Data Driven Class Cafe ร้านกาแฟ ที่ฉลาดใช้ดาต้าทำการตลาด

Data Driven Class Cafe ร้านกาแฟ ที่ฉลาดใช้ดาต้าทำการตลาด

ในช่วงปี 2013 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของยุคที่กาแฟกลายเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนไทย การเข้ามาเป็นผู้เล่นรายใหม่ในวงการนี้จึงถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ Class Cafe นั้นกลับเติบโตอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือดของธุรกิจกาแฟ อะไรทำให้แบรนด์นี้ประสบความสำเร็จ วันนี้ผู้เขียนจะพาเพื่อน ๆ ไปเจาะลึกถึง “Data Driven Class Cafe ร้านกาแฟ ที่ฉลาดใช้ดาต้าทำการตลาด” กันในบทความนี้ค่ะ

หากถามคนโคราชว่ารู้จัก Class Cafe” ไหมเชื่อว่ากว่า 90% ไม่มีใครไม่รู้จักร้านกาแฟสไตล์อินดัสเทรียลแห่งนี้อย่างแน่นอนค่ะ สำหรับตัวผู้เขียนแล้ว หากจะกล่าวว่าร้านกาแฟแห่งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้เขียนเรียนจบก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงเลยค่ะ

เจาะลึก กลยุทธ์การตลาด Class Cafe โคราช ร้านกาแฟที่ขับเคลื่อนด้วย Data

เพราะเวลาจะสอบทีไรก็ได้มาอาศัย Class Cafe นี่แหละ ในการอ่านหนังสือข้ามวันข้ามคืน, ช่วง COVID-19 เรียกได้ว่ามาเรียนออนไลน์ที่นี่ บ่อยกว่าเข้ามหาวิทยาลัยลัยเสียอีก หรือแม้แต่โปรเจคจบ ผู้เขียนเองยังจำได้แม่นว่ามาปิดเล่มอยู่ที่นี่ยันเช้า ปัจจุบันถึงแม้จะเรียนจบมาจะ 3 ปีแล้ว ยังกลับไปดื่มกาแฟ และนั่งทำงานที่ร้านนี้อยู่เสมอ 

ภาพที่เห็นจนชินตาที่ Class Cafe โคราช นั้นมักจะเป็นภาพของผู้คนที่สะพายกระเป๋าโน้ตบุ๊ก หอบหนังสือ ถือกาแฟคนละแก้ว นั่งจับจองโต๊ะ, อ่านหนังสือ, พูดคุย, ทำงาน, พลางจิบกาแฟไปด้วย และมักจะเห็นคุณ “กอล์ฟ มารุต ชุ่มขุนทด” ผู้เป็นเจ้าของเข้ามาพบปะพูดคุยกับน้อง ๆ พนักงาน ก่อนเข้าประชุมกับทีมงานที่ร้านเป็นประจำ

ก่อนอื่นพามาทำความรู้จักกับ Class Cafe แบรนด์กาแฟที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “สตาร์บัคแห่งภาคอีสาน” กันก่อน โดย Class Cafe ในภาพจำของผู้เขียน คือ “ร้านกาแฟ Co-working Space ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง” ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในภาคอีสาน 

Class Cafe โคราชนั้นเข้ามาในวงการตั้งแต่ปี 2013 เกิดขึ้นจากความคิดของคุณ กอล์ฟ มารุต ชุ่มขุนทด อดีตนักการตลาดสายเทคโนโลยีที่เคยทำงานให้กับองค์กรใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น GRAMMY, HUTTCH, และ Nokia ที่อยากจะเปิดร้านกาแฟ ให้เพื่อน ๆ ได้ Chill & Chat พูดคุยกัน พลางจิบกาแฟไปด้วย จึงได้เริ่มต้นด้วยการเปิดร้านในห้องแถวเล็ก ๆ แห่งหนึ่งแถววัดบูรณ์ 

…”Class Cafe ชื่อนี้มาจากการที่เราอยากให้ร้านเป็นพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์ ที่มีกาแฟให้คุณด้วย“…

คุณกอล์ฟ มารุต ชุ่มขุนทด | CEO Class Cafe – ให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร Class Café อันเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา MGMG508 Strategic Marketing Management รุ่น 22B วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2020

หลังจากลาออกมาทำร้านกาแฟอย่างจริงจัง ก็ได้เห็นถึงปัญหาต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องของวัตถุดิบ เนื่องจากเกษตรกรที่ทำไร่กาแฟส่วนใหญ่เป็น Contracted Farm กันหมด ทำให้การที่ผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดอย่าง Class Cafe ต้องซื้อเมล็ดกาแฟในราคาที่แพงหูฉี่ และหากจะซื้อกาแฟที่คั่วแล้วก็มีราคาที่แพงกว่า แบบรับตรงจากสวนไปหลายเท่าตัว 

จึงมองไปที่เมล็ดกาแฟที่นำเข้าจากต่างประเทศ และเห็นว่าเมล็ดกาแฟจากบราซิล และเอธิโอเปียนั้นมี คุณภาพดี บวกกับมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการรับซื้อเมล็ดกาแฟจากภายในประเทศ จึงได้เริ่มนำกาแฟจากทั้งสองประเทศมาใช้ในร้าน แก้ปัญหาในเรื่องของวัตถุดิบไปได้ 

ด้วยประสบการณ์ในการทำงานสายเทคโนโลยีมาก่อน จึงนำ Data Driven Tools ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Big data, Machine Learning, หรือ AI analytics สิ่งเหล่านี้เองที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้ร้านกาแฟแห่งนี้เป็น “ร้านกาแฟที่ขับเคลื่อนด้วย Data“ รู้ใจลูกค้ามากขึ้นด้วย Data และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นด้วย Data

ในหัวข้อนี้จะพาทุกคนมาถอดรหัสความสำเร็จของ Class Cafe กันค่ะ ว่าอะไรทำให้ร้านกาแฟห้องแถวเล็ก ๆ นี้มาไกลจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “สตาร์บัคแห่งภาคอีสาน” 

#01 คนอยู่ไหน Class อยู่นั่น

หากสังเกตดี ๆ Class Cafe นั้นมักตั้งอยู่ในที่ที่มีคนเสมอ ยกตัวอย่างเช่น ในโคราช จะมี Class Cafe ด้วยกันอยู่ 7 สาขา ซึ่งแต่ละสาขาก็จะอยู่ใกล้ ๆ ชุมชน, โรงเรียน, โรงพยาบาล, มหาวิทยาลัย, และสถานที่ท่องเที่ยว

ซึ่งการวางทำเลร้านแบบนี้ จะทำให้เราเข้าใจถึงความสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์ และความเชื่อมั่นระหว่างธุรกิจกับลูกค้า และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโต และประสบความสำเร็จในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

#02 มากกว่าการขายกาแฟ คือการสร้าง Community

เพราะนอกจาก จะเป็นร้านกาแฟแล้ว Class Cafe วางตัวเองเป็นเสมือน Community Space เป็นสถานที่ที่สร้างความสัมพันธ์ เป็นชุมชนให้คนได้มาแลกเปลี่ยนไอเดียได้อย่างอิสระ

ซึ่งทุก ๆ ครั้งที่ผู้เขียนมานั่งทำงานที่ Class Cafe โคราช ก็จะได้เห็นนักเรียน, นักศึกษา, ครู, หมอ, หรือแม้กระทั้งนักธุรกิจ, ทีมสตาร์ทอัพ มานั่งคุยงาน หาไอเดีย ทำงานกลุ่มไป จิบกาแฟไปด้วยอยู่เป็นประจำเลยล่ะค่ะ 

#03 รู้ใจลูกค้าด้วย Data Driven

Class Cafe มีการนำ Data และ Machine Learning, Data Analytic เข้ามาใช้ในการรวบรวม จัดเก็บ วิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งช่วยให้แบรนด์เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า และออกแบบสินค้า/บริการให้ตอบสนองต่อพฤติกรรมลูกค้ามากขึ้น

ยกตัวอย่าง เช่น Class Cafe แต่ละสาขาจะมีเวลาเปิด-ปิดที่ต่างกัน ซึ่งปรับไปตามพฤติกรรมของคนในย่านนั้น ๆ เช่น Class Cafe สาขาที่อยู่ในย่านมหาวิทยาลัย จะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้นักศึกษาได้มานั่งอ่านหนังสือโต้รุ่งกัน

สาขาที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลจะเปิดตั้งแต่เช้า เพื่อเสิร์ฟกาแฟให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ การที่ Class Cafe โคราช เก็บ Data อย่างจริงจังนี้เอง ทำให้ Class Cafe สามารถคาดการณ์ได้ว่าใน 1 สัปดาห์ข้างหน้าจะมีลูกค้าเข้ามาในร้านกี่คน

#04 Small Town Strategy : ยุทธการป่าล้อมเมือง

Class Cafe นั้นเปิดสาขาตามแนวเส้นทางรถไฟ โดยเริ่มต้นจากโคราช, ขอนแก่น, อุดรธานี, บุรีรัมย์ เพราะเป็นพื้นที่ที่การแข่งขันไม่สูง และใช้เงินลงทุนน้อยกว่าการรุกเข้าไปเริ่มต้นในกรุงเทพฯ

ประกอบกับในตอนนั้น โคราชยังไม่ค่อยมีร้านกาแฟพรีเมียมมากนัก จึงได้เริ่มต้นจากบ้านเกิด ในห้องแถวเล็ก ๆ แถววัดบูรณ์ และค่อย ๆ ขยายสาขาออกไป ปัจจุบัน Class Cafe มีสาขาทั้งหมดกว่า 30 สาขาแล้ว ทั้งในต่างจังหวัด และในกรุงเทพฯ

คุณกอล์ฟ มารุต ชุ่มขุนทด | CEO Class Cafe – ให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร CLASS Café อันเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา MGMG508 Strategic Marketing Management รุ่น 22B วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2020

#05 เติบโตไปพร้อมกับชุมชน 

ถ้าให้แกะ Brand Character ของ Class Cafe หนึ่งในลักษณะที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “ความเป็นนักกิจกรรมตัวยง” ซึ่งที่ Class Cafe มักจะมีอีเวนต์สนุก ๆ ให้ได้ร่วมจอยอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น CLASS 3D Velaverse Hackathon แข่งขันปั้น 3D Model, Art Toy Korat งานรวมตัวศิลปินผู้ผลงานโมเดล, วันเสาร์เรามาลอง คลาสเรียนที่ให้คนโคราชได้ลองเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ

นอกจากนี้ยังมีโปรเจค “Class ร่วมช่วย” สนับสนุนสินค้าชุมชนต่าง ๆ, และโปรเจค “ฟังเสียงโคราช” ค้นหาแนวทางในการพัฒนาโคราชร่วมกันคนในชุมชนแต่ละอำเภออีกด้วย 

#06 ตื่นตัวต่อสิ่งใหม่อยู่เสมอ

แม้ว่าโลกจะหมุนไปเร็วเท่าไหร่ เทคโนโลยีจะไปไกลสักแค่ไหน Class Cafe ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาตัวเอง และมองเห็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เช่น ในปี 2022 ที่ Metaverse กำลังมาแรง Class Cafe ได้ร่วมกับพาร์เนอร์ในการพัฒนา  “VELAVERSE” โคราชในโลกเสมือนจริงขึ้นมา ซึ่งก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงเวลานั้น ยิ่งในช่วงที่ Cryptocurrency กำลังบูมแล้ว ผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในคนที่มานั่งอ่านกระดานเทรดที่ Class Cafe โคราช กับเขาด้วยเหมือนกันค่ะ

…“เราค่อย ๆ เดินไปเรื่อย ๆ สิ่งที่เราเดินเหมือนง่าย และเร็ว แต่เบื้องหลังเราเจอสิ่งที่ไม่รู้ตลอดทาง เราพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ เราพยายามวิ่งเข้าชนสิ่งที่เราไม่รู้ต่าง ๆ ทั้งเรื่อง Blockchain, Cryptocurrency และอื่น ๆ เสน่ห์ของเรื่องนี้ คือการเอาชนะสิ่งที่เราไม่รู้ ตรงนี้คือ DNA ของ Class Cafe ที่กล้าทดลองอะไรใหม่ ๆ ก่อนคนอื่นเสมอ”…

คุณกอล์ฟ มารุต ชุ่มขุนทด | CEO Class Cafe

#07 พาร์ทเนอร์ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

เพราะเป็น Open Coffee Platform และคุณกอล์ฟเองก็เป็นคนพื้นที่ จึงทำให้ Class Cafe มีพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งจากหลากหลายคอมมูนิตี ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัย, ธนาคาร, อสังหาริมทรัพย์, หรือแม้แต่ธุรกิจรายใหญ่ไปจนถึงสตาร์ทอัพต่าง ๆ ที่คอยซัพพอร์ต ผลักดันกันสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ จึงไม่แปลกที่ Class Cafe จะเป็นแบรนด์ที่เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด

ด้วยการเส้นทางที่มั่นคง และมุ่งมั่นที่จะส่งมอบสิ่งดี ๆ ให้แก่ลูกค้า แม้ Class Cafe จะไม่ได้เริ่มต้นในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ แต่ก็สามารถเป็นก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในวงการกาแฟได้อย่างภาคภูมิใจ 

ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าความสำเร็จของ Class Cafe ไม่เพียงแค่เรื่องของการขายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการสร้างความสัมพันธ์ และเชื่อมโยงกับคนในพื้นที่ผ่านทางกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยสร้างภาพจำที่ของแบรนด์ให้กับลูกค้า อันเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจให้ยั่งยืนต่อไปได้ในอนาคต 

ขอบคุณรูปภาพ และข้อมูลจาก

บทความดี ๆ เรายังมีอีกเพียบ! ตามไปอ่านกันต่อได้เลยที่!

Sasiwimon Chumart

"แตงกวา" - ชอบภูเขา หลงรักทะเล หาเงินไปเล่นเซิร์ฟที่แหลมหญ้า กินกาแฟเพื่อมีชีวิตรอด นอนน้อยเป็นกิจวัตร ชอบกินเป็นชีวิตจิตใจ ตั้งใจเขียนงานมาก เพราะทุกคนต้องได้อ่านผลงานที่ดีที่สุด!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *