เทรนด์ Gen Z ในปี 2023 ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง
ปลื้มเชื่อว่า Gen Z เนื้อหอมมาก สำหรับแบรนด์และนักการตลาดทั้งหลาย และกลุ่มนี้มักถูกมองว่าเป็นเจเนอเรชันที่อายุน้อยที่สุด ปลื้มว่าไม่เด็กแล้วน้า เพราะคนที่มีอายุมากที่สุดในกลุ่มนี้จริงๆ แล้วมีอายุประมาณ 25 ปี แปลว่าเริ่มทำงานกันแล้ว และในขณะเดียวกันกลุ่มประชากรที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มนี้คืออายุ 10 ขวบ
นั่นเท่ากับว่า กลุ่มนี้ครอบคลุมตั้งแต่เด็กประถม เด็กมัธยม นักศึกษามหาลัย ไปจนถึง First Jobber จึงทำให้กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเป้าหมายของหลายๆ แบรนด์ค่ะ
สำหรับเทรนด์ Gen Z ในปี 2023 นี้ ได้มีการสำรวจโดย Instagram และ WGSN จากผู้ใช้โซเชียลมีเดียเจนซี 1,000 คน เพื่อประเมินสิ่งที่พวกเขาคาดหวังและต้องการมากที่สุดในปีนี้ ซึ่งการสำรวจในครั้งนี้ได้ข้อมูลเกือบทุกด้านของชีวิต ตั้งแต่ดนตรี การเงิน สิ่งแวดล้อม ไปจนถึงเศรษฐกิจ เลยหล่ะค่ะ
เป็นรุ่นนักกิจกรรม
Gen Z จะใส่ใจกับประเด็นต่างๆ รอบตัว และต้องการให้องค์กรและ Influencers ที่พวกเขามีปฏิสัมพันธ์ด้วย ทำเช่นเดียวกัน 30% ของ Gen Z อยู่ในวัยที่สามารถลงคะแนนได้ ซึ่งพวกเขาต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง จริงๆ เห็นได้ชัดจากเหตุการณ์ที่เกิดในไทยด้วยที่พวกเขาออกมาเรียกร้องสิทธิต่างๆ
นอกจากนี้ที่พวกเขาสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่ สิทธิผู้พิการ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศค่ะ ความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแทรกซึมเข้ามาในชีวิต Gen Z ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง ตัวอย่างเช่น ครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจวางแผนที่จะทำเสื้อผ้า DIY ในช่วงปีใหม่
ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อกระแสแฟชั่นที่รวดเร็ว ในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขายังรวมวิธีการป้องกันแสงแดดไว้ในขั้นตอนการดูแลผิว เพื่อป้องกันอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นและรังสีที่สร้างความเสียหาย และในฐานะปลื้มก็เป็นกลุ่ม Gen Z เหมือนกัน หากถามว่าทำไมสภาพภูมิอากาศถึงสำคัญกับเราขนาดนั้น คงเป็นเพราะเรายังอยากเติบโตในสิ่งแวดล้อมที่ดี และยิ่งบอกว่าโลกใกล้จะแตกแล้ว ยิ่งรู้สึกว่าฉันยังไม่ได้ใช้ชีวิตเลยนะ แบบนี้เป็นต้น
เงินเป็นสิ่งสำคัญ
เงินเท่านั้นที่ knock everything ธนบัตรเท่านั้น ที่ทำให้เราได้โบยบิน! เพราะว่า Gen Z กำลังมองหาวิธีหาเงินเล็กๆ น้อยๆ ในตัวเอง จากการสำรวจพบว่า 64% วางแผนที่จะสร้างรายได้จากโซเชียลมีเดียไม่ทางใดก็ทางหนึ่งในปี 2023 และที่สำหรับคนรุ่นใหม่ เขาเข้าใจถึงความสำคัญของความรู้ทางการเงินแล้วนะ 1 ใน 4 ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Topic ทางการเงินมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงแนวโน้มสำคัญ 2 ประการ ประการแรก Gen Z ตั้งใจเรียนรู้ตั้งแต่เนิ่นๆ ว่ามีวิธีสร้างรายได้นอกเหนือไปจากงานประจำ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นี่อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับนายจ้างในอีกหลายปีข้างหน้าค่ะ และประการที่ 2 ถึงเวลาที่กลุ่ม Zoomers หรือ Gen Z ได้มีสิทธิในการใช้จ่าย มีเงินใช้แล้ว พวกเขาอายุยังน้อย จึงทำให้หลายแบรนด์กำลังจ้องตามติด เพราะอาจกลายเป็นลูกค้าไปอีกหลายปีข้างหน้าด้วยนั่นเองค่ะ
ความสนใจทั่วโลก
จากข้อมูลของ Pew Researchโดย 48% ระบุว่าเป็นเผ่าพันธุ์อื่นที่ไม่ใช่ผิวขาวเพียงอย่างเดียว น่าติดตามว่าคนรุ่นนี้มีความสนใจอย่างลึกซึ้งในโลกนอกพรมแดนของพวกเขาเอง
และการสำรวจของ Instagram พบว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามวางแผนที่จะฟังเพลงที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษในปี 2023 โดยเน้นไปที่เพลงเคป๊อปและลาตินโดยเฉพาะ อีก 68% มีหรืออยากลองอาหารจากวัฒนธรรมอื่นหลังจากค้นพบบนโซเชียลมีเดีย บอกเลยว่าโซเชียลเป็นสังคมที่ไร้พรมแดนของจริงเลยค่ะ
ชอบการพบปะ
ไม่น่าแปลกใจสำหรับคนเจนเนอเรชั่นนี้ ที่ใช้เวลาหลายปีในการสร้างสังคมให้ตัวเอง ท่ามกลางโรคระบาดที่ทำให้เราต้องแยกจากกัน ทำให้ Gen Z ต้องการเพื่อนๆ อยากเจออยากพูดคุยกับผู้คน ซึ่งการสำรวจพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามสนใจที่จะพบปะและทักทายกับอินฟลูฯ แบบตัวต่อตัว ในขณะที่ 68% ของผู้ตอบแบบสอบถามวางแผนหรือต้องการเที่ยวงานเทศกาลดนตรี งานปาร์ตี้ ในปี 2023 มีอีเว้นท์ที่ไหน Gen Z พร้อมไปเลยก็ว่าได้ค่ะ
สุดท้ายนี้ Gen Z เป็นเจเนอเรชั่นที่น่านับถือในความกล้าที่จะเปลี่ยนหลายแง่มุมของชีวิต ยืนหยัดที่จะต่อสู้กับปัญหาทั้งที่ผู้ใหญ่มากมายมองว่ามันทำอะไรไม่ได้แล้ว แน่นอนว่าแบรนด์ที่จะครองใจกลุ่มนี้ได้ต้องมีทัศนคติที่ตรงกัน เชื่อในความฝันของพวกเขา และซัพพอร์ตความคิดของพวกเขา
สรุปเทรนด์ที่เกิดขึ้นกับ GEN Z
นอกจากนี้แม้โลกในตอนนี้จะเป็นยุคแห่งเมตา ดิจิทัล ออนไลน์ โซเชียลมีเดีย แต่คนกลุ่มนี้กลับหวยหาชีวิตความเป็นจริง การพบปะแบบเจอหน้า ไปทำกิจกรรมร่วมกัน ใช้ชีวิตแบบ 2 Way ออฟไลน์+ออนไลน์ ซึ่งปลื้มว่าแบรนด์หรือนักการตลาดเหมาะมากที่จะทำแคมเปญรักษ์โลก จัดกิจกรรมสนุกๆ สร้างความบันเทิง โดยอาจจะใช้อินฟลูฯ เป็นสื่อกลางระหว่างแบรนด์กับพวกเขาก็ได้นะ
มีหลายแบรนด์และองค์กรที่กำลังพยายามทำแคมเปญเพื่อคน Gen Z อยู่ จากภาพตัวอย่างกิจกรรมเหล่านี้ อย่างแบรนด์ Yves Rocher (Thailand) เป็นแบรนด์ความงามที่ใช้อินฟลิฯ มาสื่อสารพร้อมทั้งยังเป็นแคมเปญรักษ์โลกอีกด้วย ส่วนตัวอย่างจาก True เป็นกิจกรรมชิงเงินรางวัล อย่างที่บอกว่า Gen Z ชอบเงิน นี่ก็ตอบโจทย์ แถมยังเปิดโอกาสในการแสดงความคิดเห็นที่คนกลุ่มนี้พยายามผลักดันอยู่ด้วย
และตัวอย่างองค์กรหรือมหาวิทยาลัย ที่ปลื้มเห็นชัดเลย คือ ม.เกษตร ที่จัดงานเกษตรแฟร์ ให้เหล่า Gen Z ได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ บวกกับสร้างรายได้ให้เด็กนักศึกษา ปลื้มว่าพวกเขาแฮปปี้กับสิ่งเหล่านี้นะ ถือว่า 3 ตัวอย่างนี้เป็นแนวทางที่ดีในการเอาใจคนกลุ่มนี้นะคะ
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ
