8 เทคนิคสุดปัง ขายของออนไลน์ 2024 จากร้านดังใน Shopee

8 เทคนิคสุดปัง ขายของออนไลน์ 2024 จากร้านดังใน Shopee

สวัสดีนักการตลาดและนักอ่านทุกท่านครับ บทความนี้ผมจะพามาส่อง 8 เทคนิค ขายของออนไลน์ ยังไงให้ปังจาก ผู้ประกอบการตัวจริงที่ประสบความสำเร็จใน Shopee ครับ เรื่องมีอยู่ว่า Shopee ได้ทำการคัดสรรผู้ขายที่มีความสามารถ มากประสบการณ์ทั้ง 8 ท่านจากโครงการ CSEP ประจำปี 2566 มาร่วมส่งต่อความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการขายของบน E-commerce

โดยผู้ขายทั้ง 8 ท่าน ได้แบ่งปันกลยุทธ์สู่ความสำเร็จไว้ทั้งหมด 8 เรื่อง ที่รวบรวมเทคนิคการทำธุรกิจบน E-commerce platform อย่างครอบคลุม เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ค้าออนไลน์ได้พัฒนาและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับร้านค้าของตนบนโลกอีคอมเมิร์ซที่ยังขยายตัว และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภคยุคดิจิทัล

8 เทคนิคง ขายของออนไลน์ 2024

วลีที่ว่า “สินค้าดีมี ชัยไปกว่าครึ่ง” อาจะเป็นคำที่ดูเก่าแต่ก็ใช้ได้ผลเสมอครับ และการใช้ Data มาประกอบการตัดสินใจ สามารถช่วยให้ร้านตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะครับ เพราะฉะนั้นก่อนจะเลือกสินค้าสำหรับขาย จึงแนะนำให้ร้านค้าลองเปรียบเทียบความน่าสนใจของสินค้าแต่ละประเภท ด้วยสถิติต่าง ๆ บน Shopee ดูก่อนครับ ตัวอย่าง

  • ประเมินมูลค่าตลาดของสินค้าคร่าว ๆ โดยนำมูลค่ายอดขายต่อเดือนของ 10 อันดับแรกมารวมกัน เพื่อดูว่าตลาดของสินค้านี้มีขนาดใหญ่เท่าไหร่ และนำใช้ตั้งเป้ายอดขายต่อได้ว่าร้านค้าต้องการส่วนแบ่งทางการตลาดกี่เปอร์เซ็นต์
  • ประเมินมูลค่ายอดขายต่อเดือนของผู้ที่ได้อันดับ 1 เพื่อดูความแข็งแกร่งของเจ้าตลาดว่าครองส่วนแบ่งทางการตลาดไว้เท่าไหร่ และมีพื้นที่ให้ร้านค้าใหม่ ๆ เข้ามาแข่งขันมากน้อยแค่ไหน
  • ประเมินมูลค่าเฉลี่ยต่อชิ้น โดยคำนวณจาก 10 อันดับแรก เพื่อวิเคราะห์ว่าช่วงราคาใดที่เหมาะสม และสอดคล้องกับเป้ายอดขายที่ตั้งไว้  
ขายของออนไลน์ สำรวจตลาด

ทุกคนสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการเข้าถึงสถิติสินค้าขายดีประจำสัปดาห์ วิธีการคำนวณ และตัวอย่างการนำไปใช้จริงโดย คลิ๊ก ได้เลยครับ

ขายของออนไลน์ แบรนด์

ทุกคนสามารถเริ่มต้นกำหนดทิศทางของแบรนด์ด้วยหลักการพื้นฐานอย่าง STP หรือ Segmentation, Targeting, และ Positioning เพื่อหา Winning Point เมื่อได้ Winning Point เรียบร้อยแล้ว จะสามารถนำมาสร้าง Brand Identity หรืออัตลักษณ์ของแบรนด์เพื่อใช้สื่อสารในแต่ละ Touch Point ได้ โดย 3 สิ่งสำคัญ ที่ต้องคำนึงถึงในการทำแบรนด์บน E-commerce platform คือ  

  • 1. การออกแบบหน้าร้าน การแต่งหน้าร้านออนไลน์ให้มีบรรยากาศที่สะท้อนความเป็นแบรนด์จะช่วยให้ลูกค้าสนใจและอยากเข้าไปดูสินค้าภายในร้าน ภาพที่แบรนด์สามารถนำมาตกแต่งหน้าร้านได้มีมากมาย เช่น ภาพปกที่แสดงความเป็นแบรนด์ได้ชัดเจน ภาพแนะนำสินค้าหรือคอลเลคชั่นสินค้า ภาพให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้า เช่น วิธีการใช้งาน คุณสมบัติพิเศษของสินค้า ตลอดจนภาพแนะนำโปรโมชั่นหรือแคมเปญ เป็นต้น
  • 2. การใช้คำ สร้างถ้อยคำอธิบายสินค้าให้โดนใจด้วยหลักการ F-B-A
    • F – Feature บอกคุณสมบัติของสินค้าให้ครบครัน
    • B – Benefits บอกประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากคุณสมบัติต่าง ๆ ของสินค้า
    • A – Advantage บอกจุดเด่นที่ทำให้สินค้าหรือแบรนด์เหนือกว่าหรือต่างจากคู่แข่ง โดยจะน่าสนใจยิ่งขึ้นถ้าจุดเด่นนี้สามารถตอบโจทย์ Pain Point หรือปัญหาของลูกค้าได้อีกด้วย   
  •  3. การใช้ภาพ ใช้ภาพที่ลูกค้าดูออกได้ทันทีว่าขายอะไร ไม่ใส่รายละเอียดที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปให้รกภาพ คุมสีและโทนของภาพให้เป็นไปตามอัตลักษณ์แบรนด์ และใช้ภาพที่ช่วยสะท้อนไลฟ์สไตล์หรือความสนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 

สามารถอ่าน Case Study Brand Identity เพิ่มเติมโดย คลิ๊กที่นี่ ได้เลยครับ ^^

สำหรับสิ่งแรกที่ร้านค้าควรทำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยิง Ads ขายของออนไลน์ บน Shopee คือ การสำรวจร้านค้าของตัวเองว่ามีสินค้ามากเพียงพอหรือไม่ เนื่องจากการยิง Ads ที่ทำให้ผู้ซื้อมองเห็นตัวเลือกหลากหลายในคราวเดียว ทั้งสินค้าหลัก สินค้ารอง และสินค้าเกี่ยวข้อง จะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสการขายได้มากขึ้น อีกทั้งทั้งยังควรเลือกใช้สินค้าที่มีกำไรมากพอ และทำควบคู่ไปกับ Promotion ที่ดึงดูดใจลูกค้า เช่น Add-on Deal, Bundle Deal, และ Seller Voucher

นอกจากนี้ ควรตั้งงบยิง Ads เอาไว้อย่างชัดเจน สำหรับมือใหม่และร้านที่งบน้อยควรเริ่มยิง Ads ทีละตัวเพื่อศึกษาการทำงานของ Ads พฤติกรรมลูกค้า คอยดูผลและปรับโฆษณาทุก ๆ 7 – 14 วันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความคุ้มค่า และที่สำคัญอย่าลืมประหยัดงบยิง Ads ด้วยการใช้ส่วนลดเครดิต Shopee Ads ที่ช้อปปี้มอบให้กับร้านค้าด้วยนะครับ

สามารถประเมินความคุ้มค่าของโฆษณาได้จาก Return on Ads Spend (ROAS) และ Advertising Cost of Sales (ACOS) โดยสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการประเมินผลการยิง Ads เพิ่มเติมได้ ที่นี่ เลยครับ

การเป็นร้านค้าที่มีสินค้าติดแรงค์ขายดีประจำสัปดาห์ สามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้มากขึ้นครับ และคะแนนรีวิวจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้า นำไปสู่โอกาสการขายที่มากขึ้น

โดยมีเช็คลิส 6 ข้อ สำหรับสำรวจและปรับปรุง เพื่อผลักดันสินค้าสู่การเป็นอันดับต้น ๆ ของสินค้าขายดีประจำสัปดาห์

  • 1. ภาพสินค้า ภาพดึงดูดใจ มีความครบถ้วนและเหมือนสินค้าจริง ทำให้ลูกค้าเห็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน
  • 2. ชื่อสินค้า ควรใช้ชื่อที่ลูกค้าใช้เรียกสินค้านั้นจริง ๆ บ่งบอกคุณลักษณะสำคัญให้ครบ และการใส่โปรโมชั่นหรือโค้ดส่วนลดไว้ในวงเล็บ ยังช่วยดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี
  • 3. รายละเอียดสินค้า มีครบถ้วนทั้งคุณสมบัติ การใช้งาน  Story telling ของสินค้าและแบรนด์ และบริการหลังการขาย โดยข้อมูลที่ครบครันจะช่วยเพิ่มการมองเห็นสินค้า เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้า ลดคำถามเกี่ยวกับสินค้า และลดอัตราการคืนสินค้าได้อีกด้วย 
  • 4. คะแนนและรีวิว คะแนนสินค้ามากกว่า 4.5 (เต็ม 5) ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและโอกาสการเพิ่มยอดขาย
  • 5. Shopee Ads ใช้โฆษณาภายในแพลตฟอร์มช้อปปี้เพิ่มการมองเห็นสินค้า
  • 6. Affiliate Marketing Solution (AMS) โปรโมทผ่านพันธมิตรอินฟลูเอนเซอร์เพื่อเพิ่มการมองเห็นนอกแพลตฟอร์ม  

เรียกได้ว่าฟีเจอร์ที่มาแรงในเวลานี้ต้องยกให้ Shopee Live จริง ๆ ครับ เนื่องจาก Shopee กำลังแข่งกับต๊อกตอกในการ Live ขายของทำให้ Shopee ผลักดัน Shopee Live อย่างสุดกำลังอย่างแน่นอน ข้อดีของ Shopee Live คือ สามารถช่วยร้านค้าให้เพิ่มจำนวนผู้มองเห็นร้านค้า เพิ่มผู้ติดตามร้านค้า และเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดี

หนึ่งในสิ่งสำคัญในการไลฟ์ขายสินค้าให้ประสบความสำเร็จ คือ การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมและนำเสนอเรื่องราวของสินค้าและแบรนด์ให้น่าสนใจ นอกจากนี้ ช้อปปี้ยังมีเคล็ดลับที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ชม เพิ่มการมีส่วนร่วม และช่วยปิดการขาย ได้แก่

  • กดแจ้งเตือนไปยังลูกค้าบน Shopee และโปรโมทไลฟ์ไปยัง Social Media ของร้านค้า
  • ใช้ฟีเจอร์แจก Coins ช่วยดึงดูดลูกค้า ทั้งนี้ ควรตั้งงบประมาณการแจก Coin ในแต่ละไลฟ์ไว้ก่อน
  • ดึงดูดลูกค้าให้อยู่ในไลฟ์นานขึ้น ด้วยการแบ่งทำโปรโมชั่นเป็นช่วง ๆ เอนเตอร์เทนต์ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการเลือกสินค้ามานำเสนอ
  • มัดใจด้วยโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในไลฟ์ โดยควรบอกราคาพร้อมส่วนลด เปรียบเทียบส่วนต่างให้ลูกค้าทราบอย่างชัดเจน แสดงการคำนวณราคาที่ลดแล้วเพื่อแสดงถึงความคุ้มค่า และควรบอกโปรโมชั่นที่ลูกค้าจะได้รับทั้งหมดภายในไลฟ์เป็นระยะ ๆ 
  • กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ ด้วยการแจ้งให้ผู้ชมทราบถึงข้อจำกัดในการรับความคุ้มค่า เช่น ระยะเวลาการกดซื้อเฉพาะในไลฟ์ จำนวนสินค้าที่จะนำมาขายในไลฟ์ รวมถึงแจ้งจำนวนสินค้าที่ขายออกไปแล้วเป็นระยะ ๆ ให้เห็นว่าสินค้าเหล่านั้นกำลังได้รับความนิยม
Create Products VDO

วิดีโอนำเสนอสินค้าเป็นอีกเครื่องมือที่สามารถจูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ โดยเฉพาะสำหรับสินค้าที่มีราคาสูง มีอุปกรณ์จำนวนมาก หรือ มีคุณสมบัติหรือฟีเจอร์ที่มีความเฉพาะตัว โดยร้านค้าควรให้ความสำคัญกับคุณภาพที่คมชัดของภาพและเสียง เปิดคลิปช่วง 10 วินาทีแรกให้น่าสนใจ และไม่ Hard sale จนเกินไปครับ

“ส่งฟรี” เป็นปัจจัยอันดับ 1 ในแง่ของการทำโปรโมชั่น ที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์ ด้านส่วนลด Cash Back หรือ Coin ก็นับว่าเป็นปัจจัยที่มีประสิทธิภาพไม่แพ้กัน 

เคล็ดลับพิเศษ คือ เมื่อร้านค้าเข้าร่วมโปรแกรม “ส่งฟรีร้านโค้ดคุ้ม” และ “ส่วนลดร้านโค้ดคุ้ม” แล้ว ร้านและสินค้าจะได้รับการติดป้ายแท็กพิเศษซึ่งช่วยดึงดูดลูกค้าและกระตุ้นยอดขายได้ดีขึ้นครับ นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มโอกาสการมองเห็นของร้านค้า โอกาสเข้าร่วมแคมเปญ โอกาสรับสล็อต Flash Sale และยังได้รับส่วนลดเครดิตโฆษณา Shopee Ads อีกด้วย

ทั้งนี้ ร้านค้าควรพิจารณาการเลือกเข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ ตามงบประมาณการทำการตลาดที่กำหนดเอาไว้ และคำนึงถึงการกระตุ้นให้ลูกค้าเพิ่มมูลค่าในการจ่ายเพื่อซื้อสินค้าใน 1 ครั้ง (Basket Size) ร่วมด้วย

บริหารจัดการร้านค้าออนไลน์

หลาย ๆ คนต้องการสร้างรายได้จากหลายช่องทางเพื่อความมั่นคงเรื่องการเงิน และการขายของออนไลน์ก็เป็นอีกอาชีพเสริมที่มีความยืดหยุ่นสูง แต่จะจัดการเวลาทำงานยังไงให้มีประสิทธิภาพทั้งงานหลัก งานเสริม และไหนจะเวลาพักผ่อนอีก ดังนั้นทิปส์สุดท้ายนี้จึงเป็นการรวบรวมสิ่งที่เจ้าของธุรกิจออนไลน์ต้องทำในแต่ละวัน และแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้สามารถวางแผนจัดการเรื่องเวลาได้ดียิ่งขึ้นครับ ^^

กิจวัตรประจำวันของเจ้าของธุรกิจออนไลน์

  • จัดการคำสั่งซื้อ ควรแบ่งเวลาก่อนทำงานและหลังทำงานเพื่อแพ็คสินค้าและนำส่งสินค้าเป็นประจำ
  • โปรโมทสินค้า ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการกดโปรโมทสินค้า ซึ่งทำได้ทุก ๆ 4 ชั่วโมง 
  • ตอบแชทลูกค้าและจัดการรีวิว ในเวลาว่างควรเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความประทับใจที่ดี ทั้งนี้ หากร้านค้ามีการให้ข้อมูลที่ครบครันอยู่แล้วก็จะลดเวลาที่ร้านใช้ในการถามตอบได้
  • ติดตามเป้าหมายประจำวัน แบ่งเวลาตามความสะดวก เพื่อเข้ามาประเมินยอดขาย ค่าโฆษณา และสถิติต่าง ๆ เพื่อนำมาพัฒนาร้านค้าต่อไป

กิจวัตรประจำสัปดาห์ของเจ้าของธุรกิจออนไลน์

  • จัดการคลังสินค้า เติมของและอัพเดตของให้พร้อมขายเสมอ
  • ตกแต่งร้านค้าและพัฒนาสินค้า จัดทำอาร์ตเวิร์กและแคปชั่นต่าง ๆ และอัปเดตร้านค้าให้สวยงามและน่าดึงดูดอยู่เสมอ
  • วางแผนการโปรโมท วางแผนแคมเปญ การทำโปรโมชั่น และการแจกโค้ดส่วนลด

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับเทคนิคทั้ง 8 เทคนิค ขายของออนไลน์ ให้ปัง ใครลองทำตามดูแล้ว ผลลัพธ์เป็นยังไงอย่าลืมนำมาเล่าสู่กันฟังนะคร้าบบบ ^^

Tlee Krit

ชื่อเติ้ลครับบบ นักเขียนน้องใหม่แห่งการตลาดวันละตอน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ^^

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *