การตลาด Harley Davidson จัดโชว์รูมในคาเฟ่ ให้คนเข้าถึงแบรนด์ง่ายขึ้น

การตลาด Harley Davidson จัดโชว์รูมในคาเฟ่ ให้คนเข้าถึงแบรนด์ง่ายขึ้น

การตลาด Harley Davidson เมื่อพี่ใหญ่ขาซิ่งหันมาเปิดคาเฟ่สำหรับชายชาตรีมาดเข้มที่รักการผจญภัย ให้พวกเขาได้มานั่งจิบลาเต้ พร้อมชมสไตล์การตกแต่งร้านที่ไม่ต่างจากโรงรถหรือโชว์รูม และได้พูดคุยทำความรู้จักกัน แล้วอะไรถึงทำให้ Harley ต้องออกมาทำอย่างนี้? ทำแล้วได้อะไร? 

วันนี้ผมเลยจะมาเจาะลึกเคส การตลาด Harley Davidson กันครับ ว่าอะไรทำให้แบรนด์รถมอเตอร์ไซค์แบรนด์นี้กลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก จนเกิดเป็น Community ขนาดใหญ่ขึ้นมาได้ อีกทั้งยังอยู่มาได้ตั้ง 100 กว่าปี ถ้าไม่มีดีพอก็คงไม่ทั้งเก่าและเก๋าได้ขนาดนี้จริงไหมครับ

ขอบคุณภาพจาก: The Street

Hogtown Cafe: การสร้าง Community สำหรับคนรัก Harley Davidson

สำหรับแคมเปญ A Harley Davidson Cafe นี้ เกิดขึ้นที่ Milwaukee ซึ่งหากพูดถึงคาเฟ่ หลายคนอาจติดภาพคาเฟ่แบบแต่งร้านสวย ๆ ออกแนวหวาน ๆ เน้นบรรยากาศชิล ๆ สำหรับนั่งเล่นหรือทำงาน 

แต่บังเอิญว่านี่เป็นคาเฟ่ของ Harley คาเฟ่ที่อาจมีเหล่าชายชาตรีจากแก็งสิงห์มอไซค์อย่าง Son of Anachy มานั่งจิบลาเต้กัน บรรยากาศในร้านมันจึงออกมาเป็นคาเฟ่ที่เหมือนเอาเครื่องชงกาแฟมาตั้งในโรงรถวินเทจซะมากกว่า

ขอบคุณภาพจาก: TORONTO STAR

โดยทาง Harley เองได้นำมอเตอร์ไซค์รุ่นต่าง ๆ มาจอดไว้ในร้าน เพื่อให้เหล่าผู้ที่เข้ามาใช้บริการได้เยี่ยมชม ซึ่งการทำแบบนี้ไม่ใช่ว่ามอไซค์พวกนั้นขายไม่ออก หรือหลุด QC แต่อย่างใด แต่ทางแบรนด์ต้องการให้คาเฟ่นี้เป็นเหมือนโชว์รูมย่อม ๆ ไปในตัว 

เพื่อเป็นการโปรโมทให้คนที่สนใจ Harley แต่ยังไม่อยากไปดูที่โชว์รูม หรือคนที่กำลังมองหามอเตอร์ไซค์สักคันแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ ได้สำรวจและสัมผัสกับมอเตอร์ไซค์คันโตเหล่านี้ เพื่อที่พวกเขาจะได้คุ้นเคยกับ Harley มากขึ้น

อีกทั้งก่อนเปิดตัว คาเฟ่ของ Harley ยังได้รับการโปรโมตบน Social Media และผ่านโปสเตอร์กลางแจ้งที่พิมพ์ด้วยหมึกที่ทําจากกาแฟที่เสิร์ฟในคาเฟ่อีกด้วย 

ผลจากแคมเปญ  A Harley Davidson Cafe

สำหรับแคมเปญนี้อาจจะไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การสร้างยอดขายโดยตรง แต่เอฟเฟคของมันสามารถดึงดูดความสนใจทั้งจากทางสื่อ และประชาชนได้เป็นอย่างดี จนทำให้ทางแบรนด์ได้รับ Mention จากสื่อสำนักต่างๆ และ Engagement บน Social Media ไปเป็นจำนวนมาก ในส่วนของยอดขายนั้นไม่มีการวัดผลที่แน่นอน แต่ทางแบรนด์ระบุว่ามียอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงที่เผยแพร่แคมเปญนี้ 

อีกทั้งการนำมอเตอร์ไซค์ไปวางไว้ในร้าน ยังช่วยให้คาเฟ่แห่งนี้เป็นเหมือนโชว์รูมย่อม ๆ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายไม่เคอะเขิล หรือดูเป็นทางการเกินไป ผู้คนจะได้ไม่อึดอัดเหมือนตอนเข้าไปดูในโชว์รูม ทำให้ผู้คนที่เข้าเยี่ยมชม และทำความคุ้นเคยกับสไตล์ความเป็น Harley และมอเตอร์ไซค์คันโตสุดเท่ได้มากขึ้นอีกด้วย

Harley Davidson

Impulse Factor การใช้จิตวิทยากระตุ้นการตัดสินใจ

โดยทาง Harley คาดหวังว่า แคมเปญนี้จะสามารถสร้างความรู้สึกอยากเป็นเจ้าของ หรือช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของผู้คนได้ เหมือนอย่างการที่เราเห็นเพื่อน ๆ ในกลุ่มของเราแต่ละคนมีของเล่นเท่ ๆ เหมือน ๆ กัน สิ่งนี้แหละคับที่ทำให้เรารู้สึกว่า ‘ของมันต้องมีแล้วป่ะ’ แล้วรีบทุบกระปุกเก็บตังค์ไปซื้อมันมา

อีกผลพลอยได้สำหรับแคมเปญนี้คือ การทำให้ผู้คนที่มีความชอบใน Harley เหมือน ๆ กันได้มาพบปะพูดคุยกัน ซึ่งช่วยให้ Community ของแบรนด์มีการเชื่อมต่อถึงกันมากขึ้น และจะยิ่งส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ และสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้ามากขึ้น

Harley Davidson

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Harley Davidson มี Community ที่แข็งแกร่ง

สำหรับการเกิดขึ้นของ Community ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Community เกิดขึ้นมาได้ยังไง ซึ่งในสังคมนั้นสิ่งที่ดึงดูดและเชื่อมโยงผู้คนให้มาอยู่รวมกันเป็น Community นั่นก็คือ การที่ผู้คนมีความชอบ ความสนใจ มุมมอง หรือวิถีชีวิตคล้าย ๆ กันนั่นเอง

ในส่วน Community Marketing ของ Harley นั้น สิ่งนึงที่เด่นชัดที่สุดคือ ความเป็นตัวของตัวเอง ความนอกกรอบ และการผจญภัย ซึ่งการที่แบรนด์มีตัวตนเด่นชัดนั้น ยิ่งสามารถเชื่อมโยงผู้คนที่มี Life Style และแนวคิดแบบเดียวกันได้เป็นอย่างดี

อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Community ของ Harley แข็งแกร่งกว่าแบรนด์อื่นคือ การที่แบรนด์ไม่ได้เข้าไปควบคุม หรือชี้นำให้ผู้คนต้องเป็นในแบบที่แบรนด์ต้องการให้เป็น แต่พวกเขากลับปล่อยให้ผู้คนใน Community ออกแบบความเป็น Harley ขึ้นมาเอง 

โดยสังเกตได้จากการที่มอเตอร์ไซค์ของ Harley นั้นจะถูกออกแบบมาให้เจ้าของสามารถ Custom ได้ตามความชอบของตัวเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Community ของ Harley เกิดขึ้นมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ

โดยเพื่อนๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมประเดินนี้ได้ที่บทความด้านล่างนี้เลยครับ>>

Harley Davidson
Prompt:photo of a cafe with a vintage garage slide. for the harley davidson community that comes together to sip coffee. ready to get acquainted, inside the cafe there are harley motorcycles lined up. And some people are exploring it. the other person was trying

สรุป

จากแคมเปญนี้ผมมองว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้ Harley กลายเป็นแบรนด์ที่พิเศษกว่าแบรนด์มอเตอร์ไซค์ทั่วไป ก็มาจากเอกลักษณ์ และ Core value ที่แบรนด์ยึดมั่นในความไร้กฎเกณฑ์ ความนอกกรอบ และการผจญภัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยเชื่อมโยงผู้คนที่มีความสนใจคล้าย ๆ กันเข้ากับแบรนด์ จนเกิดเป็น Community ขึ้นมา

ในส่วนปัจจัยที่ทำให้การสร้าง Community ของ Harley ประสบความสำเร็จขนาดนี้ นั่นไม่ได้มาจากการที่แบรนด์ทำงานหนักแต่อย่างใด แต่กลับกันเลยคือการปล่อยให้ผู้บริโภคจำกัดความความเป็น Harley ขึ้นมาเอง โดยที่แบรนด์ทำหน้าที่เพียงให้การสนับสนุนเล็กน้อย อย่างการจัดแคมเปญ Hogtown Cafe ให้ชาวสิงห์มอไซค์ได้มาพบปะกันนั่นเองครับ

อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะครับ

source

Pongsakorn Inrin

Hi~ I'm Mikey.. ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกงานเขียน หวังว่ามันจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครสักคนที่ผ่านมาทางนี้นะครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *