การตลาด Sunsu เยลลี่บุก 0 Cal อันดับหนึ่ง ที่ครองใจ GenZ ทั่วประเทศ
สวัสดีนักการตลาด และนักอ่านทุกคนครับ บทความนี้จะพาทุกคนมาดู การตลาด Sunsu เยลลี่บุก 0 Cal สัญชาติไทยของคุณกานต์ อรรถกร รัตนารมย์ และ คุณซารต์ ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช ที่ได้ชื่อว่าเป็นเยลลี่บุก 0 Cal อันดับหนึ่งในประเทศไทย ที่สามารถครองใจ GemZ ได้ทั่วประเทศกันครับ
#1 สร้าง Differentiation ด้วยการเป็นเจ้าแรก
เยลลี่ในประเทศไทยมีมากมายไม่ว่าจะเป็นปีโป้ เจเล่ จอลลี่แบร์และอื่น ๆ แต่ถ้าหากเราสังเกตุดี ๆ แต่ละแบรนด์ก็จะมีความเป็นเจ้าตลาดในเยลลี่แต่และประเภทเช่น ถ้าให้นึกถึงเยลลี่ใส่ถ้วยก็คงนึกถึงปีโป้ ถ้ามองหาเยลลี่พร้อมดื่มก็คงจะนึกเจเล่ หรือถ้าอยากได้เยลลี่สำหรับเคี้ยวเล่น ก็คงจะคิดถึงจอลลี่แบร์
ไม่ใช่ว่าปีโป้ไม่ทำเยลลี่พร้อมดื่ม หรือเจเล่ไม่ทำเยลลี่ใส่ถ้วยนะครับ ทั้งสองแบรนด์มีการแตก Line Product เช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่า Perception ในมุมมองของผู้บริโภคจะจดจำแบรนด์นั้น ๆ ในลักษณะสินค้าใดสินค้าหนึ่ง ยกตัวอย่างให้เห็นภาพแบบง่าย ๆ เช่นผมบอกว่าอยากกินปีโป้ เพื่อน ๆ คงจะนึกออกเลยว่า อ๋อออ เป็นเยลลี่ที่เป็นถ้วยสีเขียว สีแดง หรือถ้าผมบอกอยากกินเจเล่ เพื่อน ๆ ก็คงจะเข้าใจว่าเป็นเยลลี่พร้อมดื่มแบบดูด
มีน้อยรายที่ถ้าหากพูดถึงปีโป้ จะนึกถึงเยลลี่พร้อมดื่มแบบดูด เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมจะสื่อก็คือ การเป็นสินค้าที่เข้าตลาดมาใหม่ ควรมีจุดเด่นแค่ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็พอครับ เพราะมันจะทำให้คนจดจำเราได้ง่ายมาก ๆ หากนึกถึงสินค้าแบบนี้ต้องนึกถึงเราก่อนเป็นสิ่งแรก
Sunsu เป็นหนึ่งในแบรนด์แรกที่นำเสนอเยลลี่บุกให้กับผู้บริโภคในประเทศไทย ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีแบรนด์ใดมีความโดดเด่นในเยลลี่บุกมากนัก นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับรสชาติ และเนื้อสัมผัสที่แปลกใหม่
ทำให้สินค้าเยลลี่บุกของ Sunsu ได้รับการตอบรับอย่างดีและสร้างยอดขายหลายล้านบาท ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน ส่วนหนึ่งความบูมนี้อาจจะมาจากเจ้าของแบรนด์ที่เป็น Influencer อยู่แล้วแต่เดี๋ยวไว้เราจะไปคุยกันแบบละเอียดกันในพาร์ท Marketing อีกทีครับ
สำหรับคนไทย ก่อนที่ยังไม่มี Sunsu เยลลี่บุกเป็นที่รู้จักในนาม “ขนมเยลลี่ญี่ปุ่น” และในไทยค่อนข้างที่จะมีราคาแพง เข้าถึงได้ค่อนข้างยากครับ แต่ Sunsu นำมาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 25 บาทเท่านั้น ก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมสินค้าจึงขายดี และดังเป็นพลุแตก
ปัจจุบัน Sunsu ยังคงเป็นแบรนด์ชั้นนำในตลาดเยลลี่บุก แม้ว่าจะมีคู่แข่งเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่างเจเล่ ที่กระโดดเข้ามาทำเยลลี่บุกเหมือนกัน แต่ในภาพจำเกี่ยวกับเยลลี่บุกของคนไทยนั้น อันดับหนึ่งยังคงเป็น Sunsu อย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
#2 ชูจุดเด่น จับเทรนด์รักสุขภาพ
หนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้สินค้าที่พึ่งเปิดตัว เป็นที่รู้จักในวงกว้างคือการจับเทรนด์ใดเทรนด์หนึ่งที่เป็นกระแส และคนให้ความสนใจ ในครั้งนี้ Sunsu เลือกที่จะจับเทรนด์รักสุขภาพที่สามารถล้อไปตามสินค้าที่เป็นขนมเยลลี่บุกได้เป็นอย่างดี
นอกจากสินค้าเยลลี่บุกจะเป็นเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทย ในราคาที่เข้าถึงได้ แค่ 25 บาทแล้ว Sunsu ยังชูอีกจุดเด่นสำคัญคือเป็นเยลลี่ 0 Cal ภายใต้ Keyword “ความสุขที่ไม่รู้สึกผิด” เพื่อจับเทรนด์รักสุขภาพ จับกลุ่มคนที่ชอบกินขนมอร่อย ๆ แต่อาจจะกลัวอ้วนและรู้สึกผิดกับตนเองเลยเลือกที่จะไม่กิน
ผมมองว่า Sunsu อาจจะมี Data Insight บางอย่างที่พบว่า คนไม่กล้ากินขนมเพราะกลัวอ้วน และรู้สึกผิดต่อสุขภาพ จึงนำเสนอสินค้าตัวให้เป็นทางออกให้แก่กลุ่มคนเหล่านั้น ที่สามารถกินได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะเป็นขนม 0 Cal
มากไปกว่านี้เทรนด์รักสุขภาพเป็นสิ่งที่ไม่ได้มาแล้วหายไป กลับกันเป็นเทรนด์ที่มาเรื่อย ๆ เราจะเห็นได้ว่ามีสินค้าต่าง ๆ ที่เกิดมาเพื่อเป็นสินค้าสำหรับดูแลสุขภาพมากมาย เพราะฉะนั้นผมจึงมองว่านี่เป็นความฉลาดของทาง Sunsu ที่มองการณ์ไกล เลือกหยิบเทรนด์มาใช้ได้อย่างชาญฉลาดครบ
#3 รู้จัก Market เข้าใจสมรภูมิการแข่งขัน
Sunsu ใช้กลยุทธ์การขายแบบ Mass market ทำให้ช่องทางการกระจายสินค้า เน้นไปที่ร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ เช่น 7-11 เพื่อที่จะต้องการเข้าถึงคนให้ได้มากที่สุด สิ่งที่น่าสนใจคือ Sunsu เข้าใจสนามรบของสินค้าบนเชลฟ์ 7-11 เป็นอย่างดี
เวลาเพื่อน ๆ เดินไปหยุดอยู่ตรงที่หน้าเชลฟ์ในร้านสะดวกซื้อ อะไรเป็นสิ่งที่ดึงดูดสายตาและความสนใจของเพื่อน ๆ บ้างครับ? ผมมั่นใจมาก ๆ ว่าบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่ทำให้คุณสะดุดตา เกิดความสนใจและอยากทำความรู้จักกับสินค้ามากยิ่งขึ้น
เพราะฉะนั้นการดีไซน์บรรจุภัณฑ์ของ Sunsu จึงเป็นการดีไซน์ที่สะดุดตาผู้บริโภค ด้วยความมินิมิล ขาว คลีน น่ารัก สไตล์ญี่ปุ่น พร้อมกับ Keyword ที่บอกว่าเป็น เยลลี่บุก 0 Cal ทั้งนี้เป็นเพราะ Sunsu เข้าใจว่าสมรภูมิการแข่งขันการแข่งขันของแบรนด์อยู่ตรงจุดใด และสามารถ Focus ได้อย่างตรงจุด
#4 การตลาดเจาะกลุ่ม GenZ
1. เจ้าของแบรนด์เป็น Influencer ที่กลุ่มผู้ติดตามส่วนใหญ่เป็น GenZ
อย่างที่ทราบกันเจ้าของแบรนด์ Sunsu คือคุณกานต์ อรรถกร รัตนารมย์ และ คุณซารต์ ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช ที่เป็น Influencer ชื่อดัง จากการเป็น Youtuber จากช่อง Bearhug ที่ปัจจุบันมีผู้ติดตามใน YouTube เกือบ ๆ 4 ล้านคน และ ส่วนใหญ่เป็น GenZ
ทำให้การที่เจ้าของแบรนด์เป็น Influencer เป็นจุดได้เปรียบสำหรับการโปรโมทสินค้า และเสมือนมีฐานลูกค้ารองรับอยู่แล้วในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะลูกค้าที่เป็น GenZ
2. Collaboration with Girl group
แน่นอนในปัจจุบันคงมีน้อยรายมาก ๆ ที่ไม่รู้จักวง Girl group สัญชาติไทยอย่าง 4EVE ซึ่งถือได้ว่าในปัจจุบัน (มีนาคม 2024) เป็นวง Girl group ที่เป็นที่นิยมที่สุดในประเทศไทย และแน่นอนครับ ผู้ติดตาม 4EVE โดยส่วนใหญ่ก็เป็นคน GenZ
ดังนั้น Sunsu จึงมีการทำการ Collaboration with 4EVE #SUNSUx4EVE โดยจะมีการแจกการ์ด 4EVE ในซอง Sunsu ให้เหล่าแฟนคลับซื้อไปสะสมกัน ทำให้มีโอกาสได้ลองกินเยลลี่บุกไปด้วย บอกได้เลยว่าแคมเปญนี้โด่งดังมาก ๆ และได้ใจเหล่า GenZ โดยเฉพาะแฟนคลับ 4EVE ไปเต็ม ๆ เลยหล่ะครับ
และล่าสุดทาง Sunsu ก็มีการไป Collaboration กับทาง PiXXiE อีกหนึ่ง Girl group สัญชาติไทย ด้วยนะ แอบลุ้นอยู่เหมือนกันว่าการ Collaboration ครั้งหน้าจะเป็นวงอะไร
3. สนันสนุนความสามารถ GenZ
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาแบรนด์ Sunsu ได้เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักในโครงการ U Power Digital Idea Challenge Season 6 เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาในระดับปริญญาตรีทั่วประเทศ ได้นำแบรนด์ของผู้สนับสนุนหลัก ไปเขียนแผนการตลาด เพื่อนำมาแข่งขันชิงโล่ และเงินรางวัล
การที่ Sunsu เป็นผู้สนับสนุนหลักแบบนี้ ทำให้แบรนด์สามารถใกล้ชิด และเป็นที่พูดถึงสำหรับเหล่า GenZ ได้มากยิ่งขึ้นครับ ยกตัวอย่างนะครับ สมมุติว่าผมกำลังแข่งแผนการตลาดอยู่ หลังจากเรียนเสร็จเพื่อนมักจะถามว่าไปไหนต่อ ผมก็ตอบไปว่าไปเขียนแผน การตลาด Sunsu แค่นี้ก็เป็นประเด็นที่ทำให้มีการ Mention ถึงแบรนด์ในเหล่า GenZ แล้วครับ
หากสงสัยว่าเรื่องที่ผมยกตัวอย่างไปจะสามารถเกิดขึ้นจริง ๆ เหรอ เพราะมันเป็นบริบทที่เฉพาะมาก ๆ คำตอบคือเกิดขึ้นได้แน่นอนครับ เพราะเรื่องที่ว่านั้นเกิดขึ้นกับตัวผมเอง เมื่อตอนผมเรียนปริญญาตรีอยู่ผมได้แข่งแผนการตลาดในรายการนี้ และได้เขียนแผนการตลาดของแบรนด์ Sunsu ครับ
บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ
พามาดูอีกหนึ่งแบรนด์ไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างยืดเปล่ากันครับ