กลยุทธ์ McDonald’s Product placement เพิ่มยอดขายจากซีนที่ทำให้หิว!
กลยุทธ์ McDonal’s Product placement เพิ่มยอดขายจากซีนที่ทำให้หิว
ทุกคนไปดูหนังที่โรงภาพยนต์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ จำได้ไหมคะ? แล้วจ่ายค่าสตรีมมิ่งเดือนละกี่เจ้ากัน? ในฐานะนักการตลาดและโฆษณา ทุกคนคงจะปฎิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเป็นทางเลือกสุดฮอตสำหรับการหาชมภาพยนตร์ / ซีรีส์ และรายการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ TVC ได้รับผลกระทบ เพราะการเข้าถึงโฆษณาทางทีวีแบบเดิมลดลง คนเริ่มไม่นิยมออกไปดูหนังในโรงกันแล้ว เพราะฉะนั้นเราเลยควรหมั่นเก็บไอเดียที่แบรนด์ใหญ่ปรับตัวเองเข้าไปในสตรีมมิ่งแบบเก๋ ๆ ไม่เหมือนใครกันค่ะ
เคสระหว่างเขียนก็รู้สึกแอบจี้ใจดำตัวเองอยู่หน่อย ๆ เพราะนุ่นเป็นเด็กอ้วนที่ถ้าเจอซีนทานอะไรอร่อยก็จะกดเข้าแอปเดลิเวอรี่แบบอัตโนมัติ ถือว่านุ่นคงตกเป็นกลุ่มเป้าหมายของแคมเปญนี้เข้าอย่างจัง จะน่าสนใจขนาดไหนและมีอะไรให้เราเรียนรู้บ้าง มาดูกันค่ะ
McDonald’s เนเธอแลนด์ อ้างอิงข้อมูลว่ากลุ่มเป้าหมายใน UK มากกว่า 59% อยากเห็น product placement ใหม่ ๆ จากแบรนด์ มากกว่าโฆษณาที่โผล่มาเป็นช่วง ๆ รอให้กด Skip นี่จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเป็นโจทย์ของแคมเปญ Order That Scene ค่ะ
Order That Scene
ฟังดู challenge สุด ๆ เลยใช่ไหมคะ? เพราะการโฆษณาบนสตรีมมิ่งก็มีแค่ short-form long-form วน ๆ อยู่ไม่กี่แบบ เพราะฉะนั้นแบรนด์เลยอัปเกรดให้เป็น gamifying product placement และมีของรางวัลเป็น rewards สำหรับสั่งซื้อแมคเดลิเวอรี่ค่ะ
เริ่มจากการเชิญชวนให้ผู้คนออกตามล่าหาซีนอร่อย และต้องสแกนออเดอร์จากฉากนั้น ๆ ของภาพยนตร์และรายการดังกว่า 30 เรื่อง ซึ่งฟังก์ชั่นการทำงานของแอปนี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ควบคู่ไปกับสปอตบนโซเชียลมีเดียและชุดโฆษณา OOH ค่ะ
ซึ่งสื่อ OOH จะมีคำใบ้ซีนที่สามารถสแกนได้ เช่น ‘Basketball Legend plays match with cartoons 23:58’ นอกจากนี้ยังมีป้ายอื่น ๆ อีกค่ะ ‘Four women looking for love in New York S02 E12 19:35’ เป็นการใช้งานป้านโฆษณาได้คุ้มค่ามากกว่าบอกว่าเราจัดแคมเปญอะไร แต่ชี้เป้าวินาทีให้กลับบ้านไปตำตามได้ทันที โอกาสการเกิดแอคชั่นต่อก็มากกว่าป้ายธรรมดาด้วยค่ะ
แบรนด์ไหนที่มักมีการเช่าป้ายบ่อย ๆ อย่างป้ายที่ MRT ก็สามารถต่อยอดให้เข้ากับแคมเปญมากขึ้นแบบนี้ได้นะคะ ที่เราเคยเห็นกันก็มักเป็นโปสเตอร์ทั่วไป หรือภาพพรีเซ็นเตอร์ ลองให้การบ้านเอเจนซี่หาทางใส่ลูกเล่นที่มากกว่าโปสเตอร์ธรรมดา ๆ เพิ่มเติมดีไหมคะ?
เจอซีนทีทานแมคแล้วหิวหรอ? สแกนแล้วออเดอร์ได้เลย
แนวคิดนี้เรียบง่ายแต่ฉลาดไม่ไหวค่ะ เพราะลูกค้าจะที่อยากร่วมผู้เข้าร่วม challenge นี้จะถูกท้าให้ค้นหาฉากเฉพาะที่มีรายการเมนูของ McDonald’s ว่าอยู่ซีนนาทีที่เท่าไหร่ ไม่ว่าจะรออยู่หรือเจอโดยบังเอิญ ก็เข้าสู่สเต็ป See it > Scan it > Eat it ปิดการขายปัง ๆ
ทำไมสตรีมมิ่งถือเป็น Product Placements ที่เหมาะกับแมคโดนัล
หากใครเป็นแฟนซีรีส์เกาหลี หรือสากลเหมือนนุ่นคงจะเข้าใจดีว่าการที่แบรนด์และโปรดิวเซอร์สามารถวาง product placement ที่สอดคล้องไหลลื่นไปด้วยกันระหว่างสินค้าและเนื้อหาได้ ก็จะทำให้เกิดอิมแพคในทางที่ดี และนำไปสู่เรื่องราวทางการตลาดที่ทรงพลังได้ค่ะ
เมื่อเราดูหนังบนสตรีมมิ่งตอนกลางคืน การจะลุกขึ้นมาสวมวิญญาณมาสเตอร์เชฟผัดข้าวกินอาจยุ่งยากเกินไป หรือจะมานั่งห่อแหนมเนืองก็อาจจะพลาดฉากสำคัญก็ได้ เพราะฉะนั้นเป็นเบอร์เกอร์ทานง่าย ๆ ก็ไม่เลวนะ~
แคมเปญนี้สร้าง Interactive Advertising ได้ดีเยี่ยม
การเพิ่มความตื่นเต้นและการมีส่วนร่วมใหม่ ๆ ให้กับแคมเปญ ผู้ชมที่เข้ามามีส่วนร่วมก็จ้องซีนแมคอย่าใจจดใจจ่อ รอสแกนรับส่วนลด นอกจากกระตุ้นยอดขายได้แล้วยังเพิ่มยอดดาวน์โหลดแอพของ McDonald ได้อีกด้วย นุ่นมองว่ายอดขายอาจเป็นเรื่องสำคัญสำหรับแบรนด์ใหญ่ก็จริง แต่ Branding สำคัญกว่านั้นค่ะ การทำให้ตัวเองอยู่ในกระแสตลอดเวลาเพื่อขยายความนิยม นำเทรนด์ยิ่งเป็นภารกิจที่ใครก็อยากทำให้ได้ค่ะ
อย่างไรก็ตามความสำเร็จของแคมเปญ “Order That Scene” แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ interactive advertising ที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค ใช้สตรีมมิ่งสุดฮอตให้เป็นแพลตฟอร์มช่วยเรียกออเดอร์เดลิเวอรี่ สำคัญคือการสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและน่าจดจำซึ่งโดนใจผู้ชมและสร้างความฮือฮาไม่น้อยเลยค่ะ
กลยุทธ์ McDonald’s Product placement บนสตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม
ในเคสนี้ถือเป็นเป็นการเอาตัวเองเข้าไปอยู่ใน Placement ที่ไม่ค่อยมีแบรนด์ไหนทำบ่อย ๆ ค่ะ แฝงอยู่ในฉากที่มีการทานแมค และยังกระตุ้นให้เกิดการออเดอร์จริงได้ เพราะมีรางวัลส่วนลดให้ถ้ายกมือถือขึ้นมาสแกนสั่งผ่านเดลิเวอรี่ ทั้งยังสร้าง Interactiove Advertising เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้น กระตือรือร้นอยากทานเบอร์เกอร์เฟรนฟรายและน้ำอัดลมซักหน่อยในเวลาที่ดูหนังเรื่องโปรด
แนะนำสำหรับนักการตลาด
นักการตลาดควรเก็บเอาไอเดียนี้ไปใช้ให้มากที่สุดเพราะนอกจากการประกาศขายแล้วควรให้แคมเปญทำหน้าที่เป็นข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพของการโฆษณา ว่ามี interactive แบบไหนกลับมาบ้างนะคะ
