11 ตัวชี้วัดสำคัญของ Google Analytics ที่ควรติดตามในปี 2022
Google Analytics เป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ค่อนข้างดีสำหรับเจ้าของเว็บไซต์ที่จะใช้เพื่อดูว่ามีผู้เข้าชมเว็บไซต์กี่คน และพวกเขากำลังทำอะไรขณะที่อยู่ในเว็บไซต์ของเรา
11 อันดับตัวชี้วัดสำคัญของ Google Analytics
ใน Google Analytics นั้นจะมีเมตริกที่ใช้ชี้วัดข้อมูลต่างๆ เช่น การบอกเมตริกหน้ารวมต่อเซสชั่น, เวลาที่ใช้บนหน้าเว็บไซต์, การดูหน้าจอ, อัตรา Bounce rate เป็นต้น
บทความนี้ เราจะมาพูดถึง 11 อันดับตัวชี้วัดสำคัญของ Google Analytics ว่าตัวชี้วัดเหล่านี้สามารถวัดอะไรได้บ้าง และเราจะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านั้นไปทำอะไรได้บ้าง
1.Overall Traffic and Traffic Sources
คุณเคยสงสัยไหมว่าสัปดาห์นี้มีคนเข้าขมเว็บไซต์ของเรามากน้อยขนาดไหน?
มีกี่คนที่มาที่เว็บไซต์ของคุณด้วยกาาคลิกลิงก์บน Facebook หรือเว็บไซต์อื่น?
เราสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ที่ traffic sources report ที่ไม่เพียงแค่บอกปริมาณการเข้าชมไซต์เท่านั้น แต่ยังแบ่งย่อยตามวิธีที่คนเหล่านั้นค้นพบไซต์ของเราด้วย
ซึ่งถ้าเราต้องการเข้าไปดู traffic sources report ใน Google Analytics 4 ก็ง่ายๆ แค่คลิกที่ Reports » Acquisition » Traffic Acquisition เพียงเท่านี้เราก็จะได้เห็นรายงานภาพรวมเกี่ยวกับการเข้าชมเว็บไซต์ของเราแล้วค่ะ
2.Audience Location
ไม่ว่าคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณจะเข้าชมจากที่ไหน จะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ ตัว Demographics report ของ Google Analytics ก็สามารถรายงานผลได้ทั้งนั้น
ซึ่งข้อมูลเหล่านี้นั้นจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้สามารถช่วยคุณตัดสินใจได้ว่าควรจะกำหนดเป้าหมายพื้นที่เพื่อแสดงเนื้อหาหรือโฆษณาในพื้นที่ไหนบ้างนั่นเอง
โดยเราสามารถเข้าไปดูข้อมูลส่วนนี้ได้โดยคลิก Reports » Demographics » Demographics overview ตัวรายงานจะแสดงผู้ใช้ตามประเทศ และสามารถดูลึกลงไปได้ถึงเมืองที่อยู่ด้วย
3.Landing Pages
สำหรับตัวชี้วัดนี้ทำให้คุณสามารถรู้ข้อมูลเชิงลึกในหน้าเว็บไซต์ของคุณได้หลากหลายมุมมอง ไม่ว่าจะเป็น
- คีย์เวิร์ดไหนที่เว็บไซต์คุณควรมี
- ลิงก์ไหนบ้างที่คนคลิกมาจากช่องทางโซเชียลมีเดียของเรา
- หน้า Landing Page หน้าไหนที่นำไปสู่การเข้าชมเว็บไซต์นานที่สุด
- เนื้อหาใดที่โดนใจผู้ชมของคุณมากที่สุด
ถ้าต้องการดู Landing Pages report ในUniversal Analytics ให้ไปที่ Behavior » Content » Landing Pages และเลือกดูข้อมูลในส่วนต่างๆ ที่ต้องการได้เลย
4.Demographics
นอกจากนี้ Google Analytics ยังมีการบอกอายุของคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ และถ้าหากคุณใช้ Google Analytics 4 คุณก็จะสามารถใช้ข้อมูลนั้นเพื่อช่วยปรับแต่งข้อความ หรือตัดสินใจว่าจะกำหนดเป้าหมายว่าใครที่จะเห็นโฆษณาบน Google หรือโซเชียลมีเดียของคุณบ้าง
โดยใน Google Analytics 4 คุณสามารถค้นหา Demographics reports เช่น เพศ ความสนใจ และอายุ ได้โดยคลิก Reports » Demographics » Demographics overview
5.Social Media Traffic
Report ตัวนี้บอกเลนค่ะว่ามีประโยชน์มากๆ ยิ่งถ้าคุณมีช่องทางโซเชียลมีเดียที่หลากหลาย เช่น Facebook, LinkedIn, Instagram หรือ Pinterest แล้วต้องการรู้ว่าคนที่เข้ามาในโซเชียลมีเดียของคุณนั้นมีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณหรือไม่? ผู้ใช้เหล่านั้นกำลังดูมากกว่าหนึ่งหน้าหรือเปล่า? ข้อมูลเหล่านี้จะสามารถช่วยให้คุณเข้าใจและปรับปรุงการโซเชียลมีเดียของคุณให้เหมาะสมกับความต้องการของคนที่เข้ามาดูมากยิ่งขึ้น
ซึ่งถ้าคุณอยากดูข้อมูลรายงานในส่วนของ Social Overview report ก็สามารถคลิกเข้าไปดูได้ตามขั้นตอนนี้ Acquisition » Social » Overview
6.Search Console
Search Console เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบคุณภาพ และข้อผิดพลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์ได้อย่างละเอียด นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการวัดผลลัพธ์ของการทำ SEO ได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับสิ่งที่ Search Console สามารถทำได้มีดังนี้
- Performance Report เป็นการรายงาน ประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์โดยแสดง Total Click, Total Impression, Keyword, Click, Impression, CTR และ Average Position
- ตรวจสอบปัญหาภายต่างๆ ในเว็บไซต์ เช่น Server Error หรือเกิดปัญหา Page Not found เป็นต้น
- ส่งแผนผังเว็บไซต์ให้กับ Google
- เช็กสถานะการเก็บข้อมูล รวมถึงยกเลิกงานเก็บข้อมูลหน้าเพจ
7.Conversions/Goals
ก่อนอื่นต้องบอกให้ได้ก่อนว่าเป้าหมายของเว็บไซต์ของคุณคืออะไร ต้องการเป็นช่องทางสำหรับติดต่อ หรือต้องการเป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้า แต่ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะคืออะไร Google Analytics ก็ช่วยให้คุณสามารถวัดผล และติดตามได้ว่าผลลัพธ์นั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่
ซึ่ง Report นี้จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและชัดเจนขึ้น
8.New vs. Returning Visitors
ตัวชี้วัดนี้เป็นการบอกถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เข้าชมในเว็บไซต์ ระหว่างผู้เข้าชมใหม่ที่ไม่เคยเข้ามาในเว็บไซต์ของเรามาก่อน กับคนที่เคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราแล้วและกลับเข้ามาใหม่ ซึ่ง Report นี้จะเอาไว้ดูประกอบว่าเว็บไซต์ของคุณนั้นสามารถดึงดูดผู้เข้าชมที่เหมาะสมได้หรือไม่นั่นเอง
โดยคุณสามารถดู Report นี้ได้โดยคลิกที่ Audience » Behavior » New vs Returning ตามลำดับ
9.Engagement
Engagement นั้นถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัด Google Analytics ที่สำคัญที่สุด เพราะมันจะสามารถวัดว่าผู้ใช้งานนั้นกำลังค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการในไซต์ของคุณ และมีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณหรือไม่
จริงๆ แล้วมีอีกหลายเมตริกในการชี้วัดค่า Engagement แต่เราจะเน้นดูในเรื่องของเวลาการมีส่วนร่วมโดยเฉลี่ยโดยรวมและเวลาในการมีส่วนร่วมต่อหน้าเป็นหลัก เพราะสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าโดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ใช้ใช้เวลาบนไซต์ของเรานานแค่ไหนนั้นเอง
10.Pageviews
สำหรับตัว Pageviews นั้นมีส่วนที่คล้ายๆ กับ Landing Pages อยู่บ้าง แต่ Pageviews นี้จะเอาไว้ใช้เพื่อดูภาพกว้างๆ ว่ามีเว็บไซต์ของคุณนั้นถูกเข้าเยอะแค่ไหน และหน้าไหนของคุณมีคนเข้าเยอะที่สุด
โดยจะเป็นการบอกจำนวนครั้งที่มีคนเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งจะถูกนับทุกครั้งที่มีคนเข้ามา โดยไม่สนว่าคนคนนั้นจะเคยเข้ามาแล้วหรือไม่ก็ตาม
ซึ่งคุณสามารถดู Report นี้ได้โดยคลิกEngagement » Pages and screens จากนั้นก็เลื่อนลงมาเพื่อค้นหาตารางที่แสดงรายการผู้ใช้งานในกรอบเวลาที่คุณเลือก
11.Mobile Devices
ตัวชี้วัดนี้จะแสดงให้คุณเห็นว่ามีอุปกรณ์เคลื่อนที่เครื่องไหนบ้างที่คนใช้ในการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณ
เนื่องจากปัจจุบันเรามีการเข้าชมเว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่นักการตลาดไม่ควรมองข้ามก็คือ เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของเรานั้นสามารถใช้งานได้และดูดีบนอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ทุกประเภท
นอกจากนี้ Report ตัวนี้ยังช่วยให้คุณสามารถดูได้ว่าอุปกรณ์ไหนมีอัตราตีกลับที่สูงกว่าอุปกรณ์อื่นมาก หรือเวลาเฉลี่ยบนหน้าเว็บต่ำมากกว่าหรือไม่ คุณอาจต้องทำการทดสอบกับอุปกรณ์ประเภทนั้นและปรับปรุงคุณภาพและการตอบสนองต่ออุปกรณ์ต่างๆได้ดีขึ้น
ยิ่งเรารู้ข้อมูลเหล่านี้มากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งพัฒนาเนื้อหาของคุณเพื่อให้บริการกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้นเพื่อธุรกิจที่เติบโตได้ด้วยการปรับแต่งข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับลูกค้า พฤติกรรม โปรไฟล์และอื่นๆ จากข้อมูลเชิงลึกผ่าน Google Analytics
และทั้งหมดนี้ก็คือ 11ตัวชี้วัดที่สำคัญที่ควรติดตามในปี 2565 นี้ เพราะตัวชี้วัดเหล่านี้จะช่วยให้เราทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมายรวมถึวข้อมูลเชิงลึกในด้านอื่นๆ ของเว็บไซต์เราด้วย
ฝส่วนใครที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การทำตลาดในรูปแบบอื่นๆ แบมแนะนำให้ไปอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ในบทความหน้าแบมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะค