ทำไมธุรกิจ D2C ควรเลือกใช้ Nano influencers ฉบับเข้าใจง่าย
ทำไมธุรกิจ D2C ควรเลือกใช้ Nano influencers ฉบับเข้าใจง่าย
Nano-Influencer เป็นกลุ่มอินฟลูที่มาแรงในปี 2023 นอกจากจะช่วยให้แบรนด์ที่ทำธุรกิจแบบ D2C ทำการตลาดได้ดีแล้วยังสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่ม Gen Z และคนรุ่นมิลเลนเนียลที่ชอบเสพคอนเทนต์เรียล ๆ ได้ดีเยี่ยมค่ะ
อ้างอิงจาก Influencer Marketing Hub ที่ระบุว่า Instagram Nano-influencer เป็นผู้ที่มี Follower ประมาณ 1,000-10,000 คนสามารถทำรายได้จากการโพสต์คอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ทั้งถูกและแพงค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าคอนเทนต์รูปปบบไหน ภาพ วิดีโอ สตอรี่
แน่นอนว่านอกจากจะช่วยให้แบรนด์ประหยัดงบการตลาดแล้ว นักการตลาดทราบไหมคะว่า Nano-influencer ยังมีอัตราการมีส่วนร่วมและคอนเวอร์ชั่นสูงสุดเมื่อเทียบกับผู้มีอิทธิพลประเภทอื่น ๆ ทำให้เป็นทางเลือกดีที่จะทำ ROI-positive สำหรับแบรนด์ D2C หลังจากวิเคราะห์โปรไฟล์ influencer ทั่วโลกกว่า 4.5 ล้านราย
จากตัวเลขของข้อมูลในภาพ ประเทศไทยก็มีจำนวน Nano influencer ไม่น้อยเลยนะคะ เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการขยายการเข้าถึงตลาดและสร้าง Brand Loyalthy ใน New Audience segment ใหม่ ๆ ค่ะ นอกจากน้ียังมีเหตุผลอื่น ๆ อีก 6 หัวข้อดังนี้
1. ROI-positive collaborations
นาโนอินฟลูเอนเซอร์สามารถดันเพิ่ม ROI ให้สูงขึ้นได้โดยกระตุ้นการมีส่วนร่วมต่าง ๆ ดึงดูดลูกค้าใหม่และลูกค้าที่มีอยู่ได้ดี
เพราะความเป็นนาโน ก็จะไม่ได้แตกต่างจากครีเอเตอร์ทางบ้านมากนักนั่นเองค่ะ หลายคนแชร์ชีวิตประจำวันลงโซเชียล สนิทกับ Follower อยู่แล้วค่ะ และจากกราฟแสดงให้เห็นแม้ว่าจำนวน Follower จะมีแค่ 5,000-10,000 แต่สร้างอัตราการมีส่วนร่วมเฉลี่ยสูงสุดที่ 5.05% ในขณะที่ Influncer ขนาดเล็กและขนาดใหญ่สร้างอัตราการมีส่วนร่วมที่ต่ำกว่า 3% เท่านั้นเองค่ะ
2. Lower Costs, Higher Engagement
อย่างที่นักการตลาดทราบดีว่า Nano influencer มักจะมีจำนวนผู้ติดตามน้อยกว่า influencers ใหญ่ ๆ ขึ้น เลยทำให้ราคาค่าจ้างไม่สูงค่ะ สำหรับ D2C บริษัทที่มีงบประมาณการตลาดไม่มาก การทำงานร่วมกับ Nano influencers เป็นทางเลือกที่ดี ช่วยให้บริษัทสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถเข้าถึง influencers หลายรูปแบบในขอบข่ายงบประมาณที่กำหนดได้ ด้วยต้นทุนที่ต่ำทำให้บริษัท D2C สามารถจ้างครีเอเตอร์ได้มากขึ้น อาจจะหลักหลายร้อยคนในแคมเปญเดียวก็ยังไหวค่ะ
3. อินฟลูกลุ่มนี้เข้าใจเป้าหมาย และผู้ติดตามดีที่สุด
Nano influencer มักมีความเชี่ยวชาญ รู้จักคนที่ติดตาม หรือกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ดี แม้กระทั่งการทำความรู้จักธุรกิจที่เฉพาะเจาะจงได้ละเอียดกว่าอินฟลูใหญ่ ๆ ที่รับงานเป็นประจำและหลายงานในอาทิตย์นึงนะคะ อีกทั้ง Follower ก็อินกับคอนเทนต์ของนาโนอยู่แล้ว หากนักการตลาดทำแบรดน์ D2C ที่อยากจะทำคอนเทนต์ที่เจาะจง segment ได้ละเอียดก็อย่ามัวลังเลเลยค่ะ ^^
4. Authenticity and Trust
Nano influencers มักมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและมีความเชื่อถือมาก คล้ายกับการรีวิวปากต่อปากเลยล่ะค่ะ ยิ่งจำนวนผู้ติดตามที่น้อยกว่า ก็ยิ่งช่วยให้สามารถสร้างน่าความเชื่อถือในการแนะนำและผลิตคอนเทนต์ทางโฆษณานั่นเองค่ะ
ตัวอย่างการใช้ Nano influencers ในอุตสาหรรมต่าง ๆ
- Fashion: ใช้ Nano influencers ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบแต่งตัว เที่ยวคาเฟ่ หรือคนที่ชอบถ่าย OOTD ลงไอจีบ่อย ๆ ก็ได้ค่ะ หรือเลือกคนที่มี Activity คล้ายกับภาพลักษณ์แบรนด์เที่ยวต่างจังหวัด ทะเล คนท้อง สาวอวบ
- Beauty: ใช้ Nano influencers ที่ชอบแต่งหน้า ไลฟ์แต่งหน้าก่อนไปทำงาน ก่อนไปเรียน หรือคนที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเครื่องสำอางและความงามซักเล็กน้อยก็ได้ค่ะ
- Health: ใช้ Nano influencers ที่ชอบออกกำลังกาย รักสุขภาพ ทำอาหารทานเอง มีลูก มีสวนผักปลูกทานเอง
- Sport: ใช้ Nano influencers ที่ออกกำลังกาย เล่นกล้าม อาชีพที่ต้องใช้ร่างกายอย่างศิลปินไอดอล เทรนเนอร์
การใช้ Nano influencers ในการตลาดในไทยเป็นวิธีเหมาะเลยค่ะ เพราะคนไทยหัวครีเอทีฟกันมาก ๆ เคล็ดลับคืออย่าบรีฟแคปจนเกินไป และไถดูคอนเทนต์ก่อน ๆ จะได้เข้าใจสไตล์และไม่เปลี่ยนจุดขายของเค้าจนเกินไปนะคะ
5. Flexibility and Customization
Nano influencers มักมีความยืดหยุ่น ปรับตัวกับรูปแบบคอนเทนต์ได้ง่าย เพื่อให้เข้ากับคอนเซปต์ของสินค้าและแบรนด์ พวกเขามักพร้อมที่จะร่วมมือ เปิดใจศึกษาและตั้งใจทำความรู้จักกับ D2C ได้ดี
อธิบายอย่างง่ายว่าทำไมแบรนด์ D2C สามารถเข้าถึง Audience ที่หลากหลายมากขึ้น ผ่านอินฟลูนาโน เช่น แบรนด์มีกลุ่มเป้าหมายทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด คอนเทนต์ที่ต้องพูดภาษาถิ่นต่าง ๆ หรือมีวัฒนธรรมและความเชื่อที่แตกต่างกัน ก็จ้างอินฟลูประเภทนี้ได้หลายท่านเลย
6. ต่อยอดเป็น Long-term Relationships
ขออธิบายแบบสั้นกระชับเลยว่า ความสัมพันธ์ดี ๆ หรือคอนเนคชั่นเป็นประโยชน์กับหลายสถานการณ์โดยเฉพาะการทำธุรกิจและการตลาดค่ะ เพราะ Nano ในวันนี้ อาจจะเป็น Mega ในวันหน้าก็ได้ เลยทำให้มีแนวโน้มที่จะส่งเสริมl ong-term partnerships กับแบรนด์ D2C ได้นั่นเองค่ะ
ปิดท้ายด้วย Social Media Platform ที่เหมาะกับการใช้ Nano Influencer
ข้อมูล affable.ai แสดงให้เห็นว่านาโนอินฟลูเอนเซอร์สร้างอัตราการมีส่วนร่วมบน YouTube สูงถึง 14.63% ตามด้วยการดูเฉลี่ย 96.89% บน TikTok และ 5.05% บน Instagram
USA and SEA เป็น top target markets ของ nano-influencers ซึ่ง Instagram ยังคงเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ผู้สร้างนาโนต้องการแชร์เนื้อหาของตน จากการค้นพบของ affable.ai มีผู้มีอิทธิพลนาโน 391,691 รายบนแพลตฟอร์ม YouTube มีจำนวนผู้มีอิทธิพลนาโนสูงสุดเป็นอันดับสอง รองลงมาคือ Facebook และ TikTok
แม้ว่าจะมีนาโนอินฟลูเอนเซอร์บนแพลตฟอร์มจำนวนน้อย แต่ “TikTok สามารถกลายเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับแบรนด์ D2C ได้เช่นกัน เห็นตัวเลขน้อย ๆ อย่าเพิ่งตกใจค่ะ นุ่นคิดว่าคนเล่น TikTok น่าจะทราบดีว่าครีเอเตอร์หน้าใหม่ ที่ไม่ใช่คนดัง สามารถมียอด Follower ได้มากกว่า 5,000-10,000 คนได้ง่ายเพียงข้ามคืนขอแค่คลิปวิ่งบนหน้า For You ถูกไหมคะ?
เลยทำให้การวัดระดับ Nano influncer บนแพลตฟอร์ม TikTok อาจจะใช้จำนวน Follower เกณฑ์เดียวกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ไม่ได้ค่ะ
ทั้งหมดนี้คือ Value และมีประสิทธิภาพสำหรับแบรนด์ D2C ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง Segment มาก ๆ และอยากจะสร้างความน่าเชื่อถือในผลิตภัณฑ์หรือบริการ จ้างโฆษณาแหละ แต่ไม่ได้ตะโกนดังมาก การเลือกใช้อินฟลูตัวเล็ก ๆ ช่วยได้ค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยให้แบรนด์สามารถควบคุมงบประมาณการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ สานต่อความสัมพันธ์กับเหล่าอินฟลูได้ยาว ๆ เล้ยยย
