Distance ร้านกีฬาปารีส สร้าง Awareness Campaign ให้คนขโมยของในร้าน

Distance ร้านกีฬาปารีส สร้าง Awareness Campaign ให้คนขโมยของในร้าน

ถ้าขโมยได้ ก็เอาไปเลยจ้า! แคมเปญการตลาดจากแบรนด์ Distance ร้านค้าปลีกในเมืองปารีส ฝรั่งเศส ที่ขายสินค้าเกี่ยวกับรองเท้าและเสื้อผ้าด้านกีฬา ชวนคนมาขโมยของ กติกาง่าย ๆ แค่หยิบของในร้านที่อยากได้แล้ววิ่งหนีรปภ. (ที่ไม่ธรรมดา)ให้ทัน เป็นการจับ Challenge Marketing ผสม Creative Idea เปลี่ยนปัญหาสังคมให้เป็น Awareness Campaign ขึ้นมาได้ซะอย่างนั้น?!

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าปัญหาเรื่องการโจรกรรมหรือขโมยของในประเทศฝรั่งเศสนั้นเกิดขึ้นกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ปัญหาในฝั่งของผู้บริโภคหรือลูกค้าเท่านั้น แต่ในฝั่งของแบรนด์หรือร้านค้าเองก็ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน จนต้องหาร้อยแปดพันเก้าวิธีมาป้องกันของในร้านตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งอุปกรณ์ไฮเทคต่าง ๆ ที่ทำลายการมองเห็นของโจร แต่ก็มีหลายแบรนด์ที่ต้านทานไม่ไหว ต้องปิดร้านเร็วขึ้น จนไปถึงปิดสาขาเลยก็มี เนื่องจากเกิดความเสียหายจากปัญหาโจรกรรมเยอะ

แต่กับร้านค้าปลีกที่ขายสินค้าด้านกีฬาอย่าง Distance ที่ผู้เขียนจะมาเล่าให้ฟังกันในบทความนี้ ไม่ได้มองปัญหาโจรกรรมแบบคนปกติทั่วไป แต่จับ Challenge Marketing มาผสม Creative Idea เปลี่ยนปัญหาสังคมให้กลายเป็น Awareness Campaign จนได้รับความสนใจล้นหลามจริง ๆ

ขอย้อนกลับไปในเดือนกันยายน 2023 ‘Distance’ แบรนด์ร้านค้าปลีกในเมืองปารีส ฝรั่งเศส ที่ขายสินค้าเกี่ยวกับรองเท้าและเสื้อผ้ากีฬา ได้ทำการ Challenge ผู้ซื้อว่า หากสามารถขโมยเสื้อผ้าหรือของ 1 ชิ้น แล้ววิ่งหนีรปภ. ในร้านได้สำเร็จ ก็เอาของชิ้นนั้นไปได้เลย

ได้ยินเงื่อนไขแบบนี้ใครล่ะจะไม่อยากลอง แต่เปิดให้ขโมยของได้ทั้งที จะมาแบบธรรมดาก็คงไม่ได้ โดยรปภ. ที่ Distance ได้จ้างมานั้นดันเป็น Méba Mickael Zeze หนึ่งในนักวิ่งระยะสั้นที่วิ่งเร็วที่สุดในฝรั่งเศส

โดย Awareness Campaign : Rob It To Get It นี้สร้างขึ้นโดยเอเจนซี่ BETC Paris แบบที่ไม่ได้ประกาศล่วงหน้าว่าจะมีแคมเปญนี้เกิดขึ้น (ไม่งั้นคนอาจจะผันตัวกันมาเป็นหัวขโมยกันทั้งเมือง) 

แต่ในเช้าวันที่ 13 กันยายน ผู้จัดการร้านได้ติดป้ายไว้ด้านนอกร้าน ด้วยข้อความว่า ‘Rob it to Get it’ หรือปล้นเพื่อรับมันนั่นเอง รวมถึงแท็กบนสินค้าก็มีสโลแกนเช่นเดียวกัน

และในระหว่างวัน ผู้จัดการก็จะอธิบายให้ผู้ซื้อและลูกค้าทุกคนที่มาร้านทราบว่า สามารถขโมยสินค้าใด ๆ ก็ได้จากในร้านค้า ที่มีแท็กว่า ‘Rob it to Get it’ อยู่ได้เลย แต่ Zeze รปภ. นักวิ่งฝีเท้าไว ก็จะวิ่งตามจับคุณนั่นเอง

สรุปแล้วมีลูกค้าทั้งหมด 2 คน ที่สามารถหลบหนีไปพร้อมกับสิ่งของที่หยิบติดไม้ติดมือไปได้ เนื่องจากนักวิ่งฝีเท้าไววิ่งไล่หัวขโมยกันมาทั้งวัน หลายชั่วโมง ก็ต้องมีเหนื่อยล้ากันบ้าง แต่เขาก็สามารถจับกุมคนขโมยของในร้านได้ถึง 74 คน และแน่นอนว่าสินค้า 74 รายการก็ถูกนำกลับมาวางบนชั้นวางของ Distance ดังเดิม

และแน่นอนว่าผลลัพธ์ของแคมเปญ ตามข้อมูลของเอเจนซี่ วิดีโอของกิจกรรมดังกล่าวมียอดดูถึง 2 ล้านครั้ง บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพราะคนให้ความสนใจกับไอเดียของแคมเปญกันนั่นเองค่ะ

แน่นอนว่ามนุษย์เรานั้นชอบเล่นกับความเสี่ยงและชอบการเอาชนะกันเสียเหลือเกิน แคมเปญการตลาด Rob It To Get It นี้ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการทำ Challenge Marketing ที่ใช้เทคนิคของการกระตุ้นต่อมความท้าทายมนุษย์กันแบบสุด ๆ ใช้ Mission มาทำให้คนอยากมีส่วนร่วมกับการเข้าเล่นกิจกรรมแคมเปญของแบรนด์ให้สำเร็จ

เพราะถ้าหากวิ่งหนีสำเร็จก็ได้สินค้าไปเลยฟรี ๆ แต่ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่ได้เสียหายอะไร ไม่ได้ต้องจ่ายเงินคืนหรือโดนตำรวจจับจริง ๆ ดังนั้นคนก็คงรู้สึกคุ้มค่าที่จะลองดูกันสักตั้ง ถึงกลายเป็นไอเดียแคมเปญที่คนให้ความสนใจ และมาเข้าร่วมเล่นกันเกือบร้อยคนเลยทีเดียว

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าการที่เราจะสื่อสารไปหาผู้บริโภค หรือหาวิธีที่จะช่วยสร้าง Brand Awareness ให้คนรู้จักเรามากขึ้นก็มีมากมายหลากหลายทาง ยิ่งกับสินค้าหรืออุปกรณ์กีฬา ก็คงไม่แปลกถ้าจะหันมาทำแคมเปญการตลาดร่วมกับนักวิ่ง หรือนักกีฬาแขนงอื่น ๆ

แต่แบรนด์เลือกที่จะแหกกฎเดิม ๆ และทะยานไปมากกว่าแค่การร่วมมือกับนักกีฬาธรรมดา ไม่ได้ใช้การสื่อสารแบบเดิม แต่ Distance มีจุดยืนของตัวเองด้วยการแหวกแนวไปเลย ใช้ Creative Idea มาช่วยสร้าง Brand Awareness ได้ดี

เพราะถึงแม้ว่าคนที่มาเข้าร่วมกิจกรรม จะไม่ชนะ Mission หรือไม่สามารถนำของติดไม้ติดมือกลับบ้านไปได้ก็ตาม แต่คงจะต้องจดจำแบรนด์ได้แน่นอน และมันคงจะเป็นประสบการณ์ที่จำได้ไม่ลืมเลยว่าครั้งหนึ่งในชีวิตฉันเคยมาทดลองเป็นหัวขโมย

รวมถึงยังได้รับความสนใจจากในโลกออนไลน์อีกด้วย จากยอดดูถึง 2 ล้านครั้ง บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ แน่นอนว่าเมื่อแคมเปญที่เราทำเกิดเป็นไวรัลได้ในชั่วข้ามคืน คนก็ต้องรู้จักแบรนด์เพิ่มขึ้นไปด้วยอย่างแน่นอน

AI-Generated Image by Shutterstock (Prompt: create photography, sport girl, holding shoes in hand, run from sport store, at street corner, no deformed face.)

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับบทความนี้ที่ได้พาทุกคนมาดู Distance ร้านกีฬาปารีส สร้าง Awareness Campaign ให้คนขโมยของในร้าน เป็นการเปิดไอเดียใหม่ ๆ ในการทำแคมเปญสร้างการรับรู้ในวงกว้างให้กับแบรนด์ได้ในระยะเวลาชั่วข้ามคืน

ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ทำให้เกิด Conversion ได้ในทันที แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ให้คนหันมาสนใจในวงกว้าง ทั้งคนเข้าร่วมเล่นแคมเปญ คนบนโลกออนไลน์ รวมถึงคนบนท้องถนนที่เดินผ่านมาเห็นหรืออยู่ในเหตุการณ์ ต้องได้มีรู้จักแบรนด์มากขึ้นได้อย่างแน่นอน

และร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า หรืออุปกรณ์ด้านกีฬาในกรุงปารีส หรือทั่วโลก ก็มีอยู่มากมายหลายแห่ง แต่ถ้าเกิดเราเป็นหนึ่งในร้านเหล่านั้นล่ะ จะทำยังไงให้สามารถโดดเด่นและสร้างความแตกต่างออกมาจากคนอื่นได้? การทำอะไรแบบเดิม ที่เราเคยทำแล้วได้ผลดีก็เป็นสิ่งที่ดีค่ะ แต่การลองหาโอกาสหรือไอเดียใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจบ้าง ก็เป็นทางที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน

หวังว่าทุกคนจะได้ความรู้ดี ๆ และประโยชน์กลับไปไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่า และสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram Twitter และ Youtube ได้เลย

Source Source

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

Fern Panassaya

เฟิร์น Junior Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *