แคมเปญการตลาด VOO Video Call Art เปลี่ยนภาพเน็ตกากให้เป็นงานศิลปะ

แคมเปญการตลาด VOO Video Call Art เปลี่ยนภาพเน็ตกากให้เป็นงานศิลปะ

ในบทความนี้จะพาทุกคนมาเปิดไอเดียที่น่าสนใจอย่าง แคมเปญการตลาด VOO Video Call Art บริษัทโทรคมนาคมของเบลเยียม ที่เปลี่ยนภาพวิดีโอที่มีสัญญาณล้มเหลวหรือพูดง่าย ๆ คือเอาภาพเน็ตกาก มาทำให้กลายเป็นศิลปะสมัยใหม่ขึ้นมาซะได้?! เพื่อเป็นการโฆษณาและสื่อสารในเรื่องของความเร็ว Internet ที่แบรนด์มีความเหนือกว่า ประมาณว่าถ้าไม่อยากเจอแบบนี้ก็มาใช้เครือข่ายของฉันสิ

แคมเปญการตลาด VOO : Video Call Art กับการพลิกไอเดียสุดกวน

แคมเปญนี้เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน เมื่อปี 2019 ถึงแม้ว่าระยะเวลาอาจจะดูเป็นแคมเปญที่ผ่านมานานไปนิดหน่อย แต่ในบทความนี้ผู้เขียนอยากเอามาเล่าใหม่อีกครั้ง ถึงแนวคิดที่น่าสนใจให้ทุกคนได้ฟังกันค่ะ เพราะรับรองว่าถึงเรื่องเน็ตกากมันจะเป็นปัญหาเก่า ๆ สุดคลาสสิค แต่แบรนด์สามารถเล่าให้มันกลายเป็นเรื่องที่สดใหม่ได้

เรื่องราวมีอยู่ว่า บริษัทโทรคมนาคมสัญชาติเบลเยียมอย่าง VOO ได้ทำแคมเปญการตลาดที่มีชื่อว่า ‘Video Call Art’ ขึ้นมา โดยการใช้ภาพหน้าจอวิดีโอที่ค้าง เนื่องจากสัญญาณ Internet ที่ไม่ดี และเปลี่ยนให้มันเป็นภาพงานศิลปะนั่นเอง (ที่ออกแนว Abstract หน่อย ๆ ค่ะ 555555)

แคมเปญนี้ทำขึ้นโดย Agency อย่าง Happiness Brussels วัตถุประสงค์คือแบรนด์ต้องการสื่อสารไปถึงผู้บริโภคว่า VOO สามารถให้ความเร็ว Internet ได้เร็วกว่าคู่แข่งนะ ถ้าไม่อยากเจอภาพแบบนี้ตอนต้องใช้งาน Internet ก็มาใช้เครือข่ายฉันสิ

เท่านั้นยังไม่พอ ยังได้เปิดตัวแคมเปญนี้ที่ KIKK Festival หรือเรียกได้ว่าเป็นเทศกาลศิลปะสมัยใหม่และดิจิทัลยอดนิยมของเบลเยียม ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดึงดูดผู้เข้าชมมากกว่า 30,000 คนในแต่ละปีเลยทีเดียว

ภาพต่าง ๆ ก็คือถูกนําไปจัดแสดงภายในพื้นที่ Gallery ด้วยความตั้งใจที่จะทําให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเข้าใจว่ามันเป็นศิลปะดิจิทัลสมัยใหม่ โดยที่จริง ๆ แล้วแต่ละภาพมีบรรทัดย่อยด้านล่าง โดยมีคำลงท้ายภาพเอาไว้แบบตราตรึงใจว่า

‘It’s cool when it’s art. It sucks when it’s a video call.’

ตบท้ายด้วยการบอกให้เปลี่ยนมาใช้เน็ตเร็ว ๆ ของแบรนด์ฉันสิได้แบบลงตัว และเรียกได้ว่าต่อให้จะเข้าไปเดินดูงานศิลปะแล้วไม่รู้จักแบรนด์ หรือภาพอะไรกันมาจากสัญญาณ Internet ที่ไม่ดี ก็คงเกิดความสงสัยกันขึ้นมาบ้างว่าแบรนด์อะไรที่เสียดสีได้น่าสนใจขนาดนี้ อย่างน้อย ๆ ก็คงจำฝังหัวไม่ลืม จนวันนึงคนอาจจะอยากเปลี่ยนมาใช้ค่ายนี้กันบ้างก็ได้นะคะ

ถอดแนวคิดแคมเปญการตลาด VOO : Video Call Art

#1 ใส่ Creative Idea ลงไปในปัญหาเก่าสุดคลาสสิค

เรื่องของสัญญาณ Internet ไม่ดี หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่าเน็ตกาก ต้องยอมรับเลยว่าเป็นปัญหาสุดแสนจะเก่าคลาสสิคที่มีมานานแสนนาน ยิ่งแบรนด์เครือข่ายสัญญาณ Internet จะสื่อสารถึงผู้บริโภคทีก็มีอยู่ไม่กี่เรื่อง เรื่องการเคลมว่าสัญญาณแบรนด์ฉันมันดีเลิศที่สุดก็แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องสื่อสารแน่นอน

แค่ว่าแคมเปญนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการหามุมมองใหม่ ๆ และน่าสนใจมากในการเข้าถึงผู้บริโภค เพราะสื่อสารจุดขายได้แบบโดดเด่น แตกต่าง และไม่เคยเห็นใครทำมาก่อน

รวมถึงความตลกขบขัน เสียดสีแบบกำลังพอดี จับต้นชนปลายเรื่องราวมาเล่าได้แบบกลมกล่อม ยิ่งทำให้คนเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย เพราะใคร ๆ ก็ชอบเรื่องสนุก

ผู้เขียนเองที่เป็นหนึ่งในคนที่ชอบเรื่องราวของศิลปะ ก็ยังนึกไม่ถึงว่าคนเราจะจับเรื่องสัญญาณ Internet มาเชื่อมโยงกับงานศิลปะได้ยังไง จึงค่อนข้างว้าวกับแคมเปญนี้ที่รู้จักบิดแง่มุม หาเรื่องราวใหม่ ๆ มาสื่อสารได้แบบกำลังพอดีเลยล่ะค่ะ

#2 ทำสิ่งที่คนมองไม่เห็น ให้จับต้องได้

แน่นอนว่าถ้าพูดถึงเรื่องของสัญญาณ Internet มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะนามธรรมใช่ไหมล่ะคะ ให้ทุกคนลองนึกภาพสัญญาณ ก็คงเหมือนเป็นอะไรที่ลอย ๆ วิ่ง ๆ อยู่ในอากาศสักที่นึงบนโลกใบนี้

และสมมติจะออกมาบอกหรือทำแคมเปญว่าเน็ตฉันเร็วกว่าเจ้านั้น เน็ตฉันดีกว่าเจ้านี้ หรือทำแคมเปญที่แสดงความเร็วของสัญญาณ บางครั้งคนก็อาจจะยังมองเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้รู้สึกอินหรือเชื่อมโยงเข้าถึงมันได้มากเท่าที่ควร ซึ่งก็อาจจะไม่ได้นำมาซึ่งความน่าเชื่อถือหรืออยากเปลี่ยนมาใช้แบรนด์เรา

แต่ตัวอย่างของแคมเปญนี้คือการจับสิ่งที่มันเป็นนามธรรม เอามาสื่อสารในเชิงรูปธรรมมากขึ้น อีกทั้งยังผ่านการเป็นงานศิลปะที่คนจะเข้าถึงหรือเข้าใจได้ง่าย และรู้สึกว่ามันอยู่ใกล้ตัวมากขึ้น แม้ว่าในวันนี้อาจจะยังไม่ได้คิดที่จะเลือกใช้เครือข่ายของแบรนด์ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็คงจะจดจำแบรนด์ได้ไว้ในใจแล้วล่ะค่ะ

#3 สร้าง Engagement กับผู้ชม

แบรนด์รู้จักเลือกใช้ Gallery เป็นพื้นที่ในการประกาศไอเดียสุดแสบกวนนี้ให้โลกรู้ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นการโชว์ผลงานในเทศกาลศิลปะสมัยใหม่และดิจิทัลยอดนิยมของเบลเยียม ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดึงดูดผู้เข้าชมมากกว่า 30,000 คนในแต่ละปี แน่นอนว่าคนจะได้มาเห็นและมีส่วนร่วมกันเยอะเลยทีเดียว

ต่อให้บางคนที่อาจจะไม่ได้รู้จักแบรนด์มาก่อนหรอก พอมาเห็นผลงานจริงก็ยิ่งมีส่วนร่วมกับมันได้และรู้สึกใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น และยังสามารถแชร์หรือพูดถึงต่อทั้งกับคนใกล้ตัวหรือลง Social Madia ได้อีกด้วย

แคมเปญการตลาด VOO Video Call Art เปลี่ยนภาพเน็ตกากให้เป็นงานศิลปะ

AI-Generated Image by Shutterstock (Prompt: create photography, video call, on laptop, Internet signal interrupted.)

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับบทความนี้ที่ได้พาทุกคนมาเปิดไอเดียไปกับแคมเปญการตลาด VOO : Video Call Art เปลี่ยนภาพเน็ตกากให้เป็นงานศิลปะ ถือเป็นอีกหนึ่งแคมเปญการตลาดที่ผู้เขียนชอบมาก ๆ และอยากมาเล่าให้ทุกคนฟังต่อจริง ๆ

รู้จักเชื่อมโยงสิ่งที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน จับสิ่งที่มองไม่เห็นมาทำให้เป็นภาพที่คนจับต้องได้และเข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น รวมถึงใส่ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ที่ปนความตลก แสบ กวน ได้แบบพอดิบพอดี หวังว่าจะช่วยจุดประกายไอเดียให้ทุกคนนำไปต่อยอดกับธุรกิจของตัวเองกันได้ไม่มากก็น้อยนะคะ

แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ สามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอนที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram Twitter  และ Youtube ได้เลย

Source

Fern Panassaya

เฟิร์น Junior Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *