สุกี้ตี๋น้อย กลยุทธ์เจาะตลาดสุกี้แบบบุฟเฟ่ต์

สุกี้ตี๋น้อย กลยุทธ์เจาะตลาดสุกี้แบบบุฟเฟ่ต์
สุกี้ตี๋น้อย กลยุทธ์เจาะตลาดสุกี้แบบบุฟเฟ่ต์

ปัจจุบันนี้ถ้าพูดถึงบุฟเฟ่ต์ที่ออกแบบมาในรูปแบบของสุกี้ ร้านแรกที่เรานึกถึงเลยนั่นก็คือ “สุกี้ตี๋น้อย” ที่เปิดตัวมาในรูปแบบของร้านสุกี้บุฟเฟ่ต์ที่ราคาถูก และมีของให้เลือกรับประทานได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่รูปแบบของเนื้อ ผัก ลูกชิ้นที่มีความหลากหลายทำให้เมนูในร้านไม่น่าเบื่อ อีกทั้งทำให้ลูกค้าติดใจและกลับมารับประทานที่ร้านเป็นประจำ

“สุกี้ตี๋น้อย” ธุรกิจที่ก่อตั้งในปี 2562 โดย คุณเฟิร์น นัทธมน พิศาลกิจวนิช ผ่านมา 4 ปี สามารถขยายได้มากถึง 32 สาขา ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีสโลแกนไม่เหมือนใครอย่าง อร่อยไม่อั้นเที่ยงวันยันเช้า

การเติบโตและการขยายสาขาของ “สุกี้ตี๋น้อย” ตั้งแต่สาขาแรกจนถึงสาขาที่ 32 ใช้ระยะเวลาเพียง 4 ปีนั้นถือเป็นการขยายสาขาอย่างรวดเร็วและเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจร้านสุกี้บุฟเฟ่ต์ที่สามารถคงมาตรฐานการให้บริการและรสชาติให้คงที่ทุกสาขา

จุดเด่นของร้านสุกี้ตี๋น้อย

1. “ราคาต่อหัว” ที่หากใครชวนไปทานสุกี้บุฟเฟ่ต์ทั่วไปอาจจะเจอราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 299 บาทขึ้นไปจนถึงระดับพันบาท แต่ตี๋น้อยเปิดตัวบุฟเฟ่ต์สุกี้มาในราคาเริ่มต้นที่ 199 บาท แต่ปัจจุบันราคาต่อหนึ่งท่านอยู่ที่ 276 บาท รวมน้ำและภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งก็ถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้และคนสามารถกลับมารับประทานซ้ำ ๆ ได้

2. “มาตรฐานการให้บริการและคุณภาพอาหารให้คงที่” ซึ่งเป็นตัวแปรที่ควบคุมได้ยาก เนื่องจากต้องมีการวางแผน รวมถึงเกณฑ์การวัดผล และกำหนดสูตรแต่ละอย่างให้ชัดเจน รวมถึงมีการตรวจคุณภาพตลอดเวลา เพราะถ้าหากคุณภาพอาหารตกหรือการบริการไม่ดีเพียง 1 วัน อาจส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าที่ลดลงและไม่กลับมารับประทานที่ร้านอีก

จุดเริ่มต้นของธุรกิจ “สุกี้ตี๋น้อย”

หลังจากจบการศึกษาปริญญาตรีและปริญญาโทจากต่างประเทศ “คุณเฟิร์น นัทธมน” เริ่มต้นชีวิตทำงานจากการทำงานออฟฟิศ แต่เมื่อทำงานไปสักพักแล้วรู้สึกว่าจุดสูงสุดของตำแหน่งที่คุณเฟิร์นทำงาน ไม่ใช่เป้าหมายที่ตนเองอยากจะเป็นจึงตัดสินใจ “ลาออก”

จากนั้นคุณเฟิร์นมีความต้องการที่จะ “สร้างธุรกิจเป็นของตนเอง” จึงตัดสินใจปรึกษาครอบครัว ซึ่งพื้นฐานครอบครัวคุณเฟิร์นทำร้านอาหาร “ร้านเรือนปั้นหยา”  แต่เนื่องจากร้านอาหารนี้เป็นร้านอาหารที่มีเมนูจำนวนมาก หากคิดที่จะขยายสาขาก็จะลำบาก เนื่องจากไม่สามารถควบคุมมาตรฐานรสชาติและบริการให้ดีเท่ากันได้

ทำให้ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนั้นคุณเฟิร์นจึงตัดสินใจที่จะเปิดร้านสุกี้บุฟเฟ่ต์ ที่สามารถควบคุมมาตรฐานรสชาติและบริการให้ดีเท่ากันได้

“สุกี้ตี๋น้อย” สร้างความแตกต่างได้อย่างไร

ปัจจุบัน “สุกี้ตี๋น้อย” กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว มีฐานลูกค้าใช้บริการแน่นทุกสาขา 

บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของแบรนด์สุกี้ตี๋น้อย รายงานผลประกอบการต่อกรมธุรกิจการค้า ดังนี้

  • ปี 2562 รายได้ 499 ล้านบาท กำไร 15 ล้านบาท
  •  ปี 2563 รายได้ 1,223 ล้านบาท กำไร 140 ล้านบาท
  •  ปี 2564 รายได้ 1,572 ล้านบาท กำไร 148 ล้านบาท
  •  ปี 2565 รายได้ 3,976 ล้านบาท กำไร 591 ล้านบาท

แสดงให้เห็นถึงอัตราการเติบโตเฉลี่ยของรายได้และกำไรระหว่างปี 2562 ถึง 2565 ที่ 108 % และ 380 % ตามลำดับ

              ปัจจุบันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 บมจ.เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ JMART ได้เข้าไปถือหุ้นใน บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) หรือ ร้านสุกี้ตี๋น้อยจำนวน 352,941 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% มูลค่าลงทุน 1,200 ล้านบาท

ความแตกต่างของ “สุกี้ตี๋น้อย” ที่เป็นที่ชื่นชอบของคนไทย

  1. ราคาที่ถูก

เนื่องจากร้าน “สุกี้ตี๋น้อย” ตั้งราคาอาหารที่ถูก เหมาะกับคุณภาพของอาหารที่ได้รับ และมีเมนูให้เลือกหลากลาย โดยมีราคาดังนี้

  • ราคาผู้ใหญ่ 219++ บาท รวม Vat 7% บวกน้ำรีฟิล 39 บาท รวมราคา Net = 276 บาทต่อท่าน
  • ราคาเด็กสูง 90-120 ซม. 109 ++ บาท รวม Vat 7% บวกน้ำรีฟิล 39 บาท รวมราคา Net = 158 บาทต่อท่าน (เด็กสูงไม่เกิน 90 ซม.ทานฟรี)
  • ระยะเวลาในการทาน 2 ชั่วโมง

จากการวิเคราะห์มองว่าแม้ลูกค้าต้องต่อคิวนาน แต่ร้านมีคุณภาพอาหารที่ดีและลูกค้าเชื่อว่าหากจ่ายในราคานี้ จะได้รับประทานอาหารที่รสชาติที่ตัวเองเคยรับประทาน ไม่ต้องคาดเดาว่ารสชาติหรือคุณภาพจะเปลี่ยนไปตามใจคนขาย อีกทั้งจ่ายในราคาที่ถูก ลูกค้าหลากหลายกลุ่มสามารถเข้าถึงราคานี้ได้ เช่น เด็กนักเรียน นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไป ลูกค้าก็ตัดสินใจที่จะรอ แม้ว่าอาจจะต้องรอเป็นระยะเวลาตั้งแต่ 1 – 3 ชั่วโมง ลูกค้าก็ยินดีที่จะรอคิว นอกจากนั้นทางร้านก็มีระบบการ “สมัครสมาชิก” ให้แก่ลูกค้าด้วย ซึ่งสามารถสะสมแต้มได้เรื่อย ๆ รวมถึงมีโปรโมชั่นส่วนลดต่าง ๆ สร้าง Customer Royalty ให้ลูกค้าอยากกลับมาทานและสะสมแต้มต่อยอดไปได้

  1. ระยะเวลาในการเปิด – ปิด ร้าน

ตามสโลแกนของทางร้าน “อร่อยไม่อั้น เที่ยงวันยันเช้า” เป็นบริการที่ตอบสนองของลูกค้าได้เป็นอย่างมาก ถ้าเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ทั่วไปบางร้านปิดร้านตั้งแต่ 3 ทุ่ม ซึ่งหลายคนอาจจะทำงานเป็นกะ ทำงานกลางคืน ก็อาจจะไม่สะดวกที่เข้าทานตามระยะเวลาปกติได้ การที่มีบุฟเฟ่ต์สุกี้เปิดในระยะเวลาที่เขาเสร็จงานแล้วไม่ต้องรีบรับประทานก่อนร้านปิดหรือ Last order ถือเป็นการแก้ Pain Point ของลูกค้ากลุ่มนี้ได้อย่างดี ซึ่งนอกจากกลุ่มนี้แล้ว ยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวราตรี ที่อาจจะรู้สึกหิวหลังจากที่ปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ แล้ว ก็สามารถมาทานที่ร้าน “สุกี้ตี๋น้อย” ได้ แถมยังไม่ต้องจ่ายแพง ได้กินกับเพื่อนเยอะ ๆ จนอิ่มก่อนกลับบ้าน

จากการวิเคราะห์มองว่า เป็นร้านที่สามารถจับกลุ่มเป้าหมายได้ทั้งลูกค้าที่ทำงานในเวลาปกติ และลูกค้าที่ทำงานในเวลากลางคืน หรือนักท่องเที่ยวราตรีที่อยากรับประทานบุฟเฟ่ต์ได้ด้วย

  1. สถานที่ตั้งร้าน

เนื่องจากราคาต่อหัวของร้านเป็นราคาที่ถูก ลูกค้าเข้าถึงง่าย หากเจ้าของร้านต้องการที่จะได้กำไรในปริมาณมาก ควรเลือกสถานที่ที่สามารถรับลูกค้าได้เยอะ เดินทางสะดวก จอดรถง่าย จำนวนต่อรอบที่สามารถรับลูกค้าได้ในแต่ละวันก็ควรเยอะตามไปด้วย ดังนั้นจึงคิดว่าทำเลที่ตั้งในห้างอาจจะไม่เหมาะสม เพราะที่จอดในห้างอาจจะไม่สามารถรองรับได้เพียงพอหรือไม่คุ้มกับค่าเช่า

หากเรามองในทุกสาขาของร้าน ลูกค้าสามารถเดินทางไปทานได้สะดวก ถ้าไม่มีรถไฟฟ้า รถเมล์ รถประจำทางผ่าน ทางร้านก็จะมีที่จอดรถที่เป็นลานกว้างให้กับลูกค้า เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบในการตัดสินใจที่ลูกค้าเลือกที่จะไปทานอาหารที่ร้านด้วย เพราะไม่ต้องกังวลว่ารถจอดไว้จะโดนล็อคล้อหรือจ่ายค่าจอดที่แพง

  1. มีบริการ Delivery & Drive-Thru Pick Up

หลายคนอาจจะไม่ชอบที่จะต้องรอคิวของทางร้านนาน ๆ ก็สามารถใช้บริการทางเลือกของร้านได้ โดยมีการบริการจาก ทางร้านมีการขายทั้งชุด และแบบรายการอาหารที่ลูกค้าต้องการมาในราคาที่คุ้มมากเช่นกัน ซึ่งเป็นการขยายฐานลูกค้าที่ครอบคลุมได้กว้าง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดี

สรุป

การที่ร้านอาหาร“สุกี้ตี๋น้อย” เติมโตได้แบบก้าวกระโดดมาจนถึงปัจจุบันนี้ได้ เป็นเพราะการบริหารรวมถึงการวางแผนในการจัดการภายในร้านที่สามารถควบคุมมาตรฐานการให้บริการและคุณภาพอาหารได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการแก้ไขปัญหาของลูกค้า (Pain Point) ได้อย่างตรงจุด มีความแตกต่างที่โดดเด่นจากร้านอื่น ๆ คือการเป็นบุฟเฟ่ต์ที่ราคาถูก ลูกค้าหลายกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ การเลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางไปรับประทานและความสะดวกสบายในการจอดรถ หรือตอบโจทย์คนที่ชอบทานที่บ้านก็สามารถสั่งผ่าน Delivery หรือขับไปรับที่ร้านแบบ Drive Thru Pick up ได้อย่างง่าย

References

อ้างอิง 1, อ้างอิง 2, อ้างอิง 3, อ้างอิง 4, อ้างอิง 5, อ้างอิง 6, อ้างอิง 7, อ้างอิง 8

หากผู้อ่านต้องการอ่านบทความเพิ่มเติมโดยผู้เขียนสามารถกดที่ตรงนี้ได้เลย

Brainbruch

Analyst คนนึงที่ชื่นชอบการหาความรู้ใหม่ ๆ และอยากจะมาแชร์ให้ทุกคนได้ลองอ่านกันครับ!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *