อัปเดต 6 Event Marketing Trends 2024 กลยุทธ์การตลาด ที่ห้ามพลาด

อัปเดต 6 Event Marketing Trends 2024 กลยุทธ์การตลาด ที่ห้ามพลาด

เทคโนโลยี Generative AI มาแรงอย่างมากตั้งแต่ปี 2023 แม้แต่ในแวดวงธุรกิจอีเวนต์เองก็เช่นเดียวกัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า AI นั้นมีส่วนช่วยในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ชมได้อย่างน่าประทับใจ และปี 2024 นี่เอง เราก็จะเห็นได้ว่างานอีเวนต์ต่าง ๆ เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ นั่นเป็นเหตุผลที่วันนี้ผู้เขียนจะพาเพื่อน ๆ มาอัปเดตกันหน่อยกับ “อัปเดต 6 Event Marketing Trends 2024 กลยุทธ์การตลาด ที่ห้ามพลาด ” จะมีหัวข้อไหนที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา Generative AI มีส่วนอย่างมากในการช่วยนักการตลาดให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ ChatGPT ที่เข้ามาไม่กี่ปี ก็กลายตัวเอกของวงการ AI ไปแล้ว ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวดิจิทัลของนักการตลาดแล้ว ก็ยังเป็น Chatbots ที่ทำหน้าที่เสมือนเป็น Event Content Creator สร้างคอนเทนต์ และแคมเปญต่าง ๆ ในงานอีเวนต์ได้อีกด้วย

>>อ่าน “Case Study Marketing Campaign ที่ใช้ ChatGPT และ Generative AI” ได้ที่นี่เลย!

ถึงแม้ว่า AI จะอยู่กับเรามาร่วมทศวรรษแล้ว แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นค่ะ ทางด้าน Accenture บริษัทที่ปรึกษาทางด้านเทคโนโลยี และธุรกิจระดับโลก ได้รายงานไว้ในปี 2023 ว่า

โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models) อย่าง Chat GPT นั้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากถึง 40% ของชั่วโมงการทำงานทั้งหมด”

โดยในรายงานระบุว่าสิ่งนี้เป็นเพราะ 62% ของเวลาทำงานนั้นเป็นงานด้านภาษา และ 65% ของเวลาทำงานนั้น สามารถเปลี่ยนเป็นกิจกรรมอย่างอื่นที่ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้

ในอนาคตผู้เขียนคิดว่าเราคงจะได้เห็น Language-based AI ทำงานให้กับนักการตลาดอีเวนต์มากขึ้น ด้วยเวอร์ชันที่ดียิ่งขึ้น แต่เนื้อหาใด ๆ ก็ตามจำเป็นต้องมีการแก้ไขให้เหมาะกับงานของเรา เพราะการที่งานจะครีเอทีฟได้นั้น ยังต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของมนุษย์อยู่ AI ก็เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ก็ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนตัวของเราจะปลอดภัย และไม่เกิดปัญหาด้านลิขสิทธิ์ตามมาภายหลัง

การสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญมาก รายงานจากเว็บไซต์ campaignlive.co.uk ระบุว่า “การเข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่องของผู้ชมนั้น ช่วยกระตุ้นผู้ชมให้มี Loyalty ต่อแบรนด์, มีประสบการณ์ร่วมกันกับแบรนด์ และช่วยให้แบรนด์สร้างคอมมูนิตีได้สำเร็จ

ในอนาคตผู้ชมจะหิวกระหายประสบการณ์ใหม่ ๆ มากขึ้น ทั้งคอนเทนต์ที่ดียิ่งขึ้น, งานที่ให้พวกเขาได้มีส่วมร่วมมากขึ้น, และประสบการณ์ที่น่าจดจำมากยิ่งขึ้นจากใช้เทคโนโลยีล่าสุด

ทั้งนี้ การใช้ “การตลาดเชิงประสบการณ์ (Experiential marketing)” ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยให้แบรนด์ได้ใจผู้ชมมากยิ่งขึ้น โดยสิ่งที่แบรนด์นำเสนอจะต้องมีเนื้อหาที่น่าจดจำ ชัดเจน และสามารถนำไปใช้ได้จริง ยกตัวอย่างเช่น การนำเสนอคอนเทนต์ในรูปแบบของวิดีโอ, คอมมูนิตีที่เปิดให้คนที่มีความสนใจเหมือนกันมาพูดคุยกัน, ระบบ Gamification ที่ช่วยให้ผู้ชมมีส่วนร่วมกับแบรนด์อย่างโพล และเซสชัน Q&A เป็นต้น

เพราะผู้คนตระหนักรู้ถึงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมมากขึ้น ทั้งความหลากหลาย, ความเสมอภาค, ความยั่งยืน, และการยอมรับความแตกต่างในประเด็นต่าง ๆ (DE&I issues) และคาดหวังว่าแบรนด์ของพวกเขาจะทำอะไรสักอย่างเพื่อตอบสนองต่อปัญหาเหล่านั้นด้วย จากรายงานของ Deloitte UK ในปี 2023 เผยว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไว้วางใจในแบรนด์ที่มีความมุ่งมั่นที่จะทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Business)

ในขณะที่ 34% ของผู้บริโภคนั้นบอกว่า “พวกเขาไว้วางใจแบรนด์มากขึ้น เมื่อพวกเขาได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้างความยั่งยืน “

Kantar บริษัทที่ให้บริการด้านข้อมูล และที่ปรึกษาชั้นนำของโลก ได้ทำการสำรวจ Brand Inclusion Index เมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่า

…”53% ของผู้ตอบแบบสำรวจในสหราชอาณาจักรทั้งหมดกล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญมากที่แบรนด์ที่พวกเขาใช้บริการจะต้องมีการส่งเสริม DE&I อย่างแข็งขัน”…

และหากแบรนด์มุ่งมั่นที่จะยกระดับความยั่งยืน และส่งเสริมความเป็น DE&I กิจกรรมต่าง ๆ ที่แบรนด์จัดขึ้นก็ต้องเป็นเช่นนั้นด้วย กิจกรรมต่าง ๆ ควรเข้าถึงได้สำหรับทุกคน มีวิทยากรที่มีภูมิหลังที่หลากหลาย และเพื่อให้กิจกรรมมีความยั่งยืนมากขึ้น ลองเลือกสถานที่จัดงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, ปลอดพลาสติก, หรือจัดหาอาหารจากท้องถิ่นที่เป็น Meat-free options ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเลยล่ะค่ะ

ผลการวิจัยของ Cvent เปิดเผยว่า 85% ของงานอีเวนต์จะเป็นการจัดแบบ In-person สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย เนื่องจากอีเวนต์แบบ In-person นั้นจะมอบโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้สร้างคอนเนคชัน และมีปฏิสัมพันธ์กันมากกว่าการจัดงานแบบออนไลน์ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ตอกย้ำว่ากิจกรรมแบบออนไลน์ก็มีประโยชน์ในตัวของมันเอง อ้างอิงจากงานวิจัยของ Cvent พบว่า

…“อีเวนต์เสมือนจริง (Virtual Events) หรืออีเวนต์แบบไฮบริด (Hybrid Events) นั้นยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมาก และ 40% ของโปรแกรมงานอีเวนต์เป็น Virtual หรือ Hybrid ในขณะที่ 10% เป็นทั้ง In-person, Hybrid, และ Virtual”…

อัปเดต 6 Event Marketing Trends 2024 กลยุทธ์การตลาด ที่ห้ามพลาด

อีเวนต์เสมือนจริง (Virtual Events) นั้นมีประโยชน์ด้านความยั่งยืนที่ชัดเจน ในขณะที่ Hybrid Events ก็ทำให้ผู้เข้าร่วมมีความยืดหยุ่นมากขึ้น การเพิ่มองค์ประกอบแบบ Virtual ในอีเวนต์แบบ In-person จะช่วยให้คนเข้าถึงงานได้มากขึ้น แต่ต้องแน่ใจว่าผู้เข้าร่วมในเซกชันออนไลน์จะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมคุณภาพสูง การมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบ และคอนเทนต์สุดเอกซ์คลูซีฟสำหรับผู้เข้าร่วมออนไลน์ เช่น ชมเบื้องหลังพร้อมบทสัมภาษณ์, ไฮไลต์ของงาน, ฯลฯ เป็นต้น

ดูตัวอย่างของ อีเวนต์เสมือนจริง (Virtual Event) ได้ที่นี่เลย! >> เทศกาล Street Food เสมือนจริง ครั้งแรกในโลก

การวิจัยของ Forrester ในปี 2022 พบว่า 57% ของนักการตลาดมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในด้านเทคโนโลยีอีเวนต์ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มที่สูงขึ้นของจำนวนนักการตลาดที่กำลังจัดอีเวนต์แบบ Hybrid ดังที่ รายงานของ Cvent เน้นย้ำว่า 71% ของทีมจัดงานในขณะนี้ ดำเนินงานภายใต้เงาของนักการตลาด ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างประหลาดใจจาก 55% ในปี 2022

สิ่งนี้ย้ำชัดให้เห็นถึงการเติบโตขึ้นของมุมมองที่มีต่องานอีเวนต์ ในฐานะผู้อำนวยการทางการตลาด และการดำเนินงานต่าง ๆ เช่น การเพิ่มรายได้, การสร้างโอกาสในการขาย, และการส่งเสริมความสัมพันธ์ และความภักดี

ยิ่งพูดถึงงบประมาณการตลาดก็ยิ่งเห็นได้อย่างชัดเจน American Express ได้เผยออกมาว่า “องค์กรต่าง ๆ นั้นได้จัดงบประมาณสำหรับการทำตลาดแบบอีเวนต์ไว้ที่ 14% ซึ่งเป็นรายจ่ายที่สูงเป็นอันดับสองของงบประมาณทั้งหมด

ปัจจุบันการจัดอีเวนต์ได้กลายเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำการตลาดไปแล้ว สำหรับกลยุทธ์การตลาดในปี 2024, อีเวนต์จะต้องมีการปรับตัวผสมผสานระหว่าง In-person กับ Virtual มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในเทคโนโลยี Generative AI, การวางแผนที่คำนึงถึงความยั่งยืน และ DE&I เป็นหลัก, รวมไปถึงการจัดกิจกรรมให้เหมาะสม ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าร่วมได้ใกล้ชิดกับแบรนด์ต่าง ๆ มากขึ้น

เผื่อเพิ่อน ๆ ยังไม่เห็นภาพของ Event Marketing Trends 2024 ผู้เขียนก็เลยยก Case Study งาน Hybrid Event ของแบรนด์ออแกไนเซอร์ต่าง ๆ มาให้ได้ชมกันค่ะ แต่ละอันน่าสนใจทั้งนั้นเลย รีบตามไปดูกันเลยดีกว่า

INBOUND by Hubspot

INBOUND เป็นการประชุมประจำปี ที่รวบรวมเอาคนในแวดวงธุรกิจ และวงการบันเทิงมาพูดคุยอัปเดตกันในเรื่องของแนวโน้ม เทรนด์ และกลยุทธ์ล่าสุดในด้านการตลาด การขาย และ AI ในงานก็มีทั้งการบรรยายให้ความรู้, สร้างแรงบันดาลใจ, การเปิดตัวโมเดลผลิตภัณฑ์ใหม่ของ HubSpot, เวิร์กชอปเชิงปฏิบัติ พร้อมมอบประสบการณ์, การสร้างเครือข่าย และความบันเทิงที่ไม่เหมือนใคร ใครอยากพัฒนาตัวเอง ไม่ควรพลาดงานนี้เลย

สาเหตุที่ HubSpot จัดงาน Hybrid Event นั่นก็เป็นเพราะงาน HubSpot ประสบความสำเร็จในการจัดงาน INBOUND 2021 ซึ่งจัดแบบ Virtual ทำให้ทีมงานได้ตระหนักถึงความสำคัญของ Virtual Event แต่ก็ยังมีผู้เข้าชมบางส่วนต้องการอีเวนต์แบบ in-person ดังนั้นพวกเขาตัดสินใจจัด INBOUND ในรูปแบบ Hybrid แทน

Recap INBOUND 2023

Apple Special Events

ไม่แปลกใจเลยค่ะที่อีเวนต์ของ Apple จะติดอันดับ Top Best Hybrid Event 2024 กับเขาด้วย ในงานนี้ Apple ได้ถ่ายทอดสดงานสาธิตผลิตภัณฑ์ให้ผู้คนหลายล้านคนได้รับชมทางออนไลน์ ในส่วนของช่องทาง Virtual ก็เป็นการบันทึกไว้ล่วงหน้าในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 สิ่งนี้ทำให้ Apple สามารถเข้าถึงผู้ชมได้จากทุกที่ มีการใช้พิธีกรดำเนินรายการอย่างมีชีวิตชีวา มีการบรรยายประกอบแบบสั้น ๆ ตามสไตล์ของพิธีกรเอง

จากนั้นในปี 2022 Apple ได้จัด Hybrid Event อีกครั้งในงาน WWDC ที่ Apple Park ขณะนั้นมีผู้รับชมค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะ Apple ได้เตรียมวิดีโอที่ถ่ายทำไว้ล่วงหน้าไว้ให้แล้ว ผู้เข้าร่วมสามารถสตรีมสดได้เลย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลก

WWDC 2022 – June 6 | Apple

VivaTech

เป็นงานสตาร์ทอัพ และเทคโนโลยี ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ที่รวมเอาบริษัทสตาร์ทอัพ, ผู้นำในด้านเทคโนโลยี, และนักลงทุนรายใหญ่มาไว้ในงานเดียวกัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อบ่มเพาะความเป็นนวัตกรรม VivaTech เข้าสู่ตลาด Hybrid ในช่วงปี 2021 และประสบความสำเร็จอย่างมาก และในปี 2022 ด้วยเช่นกัน การจัดงานแบบ Hybrid ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ได้มีโอกาสแสดงโซลูชัน และความคิดริเริ่มของตนทั้งในรูปแบบดิจิทัล และออนไซต์ การทำเช่นนี้ทำให้ VivaTech ขยายสเกลงานให้ใหญ่ขึ้น เปิดรับผู้สนับสนุนมากขึ้น และเปิดรับผู้ชมในวงที่กว้างขึ้น

VivaTech 2022 | Best-of | Viva Technology

Social Media Marketing World

การสัมมนาที่คับคั่งไปด้วย influencer ระดับโลก มาแชร์ความรู้ ประสบการณ์ และสร้างเซสชันที่สนุกสนาน และทรงคุณค่า เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนในวงการด้วยกัน Event นี้จัดขึ้นที่ซาดิเอโก แต่ก็ยังคงมี Virtual session ให้คนที่อยู่บ้านได้มีส่วนร่วม เสมือนมาร่วมงานจริงเช่นกัน โดยจะแบ่งผู้ชมเป็น 4 ระดับ เพื่อดึงดูดผู้เข้าชมให้มากขึ้น โดยในระดับพื้นฐานนั้นผู้ชมจะสามารถเข้าถึง Virtual session, การบรรยาย, การบันทึกต่าง ๆ ของงานได้

Social Media Marketing World 2023

LiveWorx

LiveWorx จัดโดยบริษัทเทคโนโลยี PTC เป็นหนึ่งในการประชุมชั้นนำ สำหรับผู้คน และองค์กรที่สร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล ซึ่งจะขึ้นทุกปี เพื่อเป็นแนวปฏิบัติสำหรับธุรกิจ เพื่อช่วยองค์กรต่าง ๆ ในการกำหนดทิศทางในอนาคต ซึ่ง LiveWorx เก็บเซสชันที่ผ่านมาไว้ในระบบ เพื่อให้สมาชิกสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อดูวิดีโอไฮไลต์ และเข้าถึงการบรรยายย้อนหลังได้

LiveWorx 23: A New Era in Product Lifecycle Innovation | Event Recap

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ Event Marketing Trends 2024 น่าตื่นเต้นใช่ไหมคะ อย่างไรก็ตามการจัดงานอีเวนต์แบบ Hybrid เป็นแนวโน้มที่กำลังเพิ่มขึ้นในวงการอีเวนต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะในปีหลังนี้ การจัดงาน Hybrid คือการผสมผสานรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์เข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าร่วมได้ทั้งในโลกออนไลน์ และโลกออฟไลน์ในงานเดียวกัน นี่จึงเป็นสิ่งที่มนุษย์ได้เรียนรู้จากการจัดงานในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ทำให้การจัดงานออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น 

อ่านบทความที่น่าสนใจกันต่อได้เลยที่!

Sasiwimon Chumart

"แตงกวา" - ชอบภูเขา หลงรักทะเล หาเงินไปเล่นเซิร์ฟที่แหลมหญ้า กินกาแฟเพื่อมีชีวิตรอด นอนน้อยเป็นกิจวัตร ชอบกินเป็นชีวิตจิตใจ ตั้งใจเขียนงานมาก เพราะทุกคนต้องได้อ่านผลงานที่ดีที่สุด!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *