แคมเปญการตลาด Dat Bike เปลี่ยนเต้าเสียบเป็นสถานีชาร์จไฟฟ้า

แคมเปญการตลาด Dat Bike เปลี่ยนเต้าเสียบเป็นสถานีชาร์จไฟฟ้า

สวัสดีนักการตลาดและนักอ่านทุกคนนะคะ ในบทความนี้จะพาทุกคนมาดู แคมเปญการตลาด Dat Bike ที่มีชื่อว่า Charging Billboards มาดูกันว่าแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนาม ที่เปลี่ยนเต้าเสียบข้างถนนธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นสถานีชาร์จ เพื่อโน้มน้าวใจให้คนหันมาใช้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้นจะมีรายละเอียดที่น่าสนใจยังไง และมีกลยุทธ์อะไรอยู่เบื้องหลังกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไม่รอช้า ตามมาดูกันเลยค่า

แคมเปญการตลาด Dat Bike
ขอบคุณรูปภาพจาก campaignbriefasia

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน 2023 แคมเปญนี้ถูกทำขึ้นร่วมกับเอเจนซี่ Happiness Saigon นครโฮจิมินห์ ในประเทศเวียดนาม โดย ‘Dat Bike’ เป็นแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของเวียดนามนี่เองล่ะค่ะ

แต่ปัญหาสำคัญก็คือคนในประเทศเวียดนามยังมีความเข้าใจผิดว่า การใช้รถไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ยากลำบาก และมักคิดว่ายังขาดแคลนสถานีชาร์จเร็วของพวกจักรยานยนต์ไฟฟ้า หากซื้อรถมาก็คงหาจุดชาร์จยาก จึงเป็นไอเดียที่มาของแคมเปญการตลาดนี้ เพราะ Dat Bike ต้องการที่จะ ‘เปลี่ยนความเข้าใจผิด’ ของผู้คนนั่นเอง

แทนที่จะแข่งกันลงทุนเวลา พลังงาน และเทคโนโลยีในสถานีชาร์จด่วนราคาแพง เราได้ใช้ความพยายามในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่า ที่สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วจากปลั๊กไฟในครัวเรือนทุกแห่ง

Andrzej Bialasewicz ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Dat Bike
แคมเปญการตลาด Dat Bike
ขอบคุณรูปภาพจาก campaignbriefasia

พร้อมทั้งทำป้ายโฆษณา ที่ชี้ไปที่ร้านและอ่านว่า ‘Fast Charging Station’ พร้อมชื่อและโลโก้ของ Dat Bike เป็นการเน้นย้ำว่าสามารถชาร์จจักรยานยนต์ที่ตรงนี้ได้อย่างรวดเร็วเลย โดยใช้แค่ปลั๊กไฟที่ดูธรรมดาในครัวเรือน ทีนี้คนก็คงรู้สึกกันแล้วล่ะค่ะว่าถ้าซื้อรถมา ก็คงหาสถานีชาร์จด่วนได้ง่าย ๆ ทั่วไปตามท้องถนน

อีกทั้งยังกระตุ้นให้ธุรกิจขนาดเล็กอื่น ๆ ในท้องถิ่นเข้าร่วมโครงการอีกด้วย โดยให้ธุรกิจพาร์ทเนอร์หรือร้านค้าตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นเหมือนให้พื้นที่สำหรับให้คนมาชาร์จมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากัน และแน่นอนว่าในขณะที่คนรอชาร์จ ก็ต้องมีนั่งกิน นั่งเล่น หรือใช้จ่ายกับร้านค้าด้วยนั่นเอง

โดยผลลัพธ์ตามข้อมูลของเอเจนซี่ เรียกได้ว่าแคมเปญนี้มีการแสดงผลออนไลน์ถึง 10 ล้านครั้ง  และได้รับการรายงานข่าวจากสื่อต่าง ๆ ที่มีมูลค่า 600,000 ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าต้นทุนในการผลิตไปถึง 24 เท่าเลยทีเดียวค่ะ

#1 Brand Awareness

ถ้าพูดถึงเวียดนาม รถจักรยานยนต์ก็ถือเป็นรูปแบบการคมนาคมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ใน ปี 2020 มีมากกว่ารถยนต์โดยสารอีกด้วย และจักรยานไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนในท้องถิ่น 

อีกทั้ง Bolt Earth ผู้ให้บริการสถานีชาร์จ EV รายงานเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 ว่าเวียดนามอยู่ในอันดับที่สองของโลกในด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับสองล้อ รองจากจีน แต่คนยังมีความเข้าใจผิดว่าประเทศยังไม่พร้อมสำหรับยานพาหนะไฟฟ้า เพราะยังขาดแคลนสถานีชาร์จเร็ว 

แคมเปญการตลาดนี้เรียกได้ว่ารู้จักหาแง่มุมในการสร้าง Brand Awareness ได้ดี เปลี่ยนความเข้าใจผิดจากการทำให้เห็นกันแบบประจักษ์ไปเลย ด้วยการทำให้ผู้คนเห็นถึง ‘ความสะดวกสบาย’ ว่าจริง ๆ แล้วจุดชาร์จเร็วของจักรยานยนต์ไฟฟ้าก็สามารถหาได้ง่าย ๆ เต็มท้องถนนไปเลยนี่นา 

ในขณะเดียวกันก็สร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้างไปในตัวด้วย ทำให้คนรู้สึกว่าคุณก็สามารถเป็นเจ้าของ Dat Bike ได้นะ เพราะเรามีจุดชาร์จเต็มไปหมดเลย เป็นไอเดียในการชักชวนให้คนเปลี่ยนจากการใช้มอเตอร์ไซค์น้ำมัน มาเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากันได้มากขึ้นนั่นเอง

#2 Guerrilla marketing

แคมเปญการตลาด Dat Bike
ขอบคุณรูปภาพจาก campaignbriefasia

อ้างอิงข้อมูลจาก Investopedia Guerrilla Marketing หรือการตลาดแบบกองโจร เป็นการทำการตลาดที่มักใช้งบประมาณน้อยและจำกัด แต่สร้างความแปลกใหม่หรือแหวกแนว ดึงดูดความสนใจในแบรนด์หรือธุรกิจได้ จนอาจเกิด Viral หรือคนนำไปพูดกันปากต่อปาก 

โดยส่วนใหญ่เราก็จะเห็นกันตามสื่อในที่สาธารณะนั่นเอง อย่างแคมเปญการตลาด Dat Bike นี้ ก็จะมีการทำป้ายโฆษณาสีส้มแบบเด่นหลา ติดไว้อยู่ด้านบนปลั๊กธรรมดา ๆ ข้างถนน แล้วเขียนว่า ‘Fast Charging Station’ และยังบอกอีกด้วยว่าทุก ๆ ปลั๊กที่คุณเห็นอยู่เนี่ย มันเป็นจุดชาร์จไฟฟ้าเร็วนะเฮ้ย

ใครที่เดินผ่านไปผ่านมา แถมยังอาจจะเห็นป้ายส้มนี่ในหลาย ๆ จุดด้วย ก็คงได้มีประหลาดใจกันบ้างว่าเจ้าปลั๊กนี่ชาร์จรถไฟฟ้าได้หรอ ก็เป็นการดึงดูดความสนใจในวงกว้างได้ ในขณะเดียวกันก็นำไปสู่ Action ต่อไปคืออยากเอารถตัวเองมาลองชาร์จดูบ้างนั่นเองค่ะ

อ่านเกี่ยวการตลาดแบบกองโจร หรือ Guerrilla marketing เพิ่มเติมได้ ที่นี่ เลยค่า

#3 Win-Win Strategy

แคมเปญการตลาด Dat Bike
ขอบคุณรูปภาพจาก campaignbriefasia

สำหรับแคมเปญนี้ เรียกได้ว่าทำธุรกิจแบบ Win-Win กันทุกฝ่าย สำหรับทั้ง Dat Bike และธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่น รวมถึงผู้บริโภคด้วย

สำหรับผู้บริโภคเองแน่นอนว่าก็ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สบายใจขึ้นได้ว่าถ้าเราซื้อสินค้ามา จะได้ใช้มันอย่างคุ้มค่า หาจุดชาร์จง่าย ลดความกลัวหรือความกังวลลงไปได้ ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

ในฝั่งของ Dat Bike ก็เป็นผลดีกับแบรนด์เช่นกัน เพราะเมื่อคนเห็นว่ามีร้านหรือสถานีชาร์จที่ดูมากเพียงพอที่จะคลายความกังวลได้ ก็จะทำให้ผู้คนหันมาเลือกใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ Dat Bike กันมากขึ้นไปด้วยนั่นเอง

ส่วนในฝั่งของธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่น ที่มาเข้าร่วมโครงการกับแบรนด์ ธุรกิจส่วนใหญ่แน่นอนว่าร้านต้องมีปลั๊กไฟในครัวเรือนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงสามารถติดป้ายชาร์จในสถานประกอบการของตนเองได้ เป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กดึงดูดผู้ที่ขับขี่ Dat Bike ให้ใช้จุดชาร์จภายในร้าน ซึ่งระหว่างที่รอชาร์จคนก็จะใช้จ่ายกับร้านของตนด้วยเช่นกัน

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับบทความนี้ที่ได้พาทุกคนมารู้จักกับ แคมเปญการตลาด Dat Bike มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนาม กับการทำแคมเปญ Charging Billboards พร้อมเปลี่ยนเต้าเสียบข้างถนนธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นสถานีชาร์จไฟฟ้า ถือเป็นการพลิกมุมมองใหม่ ๆ ในแบบที่ใช้งบประมาณไม่มาก ไม่ได้ไปลงทุนสร้างสถานีใหญ่โต แต่หันกลับมาพัฒนาสินค้าตัวเองให้มันง่ายต่อการใช้งานของผู้บริโภค

ประกอบกับสร้างป้ายโฆษณาที่ส้ราง Brand Awareness และเป็นจุดดึงดูดสายตาได้อย่างน่าสนใจ พร้อมยังจับมือกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจเล็ก ๆ ในท้องถิ่น Win-Win กันทุกฝ่าย

หวังว่าทุกคนจะได้ความรู้ดี ๆ และประโยชน์กลับไปไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่า และสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram Twitter และ Youtube ได้เลย

Source

Fern Panassaya

เฟิร์น Junior Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *