5 ไอเดีย Influencer Campaign ในช่วงเทศกาล ที่ช่วยดันยอดขายได้จริง
ในช่วงเทศกาลวันหยุดอย่างเช่นคริสต์มาสยาวไปจนถึงปีใหม่ เราจะเห็นได้ว่าหลายๆ แบรนด์นั้นเลือกที่จะจัดแคมเปญโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์มาช่วยกระตุ้นให้คนออกมาชอปปิงซื้อของขวัญของฝาก เพื่อเพิ่มยอดขายในช่วงเทศกาลนี้
ในบทความนี้แบมมีตัวอย่างการทำ Influencer Campaign จากแบรนด์ดังๆ ที่สามารถปรับใช้ได้จริงมาให้ดูเป็นตัวอย่างกันค่ะ ว่าเขาทำการตลาดด้วย Influencer ในช่วงเทศกาลกันแบบไหน ถึงได้ยอดขายถล่มทลายอย่างนี้
ผู้บริโภคมักหาไอเดียของขวัญจาก Influencer
ก่อนอื่นอยากถามทุกคนก่อนว่าปกติแล้วเวลาจะซื้อของขวัญให้ใครสักคน ทุกคนหาไอเดียจากที่ไหนกันบ้างคะ สำหรับแบมเองส่วนมากจะเข้าไปส่องตาม Instagram หรือเข้าไปดูรีวิวใน YouTube ของบรรดาเหล่า Influencer ว่ามีอะไรเก๋ๆ น่าสนใจให้ไปตำตามในช่วงนี้บ้าง
ซึ่งนั่นก็ตรงกับงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าเกือบ 64% ของนักชอปมักจะพึ่งพาอินฟลูเอนเซอร์ในการหาไอเดียของขวัญสำหรับคนที่รักในช่วงวันคริสต์มาสและปีใหม่
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมธุรกิจต่างๆ จึงควรจ้าง Creator หรือ Influencer ที่มีความสามารถในการครีเอทคอนเทนต์ที่น่าสนใจ เพื่อเป็นตัวแทนของแบรนด์ในการพูดคุยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในช่วงเทศกาลวันหยุด เพราะเหล่า Influencer นั้นมีอิทธิพลในการสร้างกระแสเชิงบวก และโน้มน้าวใจให้ผู้บริโภคคล้อยตามในสิ่งที่พวกเขานำเสนอได้นั่นเอง
5 ตัวอย่างการทำ Influencer Campaign จากแบรนด์ใหญ่ที่นำมาปรับใช้ได้จริง
แบมได้คัดเอา 5 ตัวอย่างการทำ Influencer Campaign ปังๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ จากแบรนด์ชั้นนำมาไว้ให้นักการการตลาดและเจ้าของธุรกิจได้ลองศึกษากัน ลองมาดูกันค่ะว่าแต่ละแบรนด์นั้นมีกลยุทธ์หรือไม้เด็ดอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ไปกันเลย!
1.Calvin Klein - #CKHoliday
Calvin Klein เป็นแบรนด์แฟชั่นสุดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในวงกว้างแบรนด์หนึ่ง ซึ่งโดยปกติแล้วทางแบรนด์ก็มีการทำการตลาดและแคมเปญต่างๆ โดยการใช้ Influencer เป็นตัวกลางในการสื่อสารออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้แบรนด์เรียนรู้ว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะติดตามและต้องการอัปเดตเรื่องราวต่างๆ ทั้งชีวิตประจำวัน ของกิน ของใช้ หรือแม้แต่แฟชั่น ของดารา หรือ Influencer คนโปรดอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
Calvin Klein ก็เลยทำการเปิดตัวซีรีส์ในYouTube ชื่อ “In bed with…” ซะเลย และแคมเปญนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญอินฟลูเอนเซอร์สำหรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ประจำปี 2019 นั่นเองค่ะ
ตัวซีรีส์นั้นจะเป็นการนำเสนอเรื่องราวของ Kendall Jenner และ Emma Chamberlain ที่เตรียมพร้อมสำหรับปาร์ตี้วันหยุดที่จัดโดย Calvin Klein เนื้อหาเป็นเรื่องของเหล่าคนดังพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ เช่น สิ่งที่พวกเขาทำบนเตียง สถานที่ท่องเที่ยวที่ชอบ และอื่นๆ ในขณะที่สวมชุด CK ที่พวกเขาชื่นชอบ
แนวคิดของแคมเปญนี้ก็คือการใช้ประโยชน์จากฐานแฟนของเหล่าคนดังและ Influencer โดยบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ผ่านเนื้อหาการพูดคุยเกี่ยวกับ Product ในช่วงวันหยุด ซึ่งแคมเปญนี้ก็เป็นไปตามคาด คือได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม จนมียอดวิวกว่า 3 ล้านครั้งเลยทีเดียว
นอกจากซีรี่ส์ VDO ของเหล่าคนดังแล้ว ทาง Calvin Klein ยังมีการให้ Influencer โพสต์วิดีโอแกะกล่องของผลิตภัณฑ์ที่เป็นของขวัญบนโซเชียลมีเดียภายใต้แฮชแท็ก #CKHOLIDAY#MYCALVINS แน่นอนว่าเมื่อคนเห็นรีวิวแกะกล่องของขวัญนี้แล้ว ก็แห่ไปซื้อตาม จนยอดขายของแบรนด์สูงขึ้นจนเห็นได้ชัด
ทำไมแคมเปญนี้ถึงประสบความสำเร็จ?
แบมมองว่าที่แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จมาจาก กาาร่วมมือกับ Influencer หลากหลาย
ทางแบรนด์ร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลหลากหลาย ตั้งแต่ระดับ Micro Influencer ไปจนถึง Mega Influencer จึงทำให้เกิดการรับรู้ในวงกว้างสำหรับผลิตภัณฑ์คอลเลกชันพิเศษสำหรับวันหนุด
นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังมีการเพิ่มลิงก์ใต้โพสต์เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคสามารถตามไปเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผู้ Influencer เหล่านั้นพูดถึงได้เลยทันที จึงส่งผลให้มี Conversion มากขึ้นตามไปด้วย
2.The Body Shop - #GiveWithJoy
The Body Shop เป็นแบรนด์ด้านความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการที่แบรนด์ใช้ Influencer เพื่อสร้าง Brand Positioning ได้เป็นอย่างดี โดยแบรนด์ได้เลือกทำ Influencer Campaignมากมายที่ทำให้ลูกค้าได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของแบรนด์
ในช่วงคริสต์มาสปี 2021 ทางแบรนด์ต้องการเฉลิมฉลองให้ในธีมคนที่รักเสียสละ ดังนั้นพวกเขาจึงสนับสนุนให้ลูกค้าระลึกถึงคนที่เสียสละในชีวิตของพวกเขาและมอบผลิตภัณฑ์ The Body Shop เป็นของขวัญในวันคริสต์มาส ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาสัญญาว่าจะมอบเงินจำนวนเล็กน้อยให้กับองค์กรการกุศลสำหรับสตรีและเด็กด้วย
นอกจากนี้ แบรนด์ยังจัดปาร์ตี้อินฟลูเอนเซอร์และเลี้ยงครีเอเตอร์ด้วยการแต่งหน้าและทำผมฟรี ส่วนแผนในการโปรโมตที่วางไว้คือ ทางแบรนด์จะให้เหล่า Influencer ได้แบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขาด้วยการโพสต์รูปภาพหรือเขียนบทความภายใต้ #GiveWithJoy เพื่อบอกผู้ติดตามเกี่ยวกับเรื่องราวของผลิตภันฑ์ รวมถึงการสนับสนุนอื่นๆ ที่แบรนด์จะทำสำหรับคริสต์มาส ปี 2021ด้วน
The Body Shop จัด Influencer Campaignในช่วงคริสต์มาส โดยใช้ตั้งแต่ Nano Influencer ไปจนถึง Macro Influencer เพื่อสร้างการรับรู้และไดร์ฟให้กลุ่มผู้ชมไปซื้อผลิตภัณฑ์ของ The Body Shop เป็นของขวัญวันคริสต์มาส ผ่านแฮชแท็ก #Give WithJoy
ทำไมแคมเปญนี้ถึงประสบความสำเร็จ?
สำหรับหลักใหญ่ใจความของความสำเร็จจากแบรนด์ The Body Shop นั่น แบมคิดว่าน่าจะมาจากการที่แบรนด์ให้เรื่อง Emotional เข้ามาคลุมเป็นภาพใหญ่
เนื่องจากเนื้อหาของแคมเปญเป็นการขอให้ผู้บริโภคมอบผลิตภัณฑ์เป็นของขวัญให้กับผู้ที่แสดงความรักที่เสียสละ ลูกค้าจึงมีอารมณ์ร่วม เพราะพวกเขาต้องการแสดงให้คนรักเห็นว่าพวกเขาห่วงใยเช่นกัน และเพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับการรักตัวเอง
นั่นจึงเป็นเหตุปลให้ทำไมลูกค้าถึงเลือกซื้อซื้อแพ็คเกจดูแลร่างกายของ The Body Shop เพื่อมอบความสุขให้กับตัวเองและคนที่พวกเขารักอย่างล้นหลาม
3.เลโก้ - #ShakeUpImagintaion
อย่างที่เรารู้กันดีว่าเลโก้นั้นเป็นของเล่นที่ส่งเสริมทั้งพัฒนาการและจินตนาการให้เด็กๆมากว่าค่อนโลก ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 เลโก้เแงก็เคยมีการเปิดตัว Influencer Campaign ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี
โดยทางแบรนด์ได้เปิดตัวแคมเปญ ที่ร่วมมือกับ Influencer ที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคสายแม่และเด็ก ด้วยการให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์โพสต์ภาพลูกๆ ของพวกเขาเล่นกับชุดเลโก้พร้อมบอกเล่าว่าตัวต่อเลโก้ช่วยเพิ่มการทำงานของสมองและกระตุ้นจินตนาการของเด็กๆ ได้อย่างไร ผ่านแฮชแท็ก #ShakeUpImagintaion
นอกจากนี้ทาง Lego เสริมแคมเปญการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ช่วงวันหยุดด้วยวิดีโอโฆษณาที่ดึงเอาแก่นแท้ของแคมเปญออกมาและดึงอารมณ์ของผู้คนได้อย่างแท้จริง โดยตัวโฆษณานำเสนอเรื่องราวของเด็กๆ ที่พูดถึงสิ่งที่พวกเขาอยากทำด้วยตัวต่อเลโก้ ซึ่งวิดีโอดังกล่าวก่อให้เกิดการตอบรับเชิงบวก รวมถึงทำให้ Influencer Campaign ของ Lego ในช่วงChristmas กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้ปกครอง
ทำไมแคมเปญนี้ถึงประสบความสำเร็จ?
Influencer Campaign ของ Lego Christmas นี้เป็นการดึงเอาอารมณ์ของผู้ปกครองที่รักลูก ๆ โดยแบรนด์ได้ใช้กลยุทธ์เนื้อหาการเล่าเรื่องที่เข้าถึงความต้องการของพ่อแม่ ต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกของตัวเอง แน่นอนว่าของเล่นที่สามารถเติมเต็มจินตนาการและสามารถสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ย่อมเป็นตัวเลือกในลำดับแรกๆ อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังได้ใช้ Influencer Campaign ในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ปกครองมองว่าเลโก้เป็นเกมที่ดีต่อสมองของเด็กๆ และทำให้เป็นของขวัญวันคริสต์มาสอีฟที่สมบูรณ์แบบ
4.Fabletics – It’s a New Year, New You
Fabletics เป็นแบรนด์ชุดออกกำลังกายสัญชาติอเมริกันที่ร่วมก่อตั้งโดย Kate Hudson ที่จริงจังในเรื่องการทำ Influencer Campaign มากๆ แบรนด์หนึ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวแบบนี้
ความโดดเด่นของการทำ Influencer Marketing ของแบรนด์นี้ก็คงเป็นการที่แบรนด์รู้จักลูกค้าเป็นอย่างดีและนำข้อมูลเชิงลึกของลูกค้ามาใช้ให้เป็นประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์เข้าใจว่าลูกค้านั้นมีความต้องการเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพในช่วงปีใหม่เป็นพิเศษ ดังนั้นแบรนด์ Fabletics จึงเปิดตัวแคมเปญอินฟลูเอนเซอร์ในช่วงปีใหม่ทุกปี เพื่อกระตุ้นยอดขายการชอปปิงช่วงวันหยุด
พวกเขาวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของตนในฐานะคู่หูที่นุ่มสบายและดูแลตนเองได้ดีที่สุดผ่านการทำงานร่วมกันของเหล่า Influencer ตัวอย่างเช่น ในปี 2019 เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าให้ความสำคัญกับการรักตนเอง การดูแลตัวเอง และการออกกำลังกาย ทางแบรนด์จึงร่วมมือกับ Micro Influencer กว่า 200 ราย เพื่อให้นำเสนอกิจวัตรประจำวันในการดูแลตนเอง และเล่นเล่นกีฬาขณะสวมเสื้อผ้า Fabletis
ซึ่งแคมเปญดังกล่าวอาจดูแล้วเแ็นแคมเปญที่ไม่หวือหวาอะไรนัก แต่ก็สามารกระตุ้นการซื้อของลูกค้าใหม่ได้เกือบ 13,000 ราย ผ่านลิงก์ที่ใส่อยู่ใต้คลิป
ทำไมแคมเปญนี้ถึงประสบความสำเร็จ?
ที่แคมเปญ New Year New You ของ Fabletics ประสบความสำเร็จในการดึงดูดลูกค้าใหม่หลายพันรายเนื่องจาก การร่วมมือกับ Micro Influencer หลายร้อยคนนั้น ทำให้แบรนด์สามารถกระตุ้นการมีส่วนร่วมได้มากขึ้น
เนื่องจาก Micro Influencer นั้นเป็นกลุ่มที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าเข้าถึงง่าย รวมถึง Influencerกลุ่มนี้มักมีกาาโต้ตอบกับผู้ติดตามทุกวันเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขา ทำให้ Micro Influencer ได้รับความไว้วางใจ และช่วย้พิ่มความน่าเชื่อถือ จึงทำให้กลุ่มผู้ติดตามรู้สึกคล้อยตามได้ง่าย
นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังให้อิสระในการสร้างสรรค์คอนเทนต์กับเหล่า Influencer ได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ทำให้ได้เนื้อหาที่ค่อนข้าเรียล และโดนใจผู้ติดตาม ส่งผลให้คอนเวอร์ชั่นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
5.Ferrero Rocher – #SayItWithGold
Ferrero Rocher เป็นบริษัทช็อกโกแลตสัญชาติอิตาลีที่เราคุ้นหูคุ้นตากันดี แล้วก็เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ช็อกโกแลตของเฟอเรโรเป็นตัวเลือกของขวัญยอดนิยมในโอกาสสำคัญและวันหยุดทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด คริสต์มาส ปีใหม่ หรือวันวาเลนไทน์
แม้จะได้รับความนิยม แต่ Ferrero Rocher ได้จัด Influencer Campaign ขึ้นในช่วงคริสต์มาส ปี 2020 ภายใต้ชื่อ #SayItWithGold เพื่อเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้นอีกในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวนี้ โดยวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของตนเป็น ‘ของขวัญล้ำค่า’ ที่ผู้คนควรมอบให้กับคนที่รัก
เนื้อหาของแคมเปญเป็นการให้ Influencer โพสต์ภาพของพวกเขาบน Instagram พร้อมกล่อง Ferrero Rocher ที่เน้นให้พวกเขาพูดถึงสีทอง สีที่ทำให้คนนึกถึงแบรนด์ว่าเกี่ยวกับในวันคริสต์มาสอย่างไรผ่านแฮชแท็ก #SayItWithGold
ในขณะที่ครีเอเตอร์บางคนโพสต์ภาพกับลูกๆ ของพวกเขา คนอื่นๆ ก็โพสต์ภาพสูตรเค้กคริสต์มาสแสนอร่อยโดยใช้เฟอเรโร เพื่อกระตุ้นลูกค้าให้ซื้อเฟอเรโร รอชเชอร์ในวันหยุดที่มีการเฉลิมฉลองมากที่สุด
ทำไมแคมเปญนี้ถึงประสบความสำเร็จ?
Ferrero Rocher เริ่มต้นแคมเปญตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคมเพื่อให้ลูกค้าเห็นแคมเปญ และนึกถึงสินค้าของตัวเอง รวมถึงใส่ Ferrero Rocher เป็นตัวเลือกในลิสต์ของขวัญก่อนวันคริสต์มาส
นอกจากนี้แคมเปญอินฟลูเอนเซอร์ #SayItWithGold ที่ปล่อยออกมาก่อนวัน Christmas ยังช่วยให้ผู้คนระลึกถึงและแสดงความขอบคุณต่อผู้ที่เขารัก โดยเนื้อหาของแคมเปญกระตุ้นให้ผู้ชมระลึกถึงสิ่งดีงามที่คนรักของพวกเขาทำให้ และแสดงความของคุณช่วงเวลาดีๆ ผ่านความหอมหวานของช็อกโกแลต
และทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวอย่าง Influencer Campaign ที่นักการตลาดสามารถยำมาใช้แรงเป็นไอเดียเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดอินฟลูเอนเซอร์สำหรับเทศกาลวันหยุดยาว หรือเทศกาลสำคัญอื่นๆ ได้
อย่าลืมนะคะ! การจะทำ Influencer Campaign ให้ดีนั้นควรจะเริ่มให้ไว มุ่งเน้นไปที่การดึงอารมณ์ร่มของผู้บริโภค และที่สำคัญที่สุดคือ เลือก Influencer ที่ทำการสื่อสารให้ถูกต้อง ถูกกลุ่ม แล้วจะสามารถสร้างเนื้อหาที่ถูกใจผู้ติดตามได้อย่างแน่นอนค่ะ
ส่วนใครที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับการทำแคมเปญต่างๆ แบมแนะนำให้ไปอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ เลยค่ะ
ในบทความหน้าแบมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะคะ