แคมเปญการตลาด Pavise ครีมกันแดดในรูปแบบถุงยาง กระตุ้นผู้ชายใช้กันแดด

แคมเปญการตลาด Pavise ครีมกันแดดในรูปแบบถุงยาง กระตุ้นผู้ชายใช้กันแดด

เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยรู้สึกสปาร์คจอยกับสินค้าสักตัวเพราะแพ็คเกจจิ้ง เพราะแทบจะเป็นด่านแรกที่เราสัมผัสได้ด้วยการใช้สายตาเพียงแค่เสี้ยววิ ในบทความนี้เลยจะพาทุกคนมาดู แคมเปญการตลาด Pavise : Pleasure Pack แบรนด์ครีมกันแดดที่ปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ ให้มีลักษณะคล้ายกับถุงยางอนามัย?! เพื่อกระตุ้นให้ผู้ชายหันมาใช้กันแดดกันมากขึ้น

Pavise Pleasure Pack 1
ขอบคุณรูปภาพจาก pavise.com

จากข้อมูลของ American Academy of Dermatology เผยว่าชาวอเมริกัน 1 ใน 5 เป็นมะเร็งผิวหนัง และ 9,500 คนในสหรัฐอเมริกาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งผิวหนังทุกวันเลยทีเดียวค่ะ

อีกทั้ง ‘ครีมกันแดด’ ยังถูกมองว่าเป็นสินค้าที่น่าเบื่อ หากให้ขยายความเพิ่มเติมคือหมายถึงว่าคนมีมุมมองต่อการใช้ครีมกันแดดว่ามันคือ ‘ทางเลือก’ แต่ไม่ใช่ ‘สิ่งจำเป็น’ ที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวัน พูดง่าย ๆ ก็คือคนมักมองว่าครีมกันแดดเป็นผลิตภัณฑ์ที่เขาไม่ได้ต้องการหยิบมาใช้ทุกวันนั่นเอง

แต่ Pavise แบรนด์ครีมกันแดด ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงแนวคิดนี้ ต้องการให้คนหันมาใช้ครีมกันแดดกันมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับหนุ่ม ๆ ที่ไม่ชอบพกครีมขวดใหญ่ ๆ จึงเป็นที่มาของแคมเปญนี้นั่นเอง ซึ่งเราจะเล่ารายละเอียดกันต่อไปค่ะ

กลับมาที่แบรนด์ครีมกันแดดอย่าง Pavise เป็นแบรนด์ความงามแบรนด์แรกจากบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ BAI Biosciences ที่เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2566 โดยผลิตภัณฑ์หลักคือครีมบํารุงผิวหน้า SPF 30 ที่เรียกว่า Dynamic Age Defense SPF

ที่ได้เปิดตัวแคมเปญเพื่อโปรโมต Pleasure Pack หรือเรียกง่าย ๆ ว่าซองทดลองของผลิตภัณฑ์ Dynamic Age Defense SPF โดยตัวซองคือมีลักษณะของบรรจุภัณฑ์คล้ายกับถุงยางอนามัย เพื่อเป็นการเชื่อมโยงว่าครีมกันแดดก็มีแนวคิดเดียวกับถุงยางอนามัยนะ

Pavise Pleasure Pack 2
ขอบคุณรูปภาพจาก pavise.com

เพราะ Concept หลักที่แบรนด์ต้องการจะสื่อสารก็คือ ‘ครีมกันแดดก็เป็นรูปแบบหนึ่งของการป้องกัน’ นั่นเองค่ะ ตอนแรกผู้เขียนเองก็คิดไม่ถึง แต่พอมองในมุมของ ‘การป้องกัน’ ก็รู้สึกว่าเป็นการเชื่อมโยงแนวคิดได้อย่างน่าสนใจ 

รวมถึงการทำโฆษณาบนออนไลน์ ไม่ว่าจะ Facebook และ Instagram ก็ใช้ภาพที่เลียนแบบโฆษณาถุงยางอนามัย เช่น ซองที่เก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ กระเป๋ากางเกงยีนส์ หรือชุดชั้นใน รวมถึงสโลแกนที่ชวนคิด เช่น สัมผัสประสบการณ์การป้องกันที่ยาวนานที่สุด เป็นต้น

และไอเจ้า Pleasure Pack นี้มีจําหน่ายจริงบนเว็บไซต์ของ Pavise โดยแคมเปญนี้สร้างขึ้นแบบ In-House และโฟกัสเป้าหมายไปที่กลุ่มผู้ชายรุ่น Millennials เป็นหลัก ซึ่งคิดเป็น 40% ของฐานลูกค้าของแบรนด์เลยทีเดียว

#1 Packaging Design ทลายภาพจำครีมกันแดดแบบเดิม

แน่นอนว่าครีมกันแดดที่ทุกคนคุ้นเคย ก็จะต้องอยู่ในรูปแบบหลอดหรือไม่ก็ขวด ขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันไป หรือถ้าเป็นแบบซอง ก็จะเป็นครีมซองสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบที่เราคุ้นตากันในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสำหรับ Pavise เองเรียกได้ว่าปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ซะจนลบภาพจำครีมกันแดดแบบเดิมไปเลย

ทุกคนคงเคยได้ยินประโยคที่บอกว่า แพ็คเกจจิ้งที่ดีจะสื่อสารได้ด้วยตัวมันเอง ซึ่ง Pavise จับความเชื่อมโยงของอุตสาหกรรมอื่น มาต่อยอดเป็น Cretive Idea ที่ดี จนสามารถสื่อสารคีย์หลักเรื่องของ ‘การป้องกัน’ ได้แบบชัดเจนแจ่มแจ้งเพียงแค่เห็นสินค้าก็เข้าใจ

เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าคุณสมบัติหลักของครีมกันแดด ก็คือ ‘การป้องกันผิวจากแสงแดด’ แต่อาจไม่ง่ายในการที่เราจะบิดหามุมมองใหม่ ๆ มาใช้ในการสื่อสาร เพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งแคมเปญการตลาดนี้ก็ถือได้ว่าแบรนด์เองทำออกมาได้ดี

#2 โฟกัสไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย

ที่สำคัญคือพอมันมาอยู่ในรูปแบบซองเล็ก ๆ แน่นอนว่าสะดวกกว่าการพกครีมกันแดดขวดใหญ่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือแบรนด์มุ่งโฟกัสกลุ่มเป้าหมายไปที่ผู้ชาย ที่ส่วนใหญ่มักจะมีพฤติกรรมการใช้หรือพกของในกระเป๋าน้อยกว่าผู้หญิงอยู่แล้วนั่นเอง ทีนี้ก็ใช้ได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือพกพาไปข้างนอก และแม้ว่าจะเป็นรูปแบบบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก แต่สามารถใช้งานได้จริง

ดังนั้นการเปลี่ยนให้มาอยู่ในรูปแบบถุงยางอนามัยที่ผู้ชายคุ้นเคย และพกพาไปไหนมาไหนได้ด้วย ก็อาจช่วยดึงดูดความสนใจให้อยากทดลองใช้มากขึ้น หรือสรุปง่าย ๆ คือแค่การใส่ไอเดียและเปลี่ยนรูปแบบเพียงเล็กน้อย ก็พอให้มีลูกเล่นเป็นแรงจูงใจให้คนอยากใช้เพิ่มขึ้นแล้วนั่นเองค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับบทความนี้ที่ได้พาทุกคนมาเปิดไอเดียไปกับแคมเปญการตลาด Pavise ครีมกันแดดในรูปแบบถุงยาง กระตุ้นผู้ชายใช้กันแดด ถือเป็นอีกหนึ่งแคมเปญการตลาดที่ผู้เขียนชอบและอยากหยิบมาเล่าให้ทุกคนฟังต่อ

รู้จักเชื่อมโยงสิ่งที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน มาเป็นแนวคิดให้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเองได้ เปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้ลูกค้ารู้สึกดึงดูดใจจนอยากทดลองใช้สินค้าของเราดูบ้าง หวังว่าจะช่วยจุดประกายไอเดียให้ทุกคนนำไปต่อยอดกับธุรกิจของตัวเองกันได้ไม่มากก็น้อยนะคะ

แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ สามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอนที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram Twitter  และ Youtube ได้เลย

Source Source

อีกหนึ่งแคมเปญการตลาดที่ผู้เขียนชอบในความจับสิ่งที่ดูไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน แต่สามารถนำมาเชื่อมโยงกันจนออกมาเป็นไอเดียที่แปลกใหม่ได้ค่ะ

Fern Panassaya

เฟิร์น Junior Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *