี้ ผู้หญิงจะเน้นไปในเรื่องของความสวยงามจากทั้งภายในและภายนอก ภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญของเพศหญิง
เมื่อมาดูข้อมูลจาก Social Listening ในฝั่งของเพศชาย บริบทจะมีความคล้ายคลึงกันและแตกต่างกันไปในบ้างส่วนเมื่อเทียบกับเพศหญิง โดยสาเหตุแรกยังคงเป็นสาเหตุเดียวกันคือ 52.8% เลือกใช้น้ำหอมเพราะต้องการเสริมความมั่นใจให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเที่ยว ไปปาร์ตี้ ไปเจอผู้คน กลิ่นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คนรู้สึกมั่นใจ
ซึ่งจะสอดคล้องกับสาเหตุที่ 2 ซึ่งก็คือ ใช้เพื่อดับกลิ่น 24.6% โดยเราพบว่าผู้ชายจะพูดถึงปัญหาเรื่องกลิ่นตัวมากกว่าเพศหญิง น้ำหอมจึงเป็นอีกหนึ่ง Solution ที่เข้ามาช่วยในเรื่องกลิ่นตัวได้นั่นเองค่ะ
ที่น่าสนใจคือ ใช้เพื่อดึงดูดเพศอื่น ในทีนี้เราพบว่าบริบทค่อนข้างคล้ายกับเพศหญิงคือ ฉีดเพื่อให้ผู้อื่นประทับใจในตัวเรา คนตัวหอมใครก็อยากใกล้ ดมแล้วสาวใจสั่นไปเลยก็มี และเราพบว่าสาเหตุของการใช้เพื่อทำให้แฟนหลง ฝั่งของผู้หญิงและผู้ชายมีความสอดคล้องกันค่ะ คือใช้เพื่อเอาใจอีกฝ่ายให้รู้สึกดี รู้สึกประทับใจในตัวเรา
กล่าวโดยสรุป เราจะเห็นได้เลยว่าบริบทสาเหตุการใช้น้ำหอมของฝั่งชาย จะเน้นไปในเรื่องของความมั่นใจและความสะอาดทางกาย เรื่องกลิ่นกายเป็นหลัก ส่วนเรื่องทางนามธรรมเช่นการดึงดูดเพศอื่น ทำให้แฟนถึงพอใจ เป็นเรื่องรองนั่นเองค่ะ
Insight #2 กลิ่น Fruity มาแรงในเพศหญิง Woody มาแรงในเพศชาย
จากการใช้ Social listening ทำให้เราได้พบว่า โดยภาพรวมกลิ่นที่เพศหญิงและเพศชายมองหามีความแตกต่างกัน ซึ่งผู้หญิงจะเน้นไปทางแนวหอมหวาน กลิ่นผลไม้ นุ่มนวลเหมือนแป้งเด็ก ในฝั่งผู้ชายจะเน้นไปแนวนุ่มลึก สุขุม แต่ก็ยังไม่ทิ้งความหอมหวาน สดใสเหมือนกลิ่นดอกไม้และผลไม้นั่นเอง
ซึ่งแต่ละเพศก็จะมีกลิ่นที่มองหาแตกต่างกันไป เพื่อให้เห็นถึงรายละเอียดมากขึ้น เราจะพามาเจาะลึกในแต่ละเพศกันค่ะว่าพวกเขามองหากลิ่นน้ำหอมแบบไหน แล้วแต่ละกลิ่นมีความพิเศษยังไง โดยนักการตลาดหรือเจ้าของกิจการสามารถนำข้อมูลตรงนี้ไปปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจได้ค่ะ ดูว่าเรามีกลิ่นใดบ้างที่ขาย หรือยังไม่มีกลิ่นใดก็ลอง Add-on กลิ่นที่ยังไม่มีเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายได้ค่ะ
ในด้านของเพศหญิง กลิ่น Fruity ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 34.4% โดยกลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่มีความหอมของผลไม้ จึงไม่แปลกที่จะเป็นกลิ่นที่ผู้หญิงชื่นชอบ รองลงมาจะเป็นกลิ่นแป้งเด็ก 30.1% โดยกลิ่นนี้จะมีความพิเศษอยู่ที่กลิ่นจะเหมือนแป้งเด็ก นุ่มนวลเหมือนเด็กเล็ก ใสซื่อ ดูบริสุทธิ์
ที่น่าสนใจคือกลิ่นลูกคุณ หรือลูกคุณหนู และกลิ่นคนรวย 3.2% กลิ่นเหมือนลูกคนรวย คุณหนู คุณชายทั้งหลาย คุณท่าน คุณนายที่ไม่เคยต้องทำงาน ตัวเลยหอม ซึ่งเป็นชื่อที่ร้านค้าหรือ Influencer ใช้ในการโปรโมทแบบจริง ๆ ค่ะ
กล่าวโดยสรุปจาก Socail listening ว่าภาพรวมของกลิ่นที่ผู้หญิงมีการพูดถึงจะเน้นไปทางกลิ่นที่มีความหอมหวาน กลิ่นผลไม้ Fruity นุ่มนวล เน้นสื่อภาพลักษณ์ใส ๆ เป็นส่วนใหญ่นั่นเองค่ะ
ข้อมูลจาก Social listening บ่งชี้ให้เราเห็นว่ากลิ่นน้ำหอมที่ผู้ชายพูดถึงมากที่สุดคือ Woody คิดเปน 50.5% ซึ่งกลิ่นนี้จะมีจุดเด่นที่เป็นกลิ่นแมกไม้ ให้ภาพลักษณ์แนวสุขุม รองลงมาจะเป็น Cirtrus 21.9% ที่จะเป็นกลิ่นให้ความรู้สึกสดชื่น ๆ โปร่งโล่ง
และที่น่าสนใจใน Insight นี้คือ กลิ่นคนรวย ที่คิดเป็น 7.6% โดยบริบทจะมีความคล้ายคลึงกับกลิ่นคนรวยในเพศหญิง ที่ฉีดแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกลิ่นคนรวยที่วัน ๆ ไม่ได้ทำอะไรให้เหงื่อต้องออก กลิ่นเหมือนคุณชายที่ใช้ชีวิตแถวทองห่อ เอกมัย ช้อปปิ้งแถวตึกเกษรทุกวัน
กล่าวโดยสรุปจาก Socail listening ว่าภาพรวมของกลิ่นที่ชายมีการพูดถึงจะเน้นไปทางกลิ่นที่มีความสุขุม หอมสะอาด สดชื่น เน้นสื่อภาพลักษณ์คนโต ผู้ใหญ่วัยทำงานเป็นส่วนใหญ่นั่นเองค่ะ
หลายคนอาจจะเกิดคำถามขึ้นมาในใจ….แล้วทำไมจะต้องเป็นกลิ่นคนรวยด้วยล่ะ?
จากการสืบเสาะลึกลงไป ทำให้เราได้พบกับคำตอบง่าย ๆ เลยค่ะ คือแค่เอารวยแบบเอาฟีล เราอาจจะรวยจริงไม่ได้ ขอแค่ได้รวยทิพย์ก็เอา! รวยจากกลิ่นนี่แหละคือคำตอบของความต้องการ! ทำให้เราได้เห็นถึง Demand ตอนนี้ว่ามีคนที่ต้องการรวยอยู่เป็นจำนวนมาก และกำลังหา Solution เพื่อเสริมภาพลักษณ์ของตน
ผู้เขียนคิดว่าหากเรานำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้กับการทำการตลาดของเราได้ โดยการใช้คียเวิร์ดเราในไปทำ Marketing Content ต่าง ๆ ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ เพราะเป็นกลิ่นที่มีความ Catchy พอสมควรเลย
Insight #3 น้ำหอมที่ดีคือน้ำหอมที่ติดทน!
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่าปัจจัยแรก ๆ ที่คนมองหาจากน้ำหอมคือ ความติดทน ซึ่งคิดเป็น 35.6% กันเลยทีเดียว โดยเราพบว่าสาเหตุที่คนชอบน้ำหอมที่ติดทนเพราะขี้เกียจที่จะหยิบออกมาฉีดบ่อย ๆ หรือบางทีน้ำหอมที่ใช้ขวดใหญ่ พกพาลำบาก ฉีดทีเดียวคือฉีดตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน ทำให้คนมองหาทน้ำหอมที่ติดทนมากที่สุดนั่นเองค่ะ
รองลงมาคือ กลิ่นไม่ฉุนมากเกินไป คิดเป็น 27.2% เพราะกลิ่นของน้ำหอมที่แรงไปทำให้คนเวียนหัวได้ คนจึงเลือกมองหาน้ำหอมที่มีกลิ่นที่ไม่ฉุนมากจนเกินไปนั่นเองค่ะ
ถัดมาก็จะเป็น หัวฉีดไม่อุดตันง่าย ใช้งานได้ทน เมื่อไหร่ที่ตัวฉีดอุดตัน น้ำหอมก็จะฉีดไม่ออกหรือใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ต้องซื้อใหม่นั่นเองค่ะ และบางทีน้ำหอมก็มีราคาแพง จะให้ซื้อใหม่หลาย ๆ รอบ ฝั่งผู้บริโภคเองก็มีการโอดอครวญว่าซื้อไม่ไหว
และประเด็นถัดมาที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ คนมองหาน้ำหอมที่พกพาสะดวก โดยจะเป็นน้ำหอมที่มี ml น้อย ๆ ขวดเล็ก ๆ พกไปฉีดตอนไหนและที่ไหนก็ได้ ซึ่งก็จะสอดคล้องกับหนึ่งใน Pain Point ปัจจัยแรกที่ว่าเลือกน้ำหอมที่ติดทน เพราะน้ำหอมขวดใหญ่ ฉีดได้แค่ครั้งเดียวตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน จึงเป็นที่มาที่ไปของการมองหาน้ำหอมที่พกพาสะดวกนั่นเองค่ะ
ดังนั้น แบรนด์หรือผู้ประกอบการที่ขายน้ำหอม ลองทำน้ำหอมที่มีขนาดขวดเล็กลงมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า Segment นี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ
Insight #4 Top 10 Brands ที่มีการถูกพูดถึงมากที่สุด
ปิดท้าย Data Research Insight น้ำหอม กันด้วยข้อมูลจาก Social listening ในหัวข้อของ Top 10 Brands ที่มีการถูกพูดถึงมากที่สุด โดยแบรนด์ที่มีการถูกพูดถึงมากที่สุดมีดังต่อไปนี้
- CHANEL 22.5%
- Withat 17.9%
- BVLGARI 16.6%
- Burberry 14.5%
- Jo Malone 11.2%
- พี่ดำทอมโสด 8%
- Janua 3.9%
- GUCCI 2.6%
- Tom Ford 1.5%
- VALENTINO 1.2%
หากเราดูภาพรวมของน้ำหอมดี ๆ เราจะเห็นได้ว่าเทรนด์น้ำหอมไทยบ้านเรากำลังเป็นที่นิยม เพราะ 3 ใน 10 ถือเป็นน้ำหอมจากประเทศไทยและมีลำดับการถูกพูดถึงที่เกาะกลุ่มอยู่ในลำดับสูง ๆ (Withat, พี่ดำทอมโสด, Junua) นอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นน้ำหอมที่เป็นแบรนด์จากฝรั่งเศสเป็นซะส่วนใหญ่นั่นเองค่ะ
ท่านใดที่ค้าขายสินค้าประเภทนี้อยู่ ลองนำรายชื่อน้ำหอมจากแบรนด์ต่าง ๆ เหล่านี้ไปปรับใช้ นำเข้ามาขายมากขึ้น หรือไปทำการตลาด วิเคราะห์เป็น Competitor Analysis ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ
สรุป Data Research Insight น้ำหอม By Social Listening
Data Research Insight น้ำหอม ในบทความนี้ทำให้เราเห็นได้เลยว่าตลาดของความต้องในสิ่งเดียวกัน เมื่อแยกย่อยเป็นรายเพศ…ความต้องการ ปัจจัยที่มองหา พฤติกรรมในการใช้สินค้ามีความแตกต่างกัน เช่น เพศหญิง มองหาน้ำหอมที่ช่วยให้เสริมความมั่นใจ เสริมภาพลักษณ์ เป็นหลัก ส่วนเพศชาย ก็มองหาน้ำหอมที่ช่วยเสริมความมั่นใจเช่นเดียวกัน แต่จะเน้นไปในเรื่องของการดับกลิ่นด้วยเป็นซะส่วนใหญ่
กลิ่นที่กำลังเป็นที่นิยมในตลาดตอนรี้ก็จะเน้นไปทางกลิ่น Fruity และ Woody หอมหวานผลไม้ สำหรับผู้หญิง นุ่มลึกสุขุม สำหรับผู้ชาย และที่น่าสนใจคือ กลิ่นที่บ่งบอกถึงความเป็นลูกคุณ กลิ่นคนรวย มาแรงแบบที่เราไม่ควรมองข้าม ถึงแม้ว่าจะเป็นกลิ่นที่ไม่ได้มีจริง แต่เป็นกลิ่นที่ผู้คนและผู้ขาย Hype กันมาก ซึ่งถือเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ ค่ะ
ปัจจัยเรื่องความติดทนถือเป็น Priority หลักในการเลือกซื้อน้ำหอม ดังนั้น น้ำหอมแบรนด์เราทำให้ติดทนดีรึยัง อันนี้เป็นคำถามที่เราอาจต้องกลับไปถามกับตัวเองเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด หรือกลายนำประเด็นเรื่องของปัจจัยในการเลือกซื้อไปทำ SEO Content ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเช่นเดียวกันค่ะ
และนี่ก็คือทั้งหมดที่ได้จากการใช้ Social listening tool เจาะลึกธุรกิจอาหาร ‘น้ำหอม’ ที่มาพร้อมประเด็นที่น่าสนใจและอยากนำมาแชร์ เพื่อให้เจ้าของธุรกิจทั้งที่ดำเนินกิจการอยู่ และกำลังหาไอเดียใหม่ ๆ ได้ปรับตัวตาม Consumer Insight ที่ชื่นชอบน้ำหอมกันค่ะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และสร้างไอเดียใหม่ ๆ ต่อผู้อ่านทุกคนนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ
❖ ————————————— ❖
สำหรับใครที่อยากลองสมัครมาใช้เองมี Coupon Code ของ Online Subscription เพื่อรับส่วนลดพิเศษ ให้กรอก โค้ด EVDAYMKT ได้ที่ลิงก์นี้เลย https://www.mandalasystem.com
โดยจะได้รับส่วนลด 5% สำหรับบิลแรกเท่านั้น ซึ่งสามารถใช้ได้กับทั้ง Pay as you go และ 12 months with One Time Payment
ถ้าอยากดูบทความเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่าง ๆ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ เลยค่ะ พวกเราทีมการตลาดวันละตอนมีหลายเคสที่ใช้ฟีเจอร์ของ Mandala มาวิเคราะห์ข้อมูล เทรนด์ และทำ Insight เจ๋ง ๆ แบบนี้ออกมาค่ะ😊
หรือถ้าอยากเรียนการใช้ Social Listening ให้เป็นด้วยตัวเอง ก็สามารถลงเรียนกับการตลาดวันละตอนได้ หรือจะส่งทีมมาเรียนก็ได้
คลาสเรียนออนไลน์ Social Listening Analytics
คลาสเรียนออนไลน์ Social Listening เน้น Workshop ลงมือทำจริงด้วยตัวเอง รุ่นล่าสุด ศุกร์สุดท้ายของเดือน เปิดแล้ว
เรียนสดทางออนไลน์ ผ่าน Zoom เต็มวัน 9:00 – 15:00
ค่าเรียนคนละ 9,900 บาท รับจำกัดรุ่นละ 20 คน (ถ้าเต็มรุ่นนี้ต้องขอให้รอรุ่นหน้า)
อ่านรายละเอียดและสมัครก่อนเต็มได้ที่ลิงก์นี้ครับ