การตลาด Yuedpao แบรนด์เสื้อยืดไทย ที่ยังง๊ายก็ไม่ย้วย
สวัสดีนักการตลาดและนักอ่านทุกคนนะคะ ในบทความนี้จะพาทุกท่านมาดู การตลาด Yuedpao แบรนด์เสื้อยืดสัญชาติไทยของคุณตอน ทนงค์ศักดิ์ แซ่เอี้ยว เป็นแบรนด์เสื้อยืดที่ผู้เขียนชอบตั้งแต่สโลแกนเก๋ ๆ กวน ๆ อย่าง ยืดเปล่า ยังง๊ายยย ก็ไม่ย้วย
ในบทความนี้จะพามาดูกันว่าเบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์นั้น มีกลยุทธ์หรือสิ่งที่แบรนด์ให้ความสำคัญกับเรื่องของอะไรกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไม่รอช้า ตามมาดูกันเลยค่า
ชวนทุกคนมาทำความรู้จัก ‘ยืดเปล่า’
ก่อนอื่นเลยต้องขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับแบรนด์ Yuedpao หรือ ยืดเปล่า กันก่อน เพราะอาจจะมีหลาย ๆ คนที่รู้จักอยู่แล้ว และคนที่เพิ่งเคยได้ยินชื่อหรือรู้จักเป็นครั้งแรก
‘ยืดเปล่า’ ประโยคภาษาพูดชิล ๆ เหมือนเวลาที่เราคุยกับเพื่อน เพราะคุณทนงค์ศักดิ์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ตั้งใจสร้างแบรนด์ให้มีความเป็นกันเอง เข้าถึงง่าย ถูกจริตคนไทย ทุก ๆ องค์ประกอบจึงถูกถ่ายทอดออกมาให้มีความชิล ๆ ผสมความกวน ๆ ตลก ๆ ตั้งแต่ชื่อแบรนด์เลยค่ะ
โดยช่วงแรกคุณทนงค์ศักดิ์เริ่มธุรกิจมาจากการขายกางเกง Boxer ก่อน อย่างสมัยที่ขาย Boxer กลุ่มวัยรุ่นที่มาเดินซื้อของที่ร้านก็มักจะพูดคุยกันว่า “เอาบ๊อกปะ” ส่วนเวลามาเดินดูเสื้อยืดก็เหมือนกัน “เอาเสื้อยืดเปล่า” จึงเป็นไอเดียริเริ่มในการตั้งชื่อแบรนด์
ช่วงนั้นด้วยความที่คนก็ยังทำเสื้อยืดกันไม่ค่อยเยอะ จึงมองเห็นเป็นลู่ทางและโอกาสในการริเริ่มทำสิ่งนี้ขึ้นมา พอขายไปได้ 2-3 ปี ถึงเริ่มสร้างแบรนด์ยืดเปล่าขึ้นมา เพราะอยากให้คนรู้จักมากขึ้นนั่นเองค่ะ
โดยตอนนี้ทางยืดเปล่าก็ไม่ได้ขายแค่เสื้อยืดเพียงอย่างเดียว แต่เติบโตไปมากกว่าเดิม ขยายไลน์สินค้า มีทั้งเสื้อยืด เสื้อแขนยาว เสื้อฮู้ด เดรส เสื้อครอป หมวก เป็นต้น โดยจุดเด่นยังคงเน้นคุณภาพของสินค้าเหมือนเดิม ผู้เขียนเองก็เดินเจอร้านยืดเปล่าในห้างสรรพสินค้าอยู่บ่อย ๆ ต้องได้ขอแอบจับตลอดเพราะเนื้อผ้านุ่มมาก ฟินนน~
วิเคราะห์การตลาด เจาะลึกแบรนด์เสื้อยืดไทย ที่ยังง๊าย…ก็ไม่ย้วย
#1 ชื่อแบรนด์ สโลแกน ติดหู
ตามที่ได้เล่าให้ทุกคนฟังไปในตอนต้นในเรื่องของชื่อแบรนด์พร้อมสโลแกนสุดเก๋ ติดหู ง่าย ๆ เป็นกันเอง เพราะการตั้งชื่อแบรนด์ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญนะคะ เพราะนอกจากจะบ่งบอกถึงบุคลิกของแบรนด์แล้ว ยังทำให้ลูกค้า ‘จดจำเราได้ง่าย’ มากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ ลองนึกภาพว่าถ้าแบรนด์เราชื่อจำยาก อาจทำให้การสร้างตัวตนของแบรนด์นั้นยากตามไปด้วย
ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมีไอเดียคิดจะริเริ่มธุรกิจของตัวเองกันอยู่ ก็อยากจะฝากเรื่องการตั้งชื่อแบรนด์เอาไว้ด้วยเช่นกัน รวมถึงสโลแกนที่ติดหู ให้คนที่เห็นหรือแม้จะผ่านมาได้ยินครั้งแรกก็สามารถจดจำได้ในทันทีเลย
#2 เน้นคุณภาพสินค้า
ดูจากสโลแกนแสนกวนของแบรนด์อย่าง ยืดเปล่า ยังง๊ายยย…ก็ไม่ย้วย แล้วทุกคนคงจะอยากรู้แล้วว่ามันเป็นยังไง คือเสื้อยืดของแบรนด์ทำมาจากผ้า Cotton ผสม Polyester ทำให้มีคุณสมบัติยับยาก ทำให้ผ้าอยู่ทรงได้แบบที่เราไม่ต้องมาคอยรีดผ้าเลยล่ะค่ะ (ตอบโจทย์คนชอบแต่งตัวแต่ขี้เกียจรีดเสื้อแบบเราสุด ๆ) แถมยังระบายอากาศได้ดีเหมาะกับอากาศเมืองไทยอีกด้วย
พร้อมเทคนิคการทอด้วยเส้นด้ายแบบพิเศษที่มักใช้กันในเสื้อผ้าของเด็กอ่อน และมีการทอผ้าสองหน้าแบบ Interlock ทำให้ทั้งด้านในและด้านนอกของผ้านั้นนุ่มแบบนุ่มมว๊าก
#3 Unisex & Timeless Design
แน่นอนว่าเสื้อยืดเป็นไอเทมที่หลาย ๆ คนใส่กันอยู่บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน เพราะใส่ง่าย ได้ทุกโอกาส อีกทั้งดีไซน์เสื้อของยืดเปล่าส่วนใหญ่มักเป็นสีพื้น หรือแม้จะเป็นสีสัน ก็ยังเป็นโทนที่ยังมีความสุภาพ ทำให้ Mix & Match ได้ง่ายและหลากหลายลุค ใส่ได้หลายสถานการณ์ เรียกได้ว่าสื่อสารความ Unisex ใส่ได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกวัน ได้ทั้งใส่อยู่บ้าน ไปทำงาน ไปเที่ยวก็ได้เช่นกัน
#4 ราคาจับต้องได้
ราคาสินค้าของยืดเปล่าจะเริ่มต้นเพียงแค่หลัก 100 บาทขึ้นไป และมักมีโปร 1 แถม 1 หรือการปรับราคาลงอีกด้วย ซึ่งถือว่าเหมาะสมเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับคุณภาพ ทำให้ผู้บริโภคจะรู้สึกว่ามันคุ้มค่า ในราคาที่ไม่แพง จับต้องได้ ยิ่งสำหรับกลุ่มคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของราคาเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อ คงมีแบรนด์ยืดเปล่าเป็นตัวเลือกอยู่ในใจด้วยแน่นอนค่า
เพราะนโยบายหลักของแบรนด์คือ ‘มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าที่เราทำได้’ ทำให้แบรนด์พยายามสร้างสรรค์สินค้าให้มีคุณภาพที่ดีที่สุด ในราคาที่จับต้องได้นั่นเอง หาวิธีในการลดต้นทุนสินค้า ในขณะที่ยังได้คุณภาพสูงตามที่ตั้งใจเอาไว้
#5 Collab กับ Influencer และศิลปิน
ทั้งนี้เสื้อของยืดเปล่าก็ไม่ได้มีเพียงสีพื้นเรียบ ๆ เพลน ๆ เท่านั้น แต่ยังมี Collection ที่ Collaboration ร่วมกับ Influencer และศิลปินนักออกแบบต่าง ๆ นำมาทำเป็นลายสกรีนเสื้อสุดน่ารัก
อย่างตัวอย่างการร่วมมือกับ Mootoo หมาน้อยพันธุ์บีเกิ้ลคนดัง ที่มักเป็นมีมตลก ๆ กับการแสดงสีหน้าร้อยอารมณ์ เป็นการ Collab ที่เลือก Influencer มาร่วมงานได้เหมาะสมกับบุคลิกของแบรนด์เป็นอย่างมาก กับความเกรียน ๆ ให้ได้อมยิ้มและเป็นกันเองตามสไตล์ของยืดเปล่า
หรืออย่างการออก Street Minimal Collection โดยมีลายเสื้อจากภาพที่เกิดจากการประกวดในงาน MINIMALIST PHOTOGRAPHY AWARDS 2023 ในหมวด Street Photography โดยมีทั้งหมด 3 ลาย จากภาพของคนไทย 3 คน ที่ชนะการประกวดในครั้งนี้นั่นเองค่ะ
โดยเป็นภาพที่กลุ่มศิลปินสื่อสารและสร้างสรรค์ผลงานด้วยการนำเสนอความสงบ ขจัดความยุ่งเหยิง ด้วยภาพลักษณ์ที่เรียบง่าย ปล่อยให้แสง เงา และวัตถุ สะท้อนเรื่องราวของภาพอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งมีความเหมาะสมและลงตัวเข้ากับสไตล์ของแบรนด์ยืดเปล่าด้วยเช่นกัน
#6 เรื่อง Munimal ก็ไม่พลาด
อย่างแคมเปญต้อนรับปี 2024 นี้เอง การตลาด Yuedpao ก็หันมาจับ Muketing เช่นเดียวกัน กับการออก Munimal Collection และราคาก็ถูกตาแตกมาก โดยเป็น Collection ที่เกิดจากการนำความเชื่อ การ Mutelu มาผสมผสานกับไลฟ์สไตล์ความ Minimal ในแบบฉบับของยืดเปล่า จนเกิดเป็นไอเดียคอนเซ็ปต์ของความเรียบง่าย แต่ให้ความรู้สึกถึงความขลังแบบมินิมอล ผ่านการดีไซน์ลายเสื้อมาในรูปแบบขององค์เทพต่าง ๆ นั่นเองค่า
#7 รับฟังและมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคเสมอ
การตลาด Yuedpao ในช่องทาง Social Media ของแบรนด์ โดยเฉพาะ Facebook ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ทางแบรนด์ใช้แฮชแท็ก #ยืดเปล่าชวนคุย ในการถาม-ตอบ และสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ติดตามเสมอ รับฟัง Feedback ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์อะไรดี ๆ ไปด้วยกันกับแบรนด์ อีกทั้งในฝั่งของธุรกิจเอง ก็ได้ไอเดียในการพัฒนาสินค้าหรือบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ตรงจุดมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วยค่ะ
#8 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ
การตลาด Yuedpao ไม่ได้มีแค่การขายผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น แต่จะสังเกตเห็นได้ว่ายังมีหน้าร้านที่กระจายตัวอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ส่วนใหญ่มักอยู่ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป รวมถึงในกรุงเทพก็จะมีอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้า BTS ที่มีคนสัญจรเยอะอีกด้วย
อีกทั้งตัวสินค้าที่เป็นเสื้อผ้า แถมยังเน้นขายเรื่องของคุณภาพและความนุ่ม ดังนั้นการมีหน้าร้านให้คนได้ไปเห็น ได้ทดลองสัมผัสของจริง เรียกได้ว่าจะช่วยนำไปสู่การตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้นแน่นอนค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับบทความนี้ที่ได้พาทุกคนมาดู การตลาด Yuedpao แบรนด์เสื้อยืดไทย ที่ยังง๊ายก็ไม่ย้วย หวังว่าทุกคนจะได้ความรู้ดี ๆ และประโยชน์กลับไปไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่า และสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram Twitter และ Youtube ได้เลย