ไอเดียเพิ่มยอดขาย OREOcodes Creative Campaign คุณจุ่มโอริโอ้กับ?

ไอเดียเพิ่มยอดขาย OREOcodes Creative Campaign คุณจุ่มโอริโอ้กับ?

ไอเดียชุบชีวิต กระตุ้นยอดขาย OREOcodes Creative Campaign ทำให้รู้เลยว่าลูกค้าจุ่มโอริโอ้กับ… ?

วันนี้นุ่นมีเคสดี ๆ อีกหนึ่งแคมเปญจาก OREO ที่โดดเด่นจนสามารถคว้ารางวัลจากงาน Cannes Lions หรือ The Cannes Lions International Festival of Creativity ซึ่งเป็นเทศกาลโฆษณาแห่งความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก ประจำปี 2023 ณ เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส

โดยแคมเปญนี้มาจากแบรนด์ OREO ซึ่งเป็นแบรนด์คุ้กกี้ในตำนานที่ใครก็รู้จัก เพราะเป็นที่นิยมไปทั่วโลกค่ะ ในไทยเองก็คุ้นหูคุ้นตากันดีกับวลี บิด ชิมครีม จุ่มนม และถือเป็นแบรนด์ที่ทีมการตลาด Global ไม่เคยตกเทรนด์เลย เพราะการตลาดวันละตอนเองก็ได้หยิบเคสดี ๆ จากโอริโอ้มาวิเคราะห์และแชร์ให้นักการตลาดไทยอยู่เสมอ และในบทความนี้ก็เช่นกัน กับแคมเปญชุบชีวิตยอดขายโอริโอ้ ‘OREOcodes’

แคมเปญ OREOcodes เกิดขึ้นเพราะยอดขายตก

อ่านไม่ผิดค่ะ ขนมในตำนานก็มียอดตกกันได้เพราะกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ขนมใหม่ ๆ สินค้าบริโภคทางเลือกที่เปนไวรัลก็เกิดขึ้นทุกวัน ซึ่งยอดขายที่ตกเกิดขึ้นที่นิวยอร์ก แบรนด์เลยต้องสร้างแคมเปญส่งเสริมการขายที่จะกระตุ้นให้เกิดการซื้อคุกกี้โอริโอ้มากขึ้น

เก็บ 1st Party Data – ขอดูหน่อยสิ บ้านคุณมีนมแบรนด์ไหนติดดูเย็นบ้าง?

ในเมื่อจุดเด่นของโอริโอ้คือการทานกับนม แบรนด์เลยใช้ความโดดเด่นนั้นแหละ มาสร้างเป็นแคมเปญ ซึ่งถือเป็นแนวคิดที่นักการตลาดทุกคนควรยึดไว้ ว่าทุกครั้งที่จะทำแคมเปญใดก็ตามตั้งแกนหลักจาก DNA ของแบรนด์ย่อมตรงเป้าและใช้เวลาน้อยกว่าหา Positioning ใหม่ที่อาจเสียเวลาหลงทางนะคะ

แบรนด์ได้ร่วมมือกับ VMLY&R COMMERCE Mondelēz สร้างเว็บไซต์บนมือถือซึ่งช่วยให้ลูกค้าในสหรัฐฯ สามารถสแกนบาร์โค้ดและปลดล็อคมิชชั่นรับส่วนลดไปเลย ซึ่งมีชื่อว่า OREOCodes.com หรือจะดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน OreoCodes เข้ามาเปิดกล้องสแกนบาร์โค้ดที่กล่องนมยี่ห้อใดจริง ๆ จะเลือกจากร้านค้าทั่วไป ห้าง หรือในตู้เย็นของคุณก็ได้นะ หลังจากนั้นเจ้าบาร์โค้ดก็จะปลดล็อกเป็น ส่วนลด หรือข้อเสนอต่าง ๆ ที่ใช้ซื้อโปร Oreo + Milk ซึ่งปัจจุบันมีจำหน่ายในร้าน Jewel-Osco ของ Albertsons กว่า 180 แห่งในชิคาโก อินดีแอนา และไอโอวา

จากวิดีโอโฆษณาจะเห็นว่าแบรนด์ยังต้องการสร้างประสบการณ์และความสนุกเร้าใจใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ เล่นได้ทุกเพศทุกวัยขอแค่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งใคร ๆ ก็ถือติดมือกันอยู่แล้ว แบรนด์แค่เอาพฤติกรรมลูกค้า+จุดเด่นคุกกี้กับนม มาเล่นด้วยกันและใช้เทคโนโลยีตามยุคให้เป็นประโยชน์ เลือกพาร์เนอร์ที่เวย์เดียวกันเท่านั้นเอง

Oreo + Milk ซื้อนมแล้ว เอาส่วนลดไปซื้อโอริโอ้ต่อเลย

Oreocodes
ตัวอย่างข้อมูลแบรนด์ ประเภทนม หรือผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าสแกนบาร์โค้ดเข้ามาในแคมเปญ

บอกเลยว่าเป็นการกระตุ้นยอดขายที่ WIN ทั้งฝั่งลูกค้าที่ได้ส่วนลด แบรนด์ได้ยอดขาย รวมทั้งดาต้ากลับมาจุก ๆ ว่าตอนนี้คนมีนมยี่ห้อไหน หรือสนใจแบรนด์ใดอยู่ ที่มีโอกาสทานคู่กับโอริโอ้ นุ่นคิดว่าเค้าสามารถต่อยอดจากข้อมูลตรงนี้ได้อีกมหาศาล จะเรียกว่าเป็นขุมทรัพย์ก็ไม่เกินจริง แถมยังเป็นข้อมูลที่ไม่ได้ละเมิด PDPA เสมือนลูกค้าเปิดบ้านให้เราสำรวจตู้เย็นอย่างเต็มใจ

อย่างในภาพนี้ โอริโอ้จะรู้ว่าเลยลูกค้าไม่ได้จุ่มคุกกี้กับแค่นมวัวเท่านั้น แต่ยังมีนมทางเลือกอื่น ๆ เช่น นมถั่วเหลือง อัลมอนด์ และข้าวโอ๊ต นักการตลาดลองนึกภาพสิคะว่าถ้าต้องวิจัยการทานคุ้กกี้กับนมต่าง ๆ ด้วยวิธีดังเดิมอย่างการสัมภาษณ์หรือกรอกแบบสอบถามเราจะต้องใช้งบและวลาเพิ่มเติมอีกเท่าไหร่

แต่แคมเปญนี้เมื่อรันแล้วทีมสามารถเอาสถิติไปสร้าง Dashboard รายงานผู้บริหารและทีมที่เกี่ยวข้องได้เลยว่าตอนนี้เราควรมองนมแบรนด์ไหนมาคอลแลปร่วมกันในแคมเปญหน้าไหม? เพราะลูกค้าเราเลือกมีไว้ติดบ้านกัน เป็นต้นค่ะ

ในแง่ของการทำแบรนด์ การกระตุ้นยอดขายเพื่อให้ธุรกิจเติบโตและอยู่ในสายตาลูกค้าเสมอเป็นสิ่งทีแบรนด์ควรทำค่ะ และแคมเปญนี้โอริโอ้เค้าก็ได้ใช้เทคโนโลยีง่าย ๆ อย่างเว็บไซต์ที่ไม่ต้องเลือกโหลดแอปให้เปลืองพื้นที่ความจำโทรศัพท์ของลูกค้าก็ได้

นอกจากนี้ยังมีการดันให้ไวรัลด้วยกลยุทธ์อินฟลูเอนเซอร์ที่จะมาช่วยทำคอนเทนต์ แชร์วิธีสแกนกล่องนมเพื่อปลดล็อกดีลต่าง ๆ พร้อมด้วยสื่อ OOH และสื่อดิจิทัลเพื่อเพิ่ม campaign awareness ให้รวดเร็วนั่นเองค่ะ

การขยายขอบเขตของความคิดสร้างสรรค์จากแคมเปญ OREO Codes นี้ไม่เพียงเป็นเครื่องมือที่ฉลาดนะคะ แต่ขี้เล่นให้ลูกค้าฉุกคิดว่า เอ๊ะ… ฉันมีนมในตู้เย็นนิ ซื้อโอริโอ้มาจุ่มทานดีกว่า หรือระหว่างจะซื้อนมกลับบ้านให้ลูกอยู่แล้ว สแกนเอาส่วนลดซื้อโอริโอ้อีกซักซองแล้วกัน โดยแบรนด์โอริโอ้มักเปิดใจให้เทรนด์ใหม่ เล่นกับกระแสอยู่ตลอด ไม่ลังเลที่จะลองปรับให้เทคโนโลยีใกล้ชิดกับลูกค้า ทำให้ลูกค้ากระทับใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ตำนานแต่ไม่หลงยุคนะเนี่ย

ผลลัพธ์แคมเปญนี้ และข้อแนะนำสำหรับนักการตลาด

จากข้อมูลแบรนด์ได้ social engagement เพิ่มขึ้น 230% การแลกรับส่วนลด 83% และยอดขายเพิ่มขึ้น 7.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วค่ะ

จะเห็นได้ว่าจากที่ยอดขายเริ่มดิ่งลง และแบรนด์ไม่นั่งดูอยู่เฉย ๆ ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าทั่วไปที่ซื้อคุกกี้น้อยลงด้วย แต่! ยอดขายนมยังคงสม่ำเสมอค่ะ คนยังคงบริโภคนมเพียงแต่ทางเลือกมากขึ้น ไม่แค่นมวัวแต่เป็นนมชนิดอื่น ๆ อีกมาก บวกกับโอริโอ้ทานกับนมอยู่แล้ว ไม่ต้องคิดหาทางอื่นเลยค่ะ คว้าสิ่งนี้ไว้แล้วยึดสโลแกน ‘Milk’s favourite cookie’ ที่มีมาตั้งแต่ปี 2547 มาสร้างเป็นแคมเปญที่รันด้วยเทคโนโลยีร่วมสมัย

และอย่างที่นุ่นได้เกริ่นไปตั้งแต่ช่วงต้นบทความว่าแคมเปญนี้คว้าเหรียญทองในหมวด Creative Commerce และ Direct จาก Cannes Lions International Festival of Creativity 2023 ให้แก่โอริโอ้ค่ะ

หากนักการตลาดอยากเริ่มสร้างแคมเปญที่จะไดร์ฟกระตุ้นยอดขาย ลองใช้ข้อมูลรอบตัวให้เป็นประโยชน์และไม่ลืมมอง Relate Product ที่อาจสร้างโอกาสทางการขายให้เราไม่ถูกลืมจากลูกค้าไปนะคะ รวมทั้งไม่ทิ้งแก่น​ DNA ที่แข็งแรงแล้วของแบรนด์ (ถ้ามีอยู่แล้ว) สุดท้ายหวังว่าทุกคนจะสนุกกับเคสที่นุ่นเลือกมาแชร์ในบทความนี้ คิดเห็นอย่างไรสามารถคอมเมนต์เข้ามาได้เลยนะคะ รออ่านค่ะ

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

source

Noon Inch

นุ่น Business Data Research Analyst Specialist | Martech 🙋🏻‍♀️💻ใช้ชีวิตอยู่กับ Social Listening Tools เกือบทุกวันมาร่วม 6 ปี 🙋🏻‍♀️📈ทำงานด้าน Social Data Research ให้กับหน่วยงานรัฐและแบรนด์เอกชน 6 ปี 🙋🏻‍♀️✈️ชอบทำงานและชอบใช้เงิน แล้วก็เป็น K-POP🇰🇷 & Salmon Lover 🍣

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *