BDMS รุกตลาด E-commerce เปิดแอป Bedee รับเทรนด์สุขภาพยุคใหม่ พบหมอหรือช้อป! ง่ายแค่ปลายนิ้ว
ในธุรกิจสุขภาพ คงไม่มีใครไม่รู้จักกับ เครือ BDMS แบรนด์สุขภาพยักษ์ใหญ่ในไทย ที่มี Brand Segmentetion เป็นโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศไทย 58 แห่ง รวมไปถึงการให้บริการศูนย์ Lab N-Health และร้านขายยา Save Drug กันนะคะทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ใน Umbrella เดียวกันทั้งนั้น และแนวทางการทำการตลาดก็มีความปรับตัวครอบคลุมกับ Target ทุก Gen และทุกเชื้อชาติ และพร้อมปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ของผู้บริโภคอยู่เสมอ ล่าสุดมีการเปิดตัว แอปพลิเคชัน Bedee ตีตลาด E-commerce เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่พบหมอหรือช้อปโปรแกรมสุขภาพ ง่ายแค่ปลายนิ้ว
ที่มา : BeDee by BDMS
ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ทำทุกสิ่งบนสมาร์ทโฟน
เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 ที่ผ่านมา และความเร่งรีบ การแข่งขันสูงปรี๊ดทำให้กลุ่มผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมาสู่โลกออนไลน์มากขึ้น และใช้ สมา์ทโฟน ทำทุกสิ่งได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว ไม่ต้องเสียเวลาออกไปทำธุระตามสถานที่ต่าง ๆ อีกต่อไปด้วยตัวเอง อาทิ
- การสั่งอาหาร Delivery
- การชอบปิง Online
- การใช้ Internet Banking
ไปจนถึงการจองตั๋วหนังออนไลน์ และรวมไปถึง โรงพยาบาลต่าง ๆ ก็เริ่มมีการ Service ช่องทางออนไลน์การแบบ เต็มคาราเบล จนเป็นไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ไปแล้ว
การเติบโตของตลาด E-commerce และการช้อปบนสมาร์ทโฟนของคนไทย
จากเทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ตลาด E-commerce เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด วันนี้แทบทุกวันมีผู้ใช้บริการสั่งซื้อสินค้าจากช่องทาง Online กันรัว ๆ และช่องทางหลักการสั่งสินค้าพวกนี้ก็ คือสมาร์โฟนนั่นเองค่ะ ทั้งง่าย และสะดวก แค่ใช้ปลายนิ้วสไลด์เท่านั้นก็สามารถชอปปิงสินค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา เเละเป็นที่มาของแบรนด์สินค้า และธุรกิจชั้นนำต่าง ๆ ที่ เร่งทำ แอปพลิเคชันออกมาเพื่อเสริฟความต้องการนี้ให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการขายสินค้าเพิ่มได้อย่างดีเลยค่ะ
3 จุดเเข็งของ BDMS ที่มาในการเล่นตลาด E-commerce ด้วย Health Application
จากเทรนด์คนยุคใหม่ ชอบความง่าย ๆ สบาย ๆ และเน้นใช้งาน Service Online บนสมาร์โฟนนี้ BDMS มองเห็นโอกาสทางการตลาดจากจุดเเข็งของแบรนด์ ที่สามารถตีตลาด E-commerce ได้ มีอยู่ 3 ข้อที่ได้เปรียบจนออกมาเป็นไอเดีย Health แอปพลิเคชันค่ะ
- BDMS มีฐานลูกค้าที่เข้มแข็ง : จากแบรนด์โรงพยาบาลเครือข่ายที่มีทั้ง 58 แห่งทั่วประเทศ ที่ติดตลาดสุขภาพแล้ว จึงมั่นใจได้ว่าจะมีลูกค้าฐานลูกค้าสำหรับใช้บริการ แอปพลิเคชัน อย่างแน่นอน
- ราคาดึงดูดใจ กระตุ้นให้ตัดสินใจซื้อได้ง่าย : BDMS มีจุดเด่นในราคาที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละ Segment เพราะ BDMS สามารถต่อรองต้นทุนในการสั่งยาและมีบริการตรวจ Lab เจาะเลือดหมวดต่าง ๆ ที่เป็นของตัวเอง จึงทำให้มีราคาไม่สูง สามารถเป็นทางเลือกให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่าย
- เข้าใจ Insight ของลูกค้าที่ต้องการใช้บริการโรงพยาบาล : BDMS ทำธุรกิจ Health Care มานาน จึงมีความเชี่ยวชาญ และครอบคลุมทุก Insight ที่ลูกค้าต้องการจากการใช้แอปพลิเคชันค่ะ
ที่มา : BeDee by BDMS
BDMS เปิดตัว แอป Bedee บุกตลาด E-commerce
BDMS เปิดตัวแอปลิเคชัน BeDee แอปสุขภาพครบวงจรเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย ที่รองรับไลฟ์สไตล์ ของผู้บริโภคยุคปัจจุบันแบบ Holistic ที่ต้องการดูแลสุขภาพ และพบแพทย์แบบทันท่วงที ตั้งแต่ยังไม่ป่วย จนถึงช่วงการรักษา ในรูป ครบครัน สะดวกสบาย ในแอปเดียว
โดย BDMS ตั้งเป้าเพื่อตีตลาด E-commerce และต้องการเป็น No.1 Digital Healthcare Ecosystem มุ่งเจาะตลาด 10% ของผู้ใช้งาน Digihealth ที่มีอยู่ 26 ล้านคนทันที ในฐานะที่มีความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญในเรื่องของโรงพยาบาล ที่ปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือกว่า 58 แห่ง และบริการด้านสุขภาพต่าง ๆ อาทิ
- โรงพยาบาลกรุงเทพ
- โรงพยาบาลสมิติเวช
- โรงพยาบาลพญาไท
- โรงพยาบาลเปาโล
- BDMS Wellness Clinic
ร้านขายยา Save Drug และศูนย์แลป N Health เป็นต้น จึงมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมา เพื่อให้คนไทยเข้าถึง Health care คุณภาพจากเครือ BDMS
Bedee By BDMS ชูจุดขาย Holistic Care ตอบโจทย์คนดูแลสุขภาพบนแอปพลิเคชัน
แอปพลิเคชัน BeDee เจาะกลุ่มผู้ใช้ด้วยแนวคิด Holistic Care ที่ดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ตั้งแต่คนที่ยังไม่ป่วยจนถึงป่วยแล้ว ด้วย 3 บริการหลักในแอปเดียว คือ
1.Teleconsultation :ให้บริการปรึกษาอาการป่วยจากทีมแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญกว่า 30 สาขาจากเครือ BDMS โดยไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาล มีค่าบริการเริ่มต้นเพียง 240 บาท ในช่วงเปิดตัว
2.Telepharmacy : ให้บริการปรึกษาเรื่องยากับเภสัชกรฟรี เฉพาะในส่วนของยาสามัญทั่วไป (Over-the-Counter Drugs)ยาเฉพาะทาง หรือยาที่ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์พร้อมจัดส่งด่วนถึงบ้าน
3 บริการ Health Content, Health Check up และ Health Package ซึ่งจะให้บริการแบบ Holistic แบบ One Stop Service ที่ให้การดูแลทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ โภชนาการ การออกกำลังกาย และอีกหลายด้าน ทั้ง Curative และ Preventive
ที่มา : BeDee by BDMS
BeDee ถือเป็นแอปเจ้าแรกในเมืองไทยที่ให้บริการได้ครบวงจร และรอบด้านที่สุด ภายใต้มาตรฐานระดับสูงจากเครือ BDMS และยังมีบริการต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งดูแลได้ตั้งแต่ก่อนเกิดโรค ด้วยแนวคิดเชิง Preventive Healthcare แบบไม่ต้องรอให้ป่วยถึงค่อยมาหาหมอ เพียงแค่เข้าแอปพลิเคชันเท่านั้น ก็จะมีผู้ช่วยดูแลเรื่องสุขภาพของคนไทยให้เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ใช้ชีวิตทุกวันในรูปแบบที่ส่งเสริมให้ตัวเองมีสุขภาพดี หรือที่เรียกว่า Live with Wellness
โดยตั้งเป้าสำหรับช่วงเปิดตัวในไตรมาส 4 ปี 2566 ว่าจะมีลูกค้าเใช้บริการแอป BeDee ประมาณ 10% จากจำนวนผู้ใช้งานในตลาด Digihealth ที่มีอยู่ประมาณ 26 ล้านคนในปัจจุบัน
ที่มา : BeDee by BDMS
และยังตั้งเป้าอีกว่าภายในปี 2568 คาดว่า BeDee จะขึ้นมาครองตลาดอันดับ 1 ในเมืองไทย เนื่องจากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีแผนทำการตลาดในกลุ่ม B2B B2C และต่อยอดให้บริการลูกค้าของ BDMS ที่มีจำนวนคนไข้นอกต่อวัน (OPD visit per day) < สามหมื่นคน ซึ่งเป็นคนไทย 85% และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 15% ค่ะ
นอกจากนี้ยังมาแผนขยายการให้บริการแอปพลิเคชัน BeDee ไปสู่ประเทศในแถบเอเซียอีกด้วยค่ะ เพราะมีฐานลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมากในหลาย ๆ ประเทศแถบเอเชีย และทั่วโลก รวมทั้งยังมีโรงพยาบาลในเครือ 2 แห่งอยู่ในประเทศกัมพูชาอีกด้วย
หากสนใจสามารถดาวน์โหลดแอปเพื่อใช้งานได้แล้วทางลิงก์นี้ได้เลยค่ะ https://bit.ly/46pT9pj
BDMS ตีตลาด E-commerce เพิ่ม Target Segment ใหม่ด้วย Health Application
จากกลยุทธ์ E-commerce เพื่อเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ของ BDMS จากเดิมเป็นธุรกิจสุขภาพ ยักษ์ใหญ่ของไทยที่ไม่มีใครไม่รู้จักสร้างรายได้มหาศาลต่อวัน แต่ก็ไม่หยุดนิ่งเพียงแค่การเปิดโรงพยาบาลต้อนรับลูกค้ามาใช้บริการ แต่ทำตลาดเชิงรุก เพื่อจับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เพื่อพิ่มกลุ่มลูกค้าให้ธุรกิจ โดยต่อยอดจากจุดแข็งของธุรกิจที่มี เพื่อสร้างโอกาสในการทำรายได้ ให้มากขึ้นค่ะ
เช่นเดียวกันกับคนทำธุรกิจสมัยนี้ แค่ตั้งร้านเปิดให้บริการแล้วรอลูกค้าเดินเข้ามาใช้บริการอย่างเดียวอาจไม่พออีกต่อไป การทำการตลาดเชิงรุกเพื่อให้ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนไปคือสิ่งที่ธุรกิจต้องปรัตัวเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ค่ะ
อ่านบทความการตลาด ที่น่าสนใจ
อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม คลิกที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ เพจการตลาดวันละตอน เว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนค่ะ
