Instagram Algorithm 2024 เปิดสูตร เพิ่มการมองเห็น (ล่าสุด)
สวัสดีค่ะนักการตลาดและผู้อ่านทุกท่าน! ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวไกลข้ามมาถึงปี 2024 นี้ การเข้าใจและการเรียนรู้เกี่ยวกับ Algorithm ของ Instagram เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับสายการตลาดและผู้ที่ต้องการเติบโตในโลกของสื่อสังคมออนไลน์
ดังนั้น ในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจกับอัลกอริทึมของแพลตฟอร์ม ว่าปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง? อัลกอริทึมมีการทำงานเบื้องหลังยังไง? พร้อมกับทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเอาชนะแพลตฟอร์ม เพิ่มการมองเห็น ปัง ๆ ต้อนรับศักราชใหม่กันค่ะ
Instagram Algorithm ทำงานยังไง?
อย่างที่เราทราบกันดีว่าในแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีเบื้องหลังการทำงานที่แตกต่างกันไป เพื่อให้เข้าใจภาพรวม ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจแบบคร่าว ๆ ของปัจจัยตัวกำหนดบางส่วนของ Instagram Algorithm กันค่ะ โดยปัจจัยที่ส่งผลมีดังนี้
- จัดลำดับจากความสำคัญของโพสต์ที่มีจำนวนไลค์สูงสุด ไลค์เยอะ โชว์บ่อย ขึ้น Feed บ่อย
- อัลกอริทึมจะดันโพสต์ล่าสุดที่สร้างภายในไม่กี่นาทีหลังจากที่ผู้ใช้เข้าสู่ระบบ (เข้าปุ๊บโพสต์ปั๊บ โอกาสในการขึ้น Feed มีมากกว่า)
- จัดลำดับความสำคัญของโพสต์จากผู้ใช้มีการ Engage ด้วยบ่อย ๆ
- ผู้ใช้สนใจแฮชแท็กไหนบ่อย ๆ ระบบจะดันโพสต์ประเภทนั้น ๆ ที่มีแฮซแท็กนั้น ๆ หรือที่เกี่ยวข้อง ขึ้น Feed
- บางครั้งระบบจะแสดงโพสต์ที่กำลังเป็นกระแสหรือได้รับความนิยมสูง ๆ ขึ้นหน้า Feed เราทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ติดตามหรือเป็นเรื่องราวที่เราสนใจ
กล่าวโดยสรุป เราจะเห็นได้ว่า Instagram Algorithm ในปี 2024 นั้นมุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์การใช้งานที่น่าสนใจและมีความหลากหลายสำหรับผู้ใช้ทุกคนโดยพิจารณาถึงความสัมพันธ์ ความสนใจ และสิ่งที่กำลังเป็นกระแสในสังคมนั่นเองค่ะ
เปรียบเทียบปี 2023 และ 2024 มีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง?
ต้องขอแปะป้ายตัวโต ๆ บอกไว้ก่อนว่าเนื้อหาในบทความนี้จะไม่ได้เป็นการเจาะลึกถึงระบบเบื้องหลังแบบจ๋า ๆ หลักการเลขคณิตแต่อย่างใด จะเป็นการย่อยแบบภาษาคนทั่วไปอ่านแล้วเข้าใจได้อย่างทั่วถึงกันค่ะ โดยความแตกต่างของรอยต่อระหว่างปีมีดังนี้
- ในปี 2024 ผู้ใช้จะเห็นเนื้อหาตามโปรไฟล์ที่ไม่ได้ติดตามมากขึ้น (ไม่ใช่ในหน้า Explore แต่เป็น Main Feed) เมื่อเทียบกับปี 2023 ที่จะโชว์โพสต์ เพิ่มการมองเห็น คอนเทนต์ของคนที่เราไม่ได้ติดตามในหน้า Explore มากกว่า
- เพิ่มและพัฒนา Instagram Reel ให้กลายมาเป็นดาวเด่นมากขึ้น
ซึ่ง Instagram ก็ได้แนะนำวิธีการสังเกตว่าคอนเทนต์หรือโพสต์ที่เราเห็น รูปแบบไหนที่ไม่ใช่คอนเทนต์จากคนที่เราไม่ได้ติดตาม
- โพสต์ที่มีคลิกเบตหรือเหยื่อล่อการมีส่วนร่วม
- โพสต์ที่เป็นการแข่งขันหรือการแจกของรางวัล
- โพสต์ที่เอามาจากคนอื่นหรือ Source อื่นแบบเป๊ะ ๆ ไม่ได้มีการปรับแต่งหรือแก้ไข (เรียกง่าย ๆ ว่าก็อปเขามานั่นแหละค่ะ)
ทีนี้เรามาเจาะแยกย่อยแต่ละส่วนว่ามีหลักการทำงานอย่างไร
ในที่นี้เราจะพามาแยกย่อยกันละแต่ฟีเจอร์ว่าในแต่ละส่วนมีเบื้องหลังการทำงานของ Algorithm อย่างไรบ้าง เพื่อเข้าใจในแพลตฟอร์ม เพิ่มการมองเห็น ให้มากขึ้นต้อนรับปีมังกร 2024
Feed Algorithm
ในส่วนของ Instagram Feed ได้รับการออกแบบมาเพื่อแสดงเนื้อหายอดนิยมที่คุณพลาดไปตั้งแต่การเข้าชมครั้งล่าสุด โดย Feed จะรวบรวมโพสต์จากคนที่คุณกำลังติดตาม และจากโปรไฟล์ Instagram ที่อาจสอดคล้องกับความสนใจของคุณ (คนไม่ได้ติดตามก็จะขึ้น Feed เราเหมือนกัน)
เมื่อนำมาผนวกกับคำกล่าวของ Adam Mosseri CEO ของ Instagram ที่ได้ประกาศว่าแพลตฟอร์มในปี 2024 จะเน้นไปที่การโชว์รูปภาพมากขึ้นเมื่อพูดถึงเนื้อหา Feed ของ Instagram แสดงให้เห็นว่า หน้า Feed โพสต์ที่เป็นรูปภาพจะได้รับการดันหลังจากระบบมากกว่ารูปแบบวิดิโอนั่นเองค่ะ ดังนั้น คอนเทนต์รูปภาพจะต้องทำให้ดีตั้งแต่แรก เพิ่มฮุกวิแรกของการมองเห็นให้มากที่สุดค่ะ
นอกเหนือจากนั้นก็จะมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการทำงานของ Feed Algorithm
- โพสต์ประเภทไหนที่ผ่านการแสดงความคิดเห็น การถูกใจ หรือการแชร์จากแอคเคาท์ของเราบ่อย ๆ ระบบจะโชว์โพสต์ประเภทนั้นมากขึ้น
- ระบบจะใช้ความน่าจะเป็นของแอคเคาท์ที่เรากดเข้าไปดูหรือดูคอนเทนต์จากแอคเคาท์นั้นบ่อย ๆ แล้วนำประเภทแอคเคาท์เหล่านั้น ขึ้นมาให้เราเห็นอีก
- ระยะเวลาที่คุณใช้ในการอ่านโพสต์ประเภทนั้น ๆ ยิ่งมาก ยิ่งส่งมาให้อีกในหน้า Feed
- ลำดับที่โพสต์จะปรากฏนั้นพิจารณาจากการโต้ตอบในอดีตของคุณ ความนิยมของโพสต์ ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่โพสต์ และความสัมพันธ์ของคุณกับบัญชีของพวกเขา
หากใครที่ไม่อยากให้โพสต์จากแอคเคาท์อื่น ๆ เขามาปะปนกับหน้า Feed ของเรา ก็สามารถปรับแต่งเนื้อหาได้โดยการเลือกโหมดให้แสดงแค่คอนเทนต์จากแอคเคาท์ที่เรา Following หรือ Favorites ก็ได้เช่นเดียวกัน
Instagram Stories Algorithm
หากพูดถึง Instagram คงขาดไปไม่ได้กับ Stories ฟีเจอร์ที่เมื่อไหร่ที่เราเปิดแอพ Instagram สิ่งนี้จะอยู่เด่นหลาที่ด้านบน ซึ่งก็คือรายการเรื่องราวล่าสุดจากแอคเคาท์ที่คุณติดตาม ซึ่ง Instagram Stories Algorithm มีหลักการทำงานจากปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้
- ความถี่ในการดู: ยิ่งเราดู Stories จากคนอื่นบ่อยแค่ไหนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ระบบก็จะยิ่งส่ง Stories จากแอคเคาท์นั้น ๆ มาให้เราเห็นบ่อยขึ้น
- ระดับการโต้ตอบ: ยิ่งโต้ตอบกับ Stories ของใคร ระบบจะ เพิ่มการมองเห็น ของ Stories ของคนนั้น ๆ ให้เรามากขึ้น ดังนั้น ความสม่ำเสมอที่คุณมีส่วนร่วมหรือโต้ตอบผ่าน Stories มีผลอย่างมากต่อการทำงานของอัลกอริทึม
- ความลึกซึ้งของมีส่วนร่วม: สิ่งนี้จะพิจารณาจากความถี่ที่คุณส่งข้อความหรือสื่อสารกับคนที่สร้าง Stories ขึ้นมา ยิ่งโต้ตอบ มีส่วนร่วมเยอะ ๆ ระบบก็จะดันหลังให้เนื้อหาของคุณเป็นลูกรักหลังของระบบมากขึ้นนั่นเอง
ทำให้เราเห็นได้ว่า หากเราจะ เพิ่มการมองเห็น ให้กับ Stories ของเราให้เข้าถึงผู้ติดตามมากขึ้น เนื้อหาของคอนเทนต์ที่เราทำ ความถี่และความสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น เราควรใส่ใจกับคุณภาพของเนื้อหาให้มากยิ่งขึ้น เพิ่มความสนุกสนานและมีกิจกรรมให้ผู้ติดตามได้มีส่วนร่วมกับเราเยอะ ๆ
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ Optimize IG Stories ได้ที่บทความนี้ค่ะ
Instagram Reel Algorithm
ต้องบอกว่ามาแรงสุด ๆ กับฟีเจอร์ Reel ในปีนี้ ลูกล่อลูกชนกับ Short-form Video ของ TikTok ผู้เล่นหลายรายกระโจมเข้าพื้นที่แห่งความสร้างสรรค์นี้อย่างล้มหลาม เพื่อเปิดการมองเห็น เพิ่มการมองเห็น ในปี 2024 ให้มากที่สุด เรามาทำความเข้าใจอัลกอริทึมในส่วนนี้กันค่ะว่ามีหลักการทำงานอย่างไรบ้าง
- การค้นพบที่หลากหลาย: แตกต่างจาก Feed ทั่วไปที่จะแสดงโพสต์จากบัญชีที่ติดตามเป็นหลัก อัลกอริทึม Reels มุ่งหวังที่จะแนะนำผู้ใช้ให้รู้จักกับเนื้อหาใหม่ที่น่าสนใจจากผู้สร้างในวงกว้าง
- ความนิยมของเสียง: เมื่อคุณโพสต์ Instagram Reels คุณสามารถเพิ่มแทร็กเสียงลงในแต่ละอันได้ ระดับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้กับเสียงยังช่วยเพิ่มอันดับของเนื้อหา Reel ได้
- การโต้ตอบในอดีต: อัลกอริทึมจะจดบันทึกสิ่งที่ผู้ใช้ Reels มีส่วนร่วมก่อนหน้านี้ (ดู ชอบ แสดงความคิดเห็น หรือแชร์) โดยจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อคาดการณ์ความสนใจในอนาคตและส่งมอบสิ่งที่ตรงกันกับผู้ใช้
- เสนอสิ่งที่คล้ายกัน: อัลกอริทึมจะแนะนำคอนเทนต์ Reel ที่ตรงกับความชอบของผู้ใช้ โดยจะสังเกตความชอบของที่มีความคล้ายคลึงกันหรือมีส่วนร่วมด้วย
- การปรับแต่งแบบไดนามิก: ยิ่งผู้ใช้โต้ตอบกับ Reels มากเท่าใด อัลกอริทึมก็จะยิ่งดีขึ้นตามคำแนะนำในการปรับแต่ง เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้ส่งผลให้มี Reel Feed ที่เป็นส่วนตัวและมีส่วนร่วมอย่างมาก
ดังนั้น เพื่อให้ Reel โดดเด่นและได้รับการส่งเสริมโดยอัลกอริทึม เราที่เป็นฝ่ายผู้สร้างจะต้องมีแรงจูงใจในการผลิตเนื้อหาคุณภาพสูงและน่าดึงดูดเพื่อให้โดนใจผู้ชม คอนเทนต์ของเราจะได้กลายมาเป็นเบอร์ต้น ๆ ที่ปรากฎในหน้า Reel ของทุกคนนั่นเองค่ะ
Explore Algorithm
ปิดท้ายกับด้วยการทำงานของฟีเจอร์สุดท้ายอย่าง Explore Page ที่เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่สามารถทำให้แบรนด์หรือคอนเทนต์ของเราได้รับการมองเห็นมากขึ้น โดยภาพรวมแล้ว Explore Page ของ Instagram ทำงานบนอัลกอริทึมที่พยายามนำผู้ใช้เข้าสู่โลกของเนื้อหาที่สดใหม่และเกี่ยวข้องกับความชอบ สิ่งที่สนใจมากที่สุด
อัลกอริทึมนี้มีหลักการทำงานที่คล้ายกับ Feed และ Stories แต่ความพิเศษอยู่ที่การปรับเปลี่ยนและจัดอันดับเนื้อหาที่โดนใจผู้ใช้แต่ละรายมากที่สุด ซึ่งจะอ้างอิงจากข้อมูลบรรดาการโต้ตอบหลายๆ ครั้ง การถูกใจ การบันทึก และการแชร์เป็นหลัก
ยกตัวอย่างเช่น ผู้เขียนชอบดูคอนเทนต์ตลก ๆ และรองเท้าเป็นหลัก รวมถึงผู้เขียนชอบกดไลค์ดารา ศิลปินที่ชอบบ่อย ๆ ในหน้า Explore ของผู้เขียนจึงเต็มไปด้วยคอนเทนต์ที่ตรงกับความชอบของผู้เขียนทั้งสิ้นนั่นเองค่ะ หากเราอยากที่จะ เพิ่มการมองเห็น เปิดการมองเห็นคอนเทนต์ของแบรนด์เราให้มากที่สุดเพื่อใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ Explore แล้วล่ะก็…คุณภาพของคอนเทนต์และความสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องมาจากความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมายของเราให้ดีอย่างถ่องแท้ซะก่อนว่าพวกเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เพื่อส่งเนื้อหาที่ใช่และตรงใจกับสิ่งที่พวกเขาต้องการให้ได้มากที่สุดค่ะ หากคอนเทนต์เราตรงกับความต้องการของพวกเขา หลับตาเดาก็ยังถูกเลยค่ะว่าคงหนีไม่พ้นกดเข้ามาดูเนื้อหาของเราอย่างแน่นอน!
สรุป Instagram Algorithm 2024 เปิดสูตร เพิ่มการมองเห็น (ล่าสุด)
แพลตฟอร์มมีการอัปเดตและพัฒนาฟีเจอร์ อัลกอริทึมเบื้องหลังอยู่ทุกปี อย่างในปี 2024 เราจะเห็นแน้วโน้มได้เลยว่าแพลตฟอร์มปรับแต่งให้ผู้ใช้เข้าถึงเนื้อหาประเภทต่าง ๆ มากขึ้นและมาจากหลากหลายแหล่งมากขึ้น ดูจากการที่ Instagram พยายามแสดงเนื้อหาของคนที่เราไม่ได้ติดตามมาให้เราเห็นบ่อย ๆ
ดังนั้นการเข้าใจการทำงานของอัลกอริทึมจึงเป็นสิ่งสำคัญ และกล่าวโดยสรุป Instagram Algorithm 2024 มีปัจจัยของหลักการทำงานดังนี้
- จัดลำดับจากความสำคัญของโพสต์ที่มีจำนวนไลค์สูงสุด ไลค์เยอะ โชว์บ่อย ขึ้น Feed บ่อย
- อัลกอริทึมจะดันโพสต์ล่าสุดที่สร้างภายในไม่กี่นาทีหลังจากที่ผู้ใช้เข้าสู่ระบบ (เข้าปุ๊บโพสต์ปั๊บ โอกาสในการขึ้น Feed มีมากกว่า)
- จัดลำดับความสำคัญของโพสต์จากผู้ใช้มีการ Engage ด้วยบ่อย ๆ
- ผู้ใช้สนใจแฮชแท็กไหนบ่อย ๆ ระบบจะดันโพสต์ประเภทนั้น ๆ ที่มีแฮซแท็กนั้น ๆ หรือที่เกี่ยวข้อง ขึ้น Feed
- บางครั้งระบบจะแสดงโพสต์ที่กำลังเป็นกระแสหรือได้รับความนิยมสูง ๆ ขึ้นหน้า Feed เราทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ติดตามหรือเป็นเรื่องราวที่เราสนใจ
- เนื้อหาที่แชร์ผ่านข้อความหรือ Stories โดยตรงบ่งบอกถึงการมีส่วนร่วมที่สูงและอาจได้รับการส่งเสริมจากอัลกอริทึมมากขึ้น
- ความถี่ที่ผู้ใช้เปิด Instagram มีอิทธิพลต่อสิ่งที่พวกเขาเห็น ยิ่งผู้ใช้ที่ใช้บ่อยมากขึ้นอาจเห็นการผสมผสานระหว่างโพสต์ล่าสุดและโพสต์ที่เกี่ยวข้องที่มีความหลากหลายมากขึ้น
หวังว่าตัวอย่างเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และสร้างไอเดียใหม่ ๆ ต่อผู้อ่านทุกคนนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ
){kind=link}