AI Driven Fast Fashion ยกระดับ Dapper สู่ Ultra Fast Fashion
เรียกได้ว่าสะเทือนวงการแฟชั่นไทยกันอีกแล้ว เมื่อ DAPPER แบรนด์แฟชั่นแถวหน้าที่โลดแล่นในอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยมาอย่างยาวนานอย่าง DAPPER ได้ออกมาตอบรับการมาถึงของ AI โดยได้นำ AI Driven Fast Fashion ยกระดับ Dapper สู่ Ultra Fast Fashion พร้อมเปิดตัวมาผลงานคอลเลกชันใหม่ “Drafted by AI”
ซึ่งแน่นอนว่าสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างมาก เมื่อเที่ยบกับแบรนด์ทั่ว ๆ ไปที่ไม่มีการใช้ AI ซึ่งหากแบรนด์ไหนยังใส่เกียร์ว่างกับเทรนด์การใช้ AI อยู่ และยังไม่รู้ว่าจะใช้มันทำอะไรกับธุรกิจของคุณได้บ้าง มาลองดูเคสนี้เป็นกรณีตัวอย่างกันครับ
Ultra Fast Fashion กับ Fast Fashion ต่างกันตรงไหน?
โดย Ultra Fast Fashion นั้น เป็นกลยุทธ์ไม้เด็ดของแบรนด์แฟชั่น SME ที่ใช้ความได้เปรียบจากช่องทางการขายบนออนไลน์ที่สามารถขยาย Scale ฐานลูกค้าได้อย่างทั่วถึง พฤติกรรมและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้บริโภค และความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ในการเร่งวงจรการผลิตและการซื้อขาย
ซึ่งสิ่งสำคัญที่ควรต้องมีในการใช้กลยุทธ์นี้คือ ศักยภาพในการบริหารจัดการกระบวนการผลิตต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพและย่นระยะเวลาลงได้มากที่สุด ซึ่งกลยุทธิ์นี้เหมาะกับแบรนด์เล็ก ๆ อย่าง SME ที่มีความคล่องตัวในการทำธุรกิจสูงอยู่แล้ว
หากใครสงสัยว่า Ultra Fast Fashion นั้นต่างจาก Fast Fashion ยังไง ก็ต้องบอกเลยว่า Ultra Fast Fashion นั้น เป็นอีกระดับของ Fast fashion ที่เร็วกว่า จนแม้แต่แบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่ร่วมกันขับเคลื่อนเทรนด์ Fast Fashion กันมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกอย่าง Zara และ H&M ยังตามความเร็วนี้กันไม่ทันเลยทีเดียว
การยกระดับ DAPPER สู่ Ultra Fast Fashion ด้วย AI
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคงปฎิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยี AI ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในหลายอุตสาหกรรม รวมไปถึงอุตสาหกรรมแฟชั่นเองก็เช่นกัน อีกทั้งเทคโนโลยียังได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ในขณะเดียวกัน DAPPER เองก็เล็งเห็นถึงความสำคัญของ AI ในจุดนี้ และสามารถนำ AI เข้ามาขับเคลื่อน Fast Fashion ได้ เพื่อยกระดับแบรนด์ไปสู่ Ultra Fast Fashion ได้
โดย AI ทั้งสามารถนำมาใช้ทำประโยชน์ทางการตลาด เช่น การวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคได้เช่นกัน สำหรับการนำ AI เข้ามาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจแฟชั่นนั้น ทางแบรนด์ตั้งใจจะใช้มันในการวิเคราะห์ จัดการข้อมูล เพื่อหาความต้องการของลูกค้าแบบเรียลไทม์ ไปจนถึงการออกแบบดีไซน์ผลงานที่ตรงความต้องการของลูกค้าออกมา
ซึ่ง DAPPER นั้นเป็นแบรนด์สินค้าแฟชั่นที่อยู่คู่วงการแฟชั่นไทยมาหลายทศวรรษแล้ว และยังมีสินค้าแฟชั่นที่หลากหลาย ตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องหนัง ชึ่งเป็นแบรนด์แฟชั่นที่เน้นการออกแบบที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์แบบไทย การนำ AI เข้ามาใช้ในครั้งนี้นั้น ทางแบรนด์ต้องการที่จะตอกย้ำถึงความเป็นแบรนด์ร่วมสมัย และการก้าวข้ามขีดจำกัดบนโลกแห่งแฟชั่น
อีกทั้งยังช่วยสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างมาก หาก AI สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะสามารถยกระดับ Ultra Fast Fashion ไปอีกขั้น จนอาจพัฒนาเป็นการคาดการณ์พฤติกรรและความต้องการของผู้บริโภคล่วงหน้าเลยก็เป็นไปได้
คอลเลคชั่นสุดล้ำ ” Drafted by AI ” จาก DAPPER
โดยทางแบรนด์จะมี “Drafted by AI” เป็นคอลเลกชันนำร่อง ซึ่งคอลเลกชันนี้จะเน้นการออกแบบที่สื่อถึง การออกเดินทางสู่บรรยากาศเหนือจินตนาการอันไร้ขอบเขตบนโลกแห่งแฟชั่น ที่ท้าทายกรอบความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างมิติใหม่ให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย จากการใช้ AI ในการออกแบบ
แต่ทางแบรนด์เองยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของแบรนด์ ที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่ออกแบบมาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนไทย รวมถึงยังใส่ใจในเรื่องคุณภาพ เนื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ แพทเทิร์นการตัดเย็บคุณภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ และสีสันที่ส่งเสริมบุคลิกภาพกลุ่มลูกค้าไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในทุกเฉดสีผิว ซึ่งตรงจุดนี้จะใช้การ Crafted by Human ซึ่งช่วยให้ผลงานออกมาได้อย่างลงตัวจากการผสานการทำงานระหว่างมืออาชีพและ AI อีกด้วย
ซึ่งทางแบรนด์ตั้งใจจะเปิดประสบการณ์ใหม่สำหรับวงการแฟชั่น ด้วยผลงานที่ออกแบบผ่าน AI โดยมีแรงบันดาลใจจากภาพภูมิทัศน์ธรรมชาติที่เหนือจริง (Surrealism) ผสมผสานลวดลาย Graffiti ที่วาดออกมาโดยนักออกแบบมืออาชีพ
คอลเลกชันนี้จะสะท้อนถึงความล้ำสมัยอยู่เหนือกาลเวลา และบ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้สวมใส่ เช่น เสื้อเชิ้ตพิมพ์ลาย เสื้อโปโลออริจินอลลาย Graffiti เสื้อเชิ้ต Jacquard ทอลาย และคอมพลีตลุคด้วย Co-Ord เซต Denim กับลวดลาย Galaxy สุดล้ำ นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าหลากหลายดีไซน์ และพวงกุญแจโลหะลาย Graffiti DAPPER อีกด้วย
DAPPER กับการใช้ AI Marketing
โดยทางแบรนด์เล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้ insight ในการขับเคลื่อนการตลาด และได้มีการเก็บรวมรวมข้อมูลจากลูกค้าไว้มากมาย ทั้งจากช่องทางร้านค้าที่มีมากกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่น ๆ ซึ่งข้อมูลที่เก็บรวมรวมจากทุกช่องทางจะถูกนำมาวิเคราะห์และประมวลผลด้วยด้วยระบบ Marketing Automation ที่มีความแม่นยำสูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำการตลาดได้เป็นอย่างดี
ซึ่งนอกจากการนำ AI มาใช้หาความต้องการของลูกค้าและออกแบบผลงานแฟชั่นแล้ว ทางแบรนด์ยังให้ความสำคัญกับ AI Marketing ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับการตลาดของแบรนด์อีกด้วย โดยกลยุทธ์ในการใช้ AI Marketing Strategy ของแบรนด์นั้น คาดว่าจะสามารถสร้างประโยชน์ได้ในหลายด้าน
ทั้งได้รู้จักลูกค้าผ่าน Customer Journey ที่ลูกค้าแต่ละคนได้เจอในช่องทางต่าง ๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ การใช้ AI เพื่อดำเนินกิจกรรมด้านการตลาด การสร้าง Personalized Recommendation โดยการส่งคอนเทนต์หรือโฆษณาที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งนอกจากเนื้อหาจะมีความแม่นยำตามความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มแล้ว ยังสามารถทำงานกับลูกค้าหลายกลุ่มในเวลาเดียวกันได้อีกด้วย
ซึ่งจะช่วยทำให้ลูกค้าแต่ละกลุ่มเป้าหมายมีความสัมพันธ์ที่ดี และมีความเชื่อมั่นในแบรนด์มากขึ้น ล่าสุดทางแบรนด์ยังได้นำ AI มาช่วยออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้มีความทันสมัย และใช้งานง่าย จัดกลุ่มความสนใจของลูกค้า และพัฒนาการทำ SEO ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งการนำ Chatbot เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าใช้แล้วก็ต้องให้ได้ประโยชน์ครบทุกด้านไปเลยทีเดียว
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะครับ
