Mixue (มี่เสวี่ย) ไอศกรีม ชานมไข่มุก แบรนด์ดังจากจีน

Mixue (มี่เสวี่ย) ไอศกรีม ชานมไข่มุก แบรนด์ดังจากจีน
Mixue (มี่เสวี่ย) ไอศกรีม ชานมไข่มุก แบรนด์ดังจากจีน

เมื่อพูดถึงร้านที่เป็นกระแสอย่างมากในตอนนี้ คือ ร้าน “ MIXUE ” ลักษณะร้านเป็นสีแดง มีมาสค็อต ชื่อ “Snow King” โดยสิ่งที่น่าสนใจที่ทำให้เกิดกระแสที่โด่งดัง คือ มีเมนูหลากหลาย ราคาถูก สาขาเยอะ เข้าถึงง่าย สามารถครองใจลูกค้าได้รวดเร็ว 

 “MIXUE” (มี่เสวี่ย) ได้เข้ามาเริ่มขายในไทยเมื่อเดือนกันยายนปี 2565 โดยเข้ามาตั้งบริษัทในนาม “บริษัท มี่เสวี่ย (ประเทศไทย) จำกัด” ลงทุนเปิดสาขาแรกตรงข้ามมหาวิทยาลัยรามคำแหง แถวซอยรามคำแหง 53 และใช้กลยุทธ์เน้นขยายสาขาตามทำเลมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น ม.หอการค้าไทย , ม.ธุรกิจบัณฑิต , ม.กรุงเทพฯ , ม.ธรรมศาสตร์ , ม.เกษตร , ม.มหิดล ฯลฯ

ขอบคุณภาพจาก เพจ MIXUE RU Ramkhamhaeng 53

จุดเริ่มต้นของร้าน

ธุรกิจของ MIXUE เริ่มต้นก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1997 โดย ‘จาง หงเชา’ ที่เมืองเจิ้งโจ มณฑลเหอหนาน ซึ่งมองเห็นโอกาสในการเริ่มต้นธุรกิจร้านน้ำแข็งไส ในขณะยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปี 4  โดยเริ่มเปิดร้านครั้งแรกหลังเรียนจบ ด้วยเงินทุนตั้งต้นเพียง 4,000 หยวน (ราว 2 หมื่นบาท) ที่มีย่าของเขาเป็นผู้ให้การสนับสนุน สินค้าหลักๆ ในร้าน ได้แก่ น้ำแข็งไส ไอศกรีม และสมูทตี้ ก่อนจะขยายมาขายพวกเมนูชานม

ต่อมาจึงได้ใช้ชื่อร้านว่า MIXUE BINGCHENG (蜜雪冰城) อ่านว่า “มี่เสวี่ยปิงเฉิง” มีความหมายแปลเป็นภาษาไทยว่า “ปราสาทน้ำแข็งที่สร้างด้วยหิมะแสนหวาน”

เมื่อธุรกิจได้เริ่มเติบโตขึ้นจนมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อปี ค.ศ.2006 มีเทรนด์ใหม่ที่เป็น ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ที่ประเทศจีนมักมีความนิยมทานกันสูงมาก แต่ราคาก็สูงเช่นกัน

จากนั้นเขาจึงเริ่มขาย “ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ” ในราคา 2 หยวน (ประมาณ 10 บาท) ซึ่งนับว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ ในตลาดที่ขายกันอยู่ที่ 10 หยวน (ประมาณ 50 บาท) จนสามารถทำยอดขายได้อย่างถล่มทลาย และขยายแฟรนไชส์ไปอย่างรวดเร็ว

ปี 2007 จุดเปลี่ยนที่ทำให้ธุรกิจของคุณ  ‘จาง หงเชา’ เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการขายแฟรนไชส์ของร้าน MIXUE เริ่มจากขายภายในประเทศ และเริ่มขายนอกประเทศในปี 2018 จนปัจจุบัน ร้าน MIXUE มีสาขามากถึง 22,000 แห่งทั่วประเทศจีน

สิ่งสำคัญที่ทำให้แบรนด์สามารถขายสินค้าในราคาที่ถูก ปริมาณเยอะ และสามารถควบคุมคุณภาพได้

หากพูดถึงเป้าหมายที่ทางแบรนด์ได้กล่าวไว้ ” นำผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง และราคาย่อมเยามาสู่ทุกคนทั่วโลก “ แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ การควบคุมบริหารต้นทุน และคุณภาพสินค้า ด้วยระบบ Supply Chain

โดยพัฒนาระบบการบริหาร Supply Chain ของตัวเอง โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนา(R&D) ที่ทันสมัย มีโรงงานที่เป็น “ครัวกลาง” ในการแปรรูปจัดเตรียมวัตถุดิบรวมถึงลงทุนในเครือข่ายคลังสินค้าและการขนส่ง ส่งผลให้ Mixue มีต้นทุนทางธุรกิจต่ำกว่าคู่แข่งถึง 20% และสามารถตั้งราคาขายเมนูต่าง ๆ อยู่ที่ราคา 15 ถึง 50 บาท

ด้วยเมนูหลากหลาย ราคาถูก สาขาเยอะ เข้าถึงง่ายทำให้ MIXUE สามารถครองใจลูกค้า โดยมีการทำการตลาดเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะวัยรุ่น ด้วยภาพลักษณ์แบรนด์ที่ทันสมัย และการใช้กลยุทธ์เพลงโฆษณาฮิตติดหู

แหล่งที่มา: 蜜雪冰城主题曲MV 中英双语版 (MIXUE IceCream&Tea Theme Song MV English-Chinese Bilingual)

จากการจัดการระบบของร้านได้เป็นอย่างดีทำให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมเฟรนไชส์มีความสนใจมากขึ้น ทั้งในด้านของการเลือกร้านค้า การปรับปรุงร้าน การฝึกอบรมพนักงงาน การจัดการร้านค้า ซอฟต์แวร์ร้านค้า มีการจัดการได้เป็นอย่างดี ทำให้สาขาเฟรนไชส์เติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว 

เมื่อจำนวนเฟรนไชส์ที่มากขึ้น ความต้องการวัตถุดิบในการผลิตสินค้าก็มากขึ้นเช่นกัน ทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบในการจัดหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง พร้อมราคาต้นทุนที่ถูกกว่าร้านค้าทั่วไปจากการซื้อเป็นจำนวนมาก Purchasing Economies of Scale

หลังจากประสบความสำเร็จในจีน ทางแบรนด์ได้ขยายสาขาไปยังต่างประเทศ โดยเปิดสาขาแรกในเวียดนามในปี ค.ศ. 2018 ตามมาด้วยประเทศอื่นๆในอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมถึงประเทศไทย  นอกจากนี้ยังขยายสาขาไปเปิดในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย รวมถึงมีสาขามากที่สุดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก รองจาก Mcdonald, Subway, Starbucks และ KFC 

รายได้ของทางแบรนด์

  • ปี 2019 รายได้ 12,540  ล้านบาท กำไร 2,170 ล้านบาท
  • ปี 2020 รายได้ 22,870 ล้านบาท กำไร 3,090 ล้านบาท 
  • ปี 2021 รายได้ 48,580 ล้านบาท กำไร 9,300 ล้านบาท

โดยรายได้ของบริษัทมาจาก การขายแฟรนไชส์ อุปกรณ์ และวัตถุดิบ รวมไปถึงส่วนแบ่งรายได้จากยอดขาย

กลยุทธ์การตลาดของแบรนด์

  1. การโปรโมทร้านค้าผ่านสื่อออนไลน์ต่าง ๆ

ทางแบรนด์เน้นการเข้าถึงลูกค้าบนแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น Facebook หลักที่มีผู้ติดตามมากกว่า 28,000 คน ในการดึงดูดลูกค้าด้วยโปรโมชั่นที่น่าสนใจ การถ่ายภาพสินค้าให้ดูน่าทาน ทำให้ลูกค้าอยากเข้ามาลอง นอกจากนี้ร้านค้าสาขาแต่ละแห่งก็ยังมีเพจ Facebook แยกต่างหากสำหรับการโปรโมทข้อมูลด้วยตนเอง

การโปรโมทผ่านแพลตฟอร์ม TIKTOK การที่แบรนด์ใช้แพลตฟอร์มนี้ในการโปรโมทสินค้าถือเป็นการลดช่องว่างระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เพราะส่วนมากผู้คนที่เข้ามาในแอพลิเคชั่นนี้ต้องการที่จะเข้าถึงแบรนด์ได้ง่าย ผ่านการดูคลิปสั้น ๆ เพื่อให้เข้าใจสินค้านั้น ๆ รวมถึงเป็นการเพิ่มการเป็นที่รู้จักในวงกว้างได้อีกด้วย หากคลิปเกิดเป็นกระแสไวรัลก็จะทำให้ผู้คนรู้จักแบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว

  1. การใช้มาสคอตเพื่อสร้างเอกลักษณ์

มาสคอตของทางแบรนด์มีลักษณะที่โดดเด่น เป็นตุ๊กตาหิมะสวมเสื้อคลุมและถือไม้เท้า ด้วยโทนสีแดงและสีขาว รูปร่างท้วม บุคลิกตลก ซึ่งมาสคอตนี้จะปรากฎตั้งแต่ หน้าร้านค้า ภายในร้าน บรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มของทางร้าน ทำให้เป็นที่จดจำแก่ลูกค้าได้ง่าย เมื่อลูกค้าเห็นมาสคอตตัวนี้ ก็จะนึกถึงร้านทันที

  1. การโฆษณาด้วยเพลงประจำร้าน

อีกหนึ่งวิธีในการเพิ่มกลยุทธ์ คือ การใช้ดนตรีเข้ามาประกอบ แสดงถึงรายละเอียดของร้าน ซึ่งเพลงของร้านมีลักษณะที่มีเมโลดี้ติดหู เนื้อเพลงจำง่าย ฟังแล้วรู้สึกสนุกสนาน สดชื่น ทำให้เพลงเป็นกระแสอย่างมากและเป็นการสร้างการจดจำที่ดีให้กับลูกค้า

  1. ขายสินค้าที่เป็นแบรนด์ของตัวเองควบคู่ไปด้วย

เมื่อลูกค้ามาซื้อไอศกรีม หรือชา บางคนอาจอยากได้สินค้าอื่นที่เป็นตุ๊กตา แก้วพลาสติกที่มีโลโก้ร้านติด เพื่อการใช้ซ้ำด้วยก็ได้ เมื่อทางร้านผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้ามา และทำให้ลูกค้าหลงรักในแบรนด์ตนเองด้วย เมื่อเราผลิตคอลเลคชั่นใหม่มาลูกค้าก็อยากจะซื้อและทำให้ทางร้านมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

  1. ทำเลที่ตั้งร้าน

หากสังเกตร้าน Mixue ที่มาเปิดสาขาในประเทศไทย ร้านมักจะเลือกเปิดอยู่ใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัย ทำให้กลุ่มเป้าหมายส่วนมากเป็นวัยรุ่น นักศึกษา ที่เมื่อทานที่อร่อยและถูก ก็จะมีการบอกต่อกันเรื่อย ๆ หรือแชร์ลง Social Media และมีการกลับมาซื้อซ้ำเป็นประจำเพราะอยู่ใกล้เคียงกับหอพักหรือตึกที่ตนเองเรียน

สรุป

การที่ร้านมี่เสวี่ยประสบความสำเร็จและขยายสาขาได้เป็นจำนวนมากขนาดนี้เกิดจากการบริหารจัดการทั้งภายในและภายนอก โดยภายในได้มีการใส่ใจในการเทรนพนักงานรวมไปถึงการจัดวางระบบซอฟแวร์หลังบ้านให้มีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าเป็นการสร้างบ้านให้แข็งแรงก่อนที่จะขยายตัวบ้านออกไป ส่วนการจัดการบริหารภายนอกนั้นทางแบรนด์ก็ได้ใส่ใจกับการสร้าง Branding ให้คนจดจำผ่านมาสคอตและเพลงประจำร้าน อีกทั้งมีการวางแผนด้าน Marketing ในการเลือกทำเลที่ตั้งให้เข้ากับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและโปรโมทผ่าน Social Media ที่กลุ่มลูกค้าเล่น ทำให้ทางแบรนด์สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น

References:

แหล่งอ้างอิง 1, แหล่งอ้างอิง 2, แหล่งอ้างอิง 3, แหล่งอ้างอิง 4, แหล่งอ้างอิง 5, แหล่งอ้างอิง 6

Brainbruch

Analyst คนนึงที่ชื่นชอบการหาความรู้ใหม่ ๆ และอยากจะมาแชร์ให้ทุกคนได้ลองอ่านกันครับ!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *