การตลาด LA GLACE ลากลาส 293.3M วิว แบรนด์เครื่องสำอางไทยก็เป็น Soft Power ได้

วันนี้เราจะมาพูดถึง การตลาด LA GLACE ลากลาส ซึ่งรู้จักกันดีว่าแบรนด์เครื่องสำอางไทยที่ฮิตติดเทรนด์มาซักพักแล้วโดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ทม TikTok ด้วยคุณภาพและการตอบรับที่ดีปัจจุบันถือเป็นแบรนด์ไทยที่อยู่ในลิสต์ must have ไปเรียบร้อย

ทำให้ผู้เขียนอยากวิเคราะห์ในแง่มุมกลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ จากมุมมองคนนอก และเห็นว่าเครื่องสำอางไทยก็เป็น Soft Power ได้ไม่ต่างจากอาหารหรือการท่องเที่ยวเลยล่ะค่ะ

เกริ่นเกี่ยวกับแบรนด์ LA GLACE กันก่อนซักนิดนะคะ ลากลาส ได้ระบุคำอธิบายแบรนด์ไว้ว่า “เป็นแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำของ Gen MZ ในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยมีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพสินค้าและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ความงามที่ดีที่สุดในราคาที่เข้าถึงได้” มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และได้รับความนิยมสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีและแพ็กเกจที่น่ารัก​​​​นั่นเองค่ะ

Soft Power ไทยไม่ได้มีแค่อาหาร แต่เครื่องสำอางก็โดดเด่น

ต้องขอพูดถึงประเด็นนี้ก่อนที่จะเข้าสู่การวิเคราะห์แบรนด์เลย เพราะการที่เครื่องสำอางแบรนด์ไทยสามารถกลายเป็น “Soft Power” ในตลาดโลกนั้นเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของวิธีที่ผลิตภัณฑ์และแบรนด์จากประเทศหนึ่งสามารถสร้างอิทธิพลและชื่อเสียงในประเทศอื่นได้ หนึ่งในเคสที่เด่นชัดคือเคสของแป้งพอนด์ส Pond’s Tone Up Milk Powder ที่โด่งดังในเกาหลี

แป้งพอนด์จากไทยได้รับความนิยมในเกาหลีเนื่องจากเป็นไวรัลในการหนึ่งค่ะ แม้จะผ่านมาหลายปีแล้วน้องก็ยังฮอตฮิต รับหิ้วกันจุก ๆ ซึ่งทำให้ผู้เขียนอยากให้อิมแพคนี้ถูกสนับสนุนอย่างจริงจัง เพราะยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมากภายใต้แบรนด์ไทยของเราเองนี่แหละ อีกทั้งการเติบโตของเครื่องสำอางแบรนด์ไทยในตลาดโลกมันจะแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางในไทยและการยอมรับของผู้บริโภคระดับนานาชาติต่อไปได้อีกค่ะ ของไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกนะจ๊ะ

ทำความรู้จักกับ LA GLACE กันต่อ

เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผู้เขียนจึงเลือกแบรนด์ LA GLACE มาเขียนในบทความนี้ค่ะ ลากลาส เป็นแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเลย ทั้งลิปสติก บลัชออน คอนซีลเลอร์ อายไลน์เนอร์ และอื่นๆ ที่เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่เริ่มต้นแต่งหน้าและผู้ที่มีประสบการณ์ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นดังนี้ (อัปเดตสินค้าเลิกผลิตได้ที่ช่องทาง official ของแบรนด์)

1. Baebie Vibes Cream Blush The Series: บลัชออนแบบครีมพร้อมแพ็กเกจใหม่และสีใหม่​​​​
2. Contour & Highlight New Shade Drop: ผลิตภัณฑ์สำหรับคอนทัวร์และไฮไลท์​​
3. Icy Glaze Gloss: ลิปกลอสที่ให้ความฉ่ำเหมือนกระเบื้องเคลือบ​​
4. AIRLY CONCEALER: คอนซีลเลอร์เนื้อเซรั่มบางเบา​​
5. BLACK BLUSH: บลัชสีดำที่เปลี่ยนสีตาม pH ของผิว​​
6. Ideal Black & Brown Duo Eyeliner: อายไลเนอร์สองสีในหนึ่งด้าม​​
7. LIP GLAZE GLOSS: ลิปกลอสที่มีหลากหลายสี​​
8. BAEBIE POWDER BLUSH: บลัชออนแบบฝุ่นในโทนสีที่ทันสมัย​​
9. Dazzling Eye Glitter Duo: กลิตเตอร์สำหรับแต่งตา​​

จากผลิตภัณฑ์ทั้งหมด เรามาดูกันว่าตัวไหนได้รับความนิยมสูงสุดบนโซเชีรยลกันนะคะ

Google Trend การเสิร์ชแบรนด์ LA GLACE ลากลาส บลัชออนมาแรงสุด

หากเริ่มใช้ชื่อแบรนด์เพื่อดูเทรนด์การเสิร์ชบน Google Trend จะเห็นว่าคนไทยเสิร์ชสินค้าประเภทขลัชออนมากที่สุด ตามมาด้วยคอนซิลเลอร์ ที่ได้รับความนิยมมากจากแบบแท่ง และทำแบบซองจำหน่าย ล่าสุดเดอนธันวาคม 202 แบรน์ฉลองยอดขาย 500,000 ซองไปเป็นที่เรียบร้อยค่ะ

นอกจากรีวิวบน TikTok ที่ช่วยสร้างการรับรู้แล้วยังทำให้ลูกค้าเกิดกิเลสเพราะไถเจอทั้งวันบ่อย ๆ ด้วยนะคะ เหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์ก็หยิบมาใช้กันจนทำให้เป็นปัจจัยหนึ่งที่สินค้าติดตลาดอย่างรวดเร็ว ใครทำแบรนด์จะต้องโน๊ตข้อนี้ไว้เลย ไม่ว่าจะมีการตลาดดีแค่ไหน แต่ถ้าสินค้าไม่รอด ก็อาจขายไม่ได้นานอย่างแบรนด์ลากลาสค่ะ

Google Trend การเสิร์ชสินค้า บลัชออน เจอของลากลาส และรุ่นที่เป็นสีดำ ติดอันดับสูงสุด

Product โดดเด่น ไม่เหมือนเจ้าอื่น แปลกตา

จากการใช้ Google Trend เพื่อดูพฤติกรรมการเสิร์ชสินค้า บลัชออนสีดำสร้างเรื่องสุด ๆ ค่ะ สิ่งที่ทำให้เป็นที่พูดถึงเลยคือความแปลกของเนื้อสีดำ ที่นำมาทำเป็นบลัชออนทำให้กิด Attention ต่อมาก็ตามดูรีวิวว่าทาแล้วเนื้อสีเป็นอย่างไร เห็นแบบนี้สายช็อปก็กดลงตระกร้ารัว ๆ

Personal Branding เจ้าของแบรนด์แข็งแกร่ง พรีเซ็นสินค้าได้ดีที่สุด

Personal Branding เป็นสิ่งที่แบรนด์มีและแข็งแกร่งอย่างมากค่ะ คุณไอติม ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์พรีเซ็นและอัปเดตสินค้าด้วยตัวเองเป็นหลัก ทำให้คนอยากซื้อตามได้ง่าย ๆ ไม่ใช่แค่เพราะอยากได้สินค้านะคะ แต่ซื้อเพราะชื่นชอบ เชื่อใจในตัวเจ้าของแบรนด์ด้วยค่ะ

และใช้ช่อง TikTok Account ของตัวเองในการบอกเล่า สร้าง Story ทำให้สินค้าน่าสนใจขึ้น มีความสม่ำเสมอในการอัปเดตคอนเทนต์ จุดนี้ก็สำคัญมากสำหรับคนทำการตลาดนะคะ นั่นคือความสม่ำเสมอ อย่าให้สินค้าของเราหายไปจากหน้าไทม์ไลน์ แต่คอนเทนต์นั้นก็ต้องไม่ Hard Sell จนเกินไป จะสังเกตุว่าคุณไอติมใช้การเล่าเรื่องในการดึงดูด Audience เป็นหลักเลย

โดยรวมแล้ว #ลากลาส บนแพลตฟอร์ม TikTok ถูกชมไปมากกว่า 293.3M ครั้ง!

และไม่ใช่แค่เจ้าของแบรนด์เท่านั้น เราสามารถทำให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายขึ้น และทำให้มี Story ระหว่างทีมงานหลังบ้าน เป็นมุมน่ารัก ๆ ที่เอามาทำคอนเทนต์ได้ดีเลยค่ะ

ล่าสุดโปร 12.12 เป็นกระแสจนติดเทรนด์ Twitter

เมื่อไม่นานมานี้ลากลาสก็เป็นอีกแบรนด์ที่สร้างกระแสบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้สำเร็จ เช่น ทวิตเตอร์ที่หลายแบรนด์อยากไวรัลบนแพลตฟอร์มนี้ มีการใช้แอชแท็กจนติดเทรนด์ในไทย #ลากลาส รวมทวีต+รีทวิต 6,135 ในวันเดียวที่มีการจัดโปร 12.12 แสดงให้เห็นว่าการทำการตลาดไม่จำเป็นต้องมีเพียงแพลตฟอร์มเดียวแต่ควรกระจายตัวไปยังที่อื่น ๆ เพื่อตามซัพพอร์ตลูกค้าของเรานะคะ

Offline event เปิด Pop-up บูธฉลองวางขายที่ร้าน EVEANDBOY

ออนไลน์ปังแล้ว งานออฟไลน์ก็ไม่ขาดนะคะ ล่าสุดแบรนด์เลือกจัดบูธเพื่อประชาสัมพันธ์ว่ามีจำหน่ายที่ EVEANDBOY แล้วนะ ทำเป็น Pop-up ให้สาว ๆ มาถ่ายรูปได้ฟรีเลย โดยปล่อยภาพ KOL เพื่อเป็นตัวอย่างให้สาว ๆ ลากลาสมาถ่ายตามกันค่ะ เป็นวิธีการใช้ influencer ช่วยนำเสนอและโปรโมตได้อย่างตรงจุดเลย

สรุปสิ่งที่น่าสนใจจาก การตลาด LA GLACE ลากลาส

ทั้งหมดนี้ก็เป็นการวิเคราะห์แบรนด์จากคนนอกที่อยากเห็นเครื่องสำอางไทยกลายเป็น Soft Power ที่จริงใจของเราค่ะ ~ ลากลาสมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายโดยไอเท็มที่มีคนเสิร์ชบน Google มากที่สุด นั่นคือก็บลัชออนสีดำ ตามมาด้วยคอนซิลเลอร์ที่ยอดขายไปกว่า 500,000 ซอง

ยังมีการใช้ Personal Branding เจ้าของแบรนด์แข็งแกร่ง พรีเซ็นสินค้าได้ดีที่สุด 293.3M ครั้ง! ไม่นับคลิปที่ไม่ได้ติดแท็ก #ลากลาส อีกค่ะ บวกกับการทำ Product ให้มีคุณภาพ โดดเด่นท่ามกลางแบรนด์อื่น ๆ ที่ขายบลัชออนเหมือนกัน รวบออนไลน์แล้วก็ต่อยอดมาออฟไลน์ เพื่ม Product Placement แต่ก็ไม่ได้วางขายธรรมดา จัดเป็น POP-UP บูธให้ถ่ายรูปฟรีไปเลย~ ขาดแค่วอนยองมาร่วมงานแล้วล่ะค่ะ~

อ่านบทความที่คล้ายกัน