The Offline Internet จากออนไลน์สู่ออฟไลน์ Social Trends 2024 จาก We Are Social

The Offline Internet จากออนไลน์สู่ออฟไลน์ Social Trends 2024 จาก We Are Social

The Offline Internet จากออนไลน์สู่ออฟไลน์ แล้วกลับขึ้นไปบนออนไลน์วนไปวนมา จากบทความสรุป 5 Social Media Marketing Trends & Insights 2024 จากรายงาน Think Forward ของ We Are Social ตอนแรก ที่พูดถึงพฤติกรรมการใช้งานโซเชียลมีเดียที่เปลี่ยนไปในปี 2567 บอกให้รู้ว่ารูปแบบความสนใจของคนเปลี่ยนไป โดยเฉพาะกับกลุ่ม Gen Z ที่มองหาคอนเทนต์ที่มีสาระมากขึ้น ไม่ได้เล่นโซเชียลเอาแค่สนุกแบบก่อน บวกกับการปิดตัวของคำว่า Mass Marketing แบบเด็ดขาดในปีนี้ เพราะโลกวันนี้มัน Fragmented มากกว่าเดิม จะมาคิดทำการตลาดด้วยความคิดแบบ Stereotype แบบเก่าไม่ได้แล้ว

เลิกคิดว่าโลกหมุนตามผู้ชายผิวขาวเป็นส่วนใหญ่ เพราะโลกหมุนให้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มน้อย หรือโดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นเพศที่ขับเคลื่อนโลกแบบเงียบๆ ด้วยซ้ำ

ในบทความตอนที่ 2 นี้จะพูดถึงอีก Social Media Marketing Trends & Insights 2024 สำคัญอีกข้อ นั่นก็คือ The Offline Internet มันคือ Metaverse ที่เกิดขึ้นแล้วหรือเกิดขึ้นจริง โดยที่เกิดจากพฤติกรรมไม่ใช่เทคโนโลยีแต่อย่างไร

ถ้าพร้อมจะทำความเข้าใจพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียหรือการออนไลน์แบบใหม่ๆ ในปีหน้า มาอ่านทำความเข้าใจไปด้วยกัน เผื่อว่าคุณและทีมงานจะเก็ตไอเดียว่าควรทำแผนการตลาดอย่างไรครับ

3. The Offline Internet เมื่อคนเอาสิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอมาทำคอนเทนต์ล้อในโลกจริง

เมื่อเหล่า Gen Z และคนอีกมากมายมีเวลาออนไลน์กันเยอะมากในช่วงล็อกดาวน์ปีก่อนๆ ที่ผ่านมา ทำให้พฤติกรรมการมองโลกนั้นเปลี่ยนไป

จากการที่ต้องอัดอั้นอยู่ในหน้าจอออกไปไหนไม่ได้ บวกกับการได้เห็นอะไรตลกๆ บนหน้าจอโดยเฉพาะในเกมที่ Gen Z และคนจำนวนมากนิยมเล่นกัน เลยเกิดเป็นเทรนด์ใหม่ถ่ายคลิปทำคอนเทนต์เสมือนว่าตัวเองเป็น NPC (ตัวละครในเกมที่ไม่มีบทบาทใดๆ เราควบคุมอะไร และมันก็มักจะแสดงท่าทางกับคำพูดที่ซ้ำไปซ้ำมา) จนกลายเป็นเทรนด์สำคัญที่จะส่งผลในปีหน้า จนทำให้หลายแบรนด์ต้องหันมาเล่นกับ NPC Influencer เหล่านี้

ผู้ใช้ TikTok รายนี้ชื่อ punkydollreal เธอมีผู้ติดตามมากถึง 1.6 ล้านคน เธอน่าจะถูกจัดว่าเป็นหนึ่งใน NPC Influencer ด้วยการทำคลิปเสมือนว่าตัวเองเป็น NPC ในโลกจริงจนได้รับความสนใจจากผู้คนล้นหลาม

หรือกับอีกคนที่ทำแต่คลิปที่เป็น NPC คนนี้ ที่ไม่ใช่แค่ถ่ายทำคอนเทนต์ภายในบ้าน แต่เน้นการออกไปถ่ายทำคลิปว่าตัวเองเป็น NPC นอกบ้าน จนแยกแทบไม่ออกว่าตกลงนี่มันเกมที่ทำภาพได้ดูจริงมากๆ หรือมันโลกจริงที่คนในคลิปแค่แกล้งทำตัวว่าเป็น NPC ในเกม
นี่คือหนึ่งใน TikTok Trend สำคัญที่น่าจะส่งผลต่อแนวทางการทำ Content Marketing 2024 ไม่มากก็น้อย อีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจของเทรนด์ The Offline Internet ก็คือการที่คนจริงๆ ลองเอาความรู้ในอินเทอร์เน็ตมาลองทำจริง อย่างเช่น สูตรเมนูอาหารประหลาดๆ บางชนิดที่ปรากฏใน Wikipedia

เท่านั้นไม่พอยังชวนเพื่อนๆ บนโซเชียลให้เอาวัตถุดิบมาแชร์กัน แล้วก็ชวนให้มาทำด้วยกัน จากนั้นก็กินด้วยกัน เรียกว่าเป็นการ Create Event จริงๆ ขึ้นมาจากสิ่งตั้งต้นที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตก็ว่าได้

Source: https://www.instagram.com/p/Cu10XipsJ6M/

จากที่เกริ่นมานี้คงพอให้เห็นภาพว่า ตั้งแต่นี้ไปไม่มีเส้นแบ่งระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์อีกต่อไป อะไรแปลกๆ บนออนไลน์จะถูกเอามาทำจริงในโลกออฟไลน์ จากนั้นก็ถูกทำเป็นคอนเทนต์อัปโหลดขึ้นไปบนโซเชียล แล้วก็หมุนวนเป็นวัฏจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ ครับ

ถ้าจะบอกว่านี่คือโลก Metaverse แบบไม่ต้องสวมแว่น VR แต่อย่างไรก็คงไม่ผิดนัก เพราะเมื่อสองเส้นทั้ง Online และ Offline กำลังประสานกลายเป็นเนื้อเดียวกันด้วยพฤติกรรมของผู้คนเอง

เมื่อวันนี้เราอยู่แบบขาดมือถือและอินเทอร์เน็ตไม่ได้แล้ว หมดยุคแล้วถ้าใครจะมาพูดถึงออนไลน์กับออฟไลน์แบบแยกส่วนกัน เหมือนที่ตัวผมเองย้ำเสมอว่า “คนส่วนใหญ่หรือเกือบทุกคนล้วนออนไลน์หมดแล้ว เพียงแต่จะออนไลน์แบบไหนหรืออย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่องนึง”

มาดูกันเพิ่มเติมดีกว่าครับว่าใน Social Media Trends & Insights 2024 ข้อ The Offline Internet นี้มีอะไรบ้างเป็นตัวขับเคลื่อนให้มันเกิดขึ้นจนกลายเป็นเทรนด์สำคัญในปีหน้า

Generative AI เมื่อจินตนาการสามารถทำจริงได้แค่พิมพ์ Prompt

ดูเหมือนว่าแต่ก่อนความจริง หรือสิ่งที่ดูน่าจะจริงนั้นถูกสร้างหรือปลอมแปลงได้ยาก จะทำได้ก็ต้องใช้ทักษะฝีมือในการตัดต่อ การรีทัช หรือการสร้างภาพขึ้นมาใหม่ แน่นอนว่ามีไม่กี่คนที่สามารถทำภาพได้ดูเนียนขนาดนั้น

แต่พอปี 2022 เป็นต้นมาโลกได้เริ่มต้นรู้จักกับ Generative AI อย่าง Midjourney เครื่องมือที่ช่วยทำให้การสร้างภาพไม่ว่ายากแค่ไหนก็ง่ายขึ้นเป็นร้อยเท่าพันเท่า เราไม่ต้องเรียนศิลป์ใดๆ มา แค่สามารถพิมพ์ Prompt สั่ง AI เสมือนการสั่งงานคนให้ทำงานให้เราได้ เท่านี้ไม่ว่าภาพนั้นจะดูยากเกินจริงแค่ไหนก็ปรากฏขึ้นจริงได้ภายในไม่กี่วินาที

ยิ่งปีนี้ Generative AI ประเภท Image เกิดขึ้นมากมายขนาดสองแพลตฟอร์มรูปภาพยักษ์ใหญ่ทั้ง Shutterstock และ Getty Images ยังกระโดดเข้ามาร่วมวง เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรม Creative อย่างแท้จริง

Source: https://web.facebook.com/groups/797432901271530?multi_permalinks=1086505305697620&hoisted_section_header_type=recently_seen

ตัวอย่างผลงานในไทยก็คงหนีไม่พ้นภาพที่ถูก Gen ด้วย AI ออกมาเป็นภาพพระร้องเพลงร็อค หรือภาพเบื้องหลังสวัสดีวันจันทร์ว่าถูกสร้างมาจากองค์กรสูงวัยแห่งหนึ่ง

ดังนั้นเมื่อจริงอาจหลอก หรือหลอกอาจจริง จึงทำให้เทรนด์การเบลอระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์เกิดขึ้นจริงเรียบร้อยแล้ว

Less Online More Onlive ผู้คนเริ่มออนไลน์กันน้อยลงหลังโควิด

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือจำนวนชั่วโมงในการออนไลน์ของผู้คนทั่วโลกล้วนลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหนึ่งเพราะจากการที่เราต้องออนไลน์กันเยอะมากเพราะถูกบีบบังคับด้วยสถานการณ์ล็อคดาวน์ ทำให้พอออกไปใช้ชีวิตได้พวกเขาก็รวมตัวกันพร้อมใจลดชั่วโมงการออนไลน์ลงอย่างพร้อมเพรียง

ความยากของนักการตลาดอย่างเราคือ เมื่อคนออนไลน์กันน้อยลง ใช้เวลากับหน้าจอลดลง นั่นหมายความว่าโอกาสที่กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้จะเห็นแคมเปญการตลาดหรือโฆษณาของเราก็ยิ่งลดลงไปอีก

บวกกับคู่แข่งก็ยังคงเยอะขึ้นเรื่อยๆ ใครๆ ก็หันมาทำธุรกิจออนไลน์กันได้ง่ายมากด้วยมือถือแค่เครื่องเดียวก็เริ่มได้แล้ว การแข่งขันจะยิ่งเข้มข้นเกินกว่าคำว่า Red Ocean ไปสู่ Blood Ocean เมื่อธุรกิจต่างๆ แข่งกันแย่งลูกค้าที่มีจำกัดแบบบ้าคลั่ง ดังนั้นการทำ Content Marketing Strategy ที่มีสเน่ห์จะช่วยได้ เพราะมันจะทำให้กลุ่มเป้าหมายเลือกที่จะติดตามเรามากกว่าคู่แข่งครับ

เมื่อเราเห็นถึงปัจจัยตัวเร่งให้เกิดเทรนด์ The Offline Internet ในปี 2024 แล้ว ลองมาดูกันนะครับว่าในแง่ของพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียที่เปลี่ยนไปมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง

โดยเฉพาะกับ Gen Alpha และ Gen Z ที่เริ่มหาสมดุลในการใช้เวลาออนไลน์ด้วยตัวเอง

1. เพื่อนออนไลน์น้อย Niche แต่ความสัมพันธ์สนิทเหนียวแน่น

จากช่วงโควิดและล็อกดาวน์ที่ผ่านมา ทำให้หลายคนโดยเฉพาะ Gen Z ที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านวัยจำนวนมากมีปัญหาในการเจอเพื่อนใหม่ ด้วยการที่ต้องอยู่แต่กับบ้านเป็นเวลานานๆ ทำให้พวกเขารู้ว่าเหงาและหว่าเว้ แต่ด้วยความที่ใครๆ ก็ล้วนก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ ส่งผลให้โลกดิจิทัลหรือโซเชียลมีเดียนั้นบูมด้วยกลุ่มต่างๆ มากมาย

Facebook Group เกิดอย่างจริงจังในช่วงเวลาดังกล่าว เกิดกลุ่มความสนใจแปลกๆ ใหม่ๆ เป็นจำนวนมาก เกิด Niche Community ใหม่ๆ ผลิบานเป็นล้านๆ และเมื่อการล็อกดาวน์หมดไป เรากลับมาใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติได้ ส่งผลให้บรรดาผู้คนในกลุ่มที่สนใจเรื่องเดียวกันอยากจะออกมาเจอหน้ากัน ทำกิจกรรมร่วมกันครับ

อย่างการตลาดวันละตอนเองก็มีจัดกิจกรรมปิดโรงหนังเลี้ยงแฟนเพจในปี 2022 เป็นต้นมา ซึ่งตั้งเป้าหมายมั่นว่าจะทำเป็นประจำทุกปี บวกกับมีแผนว่าจะจัด Everymonth Marketing จัดงานรวมนักการตลาดเดือนละครั้ง ครั้งละ 100 คน ให้มาเจออัปเดทความรู้เรื่องการตลาดแบบเจาะลึกกัน โดยเน้นว่าเป็นงานฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

ถ้าจะมีก็คงเป็นแค่ค่าเครื่องดื่มหรืออาหารของสถานที่นั้น ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เพื่อนๆ นักการตลาดในการตลาดวันละตอนได้ออกมาเจอกัน

2. Influencer เริ่มเข้าถึงง่าย

จากเทรนด์ The Offline Internet ก็เริ่มเห็นบรรดา Influencer หลายคนเริ่มจัดมีตติ้ง มีตอัป เพื่อพบปะพูดคุยกับเหล่าแฟนเพจผู้ติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ การตลาดวันละตอนเองก็จะทำแบบนั้นทุกเดือนในปีหน้า ส่วนในต่างประเทศเองก็ถึงขึ้นมีเป็นแพตลฟอร์มขึ้นมา อย่างแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า TrovaTrip

เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ Influencer มา Create Event เพื่อชวนบรรดาผู้ติดตามหรือ Followers ได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน แล้วก็จ่ายเงินลงขันมาแจมกันสำหรับคนที่พร้อมและสนใจ ทาง Influencer เองก็พอได้ค่าขนมเพิ่มเติมจากพบปะแฟนๆ ไม่ต้องง้อรอรายได้จากแบรนด์เพียงฝ่ายเดียว

ในบ้านเราก็เห็นผ่านงานที่ Content Creator หลายคนมีจัดงานพบปะแฟนมีตมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนถึงขั้นตั๋วหมดภายในเวลาไม่กี่นาที เรียกได้ว่าเป็น Influencer ตัวจริงที่ไม่ได้มีดีแต่ตัวเลขผู้ติดตามเยอะๆ แบบวันวาน

https://trovatrip.com/

3. Extended Reality กับ AR Filter in Reallife เมื่อฟิวเตอร์ถูกเอามาใช้ในโลกออฟไลน์

เมื่อ AR Filter ที่ Gen Z และ Gen Y นิยมใช้กันเวลาโพส Reel หรือ Story หรือ TikTok ถูกนำมาต่อยอดใช้งานจริงในโลกออฟไลน์ จนกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของการทำให้ชีวิตออฟไลน์ดูออนไลน์มากขึ้น

@much

This is genius😂😩 [via @Searra Priolo] #itsallablurtour #drake

♬ original sound – MuchMusic

จากตัวอย่างคลิปคอนเสิร์ตใหญ่งานหนึ่ง ปกติก็จะมีกล้องคอยจับภาพบรรยากาศคนในงานเอาไปขึ้นจอใหญ่แบบสดๆ เพื่อทำให้คนร่วมงานรู้สึกอินกับงานมากขึ้น

แต่งานนี้นั้นยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการใส่ AR Filter เข้าไปก่อนจะถ่ายทอดสดออกบนจอ ทำให้หน้าคนที่ถูกถ่ายดูเหมือนร้องให้หนักมาก ผลคือจากออฟไลน์การเป็นออนไลน์คอนเทนต์ได้สบายๆ แถมยังกลายเป็นไวรัลได้อีก เรียกว่าปังทั้งขึ้นและล่องเลยทีเดียว

หรือการเปลี่ยนของในหน้าจอที่เคยเป็นแค่ Digital ให้กลายเป็น Physical Product ที่จับต้องและใช้งานได้จริงก็เกิดขึ้นแล้ว

Source & Photo : https://www.vogue.com/article/everyone-is-wearing-mschf-big-red-boots

ตัวอย่างรองเท้าบูทสีแดงที่มักเห็นในเกมหรือผ่านหน้าจอมือถือเรา กลายเป็นว่ามีคนทำออกมาขายจริงจนเป็นที่นิยมกันมากมาย ช่างเป็นการต่อยอดธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจ ลองมองหาดูนะครับว่าอะไรที่คนนิยมกันบนออนไลน์ ในเกม หรือผ่านการแชท เราจะสามารถหยิบสิ่งนั้นออกมาทำเป็นสินค้าขายดีในชีวิตจริงได้หรือเปล่า

ยังไม่นับถีงกระแส NPC Content ที่มียอดวิวใน TikTok รวมกันมากกว่า 14,500 ล้านวิวแล้วในเวลานี้

ดูเทรนด์ #NPC ทั้งหมดได้ที่ https://www.tiktok.com/tag/npc?lang=en

อ่านถึงตรงนี้แล้วคุณคงอยากรู้ว่าเราจะหยิบ The Offline Internet ที่เป็นหนึ่งใน Social Trends & Insights 2024 มาต่อยอดในแผนการตลาดหรือวิธีการทำคอนเทนต์ปีหน้าได้อย่างไร มีเฉลยคำตอบให้ครับ เลื่อนอ่านต่อไปได้เลย

จากเทรนด์ The Offline Internet สู่แนวทางการทำ Branded Content Strategy 2024

การจะทำ Content Marketing ของแบรนด์ต่างๆ ในวันนี้ต้องมีความกล้าและบ้าให้มากขึ้น กล้าที่จะทำอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ กล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ และแปลกๆ เพราะหลายสิ่งในเทรนด์นี้เพิ่งเคยเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ตัวอย่างเช่น Amazon (เว็บสั่งสินค้าออนไลน์ ไม่ใช่กาแฟนกแก้วบ้านเรา) ก็ได้มาการทำคอนเทนต์ร่วมกับ NPC Influencer จริงจัง

Link: https://www.instagram.com/p/Cu3rNeYNnbm/

แม้จะวัดผลว่ายอดขายเพิ่มขึ้นไม่ได้อย่างจริงจัง แต่ที่รู้สึกได้จริงๆ คือแบรนด์ทันกระแสแน่นอน และก็ได้ใจกลุ่มเป้าหมายคนที่ชอบเสพคอนเทนต์ NPC ไปไม่น้อย แถมยังเป็นการพากลุ่มเป้าหมายเดิมลูกค้า Amazon ได้รู้จักเทรนด์ใหม่ไปพร้อมกัน

จะมีอะไรที่วินกว่านี้ได้อีก

หรือกับกีฬายอดนิยมอย่างฟุตบอลเองก็ยังปรับตัวมาทำแคมเปญร่วมกับกลุ่ม Top Game Streamer ที่มี Gen Z ติดตามมากมาย ในการผสมผสานร่วมกันระหว่างโลกจริงและโลกออนไลน์ จนสามารถขายตั๋วกว่า 57,000 ใบได้หมดเต็มสนามในระยะเวลาไม่นาน

สุดท้ายกับการหยิบเรื่องราวที่กำลังติดเทรนด์หรือเป็นกระแสบนโซเชียลมานั่งพูดคุยถกเถียงกัน โดยมีแบรนด์เป็นตัวกลางในการทำคอนเทนต์ประเภทนี้ในปีหน้า

สรุปเทรนด์ The Offline Internet 2024

และนี่ก็คือ Social Media Marketing Trends & Insights ที่ 3 ในปี 2024 กับ The Offline Internet เมื่อผู้คนไม่มีเส้นแบ่งระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์อีกต่อไป และดูเหมือนว่าอะไรที่น่าสนใจบนออนไลน์จะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยจนถึงทำคอนเทนต์ในออฟไลน์ และถูกส่งต่อขึ้นไปบนออนไลน์อีกที

ลองหาแง่มุมที่น่าสนใจบนออนไลน์ หรือบนโซเชียลที่คุ้นเคยกันแต่ถูกมองข้ามมานาน หยิบมาต่อยอดให้น่าสนใจขึ้น หรือนำมาทำเป็นสินค้าหรือบริการใหม่ ที่สามารถสร้างยอดขายกลับมาให้แบรนด์เราได้ในที่สุดครับ

ในบทความตอนหน้าจะพาไปดู Social Media Marketing Trends & Insight ที่ 4 ในหัวข้อ Everyday Fandom ลองมาดูกลยุทธ์การตลาดแนวทางการทำ Fandom Marketing ในปีหน้ากัน ว่าเราควรทำอย่างไรครับ

อ่านบทความ Social Media Marketing Trends & Insights 2024 จาก We Are Social ตอนที่ 1

Source: https://thinkforward.wearesocial.com/

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *