แคมเปญการตลาด Dat Bike เปลี่ยน e-bike เป็นแหล่งไฟฟ้าช่วงไฟดับ

แคมเปญการตลาด Dat Bike เปลี่ยน e-bike เป็นแหล่งไฟฟ้าช่วงไฟดับ

แคมเปญการตลาด Dat Bike Re:Charge แบรนด์ e-bike ของเวียดนาม ทำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของแบรนด์ตัวเองให้กลายมาเป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้า เพื่อให้บรรดาธุรกิจขนาดเล็กได้ใช้ชาร์จกันในช่วงที่ไฟดับ

ตามรายงานของหน่วยงาน Happiness Saigon แม้แต่ในเมืองสําคัญ ๆ ในประเทศเวียดนาม ก็เกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับค่อนข้างบ่อยค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีนของเวียดนาม เพราะเป็นช่วงที่คนใช้ไฟฟ้ากันเยอะ ระบบก็เลยมีโอกาสที่จะ Overload ได้มากนั่นเอง

ดังนั้นเลยมีเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ร้านสัก ร้านข้าว ร้านขายของชํา ฯลฯ ที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับในช่วงเวลาทำการ หรือระหว่างที่มีการซื้อขายกันอยู่นั่นเอง

ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้เกิดปัญหานี้ขึ้น เพราะไฟฟ้าถือเป็นสิ่งสำคัญในการประกอบธุรกิจ หากไฟฟ้าใช้ไม่ได้ ก็อาจทำให้เสียลูกค้าไปได้เลยในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ

ตามรายงานของหน่วยงาน แบตเตอรี่ของ Dat Bike สามารถสร้างพลังงานได้อย่างต่อเนื่องนานถึง 4 ชั่วโมง ด้วยกำลังไฟฟ้า 1000W และ 2 ชั่วโมงด้วยกำลังไฟฟ้า 2000W

โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ ธุรกิจสามารถโทรสายด่วนได้เลยง่าย ๆ แล้ว Dat Biker จะมาถึงสถานที่อย่างรวดเร็วพร้อมที่ชาร์จของ Dat Bike ซึ่งการชาร์จจะใช้เวลาประมาณ 1-3 ชั่วโมง ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กต่าง ๆ สามารถกลับมาดําเนินการต่อได้ในระยะเวลาสั้น ๆ

แคมเปญนี้เปิดตัวมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 นี้เองค่ะ พอดีกับในช่วงเทศกาลตรุษจีนของเวียดนาม ยาวไปจนถึงช่วงฤดูร้อน และแคมเปญถูกโพสต์ในโลกออนไลน์บนช่อง Dat Bike Re:Charge แพลตฟอร์มโซเชียลอื่น ๆ รวมถึงมีใบปลิวในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย

โดยผลลัพธ์ของแคมเปญนี้จากข้อมูลของเอเจนซี่ แบรนด์ Dat Bike ได้รับการสั่งซื้อล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1,000% เลยทีเดียวค่ะ

เชื่อว่าแคมเปญการตลาด Dat Bike Re:Charge นี้ก็เป็นวิธีที่ชาญฉลาดสําหรับ Dat Bike ในการโชว์ศักยภาพของสินค้าแบรนด์ตัวเอง ในเรื่องของการชาร์จแบตเตอรี่ ในขณะเดียวกันก็เป็นการทําดีให้กับชุมชน ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่นได้ประโยชน์ไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย เรียกได้ว่า Win-Win กันทั้งสองฝ่าย

อีกทั้งยังเลือกช่วงเวลาได้อย่างเหมาะเจาะเหมาะสมกับในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนมีแนวโน้มการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมได้เลยว่า ช่วงเวลาที่คุณเกิดปัญหาและความยากลำบาก แบรนด์ก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้แบบทันท่วงที

และยังเรียกว่าเป็นการตอกย้ำเอกลักษณ์ของแบรนด์ Dat Bike มาก ๆ ค่ะ ในฐานะแบรนด์ที่ใส่ใจชุมชน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Dat Bike ทํางานร่วมกับธุรกิจขนาดเล็ก อย่างเมื่อในเดือนกันยายน 2023 Dat Bike ก็ทำแคมเปญ Charging Billboards เปลี่ยนเต้าเสียบตามร้านค้า คาเฟ่ ธุรกิจขนาดเล็กต่าง ๆ ข้างทาง ให้คนสามารถมาใช้เป็นสถานีชาร์จมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ด้วยนั่นเอง

ในปี 2022 ตามรายงานของ The International Council of Clean Transportation เมื่อปี 2020 Dat Bike ยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดรถสองล้อไฟฟ้าในเวียดนามได้เพียง 1.1% เท่านั้น ในขณะที่ VinFast ครองตลาดในสัดส่วน 43.4% เลยทีเดียว Dat Bike ที่ออกสู่ตลาดในปี 2020 จึงจําเป็นต้องสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ตัวเอง

ดังนั้นในฐานะที่ Dat Bike เป็นแบรนด์ผู้ท้าชิง การใช้ไอเดียความคิดริเริ่มอย่างแคมเปญการตลาด Re:Charge ช่วยแสดงให้เห็นว่าแบรนด์เรา ผลิตภัณฑ์เรา มีความเหนือกว่ายังไง อีกทั้งยังเพิ่มความชื่นชอบของแบรนด์ ชนะใจคนและสนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่นอีกด้วย

สรุปแล้วแม้แบรนด์ของเราจะเข้าตลาดมาทีหลัง หรือเริ่มต้นเป็นเพียงแบรนด์ผู้ท้าชิง ก็ไม่ใช่ว่าจะสู้เจ้าใหญ่ไม่ได้ เพียงแต่หากรู้จักสร้างจุดที่แตกต่างโดดเด่นได้ อย่าง Dat Bike เองก็ไม่ใช่แค่สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเท่านั้น แต่จับจุดโฟกัสไปที่การมองเห็นความสําคัญของการสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับชุมชนด้วย ซึ่งก็จะช่วยให้ Dat Bike สามารถแข่งขันได้เช่นกัน

AI-Generated by Shutterstock(Prompt:create photography, e-bike, in front of the grocery store, power-outages, dark sky in background.)

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับแคมเปญการตลาด Dat Bike เปลี่ยน e-bike เป็นแหล่งไฟฟ้าช่วงไฟดับ เรียกได้ว่าการใส่ไอเดียความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาสินค้าตัวเองให้สามารถกลายมาเป็นแหล่งชาร์จไฟฟ้าช่วงไฟดับได้ ทำให้แบรนด์ได้โชว์ของดี ในขณะเดียวกันก็สร้างประโยชน์และความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน Win-Win กันทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ผู้ท้าชิงที่รู้จักหาจุดที่แตกต่างโดดเด่น และสามารถสร้างการแข่งขันได้

หวังว่าทุกคนจะได้ความรู้ดี ๆ และประโยชน์กลับไปไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่า และสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอนที่ เว็บไซต์ Facebook  Instagram  Twitter และ Youtube ได้เลย

Source

Fern Panassaya

เฟิร์น Junior Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *