กลยุทธ์การตลาด Alipay+ 2024 รับกระแสการท่องเที่ยวของชาวจีนในไทย
ทราบหรือไม่คะว่าในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยถึง 1,008,899 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนมากถึง 211,349 คน เลยทีเดียว! เพราะอะไร ทำไมชาวจีนถึงชอบเดินทางมาที่ประเทศของเรานัก บทความนี้จะพาเพื่อน ๆ มาหาคำตอบ ไปพร้อม ๆ กับวิเคราะห์ถึง กลยุทธ์การตลาด Alipay+ 2024 ที่เริ่มเข้ามาขยายธุรกิจในไทยเพื่อตอบรับความต้องการของชาวจีนกันค่ะ
แนวโน้มการท่องเที่ยวของชาวจีนในประเทศไทย
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา – ได้ออกมาเผยถึง จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมประจำเดือน มกราคม 2024 นั้น มีจำนวน 3,035,296 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 508,563 คน มากเป็นอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางมายังประเทศไทย ตามด้วย
- มาเลเซีย อยู่ที่ 321,704 คน
- เกาหลีใต้ อยู่ที่ 222,571 คน
- รัสเซีย อยู่ที่ 219,167 คน
- ชาวอินเดีย อยู่ที่ 162,831 คน
ซึ่งเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2566 แล้ว มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 42% และคาดว่าจะมีเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาถึง 147,922 ล้านบาท
อีกทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังออกมาเผยอีกว่า “ในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมายังประเทศไทย 211,349 คน จากนักท่องเที่ยวทั้งหมด 1,008,899 คน” ซึ่งไม่ได้มาแต่ตัวนะคะ แต่ยังหอบเงินมาใช้จ่ายในประเทศของเราอีกด้วย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวจีนนั้นเพิ่มขึ้นถึง 15% จากปี 2019 โดยหมวดหมู่ที่ใช้จ่ายมากที่สุด ได้แก่
- การชอปปิง
- อาหาร & เครื่องดื่ม
- นวด & สปา
- สถานที่ท่องเที่ยว
- สถานบันเทิงยามค่ำคืน
นอกจากนี้ กลยุทธ์การตลาด Alipay+ 2024 ยังเผยอีกว่าประเทศไทยนั้น…
- ติดอันดับ 1 ในการจัดอันดับประเทศที่ชาวจีนนิยมมาท่องเที่ยวมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ติดอันดับ 4 ในการจัดอันดับประเทศที่ชาวจีน นิยมมาท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก
- ติดอันดับ 3 ในการจัดอันดับประเทศที่ชาวเอเชีย นิยมมาท่องเที่ยวมากที่สุด
ซึ่งจังหวัดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมไปมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, ชลบุรี, เชียงใหม่, และกระบี่
นอกจากนี้ Alipay+ และ ททท. ยังเผยอีกว่า การเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนมีการขยายขอบเขตที่มากขึ้น จากเดิมที่นิยมการเดินการชอปปิง และเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวหลัก ๆ ก็มีบางส่วนเริ่มที่จะหาประสบการณ์ใหม่ ๆ จากแหล่งชุมชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะมากขึ้น เน้นการมีส่วนรวมในกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น
… “ซึ่งในสัปดาห์วันหยุดตรุษจีนทั่วโลก นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายไปกับอาหาร และเครื่องดื่มมากกว่าปี 2562 ถึง 70% โดยขยายจากจุดหมายยอดนิยมในเมืองไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นที่น่าสนใจ”…
Alipay+ คว้าโอกาสทอง รับกระแสนักท่องเที่ยวจีน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ Alipay+ เผยว่ายอดใช้จ่ายโดยรวมของนักท่องเที่ยวชาวจีนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 4.5 เท่าจากปี 2023 ซึ่ง กลยุทธ์การตลาด Alipay+ 2024 นั่นก็คือการเปิดให้บริการ E-Wallet ระหว่างประเทศ และแอปพลิเคชันธนาคารเพิ่มขึ้นนั่นเองค่ะ โดยมีแอปพลเคชันธนาคารที่สามารถใช้จ่ายในไทยแล้ว 13 รายการ โดยมีผู้บริการรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 9 ราย ได้แก่
- MyPB ของ Public Bank Berhad (มาเลเซีย)
- Naver Pay (เกาหลีใต้)
- Toss Pay (เกาหลีใต้)
- Changi Pay (สิงคโปร์)
- OCBC Digital (สิงคโปร์)
- GCash (ฟิลิปปินส์)
- Hipay (มองโกเลีย)
- MPay (เขตบริหารพิเศษมาเก๊าของจีน)
- Tinaba (อิตาลี)
และผู้ให้บริการรายเดิม ได้แก่ Alipay (จีนแผ่นดินใหญ่), AlipayHK (เขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน), Kakao Pay (เกาหลีใต้) และ Touch ‘n Go eWallet (มาเลเซีย) ที่รองรับการใช้จ่ายในประเทศไทยแล้วตั้งแต่ปี 2023
โดยมีเป้าหมายเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่นักท่องเที่ยวจีน อำนวยความสะดวกให้ใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบาย ซื้อง่าย จ่ายคล่อง อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้กลับมาคึกคัก สดใสอีกครั้ง โดยระบบนี้มีร้านค้าที่รองรับแล้วกว่า 250,000 แห่ง
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา, รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “จํานวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมาสูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ‘ประเทศไทย’ ยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก
ในขณะที่เราเข้าสู่ปีใหม่พร้อมฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงแรกของปี เป้าหมายของเราคือไม่เพียงแต่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทําให้พวกเขาได้ท่องเที่ยวสะดวกสบายมากขึ้น ด้วยการทํางานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรเช่น Alipay+
นอกจากเราจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากจีน และเอเชียได้มากขึ้นแล้ว เรายังสามารถช่วยให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้มีประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตให้กับธุรกิจท้องถิ่นของเรา ททท. มองหาโอกาสในการเสริมสร้างความร่วมมือกับ Alipay+ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในปี 2567 และปีต่อๆไป”
กลยุทธ์การตลาด Alipay+ 2024 ขยาย Ecosystem ด้วย Co-marketing
ซึ่งกลยุทธ์การตลาดที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ Alipay+ ใช้คือการตลาดแบบ Co-marketing นั่นเองค่ะ หรือก็คือ “กลยุทธ์ทางการตลาดที่แบรนด์หรือองค์กรสองหรือสองฝ่ายจับมือร่วมกันเพื่อสร้างแคมเปญ หรือกิจกรรมการตลาดร่วมกัน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้ทำการตกลงกันไว้”
ซึ่งในแคมเปญนี้ ททท. และ Alipay+ มีจุดประสงค์ร่วมกัน ดังนี้ค่ะ
- เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากจีน และเอเชียให้เดินทางมายังประเทศไทย
- มอบประสบการณ์การชอปปิ้ง และการเดินทางที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น
- ส่งเสริมความเชื่อมั่น และความปลอดภัย
- โพรโมตแหล่งท่องเที่ยวหลัก เมืองสําคัญ และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย
- แนะนําแคมเปญ และโปรโมชันพิเศษสําหรับนักท่องเที่ยว
วิเคราะห์ปัจจัยที่เอื้อต่อ กลยุทธ์การตลาด Alipay+ 2024
ข้อมูลเหล่านี้ก็แสดงให้เราเห็นว่าการท่องเที่ยวของไทยนั้น มีการฟื้นตัวหลังจากผ่านพ้นสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นสัญญาณที่ดีที่การท่องเที่ยวไทยนั้นมีแนวโน้มการฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีตั้งแต่ต้นปี สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยม
ซึ่งผู้เขียนจะพาทุกคนไปวิเคราะห์กันค่ะว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ Alipay+ ตัดสินใจเดินหน้าขยายการให้บริการ E-Wallet ระหว่างประเทศ และแอปพลิเคชันธนาคาร ในประเทศไทย
ปัจจัยภายใน:
- ความแข็งแกร่งของ Alipay+ : ที่มีผู้ใช้งานกว่า 1.5 พันล้านคนทั่วโลก และให้บริการใน 57 ประเทศ ประกอบกับมีพันธมิตร 88 ล้านรายทั่วโลก
- กลยุทธ์การขยายธุรกิจที่ชัดเจน : มีกลยุทธ์ที่ชัดเจน มุ่งเน้นการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ
- ทรัพยากรที่เพียบพร้อม : มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ Ecosystem ที่ครอบคลุม และมีทรัพยากรที่เพียงพอต่อการลงทุน
- เป็นพันธมิตรกับภาครัฐ : มุ่งเน้นการจับมือกับพันธมิตร ซึ่งแคมเปญนี้ก็ได้จับมือร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประกอบกับรัฐบาลไทยมีการผลักดันยุทธศาสตร์ National E-Payment มาตั้งแต่ปี 2015 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจให้มากขึ้น ซึ่งก็ส่งผลให้ปริมาณการใช้ E-payment ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงปี 2017-2021 (ข้อมูลจาก สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์)
ปัจจัยภายนอก:
- Free Visa ถาวร นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว : เป็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาคึกคักขึ้น โดยการยกเว้นวีซ่าการเดินทางระหว่างไทย-จีน และสามารถอยู่พำนัก อยู่ได้นานถึง 30 วัน/ครั้ง และคาดว่านโยบายนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 ซึ่งถือเป็นโอกาสดีสำหรับ Alipay+ ที่จะเข้ามาตีตลาด
- นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยมากขึ้น : อ้างอิงข้อมูลจาก ททท. ที่ออกมาเผยว่า แค่เฉพาะเทศกาลตรุษจีนก็มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมายังไทยมากถึง 211,348 คน ซึ่งคิดเป็น 41.5% จำนวนนักท่องเที่ยวจีนสะสมที่เดินทางเข้ามาไทยในเดือนมกราคม 2567
- นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายในไทยมากขึ้น : ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ มียอดใช้จ่ายรวมกันเพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับปี 2019 และเพิ่มขึ้นถึง 580% เมื่อเทียบกับปี 2023
- เศรษฐกิจดิจิทัลไทยการขยายตัว : ภาคธุรกิจมรการปรับตัวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลแช้วตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการทำการค้าขายออนไลน์มากขึ้น, มีการใช้ Mobile Payment มากขึ้น, เห็นได้ชัดจากมูลค่าตลาด E- commerce ของไทยในปี 2022 อยู่ที่ 6.2 ล้านบาท และคาดว่าจะมีมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องถึง 6% คิดเป็น 6.34-6.95 ล้านบาท ในช่วงปี 2023-2024 (ข้อมูลจาก KTB)
อย่างไรก็ตามนอกจากนโยบายของภาครัฐที่เข้ามาช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้งแล้ว ประเทศไทยก็ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนกันอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็น วัฒนธรรม, อาหาร, ธรรมชาติ, และผู้คน ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมายังประเทศไทย
อ่านบทความเพิ่มเติมกันต่อได้ที่